
LATEST
เปิดโลกอาหารฝรั่งเศสราคาสบายกระเป๋า กับเทศกาล ‘กู เดอ ฟรองซ์’
อยากเปิดโลกอาหารฝรั่งเศสจากหลากหลายแคว้น ต้องมาที่เทศกาล ‘กู เดอ ฟรองซ์ (Goût de France)’ งานนี้งานเดียวเท่านั้นที่รวมวัตถุดิบและอาหารฝรั่งเศสต้นตำรับแบบโฮมเมดเอาไว้ให้เลือกจับจ่ายได้ในราคาสบายกระเป๋า ‘กู เดอ ฟรองซ์ (Goût de France)’ หรือ Good France คือแคมเปญส่งเสริมอาหารฝรั่งเศสครั้งใหญ่ที่จัดขึ้นทั้งในฝรั่งเศสและหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งปีนี้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 แล้ว แคมเปญนี้จัดขึ้นมาเพื่อจะช่วยส่งเสริมให้ประเทศฝรั่งเศสเป็นที่รู้จักผ่านร้านอาหารที่เข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 3,500 แห่งทั่วโลก โดยจะมีการเชิญชวนนักท่องเที่ยวและผู้รักประเทศฝรั่งเศสให้มาสัมผัสประสบการณ์การลิ้มลองอาหารฝรั่งเศสในเครือข่ายพาร์ตเนอร์ร้านอาหาร บราสเซอรี คาเฟ่ เบเกอรี ตลาด และร้านจำหน่ายสินค้าอาหารที่เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งจะมีบรรดาเชฟชาวฝรั่งเศสมานำเสนอวัตถุดิบกันถึงที่ ให้เราได้ลิ้มรสและรู้จักความเป็นฝรั่งเศสมากขึ้น สําหรับในประเทศไทย ปีนี้พิเศษสุดๆ เพราะจะมีการขยายเวลาจัดงานกู เดอ ฟรองซ์ ไปตลอดทั้งปี โดยสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ร่วมกับ บิ๊กซี และคาสิโน กรุ๊ป เพราะอยากให้ผู้บริโภคชาวไทยได้เข้าถึงอาหารฝรั่งเศสแท้ๆ ได้ง่ายขึ้น และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการและเชฟอาหารฝรั่งเศสในไทยได้พบปะกับผู้บริโภคชาวไทยมากขึ้นด้วย ใครอยากลองอาหารฝรั่งเศสตามเรามาที่ บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า พระราม 4 ได้เลย เพราะตอนนี้มีกิจกรรม TOUR […]
Extraordinary Attorney Woo ซีรีส์ทนายออทิสติกคนแรกของเกาหลีใต้ ที่ใช้ความสามารถไขคดี จนคว้าใจคนทั่วโลก
‘Extraordinary Attorney Woo (อูยองอู ทนายอัจฉริยะ)’ คือซีรีส์เกาหลีใต้มาแรงที่ทะยานสู่อันดับ 1 ของ Netflix หมวดรายการทีวีภาษาต่างประเทศทั่วโลก ควบคู่กับความนิยมซีรีส์เรื่องนี้ในเกาหลีใต้ที่เพิ่มขึ้นไม่แพ้กัน จากอีพีแรกที่มีเรตติง 0.948% ก็ก้าวกระโดดเป็น 9.569% ในอีพี 6 ที่ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา และแน่นอนว่าตอนนี้ความสามารถในการไขคดีและท่าทีที่น่ารักของทนายอูยองอูก็กำลังสร้างความฟีเวอร์ในประเทศไทยด้วย ซีรีส์เกาหลีที่เป็นกระแสปากต่อปากเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวของ ‘อูยองอู’ ทนายวัย 27 ปีผู้เกิดมาพร้อมกับภาวะออทิสติกสเปกตรัม แต่ด้วยไอคิวที่สูงถึง 164 ทำให้มีความสามารถในการอ่านและจดจำประมวลกฎหมายได้ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ทั้งยังสำเร็จการศึกษาด้วยคะแนนสูงสุดจากมหาวิทยาลัยกฎหมายแห่งชาติโซล ทำให้เธอได้เข้าทำงานในบริษัททนายความชั้นนำของประเทศ ถึงจะเป็นทนายที่เก่งกาจแค่ไหน แต่เมื่อมีภาวะเป็นออทิสติกที่คนส่วนใหญ่ในสังคมยังไม่ยอมรับ อูยองอูจึงถูกปรามาสจากเพื่อนร่วมงาน เพราะพฤติกรรมเวลาเข้าสังคมในแบบที่เธอแสดงออกนั้นต่างจากคนทั่วไป ยกตัวอย่าง ประโยค “ชื่อของฉันไม่ว่าจะอ่านตามตรง หรืออ่านกลับด้านก็เป็นอูยองอู” ที่เป็นสโลแกนประจำตัวของเธอเวลาแนะนำตัวเอง การที่ไม่มองหน้าหรือสบตาใครเวลาพูด มีความไวต่อผิวสัมผัสและเสียงมากๆ แถมยังงุ่มง่ามซุ่มซ่าม พูดจาตะกุกตะกัก มีท่าทีไม่เป็นธรรมชาติ ไม่เข้าใจการแสดงอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น นี่ยังไม่นับรวมที่เธอมีแพสชันอันแรงกล้าในความชื่นชอบ ‘วาฬ’ แบบที่จดจำได้ทุกสายพันธุ์ จนบางครั้งการเมาท์มอยเรื่องวาฬๆ ของเธอทำให้คนรอบตัวเหม็นเบื่ออยู่เสมอ […]
Fest by SCGP ส่งซีรีส์ลายดอกย้อนยุค ชวนคนรุ่นใหม่ย้อนวันวานสู่ความคลาสสิก เพิ่มมูลค่าให้มื้ออาหารสุดพิเศษ
ถ้าถามว่าในอดีตมีของใช้อะไรที่ต้องมีทุกบ้าน นอกจากตั่งไม้อันใหญ่ที่นอนอย่างไรก็ไม่สบายเอาเสียเลย ก็เห็นทีว่าจะมี ‘ถาดอาหารเคลือบลายดอกขอบแดง’ นี่แหละที่คุ้นหน้าคุ้นตา ชนิดที่ถ้าอยากจะจัดบ้านแบบมินิมอล (Minimal) สักครั้ง ของเหล่านี้คงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ความมินิมอลที่สั่งสมมา กลายเป็นแม็กซิมอล (Maximal) ไปเสียอย่างนั้น แต่ถึงอย่างนั้นเราก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ของโบราณอย่างถาดสังกะสีลายดอกสีแดงย้อนยุคแบบนี้แหละที่เป็นศูนย์รวมความทรงจำเก่าๆ ครั้งที่เราเคยนั่งร่วมวงกินข้าวด้วยกัน ภาพบรรยากาศครอบครัวแสนสุขเคล้าไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากบทสนทนาในยามรับประทานอาหารมื้อครอบครัว ซึ่งหาได้ยากยิ่งในยามที่เหล่าเครื่องชามเหล่านี้ค่อยๆ หายไป พร้อมกับการเข้ามาแทนที่ของบรรจุภัณฑ์กระดาษทั้งหลาย เพราะความสะดวกสบายของการขนส่งแบบเดลิเวอรี แต่ใครว่าบรรจุภัณฑ์กระดาษกับเหล่าความคลาสสิกแบบย้อนยุคจะอยู่รวมกันไม่ได้? เพราะวันนี้เราจะพาทุกคนมาพบกับบรรจุภัณฑ์กระดาษพิมพ์ลายจาก Fest by SCGP ที่จะพาคุณย้อนวันวานกลับไปยังวันเก่าๆ ที่เต็มไปด้วยความทรงจำ ใน ‘ซีรีส์ลายดอกย้อนยุค (Vintage Flower)’ กัน หลังจากที่ Fest by SCGP สร้างกระแสความฮิตส่งให้ถ้วยกระดาษพิมพ์ลายตราไก่กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ร้านอาหารทั่วไทยใช้กันชนิดที่มองไปทางไหนก็เจอ ครั้งนี้ Fest by SCGP กลับมาอีกครั้งแบบยิ่งใหญ่ ด้วยการออกบรรจุภัณฑ์พิมพ์ลายแบบเป็นซีรีส์หลาย SKUs ไม่ว่าจะเป็นจาน ถ้วย หรือกล่อง พร้อมๆ กันเป็นครั้งแรก เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้า Fest ในกลุ่มที่มีลายพิมพ์ โดยซีรีส์ลายดอกย้อนยุคที่ปล่อยออกมานี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากถาดสังกะสีเคลือบลายดอกขอบแดงสุดแสนคลาสสิก ที่ได้รับความนิยมจากคนไทยสมัยก่อน จนกลายเป็นของใช้ประจำของแต่ละบ้าน […]
Thai Theatre Showcase งานซัปพอร์ตศิลปินไทยในอเมริกา 23 – 24 ก.ค. 65 ที่นครนิวยอร์ก
‘คนไทยเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก’ น่าจะเป็นประโยคที่เราได้ยินบ่อยๆ เวลาที่มีคนไทยคว้ารางวัลอะไรสักอย่างในระดับโลก หรือคิดค้นทำบางสิ่งบางอย่างที่ยังไม่เคยมีคนชาติไหนทำได้มาก่อน แต่จะดีแค่ไหนถ้าคนไทยร่วมด้วยช่วยกันผลักดันให้คนไทยเก่งๆ ที่เรามองว่าไม่แพ้ชาติใดในโลกนั้น มีพื้นที่ในการแสดงความสามารถของตัวเอง ในบรรดาประเทศที่คนไทยย้ายไปอาศัยอยู่และทำงานมากที่สุด หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้นดินแดนที่เปิดกว้างอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะเล็งเห็นว่ามีคนทำงานสายสร้างสรรค์ในประเทศนี้จำนวนไม่น้อย ไทยเธียเตอร์ฟาวน์เดชั่น (Thai Theatre Foundation) จึงร่วมมือกับพันธมิตรจัดงาน ‘Thai Theatre Showcase : โชว์เคส โชว์ของ’ เพื่อเปิดพื้นที่ให้ศิลปินละครเวทีไทยในสหรัฐอเมริกาได้โชว์ของแบบจัดใหญ่จัดเต็ม จุดประสงค์ของงานนี้คือ ต้องการเปิดโอกาสให้ศิลปินมีพื้นที่แสดงศักยภาพและถ่ายทอดเรื่องราวผ่านงานศิลปะ ว่าความรู้สึกและประสบการณ์ของพวกเขาในฐานะศิลปินเชื้อสายไทยที่ทำงานอยู่ในวงการละครเวทีนิวยอร์กเป็นอย่างไร นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความเห็น เชื่อมต่อเครือข่าย และสร้างการรับรู้ว่ายังมีศิลปินไทยเก่งๆ อีกมากมายที่กำลังสร้างสรรค์ผลงานอยู่ต่างแดน ผู้ร่วมงาน ‘Thai Theatre Showcase : โชว์เคส โชว์ของ’ จะได้ร่วมพูดคุยในช่วง Panel Talk และฟังประสบการณ์จริงจากศิลปินหลากหลายแขนง ทั้งนักออกแบบ ผู้กำกับละครเวที นักเขียนบทละคร และนักแสดง ยกตัวอย่าง ปัน-ปัญชรีย์ สังข์แก้ว หนึ่งในผู้ร่วมออกแบบ Construction Design ในงาน Met Gala 2022, นานา […]
อร่อยได้มือไม่ต้องเปื้อน! จีนผลิตไอศกรีมทนความร้อน ไม่ละลาย แม้อยู่ในอุณหภูมิ 31 องศาฯ
การกินไอศกรีมแบบไม่ต้องเลอะมือ ถือเป็นปัญหาใหญ่สำหรับชาวเมืองร้อนอย่างประเทศไทยเหลือเกิน เพราะแค่จะหยิบเอาไอศกรีมที่ซื้อออกจากถุง ไอความร้อนจากทุกสารทิศก็ถาโถมเข้ามาจนละลายเลอะมือไปหมด โชคร้ายหน่อยก็หยดเลอะขากันไปตามๆ กัน แต่ปัญหาไอศกรีมละลายนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะประเทศเราเท่านั้น แต่ไม่ว่าประเทศไหนๆ หรือแม้แต่ประเทศจีนที่ฤดูหนาวก็หนาวจนติดลบ ก็ยังต้องเผชิญกับปัญหานี้เช่นกัน เพราะปัญหาที่มาคู่กับขนมหวานแช่แข็งนี้ Zhong Xue Gao บริษัทผลิตไอศกรีมยักษ์ใหญ่สุดหรูระดับพรีเมียมของประเทศจีน ที่ถูกขนานนามว่าเป็น ‘Hermès of Ice Cream’ ต้องกระโดดลงมาดึงส่วนแบ่งทางตลาดและความสนใจของสาธารณะ ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ไอศกรีมราคา 10 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 360 บาท ที่มีจุดเด่นคือ ‘ละลายช้า’ ละลายช้าชนิดที่ว่ามีชาวเน็ตในเวย์ปั๋ว (Weibo) นำไอศกรีมดังกล่าวไปวางไว้ในอุณหภูมิที่สูงถึง 31 องศาเซลเซียสนานถึง 1 ชั่วโมงแต่เจ้าไอศกรีมตัวนี้ก็ยัง ‘ไม่ละลาย’ สร้างความฮือฮาจนกลายเป็นไวรัลมีผู้เข้าชมคลิปวิดีโอกว่า 500 ล้านครั้ง จนชาวเน็ตจีนออกมาตั้งคำถามถึงความปลอดภัยในการบริโภคไอศกรีมดังกล่าว ร้อนถึงบริษัท Zhong Xue Gao ที่ต้องออกมาแถลงด้วยบัญชีโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการว่า ผลิตภัณฑ์ของตนปฏิบัติตามแนวทางคุณภาพอาหารของจีนในมาตรฐานระดับสูง ด้านส่วนผสมหลักที่ทำให้ไอศกรีมละลายช้าก็คือ ‘คาร์ราจีแนน’ (Carrageenan) สารสกัดจากสาหร่ายทะเลที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในไอศกรีมและเครื่องดื่มประเภทเย็นทั่วไปอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นสามารถมั่นใจในความปลอดภัยระหว่างการกินได้เลย Sources :DesignTAXI | […]
ไทยแก้ปัญหาหมาจรได้แล้ว! l URBAN เจอนี่ EP.7
ใครเดินตามท้องถนนหรือชุมชนบ่อยๆ คงเคยเห็นสุนัขจรจัดที่น่าสงสาร ไร้เจ้าของดูแล และไม่มีที่พักพิง ถ้าโชคดีหน่อยพวกมันจะได้รับอาหารและการดูแลจากผู้ใจบุญในพื้นที่ แต่ถ้าโชคชะตาไม่เข้าข้าง เพื่อนสี่ขาเหล่านี้มักถูกทิ้งให้หิวโซ เดินเตร็ดเตร่จนอาจเจ็บป่วยหรือตายได้ ด้วยความรักที่มีต่อเพื่อนสี่ขา ทำให้เกิดโครงการ ‘จรจัดสรร’ โครงการสุนัขชุมชน ที่ติดตั้งที่พักพิงเพื่อสุนัขจรจัดด้วยสถาปัตยกรรมขนาดเล็กน่ารัก และวันนี้ถือเป็นโอกาสที่ดี Urban เจอนี่ จะพาไปเจอกัน จรจัดสรร พูดคุยถึงแนวคิด และความเป็นมา และสิ่งที่จรจัดสรรทำ ทำให้เมืองน่าอยู่ขึ้นและยกระดับสวัสดิการของทั้งคนและสุนัขให้ดีกว่าเดิมได้อย่างไร ติดตามได้จาก Urban เจอนี่ Ep. นี้กัน!
Notre Dame’s New Landscape โปรเจกต์ออกแบบพื้นที่นอกมหาวิหารนอเทรอดาม ที่เต็มไปด้วยต้นไม้และฟังก์ชันเพื่อคนเมือง
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2562 เกิดเหตุไฟไหม้มหาวิหารนอเทรอดาม (Notre Dame) ศาสนสถานอายุ 850 ปีในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่สร้างความตกใจและความเสียดายให้คนทั่วโลก เพราะเพลิงที่ลุกไหม้สร้างความเสียหายให้ศาสนสถานอายุหลายศตวรรษแห่งนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากโครงสร้างส่วนใหญ่ทำจากไม้ หลังจากเกิดเหตุ ฝรั่งเศสก็เริ่มแผนซ่อมแซมบูรณะตัวอาคาร ซึ่งคาดว่าอาจต้องใช้เวลาฟื้นฟูนานถึง 5 ปี ควบคู่ไปกับการเปิดประกวดแข่งขันด้านการออกแบบเพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อมหรือบริเวณโดยรอบมหาวิหารขึ้นมาใหม่ โดยเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2565 คณะกรรมการได้ประกาศรางวัลผู้ชนะเลิศอันดับหนึ่งคือ โปรเจกต์การออกแบบที่พัฒนาโดยภูมิสถาปนิก Bas Smets, บริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมและผังเมือง GRAU และบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านมรดกทางสถาปัตยกรรม Neufville-Gayet การออกแบบพื้นที่โดยรอบมหาวิหารนอเทรอดามของทีมนี้มีจุดประสงค์หลักเพื่อเชื่อมโยงสถานที่ทางประวัติศาสตร์ กับแม่น้ำแซนที่โอบล้อมมหาวิหารให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น จัตุรัสที่อยู่หน้ามหาวิหารถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่เปิดโล่ง ช่วยให้ด้านหน้าของอาคารสูงเด่นเป็นสง่ากว่าเดิม และเพิ่มต้นไม้สีเขียวขจีที่รายล้อมอาคารและให้ร่มเงาแก่พื้นที่นั่งเล่น ส่วนบริเวณด้านหลังของมหาวิหารจะถูกรวมเข้ากับสวนที่อยู่ติดกัน เปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะริมแม่น้ำขนาดใหญ่ที่ทอดยาว 400 เมตร และจะมีการปลูกต้นไม้ใหม่เพิ่มถึง 131 ต้น กลายเป็นพื้นที่สีเขียวที่เหมาะแก่การเดินเล่นหรือนั่งพักผ่อนหย่อนใจเป็นที่สุด นอกจากนี้ ผู้ออกแบบยังติดตั้งระบบระบายความร้อนให้แก่พื้นด้วยการใช้ม่านน้ำความหนาเพียง 5 มิลลิเมตร ซึ่งจะช่วยลดอุณหภูมิได้หลายองศาฯ อีกทั้งยังทำให้กำแพงโดยรอบมหาวิหารสะท้อนแสงแวววับ และกลายเป็นจุดถ่ายรูปสวยๆ สำหรับนักท่องเที่ยวด้วย อีกหนึ่งการออกแบบที่น่าสนใจคือ การเปลี่ยนลานจอดรถที่อยู่ใต้จัตุรัสด้านหน้ามหาวิหารให้เป็นสถานที่ต้อนรับแขกขนาดใหญ่กว่า […]
“ดนตรีอยู่ที่ไหนก็ได้” – ‘ลภ เวลาเย็น’ ผู้จัดงานดนตรีที่อยากชวนทุกคนไปฟังเพลงกันซักแดด
ดนตรีมีหลากหลายแนวเพลง รูปแบบการเล่นดนตรีก็แตกต่าง การแสดงดนตรีย่อมไม่เหมือนกัน ในร้านเหล้า ผับ บาร์ คาเฟ่เป็นแบบหนึ่ง บนเวทีคอนเสิร์ต ในพื้นที่สาธารณะเป็นอีกแบบหนึ่ง ในงานตลาดนัดหรือเทศกาลดนตรีก็อีกแบบหนึ่ง ต่างรสนิยมและความสุนทรีย์ เป็นปัจเจก ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะเลือกแบบไหน ประเด็นที่สำคัญกว่าคือ ในประเทศไทยมีทางเลือกในการฟังเพลง ดูดนตรีกันสักกี่รูปแบบ จากผลกระทบของโรคระบาด ทำให้สองสามปีที่ผ่านมารูปแบบการจัดงานดนตรีต้องปรับเปลี่ยน ลดขนาด เว้นระยะห่าง ไม่แออัด ฯลฯ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ทำให้นึกถึง ‘ซักแดด’ ซักแดดคืองานดนตรีที่ใช้พื้นที่ในจังหวัดราชบุรีเป็นที่จัดงาน บริหารโดยทีมผู้จัดงานชื่อ ‘เวลาเย็น (Velayen)’ โดยมี ลภ-วัลลภ แก้วพ่วง เป็นหัวหน้าแก๊ง เขาเล่าว่า ซักแดดเกิดขึ้นมาพร้อมการปรับตัวในรูปแบบวิถีชีวิตใหม่หลังโรคระบาดมาเยือน เวลาเย็นกับการชวนไปซักแดด ก่อนจะไปฟังเรื่องของซักแดด เราอยากพาไปรู้จักกับหัวหน้าแก๊งเวลาเย็นกันก่อนสักนิด ลภเป็นคนบางแพ จังหวัดราชบุรี เรียนประถมฯ ต่อมัธยมฯ แถวบ้านได้ปีเดียว ก็เปลี่ยนมาต่อเทคนิคฯ ช่างไฟ ที่โพธาราม กระทั่งปี 2546 เขาก็เข้ากรุงเทพฯ มาเรียนวิศวกรรมไฟฟ้าที่เทคนิคกรุงเทพฯ จนเรียนจบออกมาใช้วิชาช่างไฟสร้างตัวอยู่ในเมืองหลวงราว 15 ปี ก่อนเปิดบริษัทรับเหมาเป็นของตัวเอง และตัดสินใจวางแผนกลับไปอยู่บ้านอีกครั้ง ปี […]
คุยเรื่องศาสนายังเวิร์กอยู่ไหมในหมู่คนเมือง กับ พระมหานภันต์ | Unlock the City EP.05
ธรรมะและศาสนายังเวิร์กอยู่ไหมในหมู่คนเมือง? ที่ผ่านมา ศาสนาพุทธและพระสงฆ์ได้กลายเป็นประเด็นถกเถียงในสังคมไทยมากขึ้น ทั้งในแง่ของความไม่เหมาะสม ตรวจสอบความโปร่งใสได้ยาก ทำให้มีข่าวคราวเกี่ยวกับแวดวงศาสนาให้เห็นอยู่ไม่น้อย เหตุการณ์เหล่านี้อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลให้พฤติกรรมของคนเมืองยุคใหม่ที่ดูเหมือนจะนับถือศาสนาน้อยลงเรื่อยๆ ท่ามกลางค่านิยม นโยบาย และกฎหมายที่ยังอ้างอิงกับพุทธศาสนา แล้วศาสนาต้องปรับตัวอย่างไร รัฐและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องดูแลจัดการยังไงบ้าง Unlock the City เอพิโสดนี้ ‘พนิต ภู่จินดา’ ชวนคุยกับ ‘พระมหานภันต์’ ประธานกรรมการมูลนิธิสถาบันการจัดการวิถีพุทธเพื่อสุขและสันติ (มูลนิธิ สกพ.) พระสงฆ์ผู้ที่พยายามปรับและนำเสนอหลักธรรมให้มีความร่วมสมัย อย่างการไลฟ์สอนเรื่องการทำความเข้าใจความหลากหลายของสังคม และการที่พระสงฆ์ต้องปรับตัวให้ใกล้ชิดประชาชนมากขึ้น ทำให้ไม่ว่าจะเพศไหนวัยใด เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุก็ฟังได้อย่างเพลิดเพลิน แถมยังได้แง่คิดดีๆ ไปใช้ในชีวิต ติดตามฟัง Urban Podcast ได้ทาง Podbean : https://bit.ly/3uIWNdx Youtube : https://bit.ly/3P6cq6N Apple Podcast : https://apple.co/3cchdoz Spotify : https://spoti.fi/3cbhdVS
อีกครั้งแล้วสินะที่ฉันต้องโยกย้าย เตรียมบอกลา ‘ร้านหนังสือเดินทาง’ ย้ายร้านจากถนนพระสุเมรุ สิ้นปี 65
หากได้มีโอกาสต้องไปทำธุระหรือมีแพลนเดินเที่ยวเล่นแถวถนนพระสุเมรุ เรามักจะแวะเวียนไปร้านหนังสือที่หน้าร้านตกแต่งด้วยโต๊ะเก้าอี้น่ารัก จักรยานเก่าๆ หนึ่งคัน และชั้นวางที่อัดแน่นไปด้วยโปสต์การ์ด เพื่อเข้าไปเลือกหาหนังสือถูกใจสักเล่มก่อนนำกลับบ้าน หรือใช้เวลานั่งทอดหุ่ยอ่านหนังสือบนชั้น 2 ที่เป็นส่วนคาเฟ่ ใช่แล้ว เรากำลังพูดถึงร้านหนังสือเดินทาง (Passport Bookshop) ของ ‘หนุ่ม-อำนาจ รัตนมณี’ ที่ตั้งอยู่บนถนนสายพระสุเมรุมานานกว่า 16 ปี ฟังดูเป็นเวลาที่ยาวนาน และนักอ่านหลายคนคงมีโอกาสมาเยี่ยมเยียนที่นี่อยู่หลายครั้ง แต่ขณะเดียวกัน อาจมีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ทราบว่าร้านหนังสือเดินทาง เคย ‘ย้าย’ ร้านมาแล้วครั้งหนึ่งจากถนนพระอาทิตย์ หลังจากเปิดจำหน่ายหนังสือเป็นเวลา 4 ปี นั่นแปลว่าหากรวมเวลาที่ร้านหนังสือแห่งนี้เปิดให้บริการก็นับได้ 20 ปีพอดิบพอดี แต่ใครจะไปรู้ว่าเวลาที่พอให้เด็กคนหนึ่งเติบโตเป็นหนุ่มสาวจำต้องสิ้นสุดลง เพราะร้านหนังสือเดินทางได้ประกาศว่าจำเป็นต้องย้ายร้านเป็นคราที่สองในสิ้นปีนี้ เนื่องจากอาคารที่ใช้เป็นตัวร้านถูกเวนคืนเพื่อทำสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน นั่นทำให้ทีมงานในร้านต้องเตรียมตัวเก็บข้าวของ เพื่อความพร้อมและสะดวกในการขนย้าย อย่างที่ทราบกันว่าจุดเด่นของร้านหนังสือแห่งนี้คือ การตกแต่งและบรรยากาศที่น่ารัก อบอวลไปด้วยความรู้สึกอบอุ่น แต่มากไปกว่านั้น สิ่งที่ทำให้ร้านคงอยู่ได้เรื่อยมาคือมิตรภาพของเจ้าของร้านหนังสือและนักอ่านทั้งขาประจำและขาจร จนหลายครั้งก่อให้เกิดความผูกพันขนาดที่มีคนยกให้เป็นหนึ่งในสถานที่แห่งความทรงจำ บ้างก็ส่งของขวัญและหนังสือมาให้เจ้าของร้าน บ้างก็ขอใช้พื้นที่ร้านเป็นสถานที่ในการขอแต่งงานด้วยซ้ำ นี่ยังไม่นับรวมหนังสือหลากหลายประเภทที่อัดแน่นตามชั้นวาง และสิ่งละอันพันละน้อย เช่น โปสต์การ์ด สมุด กระเป๋า งานศิลปะ ฯลฯ ที่เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์สำคัญของร้าน ทำให้ใครที่หลงเข้าไปล้วนไม่ได้กลับออกมาแบบตัวเปล่า […]
องค์การนักศึกษาธรรมศาสตร์ประกาศใช้ ‘มอญดูดาว’ เป็นเพลงประจำมหา’ลัย แทนเพลงพระราชนิพนธ์ยูงทอง
เป็นอีกครั้งที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กลายเป็นที่พูดถึงบนโลกโซเชียลมีเดีย หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง ทั้งในกรณีของการยกเลิกประกวดดาว-เดือน ยกเลิกระบบโซตัส หรือการอนุญาตให้บัณฑิตที่เข้ารับปริญญาแต่งตัวตามเพศวิถีได้ และในครั้งนี้ องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือ อมธ. ได้ประกาศให้ใช้ ‘เพลงประจำมหาวิทยาลัยทำนองมอญดูดาว’ แทนเพลงประจำมหาวิทยาลัยเดิมอย่าง ‘เพลงพระราชนิพนธ์ยูงทอง’ ในทุกกิจกรรมที่จัดขึ้นโดย อมธ. ความเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดเกิดขึ้นหลัง อมธ. ทำแบบสำรวจประชามติของประชาคมธรรมศาสตร์ที่ให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางของการจัดกิจกรรมมากขึ้น โดยเฉพาะในการเลือกเพลงประจำมหาวิทยาลัยอันเป็นการแสดงออกที่สำคัญถึงอัตลักษณ์ การก่อกำเนิด และการเชิดชูประวัติศาสตร์การต่อสู้ของมหาวิทยาลัย โดยแบบสำรวจครั้งนี้มีเพลงที่เข้ารับการคัดเลือกทั้งหมด 3 เพลง ได้แก่ เพลงประจำมหาวิทยาลัยทำนองมอญดูดาว, เพลงมาร์ช มธก. และเพลงพระราชนิพนธ์ยูงทอง ซึ่งจากจำนวนผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด 5,168 คน มีคนที่เลือกเพลงประจำมหาวิทยาลัยทำนองมอญดูดาวกว่า 51.9 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา อมธ. เห็นควรประกาศให้ใช้เพลงประจำมหาวิทยาลัยทำนองมอญดูดาวแทนเพลงพระราชนิพนธ์ยูงทอง ในทุกกิจกรรมที่จัดขึ้นโดย อมธ. ตามเจตนารมณ์ของประชาคมธรรมศาสตร์ นับแต่นี้ต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนเพลงประจำมหาวิทยาลัย ไม่ได้หมายความถึงการยกเลิกเพลงเดิมหรือทำให้หายไปถาวร เพราะมีการชี้แจงทางจดหมายจากมหาวิทยาลัยเรื่องการใช้เพลงมหาวิทยาลัย ที่ระบุว่า “เพลงพระราชนิพนธ์ ยูงทอง เป็นเพลงที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้คุณค่าและความสำคัญสำหรับงานพิธี พิธีการ และงานที่เป็นทางการของมหาวิทยาลัย และยังคงถือปฏิบัติเช่นนั้นโดยมิได้มีการเปลี่ยนแปลง” […]
ญี่ปุ่นเพิ่มโทษกฎหมายดูหมิ่นติดคุก 1 ปี ปรับสูงสุด 8 หมื่นบาทเพื่อลดปัญหา Cyberbullying
ญี่ปุ่นเพิ่มโทษกฎหมายดูหมิ่น ติดคุก 1 ปี ปรับสูงสุด 8 หมื่นบาท เพื่อลดปัญหา Cyberbullying Cyberbullying หรือการกลั่นแกล้ง การให้ร้าย การด่าว่า การข่มเหง หรือการรังแกผู้อื่นทางโซเชียลมีเดียต่างๆ น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังประสบ เห็นได้จากข่าวการพุ่งสูงของยอดผู้เสียชีวิตที่เป็นเหยื่อจากการบุลลี่ทางออนไลน์ ในฐานะที่ญี่ปุ่นติดอันดับประเทศที่มีการบุลลี่รุนแรงเป็นอันดับต้นๆ บวกกับการจากไปของ ‘ฮานะ คิมูระ’ (Hana Kimura) นักมวยปล้ำและนักแสดงเรียลลิตี้โชว์ทางเน็ตฟลิกซ์ ที่ถูกโจมตีด้วยการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปลักษณ์ในโลกออนไลน์ เมื่อปี 2563 เหตุการณ์นั้นทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มกฎหมายการ ‘ดูหมิ่น’ ในโลกออนไลน์ให้มีโทษมากขึ้น โดยตัวกฎหมายฉบับใหม่นี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยกำหนดให้ผู้ที่มีความผิดต้องจำคุกสูงสุดถึง 1 ปี และมีโอกาสจ่ายค่าปรับถึงสามแสนเยนหรือคิดเป็นเงินไทย 80,000 บาท ซึ่งขยับเปลี่ยนแปลงจากโทษเดิมที่ผู้กระทำความผิดจะถูกจำคุกไม่เกิน 30 วัน และปรับเพียง 2,600 บาท ร่างกฎหมายฉบับนี้ได้ให้นิยามของการดูหมิ่นว่าเป็นการดูถูกผู้อื่นโดยไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเขาคนนั้น ตรงกันข้ามกับการหมิ่นประมาท ที่เป็นการดูถูกผู้อื่นบนข้อเท็จจริงที่เจาะจงไปยังบุคคลที่สาม เซย์โฮ โช (Seiho Cho) ทนายคดีอาญาในญี่ปุ่นให้ความเห็นต่อผู้สื่อข่าวจาก CNN […]