
LATEST
ลิสต์กิจกรรมวันหยุดกับเพื่อน พร้อมสุขไปให้สุดกับ All-new Honda BR-V
วันหยุดนี้ นัดเพื่อนไปไหนกันดี? ในสัปดาห์ที่งานเดือดทุกวันไม่เว้นให้พัก วันหยุดทั้งทีก็อยากหาอะไรฮีลใจไปกับเพื่อนซี้สักหน่อย ออกทริปต่างจังหวัดตั้งแคมป์วิวป่าเขา 1 คืน หรือพาร่างกายไปแตะคลื่นทะเล นั่งชิลชมความงามในยามพระอาทิตย์ตกดี แต่คิดไปคิดมา ขอแค่มีกิจกรรมทำกับเพื่อนในเมือง ไม่ต้องเดินทางออกไปไหนไกลน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า งั้นครั้งนี้ชาว Urban Creature ขอคงคอนเซปต์เที่ยวในเมือง หิ้วเพื่อนไปได้ครบ ลิสต์กิจกรรมทำแบบไม่จำเจตั้งแต่เช้าจรดเย็น ทั้งปลุกเอเนอร์จีร่างกาย และหาความชิลที่แอบซ่อนอยู่ในเมือง แต่อย่าลืม…จะไปกับเพื่อนจำนวนเยอะทั้งทีก็ต้องมีรถรองรับให้พร้อมตลอดการเดินทางด้วยนะ เพราะไหนจะต้องมีพื้นที่นั่งสบายๆ แล้ว ยังต้องมีพื้นที่เก็บสัมภาระที่ดีด้วย ซึ่งครั้งนี้เราเลือก All-new Honda BR-V รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ดีไซน์ล้ำสมัยทั้งภายนอกและภายใน สะท้อนความเป็นรถคนเมืองได้ดี แต่ยังรองรับการใช้งานได้หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์พร้อมลุยทุกสถานที่และทุกกิจกรรมที่ลิสต์เตรียมไว้ครบ คาดเข็มขัดให้พร้อม! และสตาร์ทรถออกไปรับเพื่อนกันเลย ปลุกร่างกายให้ตื่น เดินเล่นสวนในเมืองกับเพื่อนซี้สี่ขา เริ่มต้นวันหยุดที่ยังสลัดความง่วงออกไปไม่ได้ เราไปปลุกร่างกายให้ตื่นก่อน พาน้องหมาไปเที่ยวด้วยการออกไปเดินเล่นสวนในเมืองกันดีกว่า ยิ่งบรรยากาศตอนเช้าที่อากาศกำลังดี ลมหนาวพัดเข้าสู่กรุงเทพฯ อย่างเต็มตัว ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้แล้ว ก่อนสตาร์ท เรามาเตรียมขนสัมภาระที่จะใช้ในกิจกรรมวันนี้ให้พร้อมก่อน ทั้งเก้าอี้สนาม รถเข็น และอุปกรณ์ต่างๆ อีกมากมาย ซึ่ง All-new Honda […]
เทคโนโลยีสำหรับคนขี้เกียจอาบน้ำ ญี่ปุ่นเปิดตัว ‘เครื่องซักคน’ แค่เข้าไปนอนนิ่งๆ ก็สะอาดหมดจด
ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศแห่งเทคโนโลยีก็ต้องมีของใหม่ๆ ที่น่าสนใจมาให้เราได้ตื่นตาตื่นใจกันอยู่เสมอ ล่าสุดประเทศญี่ปุ่นได้เล็งเห็นปัญหาในชีวิตประจำวันอย่างอาการขี้เกียจอาบน้ำ และเปิดตัวโปรเจกต์เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนขี้เกียจทำความสะอาดร่างกายด้วย ‘เครื่องซักคน’ หรือเครื่องอาบน้ำอัตโนมัตินั่นเอง เครื่องซักคนที่ว่านี้คือ ‘Project Usoyaro’ โปรเจกต์ของ Science Co., Ltd. บริษัทที่มีชื่อเสียงในด้านการพัฒนานวัตกรรมห้องน้ำและห้องครัว โดยเจ้า Project Usoyaro นี้ทำงานและควบคุมด้วยระบบ AI ที่จะช่วยทำความสะอาดร่างกายเพียงแค่เข้าเครื่องไปนอนแช่น้ำเฉยๆ แถมวิธีนี้ยังช่วยปลอบประโลมผู้ใช้งานจากวันที่เหนื่อยล้าอีกด้วย เพราะเมื่อเราเข้าไปในนวัตกรรมนี้แล้ว ภายในก็จะมีหน้าจอกันน้ำที่นอกจากจะแสดงสถานะต่างๆ ของร่างกายแล้ว ยังเปิดเป็นภาพพร้อมกับเสียงเพลง ซึ่งจะช่วยสร้างบรรยากาศเพื่อความผ่อนคลายและทำให้รู้สึกสบายตลอดการอาบน้ำอีกด้วย ทั้งนี้ Project Usoyaro ไม่ใช่เครื่องช่วยอาบน้ำแรกที่ญี่ปุ่นคิดค้นขึ้น เพราะย้อนไปในงาน Osaka Expo 1970 บริษัท Sanyo Electronics เคยเปิดตัวแนวคิด ‘อ่างอัลตราโซนิก’ ที่จะช่วยทั้งทำความสะอาดร่างกาย นวดเพื่อผ่อนคลาย และทำให้ผู้ใช้งานตัวแห้งภายใน 15 นาที แต่เป็นเพียงไอเดียเท่านั้น ยังไม่ถูกพัฒนาเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ได้ในชีวิตจริง ซึ่งในตอนนั้นทาง Yasuaki Aoyama ประธานบริษัท Science Co., Ltd. ได้ไปร่วมงาน Osaka […]
Expectation VS Reality ชีวิตวุ่นๆ ในเมืองกรุงของหนุ่มขี้เหงากับภารกิจตามหารักแท้แบบฉบับหนังรัก
สวัสดีครับ เหล่าคนเหงาในเมืองใหญ่ทุกคน ผม ‘แทน แทนทะเล’ นะครับ หลายคนอาจจะเห็นหน้าค่าตาผมจากรายการ ‘Urban เจอนี่’ มาบ้าง แต่วันนี้ผมไม่ได้จะมาชวนไปดูรายการหรือทำอะไรประหลาดๆ หรอกนะ แค่เห็นว่าวีกนี้ Urban Creature เขาทำคอนเทนต์ธีม ‘Bangkok Zombie Town’ ที่ตีแผ่ชีวิตสุดห่วยในเมืองกัน ผมเลยอยากนำเสนอชีวิตหนึ่งวันในฐานะของผู้ชายขี้เหงาคนหนึ่งที่ก็อาศัยอยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้ ‘คนเดียว’ มานานกับเขาบ้าง หลังจากปัด Tinder จนนิ้วด้าน โหลดแอปฯ เดตติงจนความจำในโทรศัพท์เต็ม ผมก็ฝันถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำให้หัวใจเจ้ากรรมที่เริ่มด้านชากลับมามีสีสันมากขึ้น ผมจึงตัดสินใจว่า “วันนี้แหละที่เราจะไปปฏิบัติการตามหารักแท้ในเมืองด้วยตัวเอง เอง เอง” (ใส่เอกโค่เพิ่มความดราม่า) แต่แหม จะให้ไปตามหาคนในฝันแบบธรรมดาๆ ก็ดูไม่ค่อยเหมาะกับพิธีกรรายการดังแบบผมเท่าไหร่ ด้วยความที่เป็นอดีตนักเรียนฟิล์มและชอบดูหนังมากๆ ผมเลยขอหยิบเอาหนังรักโรแมนติกมาใช้เป็น Reference สร้างซีนประทับใจในหนึ่งวันที่ผมออกไปเจอเธอสักหน่อย จะได้รู้ดำรู้แดงกันไปเลยว่า ‘เมืองกรุงเทพฯ’ จะ ‘โรแมนติก’ แบบเมืองในหนังรักกับเขาได้ไหม รับบทเป็นธีโอดอร์ ใน Herมองเมืองแบบเหงาๆ คิดถึงเขาทำไงดี ก่อนออกไปตามหารักแท้ในเมืองใหญ่ ผมก็ขอทำตัวเลียนแบบ ‘ธีโอดอร์’ ในหนังคนเหงาเรื่อง ‘Her’ […]
งานนี้ต้องมาด่วนนะวิ! เที่ยวงาน Central Pattana : The Urgent Project – Better Future is Now งานอีเวนต์ของคนรักโลกที่รอไม่ได้
“ถ้าอุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นเกินเฉลี่ย 1.5 องศาเซลเซียส โลกนี้อาจไม่ใช่สถานที่ที่มนุษย์อยู่ได้” นี่คงเป็นชุดข้อมูลที่หลายคนน่าจะเข้าใจกันดีถึงวิกฤตของโลกที่ปัจจุบันแน่นอนแล้วว่า อุณหภูมิโลกจะสูงแตะถึง 1.5 องศาเซลเซียส แต่จะทำยังไงไม่ให้สูงเกินไปมากกว่านี้ เพราะอุณหภูมิเป็นสิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้ถึงสถานการณ์โลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง และกำลังเกิดวิกฤตต่างๆ มากมายที่ขยับเข้าใกล้ตัวเราทุกคนแล้ว ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดไม่กี่เดือนนี้คือ น้ำท่วมสูงมากกว่าปกติในพื้นที่กรุงเทพฯ เนื่องจากน้ำทะเลหนุนสูงขึ้นทุกปีจากการละลายของแผ่นน้ำแข็งขั้วโลก และการเกิดภัยพิบัติต่างๆ มากมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นถ้าเรายังไม่รีบแก้ไขตอนนี้ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จึงจับมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร จัดภารกิจเร่งด่วนเพื่อกู้โลก ผ่านอีเวนต์อีโค่สุดล้ำที่สนุก ไม่น่าเบื่อ ในชื่อว่า ‘Central Pattana : The Urgent Project – Better Future is Now’ สร้างสรรค์พื้นที่ Sustainability Experiential Space ใจกลางเมือง ‘ย่อย’ เรื่องความยั่งยืนให้เข้าใจง่าย และช่วยโลกได้จริงผ่านการจำลองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต รวมถึงมีกิจกรรมเวิร์กช็อปและการเสวนาให้ความรู้ผ่าน Green Influencer อีกมากมาย ตั้งแต่วันนี้ – 30 ตุลาคม 2565 […]
กรุ่นกลิ่นแป้ง สัมผัสความนุ่มฟูจากยีสต์ ในเทศกาลขนมปัง Bread Your Day ที่ Slow Life บางกอก วันที่ 5 พ.ย. 2565
กรุ่นกลิ่นแป้ง สัมผัสความนุ่มฟูจากยีสต์ ในเทศกาลขนมปัง Bread Your Day ที่ Slow Life บางกอก วันที่ 5 พ.ย. 2565 ใครที่ชอบขนมปัง ต้องปักหมุดล็อกคิวว่างไปเลือกช้อปของโปรดใน ‘Bread Your Day’ เทศกาลขนมปังที่จัดขึ้นโดย Slow Life บางกอก และ สมหวังปังผัก แบบด่วนๆ ภายในงาน คอขนมปังจะได้พบกับ ‘Bread Market’ ตลาดที่อบอวลไปด้วยกลิ่นกรุ่นจากร้านขนมปัง ที่คัดสรรมาแบบปังๆ ทั้งขนมปังโฮมเมด ขนมปังยีสต์ธรรมชาติ ขนมปังเพื่อสุขภาพ และขนมปังเพื่อธรรมชาติ จากนักทำขนมทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น ให้ผู้ที่สนใจได้ชิม ได้รู้จักขนมปังหลากหลายรูปแบบ รวมถึงยังมีร้านของกิน ของใช้ออร์แกนิก และสินค้างานคราฟต์ให้เดินเพลินๆ กว่า 30 ร้าน นอกจากท้องอิ่ม ได้หิ้วขนมปังหอมๆ กลับไปตุนที่บ้าน ในงานยังมีเวที Bread Talk วงเสวนาของเหล่าคนที่หลงใหลในมนตร์เสน่ห์ของขนมปัง โดยพวกเขาจะมาแบ่งปันความรู้ สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกๆ คนได้แหวกว่ายยีสต์นุ่มฟู […]
Illuminight – แสงไฟและชีวิต
แสงไฟที่เราเห็น แท้จริงแล้วคือชีวิตของผู้คน ดวงไฟที่สว่างไสวในยามค่ำคืน คือหลักฐานว่าพวกเขาเหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่ ในฐานะผู้สังเกตการณ์ เราจัดทำผลงานชุด Illuminight ขึ้น เพื่อสำรวจที่อยู่อาศัยและความเป็นอยู่ของผู้คน ผ่านแสงนีออนของห้องพักในเมืองหลวง ที่จะส่องสว่างในช่วงเวลาเย็นย่ำค่ำมืดหลังเลิกงาน เป็นแพตทเทิร์นวนซ้ำแบบนี้ในทุกๆ วัน Bangkok Zombie Town คือซีรีส์คอนเทนต์ประจำเดือนตุลาคม 2565 จาก Urban Creature ที่ต้องการให้คนเมืองเห็นปัญหาเมืองผ่านข้อมูล ผู้คน และแง่มุมใหม่ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้อยู่อาศัย เพื่อทำความเข้าใจ เรียกร้องการเปลี่ยนแปลง และไม่โทษว่าเป็นความผิดพลาดของตัวเองเพียงอย่างเดียว
สิ้นสุดการรอคอย! รถไฟฟ้าสายสีเหลือง-ชมพู เตรียมเปิดวิ่งฟรีบางส่วน ม.ค. 66
อีกไม่นานเกินรอสำหรับการเปิดใช้บริการรถไฟฟ้ารางเดี่ยวสายสีเหลืองและชมพู หลังจากใช้เวลาก่อสร้างมานานหลายปี เลื่อนเปิดใช้งานไปก็หลายครั้ง ล่าสุดจากการหารือกันระหว่างกรมการขนส่งทางราง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และตัวแทนภาคเอกชนผู้รับสัมปทาน ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปถึงแผนการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว–สำโรง และสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ออกมาแล้ว โดยรถไฟฟ้าทั้งสองสายจะมีการทดสอบระบบด้วยการเปิดให้ประชาชนติดต่อลงทะเบียนทดลองใช้บริการในรูปแบบ ‘เฉพาะกลุ่ม’ ได้แก่ สถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือกลุ่มประชาชนที่สนใจ ในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ก่อนจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปทดลองใช้บริการแบบฟรีๆ ในเดือนมกราคม 2566 แต่จะเปิดให้บริการเป็นบางส่วน (Partial) เท่านั้น ก่อนจะเริ่มเก็บค่าโดยสารช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 และเปิดใช้อย่างเต็มรูปแบบในช่วงกลางปีตามลำดับ ในช่วงทดลองวิ่ง สายสีเหลืองจะเปิดให้บริการตั้งแต่ช่วงสถานีสำโรง-สถานีภาวนา ส่วนสายสีชมพูคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการตั้งแต่สถานีมีนบุรี-สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ยกเว้นสถานีนพรัตน์ สถานีโทรคมนาคมแห่งชาติ เบื้องต้นค่าโดยสารรถไฟฟ้ารางเดี่ยวทั้งสองสายจะอยู่ที่ประมาณ 15 – 45 บาทตามระยะทาง และสามารถใช้งานผ่านบัตรโดยสารรถไฟฟ้า BTS ที่มีอยู่เดิมได้เลย ส่วนใครที่กำลังรอรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) อยู่ ก็อาจรอกันต่อไปอีกหน่อย เพราะถึงแม้ว่าการก่อสร้างใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ยังไม่มีกำหนดเปิดทดลองใช้งานออกมาอย่างเป็นทางการ Sources :3Plus News | t.ly/MWE4 ประชาชาติ | t.ly/0xLo
กรุงเทพฯ ติดอันดับ 5 เมือง ‘Work ไร้ Balance’ ของโลก
คุณเคยอยู่ในสถานการณ์เจองานด่วน ต้องแก้เดี๋ยวนี้! หรือโดนทักไลน์มาตอนสามทุ่ม ช่วยทำงานให้พี่นิดหนึ่งได้ไหม แน่นอนละว่าจังหวะนี้คงปฏิเสธไม่ได้ พร้อมเปิดคอมฯ ทำงานงกๆ จนเงยหน้ามาอีกที อ้าว! เที่ยงคืนแล้ว ทำไมเรายังไม่นอน ไม่กินข้าว และยังไม่ได้พักผ่อนเลย รู้ตัวอีกทีก็หมดวันซะแล้ว บางคนอาจจะมองว่า การทำงานหนัก ทำงานเกินเวลานิดหน่อยคงไม่เป็นไร ไม่ว่าจะที่ไหนก็เป็นกันทั้งนั้น แต่ความเป็นจริงแล้วกรุงเทพฯ ติดอันดับรั้งท้าย 5 เมืองสุดท้ายที่มี ‘Work-life Balance’ หรือเมืองที่มีความสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต อ้างอิงข้อมูลจาก Kisi บริษัทให้คำปรึกษาด้านการทำงานในปี 2022 โดยเก็บข้อมูลทั้งหมด 100 ประเทศทั่วโลก และกรุงเทพฯ ได้อันดับที่ 96 สำหรับอันดับที่ 1 คือ เมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ ได้ 100 คะแนนเต็ม อันดับที่ 2 เมืองเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้ 99.46 คะแนน และอันดับที่ 3 คือ เมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ […]
Bangkok Zombie Town ใช้ชีวิตแบบไร้ชีวิตในเมืองกรุง
ปฏิเสธไม่ได้ว่ากรุงเทพฯ คือพื้นที่ในการไขว่คว้าหาโอกาสและใช้ชีวิตของใครหลายคน เพราะที่นี่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ความบันเทิง และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เป็นศูนย์กลางความเจริญในทุกๆ ด้าน จึงไม่แปลกใจที่คนจำนวนไม่น้อยจะมองว่า กรุงเทพฯ กลายเป็นภาพแทนประเทศไทยไปเสียแล้ว แต่สุดท้ายการใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงอันศิวิไลซ์แห่งนี้อาจไม่ได้สนุกหรือน่าตื่นเต้นอย่างที่หลายคนวาดฝันไว้ และจบอยู่ที่การไม่ได้ใช้ชีวิตจริงๆ เพราะมัวแต่กังวลเรื่องเวลาเดินทางที่เผื่อเท่าไรก็ไม่เคยพอ ค่าครองชีพที่สูงจนแซงรายรับที่ได้ในแต่ละเดือน เป็นความกดดันที่ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ต้องก้มหน้าก้มตาใช้ชีวิตแบบไร้ชีวิตชีวา ทำให้ตอนนี้กรุงเทพฯ แทบไม่ต่างอะไรกับเมืองที่เต็มไปด้วยซอมบี้ ที่ต้องหาทางมีชีวิตให้รอดไปวันๆ ท่ามกลางความเครียดที่อยู่รอบตัว การฆ่าตัวตายสูงขึ้นเมื่อเกิดวิกฤต หากพูดถึงความเครียด สิ่งที่ตามมามักจะเป็นข่าวการฆ่าตัวตายที่เราเห็นกันอยู่บ่อยครั้ง แม้จะไม่ถี่ทุกวัน แต่จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกนั้นพบว่า ทุกปีมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายเฉลี่ย 1 คน ทุกๆ 40 วินาที ซึ่งรายงานของ World Population Review เผยว่า อัตราฆ่าตัวตายของไทยในปี 2565 นั้นสูงเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน โดยตัวเลขอยู่ที่ 8.8 รายต่อประชากรหนึ่งแสนคน ที่น่าสังเกตก็คือ จำนวนผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายในแต่ละปีสูงขึ้นเมื่อเกิดวิกฤตต่างๆ อย่างการทำรัฐประหารในปี 2557 ส่งผลให้ช่วง 1 – 2 ปีให้หลังมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายสูงถึง 6.47 คน/ประชากรหนึ่งแสนคน/ปี และ […]
ประเมินอาการซึมเศร้าเบื้องต้นผ่านแอปพลิเคชัน ‘DMIND’ มีหมอ AI ช่วยวิเคราะห์ภาพและเสียง
ปฏิเสธไม่ได้ว่า การฆ่าตัวตายถือเป็นปัญหาที่น่ากังวลของประเทศไทย ซึ่งจำนวนคนที่พยายามปลิดชีพตัวเองยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากวิกฤตต่างๆ อย่างเศรษฐกิจและโรคระบาด ที่ทำให้หลายคนเครียดจนรับมือไม่ไหว อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนฆ่าตัวตายเกิดจาก ‘โรคซึมเศร้า’ โดยข้อมูลจากกรมสุขภาพจิตเผยว่า ในปี 2564 ประเทศไทยมีผู้ป่วยซึมเศร้าสูงถึง 1.5 ล้านคน เป็นจำนวนที่สูงเกินกำลังของจิตแพทย์ ทำให้มีผู้ป่วยเพียง 28 คนใน 100 คนเท่านั้นที่ได้เข้ารับการรักษา เพราะเหตุนี้ ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและกรมสุขภาพจิต จึงมองช่องทางเพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้ง่ายขึ้นผ่าน ‘DMIND’ แอปพลิเคชันประเมินอาการซึมเศร้าเบื้องต้น ที่แม่นยำ เข้าถึงง่าย ใช้งานสะดวก และยังช่วยลดภาระแพทย์และนักจิตวิทยาในการดูแลผู้ป่วยโรคซึมเศร้าอีกด้วย โดยแอปพลิเคชัน DMIND เกิดขึ้นจากความร่วมมือของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ, คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ, กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และบริษัท Agnos Health พัฒนานวัตกรรมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดจำนวนผู้ป่วยซึมเศร้าในประเทศไทย ทั้งนี้ ฟังก์ชันของ DMIND ไม่ได้ทำหน้าที่แทนจิตแพทย์โดยตรง แต่มาช่วยคัดกรองผู้ป่วยก่อนเข้าสู่การรักษาในลำดับต่อไป การทำงานของแอปฯ DMIND จะแบ่งเป็นสองส่วน เริ่มที่การตอบแบบสอบถามคัดกรองและประเมินตัวเอง ส่วนใครอยากตรวจสอบอาการเชิงลึก ก็มีฟังก์ชันให้เปิดกล้องบันทึกเสียงและภาพเพื่อประเมินและพูดคุยกับ ‘หมอพอดี’ […]
Urban Eyes 08/50 เขตประเวศ
เขตประเวศเป็นเขตที่ห่างไกลจากชาวธนบุเรี่ยนอย่างเราพอสมควร ภาพแรกๆ ของเขตนี้ที่เรานึกถึงคือ รถติดหน้าซีคอนฯ และสวนหลวง ร.9 ทีนี้พอมาศึกษาอย่างจริงจังว่าเขตนี้มีอะไรบ้าง ก็แอบตกใจที่เพิ่งรู้ว่าเขตนี้กินพื้นที่ขนาดใหญ่มากๆ เราเดินทางด้วยเท้าไม่ได้ ต้องใช้วิธีการขับรถตระเวนเอา ถึงจะได้ไปทั่วทั้งเขต โชคดีที่มีเพื่อนเจ้าถิ่นชื่อ ‘หมอปิง’ มาคอยแนะนำเพิ่มเติมด้วย หลังจากเก็บเกี่ยวข้อมูลและได้ไปสำรวจเขตประเวศมา เราพบว่าเขตนี้มีถนนกาญจนาภิเษกที่ตัดผ่านทางด้านตะวันออกของพื้นที่ ทำให้การเดินทางไปฝั่งนั้นไม่สะดวกสบายนัก ต้องขับรถอ้อมกันสักหน่อย แต่ขณะเดียวกันก็มีจุดเด่นตรงสวนเรียนรู้ป่าในกรุง ที่มีการสร้างสิ่งแวดล้อมเสมือนว่าเราอยู่ในป่าจริงๆ โดยที่ผู้เยี่ยมชมสามารถเดินบนทาง Sky Walk ไปได้รอบสถานที่ และมีหอคอยไว้ชมวิวป่าจากมุมสูงได้อีก ถ้าทางสวนจัดอีเว้นต์บ่อยๆ น่าจะทำให้สถานที่มีชีวิตชีวามากขึ้น ส่วนทางด้านตะวันตกของเขตประเวศก็เขียวขจีไปด้วยสวนสาธารณะที่ใหญ่มากๆ ของกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นสวนหลวง ร.9 หรือบึงหนองบอน ราวกับเป็นตัวแทนพื้นที่ด้านธรรมชาติของเมืองเลยทีเดียว เล่นเอาเราอยากมาพักผ่อนดื่มด่ำกับสายลมแสงแดดที่นี่บ่อยๆ เลย พอตกเย็นพลบค่ำก็มีตลาดนัดรถไฟข้างหลังซีคอนสแควร์ให้นั่งชิลล์ๆ นอกจากมีร้านอาหารเพียบแล้ว ก็มีข้าวของให้เลือกช้อปปิ้งมากมายก่ายกอง และอีกความน่าสนใจคือ ข้างในซีคอนสแควร์มีแกลเลอรี่ชื่อ Hub of Photography (HOP) ที่จัดแสดงนิทรรศการและผลงานของศิลปินมากหน้าหลายตาหมุนเวียนกันไป เหมาะกับคนที่อยากหาแรงบันดาลใจสุดๆ ถึงแม้ว่าเราจะยังไปฝั่งเหนือและใต้ของเขตนี้ไม่ทั่วเท่าไหร่ แต่ระหว่างทางที่เดินทางก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศความเป็นชานเมืองกึ่งๆ เมือง บางจุดให้ความรู้สึกเหมือนขับรถอยู่ต่างจังหวัดด้วยซ้ำ เป็นความหลากหลายในแบบเฉพาะตัวของเขตประเวศดี
ทางออกสายปาร์ตี้ที่รักษ์โลก ‘SPARK’ ดอกไม้ไฟออร์แกนิก ไม่เป็นอันตรายและย่อยสลายได้
การจุด ‘ดอกไม้ไฟ (Firework)’ คงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในเกือบทุกงานเทศกาลเฉลิมฉลองครั้งสำคัญ แต่ท่ามกลางความสวยงามของดอกไม้ไฟที่แข่งกันอวดสีสันบนท้องฟ้า ล้วนเต็มไปด้วยสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองเมื่อโดนผิวหนัง และเสียงที่ดังก็ยังรบกวนผู้คนและสร้างความหวาดกลัวให้กับเหล่าสัตว์เลี้ยงด้วย เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องสารเคมี เสียงดัง และทำให้ดอกไม้ไฟเป็นสัญลักษณ์ของงานเฉลิมฉลองต่อไปได้ ‘Daan Roosegaarde’ ศิลปินและนักประดิษฐ์ชาวดัตช์ ผู้ก่อตั้ง ‘Studio Roosegaarde’ จึงได้คิดค้น ‘SPARK’ ดอกไม้ไฟแบบออร์แกนิกขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ Daan ดึงเอาแรงบันดาลใจจากหิ่งห้อย ฝูงนก และภาพดวงดาวในกาแล็กซี รวมถึงเทคโนโลยีมาช่วยในการออกแบบ จนเกิดเป็นประกายไฟนับพันบนท้องฟ้า ที่ทำมาจากวัสดุที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ มั่นใจได้ว่าจะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอน นอกจากนี้ SPARK ยังไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงด้วย เนื่องจากบรรดาดอกไม้ไฟจะถูกปล่อยขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างเงียบเชียบภายในอาณาเขต 50 x 30 x 50 เมตร หรือ 75,000 ลูกบาศก์เมตร และเคลื่อนที่ไปมาบนอากาศโดยอาศัยกระแสลมในการพัดพาเท่านั้น นวัตกรรมนี้จึงอาจเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะทำให้เราทุกคน สามารถเฉลิมฉลองเทศกาลได้แบบจัดเต็ม ควบคู่กับการสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อมด้วย ดูวิดีโอดอกไม้ไฟ SPARK ได้ที่ t.ly/B6a9 Sources :Alethea Magazine | t.ly/YcJOArchinect | […]