
LATEST
Unexpected Growth โปรเจกต์งานศิลปะ ซีน และกระดาษจากวัชพืชในเมือง จากการเดินสำรวจพื้นที่และเก็บข้อมูล
ปกติแล้วหอศิลปกรุงเทพฯ จะจัดนิทรรศการ โครงการบ่มเพาะและสร้างเครือข่ายศิลปินรุ่นใหม่ (Early Years Project : EYP) เป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้มาในแนวคิด ‘Be Your Own Island-ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน’ หลังจากที่ไปเดินดูมา งานที่จัดแสดงล้วนมีคอนเซปต์ที่สะท้อนสังคม และนำเสนอผลงานได้สวยงาม ตั้งแต่ประเด็นสิ่งแวดล้อม เพศ ข่าวสารข้อมูล ไปจนถึงเรื่องปมวัยเด็ก แต่หนึ่งงานที่เราในฐานะคนทำงานเมืองสะดุดตาสุดๆ คือ โปรเจกต์ Unexpected Growth ของ ‘อภิสรา ห่อไพศาล’ ตั้งแต่โครงสร้างอิฐที่เรียงราย ดูเป็นสิ่งที่ถ้าเดินลัดเลาะตามตรอกซอกซอยของเมืองจะพบเห็นได้เป็นปกติ ก่อนจะสังเกตเห็นต้นหญ้าเล็กๆ แซมอยู่ และถ้าไปสังเกตแผ่นที่มีลวดลายคล้ายเชื้อราแบคทีเรียใกล้ๆ จะพบว่า จริงๆ แล้วมันคือใบหรือชิ้นส่วนของวัชพืช และได้รู้ในเวลาต่อมาว่าแผ่นๆ ที่เห็นคือกระดาษที่ทำจากวัชพืชในเมืองที่ศิลปินเก็บมาทดลองทำกระดาษกับผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตกระดาษ มากไปกว่านั้น ตรงแท่นอิฐที่ก่อตัวสูงยังมีซีนหรือหนังสือทำมือของศิลปินแนบอยู่ พอหยิบมาเปิดอ่านเนื้อหาข้างในก็จะเห็นการนำเสนอภาพในขั้นตอนระหว่างทำงานโปรเจกต์นี้ รวมไปถึงการจัดเรียงข้อมูลเพื่อนำเสนอกระบวนการเก็บรวบรวมแพตเทิร์นของวัชพืชที่ขึ้นในเมือง และสังเคราะห์ข้อมูลออกมาเป็นอินโฟกราฟิก อ่านเข้าใจง่าย “โปรเจกต์นี้เริ่มต้นจากความพยายามทำความเข้าใจและตั้งคำถามถึงความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งรอบตัวกับความรู้สึกภายในที่ต้องการหลีกหนีหรือก้าวผ่านสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ทำให้เธอเริ่มต้นสำรวจเมืองที่อาศัยอยู่ เป็นเมืองที่ให้ความรู้สึกแห้งแล้งและแข็งกระด้าง “ระหว่างการสำรวจ ศิลปินได้พบเจอมุมมองของนักสิ่งแวดล้อมที่มีต่อเมือง ทำให้มองเห็นสิ่งที่ไม่เคยมองเห็นมาก่อน เช่น พืชขนาดเล็กจนแทบมองไม่เห็นอย่างลิเวอร์เวิร์ต เสียงของสัตว์หลากชนิดที่สามารถจำแนกเสียงได้ไม่ซ้ำเมื่อยืนฟังใต้ร่มไม้ใหญ่ ความสัมพันธ์ของต้นแม่และต้นลูกที่กระจายพันธุ์ใกล้ๆ […]
เรียนรู้เหตุการณ์แผ่นดินไหวกรุงเทพฯ รับมือภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกะทันหันอย่างไรบ้าง
อาคารสั่นคลอน อาการวิงเวียน ที่พักอาศัยเสียหาย ทั้งหมดนี้เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ แม้จุดเกิดเหตุจะไม่ได้เกิดขึ้นโดยตรงในประเทศไทย แต่ด้วยแรงสั่นสะเทือนที่สูงถึง 7.7 แมกนิจูด ส่งผลให้คนเมืองผู้แทบไม่เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อนรับรู้ถึงความสั่นไหว และกลายเป็นผู้ประสบภัยในเวลาเพียงไม่กี่นาที นอกเหนือจากความตื่นตระหนกตกใจแล้ว แรงสั่นสะเทือนยังสร้างความเสียหายในหลายพื้นที่โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ทั้งที่อยู่อาศัยและอาคารสำนักงานที่อาจไม่ได้คำนึงถึงการเผชิญหน้ากับแผ่นดินไหวรุนแรงแบบนี้มาก่อน และด้วยความที่เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่คนกรุงเทพฯ ต้องเจอกับแผ่นดินไหว ก่อให้เกิดความสับสนในการรับมือสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องการแจ้งเตือนล่วงหน้า วิธีการป้องกันตัวเอง ความปลอดภัยของการใช้ชีวิตในอาคาร หรือกระทั่งการใช้เส้นทางจราจรเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินที่ไม่เคยมีใครให้ข้อมูลมาก่อนว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรหากเจอเหตุการณ์แบบนี้ คอลัมน์ Report จะพาไปสำรวจว่า ในเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน กรุงเทพฯ ต้องเจอกับปัญหาในการรับมือสถานการณ์แบบไหนบ้าง มีการจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร และประเทศไทยสามารถนำวิธีการเตรียมพร้อมป้องกันภัยจากประเทศที่ต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติเหล่านี้อยู่บ่อยครั้งมาปรับใช้ได้มากน้อยแค่ไหน ปัญหาเมืองที่เกิดขึ้นในวันภัยพิบัติ จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ศูนย์กลางที่เมียนมาเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นอกจากปัญหาเรื่องตึกสูง ที่อยู่อาศัย และความปลอดภัยในเมืองของกรุงเทพฯ ซึ่งเห็นได้จากโครงสร้างอาคารที่เกิดรอยแตก รอยร้าว หรือแย่ไปกว่านั้นคือ เศษโครงสร้างอาคารหลุดล่อนออกมา จนทำให้หลายคนหวาดผวาไปกับการใช้ชีวิตบนตึกสูงแล้ว สถานการณ์ในวันนั้นยังแสดงให้เห็นถึงปัญหาระบบขนส่งในเมือง รวมถึงพื้นที่อพยพที่ไม่สามารถรองรับชาวกรุงได้ เสียงบ่นอื้ออึงของคนกรุงหลังสถานการณ์แผ่นดินไหวคือ เรื่องถนนกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยรถยนต์ รถเมล์ รถจักรยานยนต์ที่แน่นิ่ง ไม่ขยับ รถเคลื่อนตัวได้เพียง 13 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และแออัดยาวนานขนาดที่แผ่นดินไหวผ่านไปแล้ว 8 ชั่วโมง การจราจรก็ยังไม่กลับสู่สภาวะปกติ รวมถึงเหล่าขนส่งสาธารณะระบบรางอย่าง […]
ภารกิจออกแบบเพื่อความยั่งยืนโดย Sprinkle | Urban Vision
ประเทศไทยมีขยะพลาสติกมากถึง 2 ล้านตันต่อปี ใช้ขวดพลาสติกเป็นหมื่นล้านขวด แล้วมันจะไปอยู่ที่ไหน คุยกับคุณเบียร์-กฤตวิทย์ เลาหธนาพร กรรมการบริหาร น้ำดื่มสปริงเคิล ผู้เรียนจบด้าน Product Design ที่นำเอาการออกแบบมาใช้แก้ปัญหาจนได้มาเป็นขวดน้ำดื่ม Sprinkle ที่สามารถรีไซเคิลได้ 100 เปอร์เซ็นต์.Urban Vision รายการใหม่จาก Urban Creature ที่จะชวนไปสำรวจวิสัยทัศน์จากผู้บริหารชั้นนำถึงภาพในอนาคต แผนการเตรียมพร้อมที่ยั่งยืนต่อสินค้าและบริการ ที่ไม่เพียงมอบความพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภค แต่ยังมอบอนาคตที่ดีต่อโลกด้วย
Emergency Go Bag ออกแบบกระเป๋าฉุกเฉินขนาดกะทัดรัดแบบไทยๆ ไว้ใช้งานในช่วงฉุกเฉิน
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมา ทำให้คนเมืองจำนวนไม่น้อยเริ่มวางแผนหาทางหนีทีไล่เตรียมพร้อมรับเหตุการณ์ภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งหนึ่งสิ่งสำคัญในฮาวทูเอาตัวรอดคือ ‘กระเป๋าฉุกเฉิน’ ที่อัดแน่นไปด้วยไอเทมจำเป็นให้เราคว้าหมับแล้วรีบลี้ภัยทันที ด้วยเหตุนี้ คอลัมน์ Urban Sketch จึงขอออกแบบ Emergency Go Bag ในแบบฉบับของชาว Urban Creature ให้ไว้เป็นไอเดียของทุกคน นอกจากสิ่งของที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวันแล้ว ยังมีไอเทมอื่นๆ ช่วยชุบชูใจผู้พกพาด้วย อาหารและขนม กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ยิ่งถ้าอ่อนเพลียยิ่งต้องมีของกินไว้รองท้องและเติมพลังในยามฉุกเฉิน ยกตัวอย่าง ลูกอม ที่มีน้ำตาลช่วยคลายเครียด ขนมปังกรอบ เนื่องจากเก็บไว้ได้นานและให้พลังงานสูง รวมถึงอาหารแห้งเล็กๆ น้อยๆ ไว้ประทังชีวิตหากสถานการณ์ย่ำแย่ลง น้ำดื่มขนาด 600 มิลลิลิตร นอกจากอาหาร น้ำก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกาย เหตุผลที่ใช้ปริมาณ 600 มิลลิลิตร เพราะเป็นน้ำหนักที่รวมกับกระเป๋าแล้วยังไม่หนักจนเกินไป เอกสารสำคัญ (สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน) พกไว้ยืนยันตัวตนหรือที่อยู่หากบัตรประชาชนหรือทะเบียนบ้านสูญหาย ยาสามัญประจำบ้าน หยูกยาพื้นฐานเป็นของจำเป็น เช่น ยาแก้ปวด สเปรย์แอลกอฮอล์ ปลาสเตอร์ปิดแผล หากเจ็บป่วยจะได้ใช้ปฐมพยาบาลทันท่วงที ยาดม ขาดไม่ได้กับปัจจัยที่ 5 ของคนไทย ใช้ทั้งแก้วิงเวียน […]
‘Qanarn’ แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ไทยน้องใหม่ที่หยิบเอาเรขาคณิตแบบไทยมาใช้สร้างความยูนีก
การจะมองหาเฟอร์นิเจอร์สักชิ้นสำหรับใช้งานในบ้าน นอกจากดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์แล้ว ก็คงเป็นคอนเซปต์แบรนด์ที่ดึงดูดความสนใจให้เราอยากทำความรู้จัก หนึ่งในนั้นคือ ‘Qanarn’ (ขนาน) แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ไทยที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2567 เฟอร์นิเจอร์ที่เกิดจากการบรรจบกันของเส้นขนาน แบรนด์ Qanarn เกิดขึ้นจากสองพาร์ตเนอร์ ‘ขนุน-ตรัยวิศว์ พงษ์บูรณกิจ’ และ ‘กานต์-กานต์ เทพสถิตย์’ ที่เคยทำงานออกแบบภายใน และคลุกคลีกับงานตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ จนเกิดความสนใจในงานออกแบบ แล้วลงมือเรียนรู้ลองผิดลองถูกปลุกปั้นแบรนด์ Qanarn ขึ้นมา ชื่อ Qanarn นั้นมาจากการตีความระหว่างนักออกแบบทั้งสองคนที่เป็นเหมือนเส้นขนานที่ไม่อาจบรรจบกันเนื่องจากความคิดเห็นที่อาจแตกต่างกัน แต่สุดท้ายแล้วทั้งคู่จะมุ่งหน้าไปยังทิศทางเดียวกันเพื่อให้ผลงานออกมาสมบูรณ์แบบ มากไปกว่านั้น ชื่อแบรนด์ยังครอบคลุมไปถึงผลงานสินค้าที่ผสมผสานกันระหว่างความเป็นไทยและความร่วมสมัยที่เป็นเหมือนเส้นขนานระหว่างกันอีกด้วย ตีความความเป็นไทย และนำมาผสมผสานกับรูปทรงสากล ตรัยวิศว์บอกกับเราว่า โจทย์ในการออกแบบแบรนด์นี้คือ การทำเก้าอี้ของไทยให้มีความไอคอนิก เรียบง่าย ชัดเจน ไม่ซับซ้อนเกินไป ทำให้นึกไปถึงรูปทรงเรขาคณิตหรือรูปทรงที่มีความเป็นสากล คนเห็นแล้วเข้าใจ และใช้งานได้ง่าย ท้ายที่สุดก็ออกมาเป็นเก้าอี้ที่นำลักษณะของหมอนขิด หรือที่รู้จักกันในชื่อของหมอนสามเหลี่ยม มาออกแบบเฟอร์นิเจอร์คอลเลกชันชื่อ Qidi Outdoor ส่วนเหตุผลการนำวัฒนธรรมไทยที่เราคุ้นชินมาใส่ในตัวงานนั้น เขาอธิบายว่า หลายแบรนด์ก็มีการนำวัฒนธรรมไทยมาตีความเป็นงานออกแบบต่างๆ แต่ส่วนใหญ่จะออกมาในรูปแบบของงานหัตถกรรมหน่อย เป็นหวาย เป็นจักสานที่มีความคราฟต์สูง แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในความชื่นชอบ และออกจะห่างไกลจากตัวของผู้ก่อตั้งแบรนด์ทั้งคู่ พวกเขามองหาสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวมากกว่า และเห็นว่าวัฒนธรรมไทยมีสิ่งของที่เป็นรูปทรงเรขาคณิตอยู่มาก […]
ไทโปกราฟี แดนภารตะ ‘India Street Lettering’ เว็บไซต์คลังป้ายอินเดีย ที่ภายใต้ตัวอักษรมีเรื่องราวสีสันอาศัยอยู่
หลังจากเคยแนะนำป้ายเท่ๆ ดีไซน์สุดเก๋ของไทยอย่าง Thaipography Archive และแหล่งรวมป้ายผู้ดีอังกฤษยุค 90 ของกรุงลอนดอนอย่าง Public Lettering กันไปแล้ว ถึงเวลาย้อนกลับมาสู่ภูมิภาคเอเชียของเราอย่างป้ายดีไซน์สวยๆ ของอินเดียกันบ้าง เว็บไซต์ ‘India Street Lettering’ เป็นผลงานการรวบรวมป้ายของ Pooja Saxena นักออกแบบตัวอักษร ตัวเขียน และนักจัดวางตัวอักษร โดยเน้นไปที่ตัวหนังสืออินเดีย วัฒนธรรมตัวอักษร และอักษรท้องถิ่นของอินเดีย คลังป้ายตัวอักษรเหล่านี้เป็นความสนใจส่วนตัวที่แยกออกมาจากงานหลักอย่างการออกแบบและงานวิจัยอื่นๆ ในชื่อ ‘Matra Type’ รวมถึงการเป็นสมาชิกทีม ‘TypeTogether’ ที่ได้ร่วมงานกับ Apple, Google Fonts, Zubaan Books และ ThePrint เนื้อหาบนเว็บไซต์นี้แบ่งเป็นคลังรูปแบบตัวอักษรบนป้ายหรือชื่อร้านต่างๆ ในอินเดีย ซึ่งเราสามารถเลือกหมวดหมู่จากเมืองที่สนใจ วัสดุที่ใช้ทำป้าย ประเภทของร้านอย่างโรงแรม ลานจอดรถ ร้านอาหาร รวมถึงรูปแบบตัวอักษร ไม่ว่าจะเป็น Latin, Bengali หรือ Telugu นอกจากนั้น บนเว็บนี้ยังปักหมุดสถานที่ไว้บนแผนที่เพื่อให้ผู้ที่สนใจไปตามหากันง่ายๆ พร้อมกับสารพันเรื่องป้ายๆ […]
ชวนปั่นจักรยาน 3 เส้นทางกลางเมือง ที่กลุ่มคนปั่นจักรยาน BUCA แนะนำ
อยากชมเมืองแบบชิลๆ ซึมซับบรรยากาศข้างทาง แต่จะเดินก็เหนื่อยเกินไป จะนั่งรถก็ไม่ได้ฟีลอีก งั้นลองปั่นจักรยานดูสิ แม้ว่าการปั่นจักรยานอาจยังไม่ใช่ตัวเลือกเดินทางที่นิยมในกรุงเทพฯ แต่นี่คือวิธีที่จะทำให้เราชมเมืองได้โดยไม่ต้องเดินจนเมื่อย ไม่ต้องพบเจอรถติด และยังปั่นเข้าตรอกซอกซอยไปชมวิถีชีวิตที่เราอาจไม่มีโอกาสเห็นบนท้องถนน คอลัมน์ Urban’s Pick อยากชวนทุกคนออกไปปั่นจักรยานผ่าน 3 เส้นทางกลางกรุงที่จะใช้ผ่อนคลายก็ดี จะปั่นเพื่อเดินทางเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าก็ทำได้ แนะนำโดยภาคีจักรยานเมือง กรุงเทพฯ หรือ BUCA แต่ถ้าใครไม่มีจักรยานเป็นของตัวเอง จะถือโอกาสนี้ลองใช้งาน Bike Sharing ก็ได้นะ 01 | ปั่นทะลุซอย ชมชุมชนเจริญกรุง เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ BUCA เคยใช้ปั่นในงาน Bike Bus และพบว่าสะดวกที่สุด โดยเริ่มเส้นทางได้ตั้งแต่ลงมาจาก BTS สถานีสะพานตากสิน ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวและย่านน่าสนใจ ตั้งแต่สี่พระยา ตลาดน้อย ทรงวาด สำเพ็ง จนออกมาที่พาหุรัด ปากคลองตลาด และสิ้นสุดที่ MRT สถานีสนามไชย เส้นทางนี้เป็นเส้นทางจักรยานที่นับว่าปลอดภัยมากพอสมควร เพราะเส้นทางส่วนใหญ่จะเป็นการปั่นผ่านซอยเล็กๆ ซึ่งไม่ค่อยมีรถยนต์ผ่านได้ มีเพียงแค่บางจุดเท่านั้นที่ต้องออกมาปั่นบนถนนเจริญกรุง ข้อควรระวัง : เนื่องจากถนนทรงวาดเป็นถนนเดินรถทางเดียว […]
Skywalk ราชวิถี ทางเดินใหม่จากความคิดเห็นของคนกรุง อำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยและเชื่อมต่อการเดินทาง
โครงการ Skywalk ราชวิถี เกิดขึ้นจากความพิเศษของถนนราชวิถีที่มีโรงพยาบาลตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลราชวิถี สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกฯ มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยฯ และโรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งทำให้มีผู้ป่วย ผู้พิการทางสายตา และผู้สูงอายุสัญจรไปมาผ่านเส้นทางนี้อยู่ตลอด นอกจากนี้ราชวิถียังอยู่ใกล้กับอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางสำคัญของกรุงเทพมหานคร ทั้งเป็นจุดตั้งต้นของรถเมล์เกือบทุกสาย ผู้โดยสาร BTS สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เหล่ารถตู้ที่ออกเดินทางสู่ชานเมือง และยังมีวินมอเตอร์ไซค์จำนวนมากที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความไม่สะดวกของการเดินทาง อย่างปัญหาทางเท้าตามแนวถนนราชวิถีที่แคบเกินไป จนทำให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้ป่วยเดินสัญจรได้ไม่สะดวก กทม.จึงออกแบบ Skywalk เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยมีเป้าหมายสำคัญ 4 ข้อคือ 1) ประชาชนทุกคนต้องเดินได้สะดวกสบาย เท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ ผู้พิการ คนแก่ 2) เสาของ Skywalk ต้องตั้งอยู่ในพื้นที่เอกชน ไม่กีดขวางทางเท้า 3) Skywalk ต้องกว้างมากกว่า 4 เมตร ทำให้รถพยาบาลขนาดเล็กวิ่งรถได้ในกรณีฉุกเฉิน 4) เชื่อมต่อโครงข่ายขนส่งมวลชน BTS รถเมล์ ไปยัง Skywalk ของโรงพยาบาลรามาธิบดี มากไปกว่านั้น โครงการ […]
ช่วยกันเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้สว่างไสว ด้วยการแจ้งปัญหาไฟถนนผ่านช่องทางออนไลน์ให้คนเมืองเดินได้อย่างสบายใจทุกพื้นที่
ถนนที่ไม่สว่าง มีไฟฟ้าแต่ใช้ไม่ได้ หรือไฟฟ้าติดๆ ดับๆ ก็เป็นปัญหาที่คนเมืองพบเจออยู่บ่อยครั้งในหลายพื้นที่ ส่งผลให้คนเมืองรู้สึกไม่ปลอดภัยในการเดินถนนช่วงกลางคืน แต่หลังจากนี้ทุกพื้นที่จะสว่างกว่าเดิม และทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของความปลอดภัยในการเดินเท้าได้ เพราะทางกรุงเทพมหานครได้เปิดระบบออนไลน์ให้ทุกคนที่เจอปัญหาไฟถนน ไม่ว่าจะไฟดับหรือไฟขัดข้อง แจ้งเข้าระบบของกรุงเทพฯ ได้โดยตรง และเมื่อได้รับการแจ้งแล้ว ทางทีมงานของกรุงเทพฯ จะรีบเข้าไปตรวจสอบพร้อมแก้ไขให้เร็วที่สุด ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจทำให้ถนนทุกสายและทุกซอยมีไฟฟ้าที่สว่างและเพียงพอสำหรับทุกคนในเมือง หากใครพบจุดที่ไฟฟ้าไม่ติดหรือไม่สว่าง แจ้งจุดที่มีปัญหาได้ที่ bma-streetlight.bangkok.go.th หรือทาง Line Official Account : @traffyfondue
‘ตลาดพลูดูดี’ กลุ่มนักพัฒนาย่านรุ่นใหญ่หัวใจตลาดพลูที่รวมตัวกันส่งต่อประวัติศาสตร์และสิ่งดีๆ ให้ทุกคนได้ดู
หากเอ่ยถึง ‘ตลาดพลู’ สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงคงจะเป็นอาหารคาวหวานท้องถิ่นรสเลิศที่โดดเด่นไม่แพ้ที่ใด ไม่ว่าจะเป็นกุยช่าย ขนมเบื้อง ขนมชั้น ขนมผักกาด เปาะเปี๊ยะสด หรือข้าวต้มแห้ง เหล่านี้เป็นอาหารขึ้นชื่อที่ไม่ว่าใครก็ตามที่แวะมาเยือนตลาดพลูมักจะมาลองชิมและอุดหนุนเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านไปเสมอ แต่ตลาดพลูไม่ได้มีเพียงอาหารที่เป็นตัวชูโรงความโดดเด่นของย่านเท่านั้น เพราะที่นี่ยังมีประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม และวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวตลาดพลู ที่คนในย่านอยากส่งต่อเรื่องราวให้คนนอกพื้นที่ได้มาทำความรู้จักและสัมผัสพื้นที่แห่งนี้มากขึ้น ด้วยเสน่ห์ความเป็นย่านชุมชนของตลาดพลู ทำให้ที่นี่ถูกขับเคลื่อนด้วยวิถีชีวิตที่มีอยู่ จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวติดท็อปอันดับต้นๆ ที่ไม่ว่าจะคนไทยหรือชาวต่างชาติต่างอยากแวะเวียนมาเยี่ยมเยียน และถึงแม้กระแสตอบรับจะดีมากก็ตาม แต่ชาวตลาดพลูก็ไม่ได้ปรับเปลี่ยนย่านเพื่อรองรับการท่องเที่ยว ยังคงอนุรักษ์ความดั้งเดิมของพื้นที่นี้เอาไว้ และตั้งใจจะปรับภาพจำของย่านด้วยการส่งเสริมให้ตลาดพลูเป็นมากกว่าสถานที่ท่องเที่ยวตามกระแสชั่วคราว ด้วยการเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวชุมชนเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน จากจุดยืนที่มุ่งมั่นของชาวตลาดพลูที่จะพัฒนาย่าน คอลัมน์ คนขับเคลื่อนเมือง ครั้งนี้ ขอพาทุกคนมารู้จักกับ ‘ต้น-ชลิดา ทัฬหะกาญจนากุล’, ‘พี-พีรวัฒน์ บูรณพงศ์’, ‘จิ๋ม-อรพิณ วิไลจิตร’ และ ‘นก-สมพร เตมีพัฒนพงษา’ สี่รุ่นเก๋าหัวใจตลาดพลูที่ทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มในนาม ‘ตลาดพลูดูดี’ กับ 8 ปีที่ขับเคลื่อนย่านตลาดพลูให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และอยากให้ทุกคนรู้ว่าย่านที่อยู่ของพวกเขานั้นมีอะไรดีๆ ที่รอให้มาดูอีกมากมาย การรวมตัวของ 4 รุ่นใหญ่หัวใจนักพัฒนาตลาดพลู “เราทุกคนในกลุ่มผูกพันกับตลาดพลูมาก อย่างเราเองเกิดที่นี่ โตที่นี่ ทำงานที่นี่ เห็นทุกความเปลี่ยนแปลงของตลาดพลูมาตลอดชีวิต อยากทำบางอย่างที่ช่วยแชร์ให้ทุกคนรู้จักที่นี่จากข้อมูลของคนที่อาศัยอยู่จริง […]
เปลี่ยนการเดินในเมืองให้สนุกขึ้น ด้วยนวัตกรรมและการออกแบบทางเท้า ที่ส่งเสริมให้คนเอนจอยกับการเดิน
เคยคิดไหมว่า ทำไมเราถึงไม่อยากใช้เวลาในวันหยุดออกไปเดินเท้าท่องแต่ละย่านของเมือง คำตอบของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป แดดร้อน ทางเท้าไม่ดี หรือเดินได้ไม่สะดวก แต่นอกเหนือจากความปลอดภัยและความสะดวกสบายทั่วๆ ไปอย่างทางเท้าที่กว้างตามมาตรฐาน ความสม่ำเสมอของพื้นทางเท้าที่ไม่เหยียบแล้วเป็นหลุมเป็นบ่อ หรือแม้กระทั่งไฟส่องสว่างตลอดการเดิน ยังมีอีกปัจจัยสำคัญอย่างการออกแบบสนุกๆ ที่จะช่วยทำให้การเดินในเมืองของพวกเรามีสีสันมากขึ้นได้อีก คอลัมน์ Urban Sketch ขอลองออกไอเดียว่า จะทำอย่างไรได้บ้างเพื่อเปลี่ยนการเดินธรรมดาๆ ให้มีชีวิตชีวาและสนุกได้ตลอดทาง 1) พื้นจอ Interactive เดินอย่างเดียว มองพื้น มองทางแล้วก็เบื่อๆ ถ้ามีจอ Interactive ที่ทำให้การเดินไม่ต้องมองแต่อะไรซ้ำๆ ก็คงดี เราเลยคิดถึงจอที่โต้ตอบได้ พร้อมใส่อะไรสนุกๆ อย่างปลาทองที่ว่ายไปว่ายมา พร้อมผืนน้ำที่เมื่อเราเหยียบแล้วมีคลื่นเกิดขึ้น กระทั่งทุ่งหญ้าที่มีกระรอกตัวเล็กๆ กระโดดดึ๋ง เวลาเหยียบจุดไหนหญ้าก็เกิดการเคลื่อนไหว 2) จุดแวะนับก้าวและเติมพลัง นี่เราเดินมาไกลแค่ไหน เป็นจำนวนกี่ก้าวแล้ว หรือวันนี้เดินได้มากกว่าเมื่อวานไหม นี่เลย เราขอเสนอจุดแวะนับก้าวและเติมพลังให้ทุกคนนำ Smart Watch ไปแปะที่แท่นพร้อมขึ้นโชว์เป็นลำดับแข่งขัน และมอบรางวัลให้นักเดินคนเก่งที่สะสมจำนวนก้าวได้มากที่สุดในสัปดาห์ คู่กับบริการเช่ายืมเซตนักเดินอย่างหมวก แว่นกันแดด ร่ม หรือพัดลมจิ๋ว โดยมีค่าบริการคิดตามรายชั่วโมงและคืนได้ที่จุดแวะนับก้าวจุดต่อไป อีกส่วนสำคัญที่จุดนับก้าวนี้มีคือ ข้อความให้กำลังใจสำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้ร่วมแข่งขันเดินแชมเปียนชิป แต่ก็ต้องการกำลังใจดีๆ ให้ผ่านวันยากๆ […]
โครงการ Urban Yard ย่าน RCA บ้านหลังใหม่ของชาว Urban Creature ที่มีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ และพื้นที่สีเขียว
หลังจากเป็นชาวเอกมัยมาอย่างยาวนาน วันนี้ชาว Urban Creature ได้ย้ายมาอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหม่ที่โครงการ Urban Yard Bangkok ในย่านรัชดาฯ RCA เรียบร้อยแล้ว ด้วยทางเข้าอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งหากใครไม่เคยมาอาจจะสับสนว่าบรรยากาศแสนร่มรื่นที่สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้และทางเดินหินนี้คือที่ไหน มากไปกว่านั้น ที่นี่ไม่ได้มีเพียงออฟฟิศของเรา แต่ยังมีร้านกาแฟชื่อดัง ANONYMOUS COFFEE BKK ที่ตกแต่งร้านแนว Glass House สีขาว มีความโปร่งโล่งสบาย เข้ากันได้ดีกับต้นไม้ในสนามเล็กๆ หน้าร้าน และยังมีร้านอาหารรสชาติดี Wang Hinghoi ที่เสิร์ฟเมนูจากวัตถุดิบคุณภาพดี ฝีมือเชฟนิค ที่ตั้งใจให้ร้านนี้เป็นพื้นที่หลบภัยเล็กๆ ท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองหลวง พร้อมกันกับคาเฟ่อย่าง WH Cafe และร้าน Beastie อยู่ในพื้นที่เดียวกันนี้อีกด้วย นอกจากนั้น โครงการนี้ยังมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตาอย่างสนามฟุตบอล STB Academy เป็นพื้นที่ฝึกซ้อมให้เหล่าเยาวชนได้เตรียมตัวเป็นนักบอลทีมชาติในอนาคต ใครอยากแวะเวียนมาหาพวกเราก็มาพบกันได้ที่บ้านหลังใหม่ พร้อมชิมกาแฟ อาหารรสชาติดีในบรรยากาศสวนสวยกลางใจเมืองหลวงที่ Urban Yard Bangkok maps.app.goo.gl/Tg5kje6QXPVCkgUr6