ในมุมมองของการรักษาสิ่งแวดล้อม ขยะพลาสติกมักถูกมองว่าเป็นผู้ร้ายในการทำลายระบบต่างๆ ไปจนถึงความยั่งยืนของธรรมชาติ แต่หากได้ทำความเข้าใจเรื่องของขยะพลาสติก จะเห็นได้ว่าขยะเหล่านี้สามารถเปลี่ยนรูปแบบเพื่อสร้างคุณค่าและให้ประโยชน์ในรูปแบบใหม่ๆ ได้
เช่นการนำมารีไซเคิลในรูปแบบใหม่ อย่างการเปลี่ยนให้เป็นผลงานศิลปะดีไซน์สวยจากเหล่าศิลปินรุ่นใหม่ที่เล็งเห็นถึงการสร้างคุณค่าให้พลาสติกและตระหนักถึงการสร้างความรู้ในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยมีศิลปะเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงและส่งต่อความเข้าใจออกไปให้ผู้คนในสังคมได้รับรู้ด้วย
เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี ‘คาโอ’ จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความตระหนักรู้ให้กับคนในสังคม จากการดำเนินงานตามหลัก ESG (Environment, Society และ Governance) ที่แบรนด์ยึดถือมาโดยตลอด และพร้อมเดินหน้าสร้างความยั่งยืนทั้งการดำเนินชีวิตและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วยกัน ร่วมด้วยกับ 5 ศิลปิน ได้แก่ ‘Melt District’, ‘Benzilla’, ‘Shortbutveryverycute’ และ ‘Asazak’ ที่จะมาช่วยลดขยะพลาสติกด้วยการรีไซเคิลเปลี่ยนเป็นเครื่องใช้ที่มีดีไซน์ร่วมสมัย โดยทุกคนสามารถไปทำความเข้าใจพร้อมต่อยอดความรู้ และชมงานศิลปะจากขยะพลาสติกกันได้ในนิทรรศการ คาโอ ‘Saving Future Smiles’ ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน – 5 ตุลาคมนี้ ที่สามย่านมิตรทาวน์
แต่หากใครอยากรู้เรื่องราวความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของ คาโอ ก่อนจะไปชมงานนิทรรศการแบบเต็มๆ คอลัมน์ Sgreen ขอพาไปดูกันว่า คาโอ ดำเนินงานตามหลัก ESG อย่างไร ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมและสิ่งแวดล้อมให้มีความยั่งยืนมาตลอด 60 ปี
คาโอ ฉลอง 60 ปี ด้วยการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมและสิ่งแวดล้อม
อย่างที่หลายคนทราบ คาโอ คือธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในครัวเรือนและส่วนบุคคล พร้อมทั้งผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ ผู้อยู่เบื้องหลังแบรนด์ดังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Attack, Biore, Feather, Haiter, Laurier, Magiclean, Merries และ Curel ที่อยู่คู่กับคนไทยมากว่า 60 ปี
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จอย่างยาวนาน ในปีนี้ทาง คาโอ ได้จัดนิทรรศการ ‘Saving Future Smiles’ ครบรอบ 60 ปี คาโอ ที่คอยส่งเสริมด้านสุขอนามัยและการปกป้อง (Hygiene and Protection) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมและสิ่งแวดล้อมภายใต้วิถี ESG ของ คาโอ ที่ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง และพร้อมเดินหน้าต่อเพื่อพัฒนาทั้งการบริหารธุรกิจและสิ่งแวดล้อม สร้างสุขอนามัยที่ดี คู่รอยยิ้มคนไทย ไปด้วยกัน
Kirei Lifestyle : หัวใจการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ในแบบของ คาโอ
เพราะสิ่งแวดล้อมก็เป็นหัวใจสำคัญของ คาโอ เช่นเดียวกับผู้บริโภค หากสิ่งแวดล้อมดี คุณภาพชีวิตของผู้คนก็จะดีตามไปด้วย
คาโอ มองว่าการสร้างความยั่งยืนให้โลกต้องไม่ใช่เพียงแค่การลดพลาสติกหรือรีไซเคิลเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ แบรนด์จึงตั้งใจที่จะยกระดับและมุ่งมั่นไปในแนวทางปฏิบัติตาม ESG เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคน โดยกลยุทธ์คือการคำนึงถึงพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคในการดำเนินชีวิต เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนของโลกให้มากยิ่งขึ้น ผ่านหลักการที่จะช่วยสร้างความเป็นอยู่ที่ดีอย่าง ‘Kirei Lifestyle’
Kirei Lifestyle ที่ว่านี้ คือการมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่งดงาม ชีวิตทั้งภายในและภายนอก การทำให้ชีวิตของตัวเองสะอาดและสวยงาม ไปพร้อมๆ กับการคำนึงถึงผู้อื่น ซึ่งนั่นรวมไปถึงความสะอาดและความยั่งยืนของโลกที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตของทุกๆ คนในอนาคตด้วย
คาโอ ยึดเอาหลักการนี้มาเป็นพันธสัญญาและแนวทางปฏิบัติในเรื่องของ ESG เพื่อความงดงามที่เพิ่มขึ้นทุกๆ วัน เพื่อทุกๆ คนในสังคม และเพื่อโลกที่สะอาดและสมบูรณ์
ส่งต่อความเข้าใจและสร้างความตระหนักรู้ผ่านงานศิลปะ
มากไปกว่านั้น คาโอ ที่อยากเข้าถึงผู้คนมากขึ้นด้วยงานดีไซน์และศิลปะ ก็ได้ร่วมมือกับเหล่าพาร์ตเนอร์ที่มองเห็นอนาคตในด้าน ESG ตั้งแต่ Melt District แบรนด์วัสดุและโปรดักต์ดีไซน์ และศิลปินชื่อดัง ได้แก่ Benzilla, Shortbutveryverycute และ Asazak มาช่วยดีไซน์ออกแบบพื้นที่การจัดแสดงในส่วนของ ESG ให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น
ซึ่งศิลปินแต่ละคนก็ได้สร้างสรรค์ผลงานออกมาในรูปแบบของตัวเอง ผ่านไอเดียและมุมมองที่แตกต่างกันออกไป อย่าง Melt District ที่นำพลาสติกรีไซเคิลมาแปลงโฉมให้กลายเป็น Installation Art ในรูปทรงของใบไม้ โดยต้องการให้ผลงานชิ้นนี้สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการรีไซเคิลขยะและความสัมพันธ์กับธรรมชาติ โดยเน้นว่าทั้งสองสิ่งนี้เป็นวงจรที่เชื่อมโยงกัน หากเราไม่เริ่มลงมือแก้ไขอย่างจริงจัง เราอาจสูญเสียธรรมชาติและต้นไม้ไปอย่างถาวร การช่วยกันลดขยะพลาสติก หรือนำกลับมาใช้ใหม่และรีไซเคิลจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากต่อมนุษย์ในทุกมิติ
ซึ่งศิลปินมองว่าหลายครั้งเมื่อพูดถึงขยะ ผู้คนมักมีทัศนคติด้านลบ มองว่าขยะสกปรกและเป็นสิ่งไกลตัว แต่เมื่อนำเสนอออกมาในรูปแบบของผลงานศิลปะแล้ว ก็สามารถทำหน้าที่ได้อย่างดีในการเชื่อมโยงและส่งเสริมแนวคิดเรื่องความยั่งยืน
เช่นเดียวกันกับ A Tiny Gallery ผลงานของ Benzilla ที่นำเสนอการนำวัสดุต่างๆ มาชุบชีวิตใหม่ จากแผ่นพลาสติกรีไซเคิล กระดาษจากบรรจุภัณฑ์ ของเล่นที่ไม่มีคนเล่นแล้ว และฟิกเกอร์พลาสติก ให้กลายเป็นผลงานชิ้นนี้ โดยนอกจากจะได้ทดลองตีความผลงานใหม่ๆ จากวัสดุ หรือได้ทดลองทำงานกับพื้นผิวใหม่ๆ แล้ว Benzilla ยังมองว่าเราทุกคนต่างมีส่วนในการสร้างขยะ ซึ่งการนำขยะพลาสติกมาสร้างเป็นผลงานนั้นจะเป็นการสร้างคุณค่าผ่านงานศิลปะ และหวังว่าจะสามารถส่งต่อแรงบันดาลใจในการสร้างความตระหนักเกี่ยวกับเรื่องนี้สู่ผู้คนให้มากขึ้นอีกด้วย
ขวดน้ำหรือขวดพลาสติกดูจะเป็นขยะที่เราเห็นกันได้บ่อยครั้ง ทาง Shortbutveryverycute จึงได้นำมาแปลงโฉมให้กลายเป็นดอกไม้ของ Cherbi ที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ จากขวดธรรมดาก็กลายเป็นของตกแต่งที่นำไปวางตรงไหนก็ดูน่ารักขึ้นมาทันตา ซึ่งทางศิลปินเองก็มองว่าการนำของรีไซเคิลมาผลิตผลงานจะช่วยลดปริมาณขยะจากพลาสติกไปได้ไม่มากก็น้อย รวมไปถึงยังอยากให้ผลงานนี้ช่วยเปลี่ยนความคิดของทุกๆ คนในการมองว่าการใช้ของรีไซเคิลจะไม่น่ารักหรือนำมาทำเป็นของแฟชั่นได้
ขยะพลาสติกชิ้นเล็กๆ จำนวนมากยังนำมาผลิตใหม่ให้เป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ได้อีกด้วย เหมือนกับผลงานของ Asazak ที่มองว่างานศิลปะจะช่วยปลูกจิตสำนึกของผู้คนในเรื่องของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนได้ จึงสื่อสารเรื่องราวเหล่านี้ด้วยการเปลี่ยนวัสดุที่ไร้คุณค่าให้กลายเป็นวัสดุที่สวยงามและมีคุณค่าในรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์แนววินเทจ และของตกแต่งที่มีพลาสติกรีไซเคิลอย่างแผ่นพลาสติกรีไซเคิล Meltsheet ที่เป็นวัสดุแปลกใหม่ต่อวงการศิลปะ แต่มีความแข็งแรงและสีสันสดใสประกอบอยู่
ซึ่งผลงานทั้งหมดนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการ คาโอ Saving Future Smiles ที่ทาง คาโอ อยากเชิญชวนให้ทุกคนได้เข้าไปทำความเข้าใจเรื่องการจัดการขยะให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ่านขยะรีไซเคิลที่ศิลปินตั้งใจสื่อสารความหมายและถ่ายทอดเรื่องความยั่งยืนในรูปแบบของผลงานทั้งหมดนี้
เพื่อสุขภาพที่ดี เพื่อความเป็นอยู่ที่สวยงาม และเพื่อความสะอาดของโลก
เพราะภายในปี 2030 คาโอ มุ่งมั่นที่จะเติมเต็มชีวิตของผู้คนให้มีความงดงาม ผ่านการส่งเสริมเรื่องสุขอนามัยและการปกป้อง จากการสร้างแรงบันดาลใจและทำให้ผู้คนสามารถสร้างสุขนิสัยที่ดีขึ้น เพื่อความสะอาด ความสวยงาม สุขภาพที่ดี และมีความสุขกับชีวิตมากขึ้น คาโอ จึงอยากสร้างความตระหนักให้กับผู้คนทั่วไปได้เข้าใจในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านการดำเนินงานต่างๆ ของแบรนด์
ไม่ว่าจะเป็นการขับเคลื่อนแบรนด์ตามวัตถุประสงค์ การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อการเปลี่ยนแปลง เช่น บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะแก่การรีไซเคิลมากขึ้น หรือน้ำยาซักผ้าที่ช่วยประหยัดระยะเวลาการซักและประหยัดน้ำไปในตัว หรือแม้แต่การใช้วัตถุดิบจากแหล่งที่มาที่มีการจัดการด้วยความรับผิดชอบ ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ใช่การปฏิบัติงานเพื่อผู้บริโภคของแบรนด์อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงทุกๆ คนในสังคมด้วย
นอกจากนี้ยังมีความตั้งใจที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดภายใต้การดูแลของ คาโอ ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้พลังงานสะอาดที่ไม่ก่อให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ ป้องกันมลภาวะทางน้ำและอากาศ ไม่สร้างขยะ และแน่นอนว่าจะมีการจัดการสารเคมีอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อให้ทุกคนได้มีความสุขบนโลกที่สามารถเดินหน้าต่อไปบนความยั่งยืน
เรียนรู้การดำเนินงาน ESG ของ คาโอ ผ่านนิทรรศการ ‘Saving Future Smiles’
เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนและตรงกันมากขึ้น ภายในนิทรรศการ Saving Future Smiles ไม่ได้มีแค่ผลงานศิลปะเท่านั้น แต่ยังพาทุกคนไปทำความเข้าใจและตระหนักรู้เรื่องความยั่งยืนกับธุรกิจของ คาโอ ผ่านการแสดงงาน 2 โซน คือ
– Planet : Decarbonization & Zero waste
โซนที่ถ่ายทอดเรื่องราวการดูแลโลกใบนี้ของคาโอ เริ่มจากภาพวาดจินตนาการของเด็กๆ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวอนาคตที่ของสิ่งแวดล้อมพวกเขาอยากให้เป็นใน ‘โครงการประกวดภาพวาดสิ่งแวดล้อมนานาชาติ ระดับเยาวชน โดยคาโอ’ รวมถึงสินค้าของคาโอที่รักษ์โลก ใส่ใจในด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเรื่องของ ‘พลาสติก’ ที่ คาโอ อยากช่วยสร้างการตระหนักรู้ว่า แท้จริงแล้วพลาสติกที่เราใช้กันในชีวิตประจำวัน หากได้รับการคัดแยกและทิ้งให้ถูกประเภทก็จะนำมารีไซเคิลหรือสร้างประโยชน์อื่นๆ ได้อีกมากมาย รวมถึงนำกลับมาทำเป็นบรรจุภัณฑ์สินค้าใหม่ได้อีกครั้งด้วย ทั้งนี้ ภายในงานทางแบรนด์จึงจะนำเสนอให้เห็นว่า ได้มีการแปรรูปพลาสติกที่ใช้แล้วให้กลายมาเป็นอะไรที่เป็นประโยชน์ได้บ้าง
– People : Hygiene & Protection
ส่วนโซนนี้จะแสดงให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์จาก คาโอ ทำให้ทุกๆ วันงดงามมากขึ้นตามการดำเนินงาน ESG ของแบรนด์ได้อย่างไรบ้าง ซึ่ง คาโอ มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยยกระดับให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งในด้านสุขอนามัยและการปกป้อง ผ่านการคิดค้นและออกแบบผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมกันแดด จาก Biore UV, นวัตกรรมปกป้องยุง จาก Biore GUARD Mos Block, นวัตกรรมปกป้องผิวที่อ่อนโยน จาก Curel, นวัตกรรมเพื่อการทำความสะอาด จาก Attack และ Magiclean
และแน่นอนว่าจากอุดมการณ์ความยั่งยืนของ คาโอ ของใช้ทำจากขยะพลาสติกที่จัดแสดงภายในงานย่อมไม่ได้ทำหน้าที่แค่มาโชว์ตัวให้ผู้เข้าชมได้เห็นความสร้างสรรค์ในการเปลี่ยนแปลงด้านนวัตกรรมเท่านั้น แต่เมื่อจบงานแล้ว ทาง คาโอ ยังมีแพลนบริจาคของใช้เหล่านี้ให้กับ 60 โรงเรียนทั่วประเทศ เพื่อส่งต่อประโยชน์และสร้างคุณค่าด้านการใช้งานให้กับขยะพลาสติกเหล่านี้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ คาโอ ยังร่วมมือกับบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ผลิตชุดโต๊ะส่งเสริมการเรียนรู้แบบรีไซเคิล บริจาคให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนต่างๆ ในปีนี้ และต่อเนื่องในปีถัดๆ ไปอีกด้วย เพื่อเป็นการต่อยอดให้ทุกคนได้เห็นประโยชน์ของการนำพลาสติกเหลือใช้มาสร้างคุณค่าใหม่ให้กับสังคม
สำหรับใครที่สนใจเรื่องความยั่งยืน หรืออยากต่อยอดความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมและการดำเนินงานทางธุรกิจ เข้าไปเรียนรู้กันได้ที่งาน Saving Future Smiles นิทรรศการครบรอบ 60 ปี ของ คาโอ เพราะนอกจากความรู้ด้าน ESG และการตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมที่จะได้รับกลับไปแล้ว ภายในงานยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ พร้อมทั้งกิจกรรมอีกมากมายที่รอให้ทุกคนเข้าไปทำความเข้าใจความยั่งยืนในแบบของ คาโอ กัน
นิทรรศการ Saving Future Smiles จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน – 5 ตุลาคม พ.ศ. 2567 บริเวณชั้น G ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์