![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/05/uc-japanneed-inujimacover-1024x683.jpg)
พูดถึงเกาะศิลปะของญี่ปุ่น ชื่อของ Naoshima คงขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ ใครมีเวลามากหน่อย อาจจะเคยแวะไป Teshima หรือ Shodoshima ที่อยู่ใกล้ๆ กัน จริงๆ แล้วในน่านน้ำทะเล Seto Inland ยังมี Inujima เกาะศิลปะอีกแห่งที่กรุบกริบไม่แพ้กัน แถมยังมีสตอรี่เข้มข้นและสภาพแวดล้อมแตกต่างจากเกาะศิลปะอื่นๆ
ที่นี่เคยเป็นอดีตที่ตั้งโรงถลุงแร่ทองแดงซึ่งตัวโรงงานยังอยู่ในสภาพดีและถูกปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะสุดเท่ แถมยังมี Art House กระจายตัวอยู่ทั่วเกาะอย่างเก๋ ดูเผินๆ ก็กรุบกริบตามมาตรฐานจริตงานอาร์ตร่วมสมัยญี่ปุ่น แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่สถาปัตยกรรมและงานศิลปะบนเกาะนี้กำลังพยายามทำคือการสร้างมูลค่าใหม่ให้กับโรงงานที่อดีตเคยสร้างความเสียหายให้สิ่งแวดล้อมและนำความเดือดร้อนมาให้คนในชุมชน
ถ้ายังไม่เคยไป วันนี้เราจะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับความใส่ใจที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนของอินุจิมะ เกาะศิลปะไซซ์เอสที่มีความยาวรอบเกาะ 36 กม. พื้นที่ 0.54 ตร.กม. และคนอยู่อาศัยประมาณ 50 คน
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/05/uc-japanneed-inujima36-1024x683.jpg)
Inujima Seirensho Art Museum
อินุจิมะอยู่ในเขตจังหวัดโอคะยะมะ เป็นเกาะหลักในบรรดาหมู่เกาะอินุจิมะและเป็นเกาะเดียวที่มีคนอาศัยอยู่ เป็นเกาะชิลๆ ที่เดินประมาณ 2 – 3 ชั่วโมงก็ทั่วแล้ว สมัยก่อนนิยมตั้งบนเกาะเพราะอยากลดมลภาวะทางอากาศในตัวเมืองและเพื่อความสะดวกในการขนส่งวัสดุต่างๆ คนในเกาะลงทุนตั้งโรงงานถลุงแร่ทองแดงในปี 1909 แต่อยู่ได้แค่ 10 ปีก็ต้องปิดตัวเพราะราคาทองแดงตกอย่างมาก ปัจจุบันอาคารยังอยู่ในสภาพดี สะท้อนให้เห็นความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในยุค Modernization เลย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญทางด้านอุตสาหกรรมสมัยใหม่ของญี่ปุ่น
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/05/uc-japanneed-inujima33-1024x683.jpg)
มองไปรอบๆ ทะเลสวย ฟ้าใส ต้นไม้ใบเขียว ช่างขัดกับคำว่าอุตสาหกรรมเสียเหลือเกิน ในปัจจุบันตัวอาคารอาจจะมีคุณค่าในเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม แต่สมัยก่อนการมีอยู่ของโรงงานนี้สร้างปัญหาไม่น้อย ทั้งปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น การทิ้งของเสียลงทะเลและปัญหาสังคมอื่นๆ เมื่อ Fukutake Foundation ตัดสินใจพัฒนา Art Project บนเกาะนี้ เขาจึงเลือกให้ความสำคัญกับธรรมชาติเป็นอันดับหนึ่ง ในอดีตการทำเหมืองเคยทำร้ายสิ่งแวดล้อม แต่ปัจจุบันอาคารต้องเป็นมิตรกับธรรมชาติ เพื่อตั้งคำถามเรื่องความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจที่ต้องแลกมาด้วยการทำลายสิ่งแวดล้อม ในขณะเดียวกันก็นำเสนอความสัมพันธ์ในอุดมคติที่ทั้งสองอยู่ร่วมกันได้
หัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการต่อยอดแนวคิดนั้นให้เป็นจริงคือ Hiroshi Sambuichi สถาปนิกตัวท็อปและ Yukinori Yanagi ศิลปินชื่อดัง
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/05/uc-japanneed-inujima37-1024x683.jpg)
Recycle the Heritage
Hiroshi Sambuichi เป็นสถาปนิกที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการใช้ประโยชน์จากสภาพทางภูมิศาสตร์และพลังงานธรรมชาติอย่างมาก เมื่อได้รับโจทย์ว่าคอนเซปต์ของที่นี่คือ ‘การสร้างสิ่งอยากจะเป็นจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว’ อาคารของ Inujima Seirensho Art Museum จึงถูกออกแบบให้มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด เน้นพึ่งพาแสงแดด อากาศ สายลม และสายน้ำเท่าที่จะทำได้ และใช้ประโยชน์จากปล่องควัน จุดเด่นของอาคารให้ได้มากที่สุด ซี่งนำมาสู่ความกรุบกริบที่แอบประทับใจมากเป็นการส่วนตัว
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/05/uc-japanneed-inujima45-768x1024.jpg)
ความกรุบกริบข้อที่ 1 ที่นี่ไม่ใช้ไฟฟ้าในการปรับอากาศหรือแสงสว่างในอาคารเลย
อากาศเย็นเพราะพลังงานความร้อนใต้ดินและอบอุ่นด้วยพลังงานจากแสงอาทิตย์ ไฟด้านในเป็นแสงธรรมชาติทั้งหมด อาคารในมิวเซียมถูกแบ่งเป็น 4 ส่วนเพื่อใช้ประโยชน์จากพลังงานธรรมชาติ ได้แก่ Earth Gallery, Sun Gallery, Chimney Hall และ Energy Hall
ตัวอย่างการใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ เช่น Earth Gallery ด่านแรกที่เราได้เจอเมื่อเดินเข้าไปในมิวเซียม ทางเดินมืดๆ ที่ดูแล้วน่าจะอับๆ ร้อนๆ กลับเย็นสบาย มีกระจกและแสงนำทางชวนงงแต่ไม่หลงและสนุกอย่างมหัศจรรย์ พี่เขาบอกว่า อากาศเย็นเพราะเหล็กของโครงสร้างอุณหภูมิต่ำกว่าร่างกายมนุษย์ เลยทำให้เกิด Cooling Radiation Effect ผนังเหล็กที่เป็นคลื่นมีความยาวมากพอและการสำรวจทิศทางลมซึ่งเข้ามาจากปล่องควันช่วยลดความร้อนในอากาศ ส่วนในช่วงฤดูหนาวลมจะถูกสกัดไว้ไม่ให้นำความเย็นจากภายนอกเข้ามา กระจกสะท้อนเพื่อเพิ่มความสว่างในอาคารด้วยแสงธรรมชาติ อากาศในโซนนี้จึงสบายๆ ตลอดปี
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/05/uc-japanneed-inujima31-1024x683.jpg)
ส่วน Sun Gallery สร้างความอบอุ่นสมชื่อด้วยการดูดความร้อนจากแสงอาทิตย์แล้วส่งอากาศอุ่นๆ ไปยัง Energy Hall ในฤดูหนาว หลังคาโซนนี้จึงเป็นกระจกใสที่ทนทานต่อสภาพอากาศและกักเก็บความร้อนได้ดีเพื่อให้ดูดแสงอาทิตย์ได้เต็มที่ พื้นและผนังใช้ Karami Brick ซึ่งทำจากแก้ว 35 เปอร์เซ็นต์และเหล็ก 60 เปอร์เซ็นต์ เลยอุ่นง่าย เย็นยาก
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/05/uc-japanneed-inujima38-1024x683.jpg)
Karami Brick นี่ก็น่าสนใจ อิฐดำๆ ดูถึกๆ แปลกตานี้คือผลพลอยได้จากการถลุงทองแดง ทำมาจากเศษแร่ ซึ่งสมัยก่อนโยนทิ้งลงทะเลเป็นมลภาวะ เขาจึงนำมาใช้สร้างโกดัง ปูพื้น และอื่นๆ แทน ในพิพิธภัณฑ์นี้ Karami Brick อีก 17,000 ชิ้นยังถูกนำไปใช้ปูพื้นใน Chimney Hall และ Earth Gallery ด้วย เพื่อค้นหาคุณค่าใหม่จากวัสดุที่เคยถูกมองข้าม โดยนำมาผสมผสานกับพลังจากธรรมชาติอื่นๆ
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/05/uc-japanneed-inujima35-1024x683.jpg)
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/05/uc-japanneed-inujima30-1024x683.jpg)
ความกรุบกริบข้อที่ 2 คือ ที่นี่ใช้ระบบบำบัดน้ำเสียที่ไม่ทิ้งน้ำลงทะเลแม้แต่หยดเดียว
ฮิโรชิสำรวจเกาะ ทำรีเสิร์ชหาพืชที่เหมาะกับดินและสภาพอากาศของเกาะอินุจิมะ คุณพี่ดีไซเนอร์หวังว่า ยิ่งคนมาเยอะพืชพรรณที่นี่จะยิ่งงอกงาม เพราะว่าใช้ระบบที่เรียกว่า Bio-geo Filter เป็นระบบบำบัดน้ำเสียจากห้องน้ำที่ไม่ปล่อยน้ำลงทะเลเลยเพราะกรองน้ำผ่านฟิลเตอร์ที่มีทั้งหินภูเขาไฟและอื่นๆ จากนั้นส่งต่อให้พืชก็ดูดน้ำไปใช้ ถ้าเจอแนวต้นส้มปลูกเรียงกันสวยๆ ในเขตมิวเซียมนั่นแหละ ความงอกงามจากการเข้าห้องน้ำของพวกเราเอง
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/05/uc-japanneed-inujima28-1024x683.jpg)
Reassemble the Message
จุดเริ่มต้นของงานศิลปะภายในมิวเซียมคือ วัสดุก่อสร้างที่ได้จากการรื้อบ้าน Yukio Mishima นักเขียนชื่อดังของญี่ปุ่น
เมื่อรู้ข่าวว่าอดีตบ้านนักเขียนดังที่ชิบุยะจะโดนรื้อทิ้ง ประธานมูลนิธิ Fukutake Foundation จึงขอซื้อวัสดุและส่วนประกอบต่างๆ เก็บไว้รอวันนำไปประกอบใหม่ ยุกิโอะเป็นนักเขียนนิยายที่ผลงานมักสะท้อนสังคมญี่ปุ่นเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เร็วเกินไปของญี่ปุ่นจนนำไปสู่ปัญหาการฆ่าตัวตาย เมสเซจของผลงานเขาสอดคล้องกับเรื่องราวบนเกาะพอดี ท่านประธานมูลนิธิเลยอยากนำส่วนประกอบของบ้านเหล่านั้นมาใช้เป็นงานศิลปะสำหรับจัดแสดงที่นี่
ส่วนศิลปินที่รับหน้าที่นำวัตถุดิบไปปรุงต่อคือ Yukinori Yanagi ผู้เริ่มมีความสนใจเกาะอินุจิมะตั้งแต่มาจัด Solo Exhibition ที่นะโอะชิมะ เพราะตอนนั้นเขาออกสำรวจเกาะและบริเวณข้างเคียง จึงได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับโรงถลุงแร่และชุมชน ตัวเขาเองก็ถนัดการเล่าเรื่องผ่านการใช้สัญลักษณ์และมักตั้งคำถามเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วเกินไปของญี่ปุ่น ทุกอย่างเลยลงตัว ออกมาเป็นผลงานที่สะท้อนเรื่องราวในอดีตและนำเสนอการอยู่ร่วมกันในปัจจุบัน ส่วนแต่ละห้องเป็นอย่างไรนั้น ขอไม่สปอยล์ มันดีมาก ไฮไลต์ธรรมชาติ อาคาร และเรื่องราวได้ยอดเยี่ยม
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/05/uc-japanneed-inujima01-683x1024.jpg)
Art House Project
มูฟออนจากมิวเซียม ขอพาไปรู้จักอาคารอื่นๆ บนเกาะบ้าง ถ้าเคยไป Naoshima น่าจะคุ้นเคยกับโปรเจกต์ Art House ที่บ้านแต่ละหลังกระจายตัวอยู่ทั่วเกาะ ทำหน้าที่เป็นแกลเลอรี นำเสนอผลงานศิลปะในรูปแบบที่แตกต่างกันไป
อินุจิมะก็มี Art House หลายหลัง จุดเริ่มต้นของโปรเจกต์นี้ไม่ใช่เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนเกาะ ให้คนในชุมชนมองเห็นถึงความสวยงามในชีวิตประจำวันและความงามของธรรมชาติที่อยู่เหนือไปกว่างานศิลปะ ตัวอาคารส่วนมากสร้างขึ้นมาจากวัสดุหลากหลายชนิดที่ได้จากบ้านเก่าด้วย
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/05/uc-japanneed-inujima20-1024x683.jpg)
ตัวอย่างแกลเลอรีที่น่าสนใจ เช่น F-Art House ได้ Kohei Nawa ศิลปินดังที่เรามักเห็นผลงานของเขาอยู่เรื่อยๆ ตามงานเทศกาลศิลปะ เขาใช้งานชิ้นเล็กๆ (และใหญ่มาก) สื่อถึงพืชพรรณและสรรพสัตว์, S-Art House ศิลปิน Haruka Kojin นำเลนส์หลายขนาดต่างโฟกัสมาใช้เพื่อปรับมุมมองวิวรอบๆ ตัว, A-Art House ชอบอันนี้มากเป็นการส่วนตัวเพราะ Beatriz Milhazes สำรวจพืช ต้นไม้ ดอกไม้บนเกาะจริงๆ แล้วนำจุดเด่นของแต่ละอย่างที่ชอบมาสร้างความป็อป และ C-Art House นานๆ ทีจะได้เห็นงานไม้แกะสลัก งานก็ไม้ บ้านก็ไม้ เป็นอดีตที่ชุมนุมในชุมชน ได้แรงบันดาลใจมาจากเอเนอร์จีของชาวเกาะที่สื่อถึงพลังชีวิตของเกาะที่จะยังพัฒนาต่อไป งานกรุบกริบทั่วเกาะนี้อยู่ภายใต้การนำทีมของ Yuko Hasegawa อาร์ตไดเรกเตอร์ตัวท็อปของญี่ปุ่น เธอเป็นทั้งไดเรกเตอร์ของ 21st Century Museum of Contemporary Art ที่คะนะซะวะ, Artistic Director of the Museum of Contemporary Art, Tokyo และเป็นผู้จัดงานเทศกาลศิลปะมานับไม่ถ้วนในต่างประเทศ รวมไปถึงงาน Thailand Biennale, Korat 2021 ด้วย จะเห็นได้ว่าสิ่งที่เธอให้ความสำคัญอยู่เสมอคือพื้นที่ สิ่งแวดล้อม ผู้คน
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/05/uc-japanneed-inujima05-683x1024.jpg)
การเดินชมแกลเลอรีตามจุดต่างๆ ของเมืองทำให้เราได้มีโอกาสสำรวจภูมิประเทศ ชื่นชมธรรมชาติ แอบสังเกตความเป็นอยู่ของชาวบ้านไปแบบเนียนๆ ตอนเราไปเจอเด็กๆ มาเล่นที่ Art House ซึ่งวาดรูปสัตว์และพืชลงบนพื้นโดยได้แรงบันดาลใจมาจากความทรงจำที่คนมีต่อที่นี่ น้องๆ ดูสดใสรับกับความสดชื่นของธรรมชาติ ผู้สูงอายุแถวนั้นก็แสนใจดี กลัวลูกหลานรบกวนพวกเรา ในขณะที่เราก็ไม่อยากไปเกะกะการใช้ชีวิตของพวกเรา พอคุณยายเดินมาขอบคุณที่แวะมาเที่ยว ถึงกับรู้สึกอิ่มใจอย่างประหลาด เริ่มเข้าใจความตั้งใจของทีมงานในการปรับปรุงพื้นที่นี้ให้ชาวเมืองและผู้มาเยือนได้ใกล้ชิดกัน
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/05/uc-japanneed-inujima09-1024x683.jpg)
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2022/05/uc-japanneed-inujima07-1024x683.jpg)
นอกจากพิพิธภัณฑ์และแกลเลอรี อินุจิมะยังมี Inujima Life Garden สวนดอกไม้/สมุนไพร/ผักผลไม้ ฯลฯ สุดกรุบกริบที่อยากเชื่อมโยงผู้คนจากในและนอกเกาะผ่านความสุขที่ได้อยู่ร่วมกับพืชพรรณ ในอนาคตตั้งเป้าจะทำ Bio-geo Filter และสร้าง Biotope ด้วย ขอรอชมความคืบหน้าของสวนนี้เลย เผื่อจะรู้จักกับความกรุบกริบใหม่ๆ สายสดชื่น