ท้องถนนไม่ควรแบ่งชนชั้นวรรณะ แล้วการขับรถก็ไม่ควรให้ความรู้สึกเหมือนกำลังออกรบทุกครั้งไป เพราะ ILI.U เพจที่นำเสนอเนื้อหาด้าน Conscious Lifestyle เชื่อว่า ไม่ว่าจะใช้ยานพาหนะหรือเป็นคนเดินเท้า ทุกคนมีเสียงในใจที่เชื่อในการเคารพสิทธิของทุกคนบนท้องถนนเหมือนๆ กัน และไม่อยากได้ยินว่ามีเรื่องน่าเศร้าเกิดขึ้นบนท้องถนนอีก
โดยเฉพาะในวาระใกล้เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่กำลังร้อนแรงและใกล้โค้งสุดท้ายเข้าไปทุกที จึงอยากใช้เสียงที่ตนเองมีให้เป็นประโยชน์กับเมืองและผู้ใช้ท้องถนนบ้าง ไอแอลไอยูจึงสะท้อนปัญหาทางเท้าในเมืองออกมาผ่านคอนเทนต์ซีรีส์ที่ชื่อว่า ‘Bangkok Playlist’ และยังคิดไปไกลกว่านั้นด้วยการทำสติกเกอร์ติดรถ ที่ได้อินสไปร์มาจากพี่ๆ สิงห์รถบรรทุก เพื่อเตือนสติผู้ขับรถบนท้องถนนและผู้คนที่พบเห็น
จึงกลายมาเป็น #สติกเกอร์ไอเลิฟคนข้ามถนน ด้วยหวังว่าสติกเกอร์นี้จะเป็นอีกเสียงหนึ่งที่ตะโกนออกมาจากรถ ไว้เตือนใจทั้งตัวผู้ขับขี่เอง ผู้ที่ขับมาจากด้านหลัง หรือตะโกนออกมาจากสิ่งของชิ้นไหนก็ได้ เพื่อเตือนใจพวกเราผู้ใช้ท้องถนนทุกคน โดยจำหน่ายในราคา 159 บาท/ชิ้น รวมส่ง EMS รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย ไอแอลไอยูจะนำไปสมทบทุนให้กับเพจ Rabbit Crossing ทางกระต่าย เพื่อนำไปจัดทำโครงการที่มีประโยชน์แก่คนข้ามถนนต่อไป
ใครได้รับสติกเกอร์แล้ว ไอแอลไอยู ก็ชวนให้ลองแปะในพื้นที่ที่สะดวกใจอยากใช้ส่งเสียง จะแปะรถ แปะของใกล้ตัว เอาไปฝากใครแปะก็เข้าท่า แปะเสร็จช่วยกันส่งเสียงบอกทางโซเชียลก็เข้าที พร้อมติดแฮชแท็ก #สติกเกอร์ไอเลิฟคนข้ามถนน #ไอแอลไอยู ถ้าสนใจสั่งซื้อสามารถเข้าไปทักอินบ็อกซ์ ILI.U ไอแอลไอยู ได้เลย
RELATED POSTS
The Body Shop แบรนด์สกินแคร์สายกรีน ลมหายใจเฮือกสุดท้ายกับจิตวิญญาณที่ยืนหยัดเพื่อสิ่งแวดล้อม
เรื่อง
อานันทสิทธิ์ ถือมาลา
ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์เครื่องประทินผิวหลายแบรนด์ต่างให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เห็นได้จากการรณรงค์งดใช้กลิตเตอร์ผสมในผลิตภัณฑ์เพื่อลดการเกิดขยะไมโครพลาสติก หรือการยกเลิกการทารุณกรรมสัตว์จากการทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องประทินผิวและเครื่องสำอาง แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า ที่ผ่านมามีแบรนด์เครื่องประทินผิวแบรนด์หนึ่งที่ยึดมั่นและมุ่งมั่นทำเพื่อสิ่งแวดล้อมมาก่อนกาล จนต้องพบเจอกับโศกนาฏกรรมทางธุรกิจ ล้มพับหน้าร้านในหลายประเทศทั่วโลกไป หลายคนคงเคยได้ยินหรือคุ้นตากับแบรนด์ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ชื่อดังจากสหราชอาณาจักร The Body Shop ที่วางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศไทยและทั่วโลก แต่หลังจากที่บริษัทประกาศล้มละลายไปเมื่อต้นปี 2024 ทำให้ต้องปิดสาขากว่า 198 สาขาในสหราชอาณาจักร และปัจจุบันในประเทศไทยก็ไม่มีสาขาเหลืออยู่แล้ว จะหาซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น ในช่วงเวลาที่ผู้คนหันมาใส่ใจความโปร่งใสเรื่องความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น Urban Creature ขอพาไปสำรวจที่มาที่ไปของแบรนด์ที่เป็นหนึ่งในโมเดลธุรกิจรักษ์โลกมาช้านาน และสิ่งที่พวกเขาพยายามขับเคลื่อนพร้อมกับการทำธุรกิจ รวมถึงปัจจัยที่ทำให้แบรนด์ยักษ์ใหญ่ขนาดนี้ล้มละลาย The Body Shop แบรนด์สกินแคร์ที่แคร์โลก ย้อนกลับไปเมื่อปี 1976 ร้าน The Body Shop แห่งแรกได้ถือกำเนิดขึ้นริมถนนเมืองไบรตัน ประเทศอังกฤษ โดย ‘แอนนิตา ร็อดดิก’ (Anita Roddick) ผู้ขับเคลื่อนวงการเครื่องสำอางในยุคนั้น แอนนิตามีแนวคิดที่อยากมอบทั้งความงามจากภายในสู่ภายนอก ไปพร้อมๆ กับให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม เพราะเธอเชื่อมั่นว่า การทำธุรกิจนั้นสามารถเป็นแรงผลักดันไปสู่สิ่งดีๆ ได้ ภายใต้อุดมการณ์ ‘การค้าปลีกอย่างมีจริยธรรม’ (Ethical Retailing) ว่าด้วยการสร้างแบรนด์ที่เป็นธรรม ยึดถือความซื่อสัตย์และซื่อตรงต่อลูกค้าในด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์ […]
อากาศร้อนเปรี้ยง ระเบิดอารมณ์ปัง! รับมืออารมณ์ของเราในหน้าร้อนอย่างไร ไม่ให้ต้องเสียใจภายหลัง
เรื่อง
มะเฟือง
อากาศที่ร้อนจนเราหงุดหงิด เดือดปุดๆ ดั่งลาวาที่พร้อมปะทุ กระตุ้นฮอร์โมนความเครียดให้ออกมา นำไปสู่อารมณ์ที่ไม่น่าพอใจต่างๆ เช่น รู้สึกรำคาญทุกอย่างไปหมด เหนื่อยล้าเหมือนไม่เคยได้พักอย่างเต็มที่ อ่อนไหวง่ายกว่าเดิม โกรธง่าย หมดความอดทน และโอกาสที่เพิ่มสูงขึ้นของความรุนแรงในความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นทางจิตใจ วาจา หรือร่างกาย ในงานวิจัยที่ Psych Central ได้รวบรวมมาบอกว่า ‘Heat (and extreme rain) brings out the worst in people.’ นั่นคือ ไม่ใช่แค่อากาศที่ ‘ร้อน’ มากๆ เท่านั้นที่ทำให้ผู้คนแสดงด้านแย่ที่สุดของตัวเองออกมา แต่ในอากาศที่มีฝนตกอย่างหนักด้วยเหมือนกัน คีย์เวิร์ดสำคัญดูจะอยู่ที่ ‘ความสุดโต่ง’ หรือความ Extreme ของสภาพอากาศข้างนอก ที่จะดึงเอาอารมณ์ข้างในที่สุดโต่งหรือผิดแปลกออกไปจากอารมณ์ส่วนใหญ่ในช่วงเวลาปกติของเราออกมา คอลัมน์ Mental Help ประจำเดือนนี้ ผู้เขียนเลยขอเขียนบทความนี้เป็นคู่มือฉบับย่อ เพื่อเป็นฮาวทูช่วยดักจับอารมณ์ที่ร้อนระอุ และเปลี่ยนให้ไม่กลายเป็นพฤติกรรมที่เราอาจเสียใจในอนาคต หัดไม่มองอะไรเป็นขาว-ดำ เมื่อรำคาญคนรอบตัวไปเรื่อยอย่างไม่มีเหตุผล อากาศร้อนทำให้ความสามารถในการคัดกรองพฤติกรรมที่แสดงออกไปลดน้อยลงอย่างน่าตกใจ ซึ่งหนึ่งในอารมณ์ไม่พึงประสงค์คือ ความโกรธที่เกิดจากอคติเป็นทุนเดิม เช่น ฉันไม่ชอบคนนี้อยู่แล้ว […]
‘corn smog ice cream crunch’ ไอศกรีมรสชาติใหม่จาก ‘kintaam’ แรงบันดาลใจจาก PM2.5 ในเชียงใหม่
เรื่อง
Urban Creature
‘kintaam’ คือร้านไอศกรีมแซนด์วิชจากเชียงใหม่ ที่นอกจากความเอร็ดอร่อยแล้ว ยังเต็มไปด้วยความครีเอทีฟในการสร้างสรรค์รสชาติให้เหล่านักชิมได้ลิ้มลองไอศกรีมรสชาติใหม่ๆ อีกด้วย สำหรับฤดูร้อนนี้ที่คลื่นความร้อนปกคลุมทั่วทุกพื้นที่ สำทับด้วยปัญหาของ ‘ฝุ่น’ ที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้คน โดยเฉพาะ PM2.5 ในเชียงใหม่ที่ยังคงอยู่ในสถานการณ์น่าเป็นห่วง kintaam ได้สะท้อนวิกฤตที่ชาวเชียงใหม่ต้องเจออยู่ทุกวันผ่านไอศกรีมรสชาติใหม่ ‘corn smog ice cream crunch’ corn smog ice cream crunch เป็นไอศกรีมรสนมที่คลุกด้วยคอร์นเฟลกส์อบกรอบผสมคาราเมลชาร์โคล จนได้หน้าตาที่เหมือนกับก้อนฝุ่น ซึ่งคอร์นเฟลกส์นั้นก็เป็นตัวแทนของผลผลิตข้าวโพดที่มีการเผาไร่ข้าวโพดในการทำเกษตรกรรม จนทำให้เกิดมลพิษทางอากาศที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของทุกคน ‘น้ำอบ-ถมทอง ไชยจินดา’ และ ‘น้ำทิพย์ ไชยจินดา’ เล่าถึงไอเดียการริเริ่มทำไอศกรีมรสนี้ว่า ปัญหา PM2.5 ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของพวกเธอในช่วงปีหลังๆ อย่างเห็นได้ชัด จึงอยากทำครีเอชันนี้ขึ้นมา เพราะปกติร้านขนมหรือร้านกาแฟมักจะต้องออกเมนูพิเศษใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อ และลูกค้าใหม่ได้รู้จักแบรนด์เพิ่มขึ้นอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้ ทั้งสองจึงมองว่าการที่กินตามออกเมนู ‘corn smog’ ในช่วงฤดูฝุ่นนี้ ไม่ได้ต่างจากการออกเมนูพิเศษประจำฤดูกาลอื่นๆ เช่น วาเลนไทน์หรือฮาโลวีน เพราะวิกฤตฝุ่นคือเหตุการณ์พิเศษที่ไม่ได้เกิดในชีวิตประจำวันปกติ แต่ส่งผลกระทบทางสุขภาพในระยะยาว พวกเธอต้องการสื่อสารว่ามันคือปัญหาที่เราทุกคนเผชิญอยู่ในตอนนี้ ใครที่สนใจ ตามไปชิม […]
ดีไซน์-เค้าเจอ : Archive เมษายน 2567
เรื่อง
ชัชวาล สุวรรณสวัสดิ์
เป็นหลายครั้งที่ใครหลายคนชวนผมคุยเรื่องการออกแบบเก้าอี้แนว Street Furniture สไตล์ไทยๆ ที่พบเจอได้ตามริมทางท้องถนนเมืองไทย อย่างเช่นเก้าอี้พี่วินมอเตอร์ไซค์ หรือเก้าอี้ตามร้าน Street Food ที่มักมีคาแรกเตอร์เฉพาะตัวและหน้าตาที่คาดเดาไม่ได้ แต่ส่วนตัวผมเองให้ความสนใจ Urban Vernacular (สถาปัตยกรรมพื้นถิ่นเมือง) แบบรวมๆ เป็นหลัก ซึ่งไอ้เจ้าเก้าอี้แนวๆ นี้ที่เอ่ยมาก็ถือเป็นหนึ่งในประเภทของ Urban Vernacular ที่การปรากฏตัวนั้นล้วนเกิดจากความจำเป็นที่ต้องมีที่นั่งริมทางในที่สาธารณะ ไม่ว่ารอลูกค้าหรือนั่งกินข้าว ทำให้มีความจำเป็นบางอย่างที่ต้องมีเก้าอี้ใช้นั่งกันเองแบบชั่วคราวและเบาตัว ผมเองก็มีการบันทึกภาพเก้าอี้พวกนี้อยู่จำนวนหนึ่ง จนพอจะจับคาแรกเตอร์ได้บ้างว่าเก้าอี้ที่ใช้นั่งพวกนี้ก่อรูปได้กี่แบบ ซึ่งผมสามารถให้คีย์เวิร์ดเบื้องต้นได้ประมาณว่า ซ้อน ซ่อม พลิก รวมร่าง ซ้อน – เกิดจากพวกวัสดุเหลือใช้หรือเก็บได้แถวนั้น มักเป็นเศษไม้เศษอิฐ นำมาเรียงตัวซ้อนกันในแนวดิ่งเป็นเก้าอี้ม้านั่งซ่อม – ต่อจากวัสดุเหลือใช้ เก้าอี้เหลือใช้ ก็เอามาปะนิดซ่อมหน่อยด้วยเทคนิคต่างๆ ใช้นั่งต่อได้ยาวๆพลิก – เป็นการเอาวัสดุรอบตัวพลิกไปพลิกมาให้เป็นเก้าอี้หรืออะไรที่มากกว่านั้นรวมร่าง – คือผลของทั้ง 3 คีย์เวิร์ดก่อนหน้า เมื่อ ซ้อน ซ่อม พลิก แล้วมักเกิดการรวมร่างกับวัสดุใดๆ กลายเป็นเก้าอี้ที่คาดเดาหน้าตาไม่ได้ แต่ไอ้เจ้า 4 คีย์เวิร์ดนี้ไม่ได้ตายตัวนะ […]