ปกติเวลาเราพูดถึง ‘บาร์ที่ไปได้ยาก’ หลายคนมักจะนึกถึงบาร์ลับ แต่บาร์ท้ายซอยสุขุมวิท 20 แห่งนี้เป็นแบบใหม่แบบสับ เพราะมันไม่ได้ลับหรือหายากอะไรเลย แต่ที่ไปได้ยากก็เพราะทั้งเดือนที่นี่เปิดแค่วันเดียว!
ฟังไม่ผิดหรอก เพราะ House 20 Cat and Home Studio คือบาร์เฉพาะกิจที่เปิดเฉพาะวันที่ 20 ของเดือนตามชื่อบ้าน ซึ่งปกติเปิดทำการเป็นโฮมสตูดิโอสไตล์เรโทรให้เช่าถ่ายหนัง ซีรีส์ เอ็มวี และสื่อบันเทิงอื่นๆ (หลายคนอาจคุ้นตาจากเอ็มวีเพลง รักรักรักรักรักรักรัก ของ D Gerrard หรือ ถ้าเธอจะรักก็รักไปนานแล้ว ของ GoyNattyDream)
ที่สนุกมากกว่าเปิดเดือนละวันคือ บาร์นี้เสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มที่ได้แรงบันดาลใจจากแมวกว่า 80 ตัวและโฆษณาที่ ‘จูดี้-จุรีพร ไทยดำรงค์’ ครีเอทีฟระดับโลกเป็นคนคิด ซึ่งเราพนันได้ว่าต้องเคยผ่านตาทุกคนมาแล้วหนึ่งรอบ โดยมีจูดี้เป็นที่ปรึกษา และคนในแวดวงครีเอทีฟอย่าง ‘วัฒน์-อภิวัฒน์ ภัทราลังการ’, ‘อดามพ์ ศิริระกา’, ‘ออยล์-สาวิทย์ แก้วทวี’, ‘จ๊อย-ชนานาถ ตันวัฒนกุล’ และ ‘แมก-ธนพล จิรธาดาพร’ คอยรันอยู่เบื้องหลัง
Urban Guide คราวนี้จึงอยากชวนทุกคนแวะเวียนไปเสพไวบ์สของที่นี่ รวมถึงพูดคุยกับพาร์ตเนอร์อย่างออยล์และจ๊อย ว่าด้วยภารกิจในการเปลี่ยนโฮมสตูดิโอให้เป็นบาร์เฉพาะกิจ ที่ที่เราจะได้เอนจอยกับเครื่องดื่ม เล่นกับแมว ปล่อยใจกับเพลงแจ๊ส และแลกเปลี่ยนบทสนทนากับเพื่อนใหม่ได้แค่เดือนละครั้ง
บ้านแมว
ก่อนจะแปลงร่างเป็นโฮมสตูดิโอและบาร์เฉพาะกิจที่เราเห็นในวันนี้ บ้านหลังนี้เคยเป็นออฟฟิศให้เช่าของโปรดักชันเฮาส์และเอเจนซีหลายแห่งในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นคือเอเจนซี JEH United ของจูดี้
ในปี 2010 JEH United ควบรวมกับ Nude Communication ของ ‘ต่อ สันติศิริ’ กลายเป็น nudeJEH และย้ายไปใช้ออฟฟิศย่านพระรามสี่ (ก่อนในปี 2015 จะรวมตัวทางธุรกิจกันอีกรอบเป็น GREYnJ UNITED จนถึงปัจจุบัน)
แต่จูดี้รักบ้านหลังนี้ตั้งแต่แรกเห็น เมื่อไม่ได้ใช้เป็นออฟฟิศ เธอจึงย้ายเข้ามาอาศัยพร้อมกับแมวจรจัดที่เก็บมาเลี้ยงกว่า 80 ตัว ใช้ชีวิตและนั่งคิดงานท่ามกลางหมู่แมวในบรรยากาศโฮมมี่ของบ้านเก่า วิวสระน้ำ และร่มเงาของต้นไม้ใหญ่มาร่วมสิบปี
เมื่อปลายปี 2022 นี่เอง จูดี้ย้ายไปใช้ชีวิตวัยเกษียณที่อำเภอแม่วาง เชียงใหม่ พร้อมกับแมว 64 ตัว ในบ้านสวนหลังใหญ่ที่เธอเปิดเป็น Airbnb ชื่อ Suan Meow Mae Wang ติดที่มีแมวอีก 11 ตัวไม่สามารถย้ายไปด้วยได้เพราะมีโรคประจำตัว จูดี้จึงเช่าบ้านหลังนี้ต่อเพราะอยากดูแลแมวที่เหลือ
แต่จะทิ้งบ้านที่สวยขนาดนี้ให้แมวอยู่เฉยๆ ก็น่าเสียดายเกินไป เธอกับรุ่นน้องในแวดวงโฆษณาอย่างออยล์ จ๊อย วัฒน์ อดามพ์ และแมก จึงเทิร์นมันให้เป็นโฮมสตูดิโอสำหรับเช่าถ่ายงานหลายรูปแบบ พ่วงกับการเป็นบาร์เฉพาะกิจที่เปิดบ้านให้คนที่มีไวบ์เดียวกันเข้ามาสังสรรค์ทุกวันที่ 20 ของเดือน
บาร์แมว
แม้การทำบาร์จะไม่ใช่ธุรกิจหลักของ House 20 Cat and Home Studio แต่พวกเขาก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าในวงการกินดื่มแต่อย่างใด
ออยล์ ผู้ที่ทำงานโปรดักชันเฮาส์เป็นหลักเล่าว่า พวกเขาเคยเปิดบาร์เฉพาะกิจแบบนี้มาแล้วที่ House 38 โฮมสตูดิโอสไตล์วินเทจอีกหลังในซอยสุขุมวิท 38 คอนเซปต์การเปิดบาร์ก็ไม่ได้แตกต่างกัน เพราะพวกเขาจะเปิดเฉพาะวันที่ลงท้ายด้วยเลข 8 หรือก็คือเปิดแค่ 3 ครั้งต่อเดือน
“จริงๆ ที่นั่นไม่ได้ตั้งใจว่าจะเปิดเป็นบาร์ แต่มันเป็นสถานที่ที่คนในวงการสร้างสรรค์มาเจอกันบ่อย เราเลยลองเปิดเป็นบาร์ดู”
ส่วนบาร์แห่งใหม่นี้ จ๊อย ผู้ทำหน้าที่เป็นอินทีเรียดีไซเนอร์เล่าเสริมให้ฟังว่า จริงๆ ไวบ์สของ House 38 กับ House 20 นั้นใกล้เคียงกันราวกับเป็นบ้านพี่บ้านน้อง แต่นอกจากสไตล์แบบยุค 60 ที่นี่จะมีความเรโทรกว่าและมีสเปซให้ใช้สอยกว้างกว่า พวกเขาจึงคิดว่าคนไปบาร์น่าจะอยากสัมผัสไวบ์สของที่นี่บ้าง
“เราไม่ได้เป็นร้านบาร์ที่คนจะตะโกนคุยกัน แต่คนที่มาจะอยากมาลองประสบการณ์ใหม่ของการมาบาร์ ผมว่าธุรกิจบาร์ตอนนี้มันเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน การกินค็อกเทลมันคืองานศิลปะอย่างหนึ่งแล้วสำหรับผม ไม่ใช่กินเพื่อเมามายอย่างเดียวแล้ว”
“เหมือนทุกวันนี้เราดื่มเพื่อความสนุก มากกว่านั้นคือการได้มาเจอเพื่อนใหม่ๆ ได้มาเจอคอนเนกชันใหม่ เจอคนไวบ์แบบเดียวกัน” จ๊อยเสริม “บางทีเราก็ได้ทำงานด้วยกันจากการที่เรามาเจอกันที่นี่”
ถึงอย่างนั้น ทั้งคู่ก็ย้ำว่าที่นี่ไม่ได้เปิดรับเฉพาะคนในวงการสร้างสรรค์เท่านั้น แต่พร้อมต้อนรับทุกคนที่ชอบไวบ์สเดียวกันให้มาจอยกันได้อย่างไม่เขินอาย
จับแมว
อย่างที่หลายคนเดาออก คอนเซปต์ของบาร์ที่เปิดเฉพาะวันที่ 20 ของเดือนต่อยอดมาจากชื่อบ้านอย่าง House 20 นั่นเอง
“เราคงไม่ได้เปิดทุกวันเพราะเราไม่ได้อยู่ใน Business นี้ พูดเลยว่าเราอ่อนหัดใน Business S&B แต่เราใช้ความชอบและความต้องการของเราที่อยากมีพื้นที่แบบนี้ เราก็เหมือนทำด้วยใจมากๆ ทำของเราให้ดีที่สุด ทำเท่าที่เราไหว” จ๊อยเล่าเปิดอก
“ธุรกิจหลักที่หล่อเลี้ยงเราคือการปล่อยเช่าโฮมสตูดิโอ ส่วนบาร์คืองานอดิเรกที่ทำสนุกๆ แต่ได้เงินด้วย มันเลยบาลานซ์ธุรกิจกับความสุขให้สามารถไปต่อได้เรื่อยๆ”
แต่บาร์ที่เปิดแค่วันเดียวต่อเดือนก็ไม่ใช่ภารกิจที่คิดแล้วทำได้เลย เพราะจ๊อยกับทีมต้องใช้เวลากว่า 5 เดือนในการรีโนเวตบ้าน ซึ่งความท้าทายที่สุดไม่ใช่การเลือกเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่งให้ได้มู้ดที่ลงตัว แต่คือการย้ายแมวจากบ้านหลังใหญ่มาอยู่บ้านหลังเล็ก
“มันคือการจัดสรรแมว” หญิงสาวอินทีเรียฯ หัวเราะ “แต่ละตัวต้องมีห้องของเขา ตัวนี้อยู่กับตัวนี้ไม่ได้ ตัวนี้ต้องอยู่ในอากาศเย็นกว่าเพราะเป็นหอบหืด บางตัวไม่มีหนังตาบนเขาก็ต้องอยู่ในห้องที่มืด”
“ยากกว่าทำให้คนอยู่อีก” ออยล์สมทบ
ข้าวแมว
อีกหนึ่งความท้าทายคือการออกแบบเมนูอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งสองเท้าความว่า ที่ House 38 นั้นมีเมนูค็อกเทลสุดครีเอทีฟที่ออกแบบตามคาแรกเตอร์ของแมวประจำบ้านทั้ง 5 ตัว เมื่อเปิดบาร์ที่ House 20 ซึ่งเคยเป็นทั้งบ้านของจูดี้และแมวกว่า 80 ตัวมาก่อน ไอเดียเบื้องหลังเมนูอาหารและเครื่องดื่มจึงต่อยอดมาจากเหล่าเจ้าของบ้านที่ว่ามา
อาหารที่นี่มีทั้งแบบกินเอาเพลินและกินเอาอิ่ม เริ่มต้นจากจานแรกที่พวกเขายกมาเสิร์ฟอย่าง ‘หนังแมวกรอบ’ ซึ่งก็คือหนังไก่กรอบรสเผ็ดนิดๆ เคี้ยวเพลิน จานที่ 2 คือ ‘ข้าวแมว’ ซึ่งเป็นเมนูเซอร์ไพรส์ที่จะเปลี่ยนไปทุกครั้ง อย่างเดือนก่อนหน้าเราเป็นข้าวผัดน้ำพริกปลาทูกับผักสด แต่จานที่เราได้กินวันนี้คือข้าวปลาทูต้มเค็มรสกลมกล่อม
จานถัดมาคือ ‘แมวร้องไห้’ ได้แรงบันดาลใจมาจากเสือร้องไห้ แต่ใส่ทวิสต์ลงไปเล็กน้อยคือใช้ส่วนคอหมูที่ผ่านการคลุกน้ำจิ้มแจ่วมาแล้วไปย่าง กินกับไข่แดงญี่ปุ่นที่สามารถกินดิบได้ แกล้มกับผักสดและข้าวเปล่าเพิ่มความเลิศ ที่อยู่ข้างกันคือ ‘เส้นหมี่แมวฉีก’ aka เส้นหมี่ไก่ฉีกรสเข้มข้นโรยด้วยไก่กรอบที่เผ็ดนิดๆ เหมาะกินเอาอิ่มจริงๆ ส่วนจานสุดท้ายคือ ‘ยำแมงกะพรุน’ เทกซ์เจอร์กรุบๆ นิ่มๆ ที่แซ่บไม่แพ้จานอื่นบนโต๊ะเลย
เครื่องดื่ม (ของแม่) แมว
แต่พูดก็พูดถึง ขึ้นชื่อว่าบาร์ก็ต้องมีตัวเอกเป็นค็อกเทลซิกเนเจอร์
House 20 ก็ไม่ต่างกัน ความสนุกคือค็อกเทลซิกเนเจอร์ของที่นี่ทั้ง 4 ตัวนั้นถูกดีไซน์มาจากโฆษณาดังของจูดี้ในรอบ 20 ปีที่หลายคนคุ้นชินกันดี
อย่างแก้วแรก ‘ฝากไว้ก่อนโอฬาร’ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากโฆษณากระเบื้องโอฬาร ‘เบิร์ด-สรธัช กะตารัตน์’ บาร์เทนเดอร์ผู้อยู่เบื้องหลังเมนูเล่าให้ฟังว่า ในโฆษณาตัวนี้จะมีตัวละครเป็นลิง เขาจึงออกแบบให้แก้วมี ‘ความมะพร้าว’ อยู่ในนั้น ไล่ตั้งแต่การใช้มะพร้าวเผาตกแต่งรอบแก้ว น้ำแข็งที่ใช้ก็เป็นน้ำแข็งน้ำมะพร้าว เข้ากับส่วนผสมอย่างวอดก้า มาลิบู และกระชายตำ ให้รสชาติหวานคล้ายลอดช่อง กินง่าย ให้ความสดชื่นมาเต็ม
แก้วที่สองคือ ‘จน เครียด กินเหล้า’ ที่เสิร์ฟผ่านขวดสีขุ่นเป็นกิมมิกเก๋ไก๋ มีส่วนผสมลับเป็นน้ำกระท่อมคราฟต์ ตกแต่งด้วยใบกระท่อมต้มที่เคี้ยวได้ ถัดมาคือ ‘จุ๋ม’ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากโฆษณาของสมูทอี ในโฆษณาจุ๋มจะมีสองคาแรกเตอร์คือสาวห้าวกับสาวหวาน ค็อกเทลเมนูนี้จึงเสิร์ฟสองแก้วคู่กัน แก้วแรกมีส่วนผสมจากขิง น้ำผึ้ง และเหล้าจีน ให้รสชาติเผ็ดนิดๆ แบบสาวห้าว ส่วนอีกแก้วที่ต้องดื่มตามมาจากเหล้าลิ้นจี่ ไซรัปลิ้นจี่ น้ำกระเจี๊ยบ และใบมินต์ สดชื่นแบบสาวหวาน
ส่วนใครที่ไม่อยากดื่มแอลฯ เราขอแนะนำ ‘ให้เหล้าเท่ากับแช่ง’ ม็อกเทลไร้แอลกอฮอล์ที่ทำจากน้ำมะขาม มะกรูด น้ำผึ้ง โซดา เสิร์ฟคู่กับมะม่วงดองกับพริกเกลือ รสชาติเข้มข้นอย่าบอกใคร
ที่หน้าบาร์ยังมีคิวอาร์โค้ดให้สแกนดูโฆษณาเหล่านั้นเพื่อเสริมประสบการณ์การจิบให้เต็มสตรีมมากขึ้น หรือหากใครมีฟีลอยากปล่อยใจ ลองถือแก้วค็อกเทลมานั่งทิ้งตัวริมสระ ฟังเพลงแจ๊สที่บรรเลงสดๆ และคุยกับเพื่อนใหม่ก็สนุกไปอีกแบบ
“ความสนุกและแรงบันดาลใจคือสิ่งที่เราได้จากการเปิดที่นี่ บางทีเราทำงานแล้วหมดไฟ พอได้ไปฟังเรื่องราวของคนอื่น เราก็รู้สึกว่ามันเติมไฟให้เรา” จ๊อยตอบตามตรง เมื่อเราถามว่าการเปิดบาร์อย่าง House 20 นั้นมีความหมายต่อตัวผู้ประกอบการฝึกหัดอย่างพวกเขาอย่างไร
“ผมว่าทุกคนมีปัญหาในชีวิต แม้กระทั่งตัวเราเองก็มี ซึ่งบางครั้งเราอาจมองว่าปัญหาที่เรามีเป็นเรื่องใหญ่ แต่พอได้มาเปิดบาร์แบบนี้แล้วฟังเรื่องเล่าจากคนอื่น มันทำให้เรารู้ว่าทุกคนมีปัญหาเหมือนกัน” ออยล์เสริม
“ปัญหาบางคนเหี้ยกว่าเราตั้งเยอะ (หัวเราะ) แต่ทุกคนก็ยังต้องสู้น่ะ มันคือส่วนหนึ่งของชีวิตที่ทุกคนต้องผ่านมันไปให้ได้
“สองปีที่ผ่านมามันก็ไม่ได้เป็นปีที่ง่ายสักเท่าไหร่ ยิ่งเราเป็นคนยุคนี้ อยู่ในเมืองกรุงแบบนี้ ต้องแบกรับค่าใช้จ่าย ความกดดันจากรัฐบาลหรือคนมากมาย การได้ฟังปัญหาของคนอื่นก็ทำให้เราได้ปลดล็อกตัวเองเหมือนกัน ตัวเราเองก็สบายใจขึ้น”
House 20 Cat and Home Studio
เวลาทำการ : ทุกวันที่ 20 ของเดือน ตอนเย็นเป็นต้นไป
พิกัด : 142 ซอยสุขุมวิท 20 คลองเตย กรุงเทพฯ 10110
แผนที่ : goo.gl/maps/sWEuESDNA7qb3D7C6
ช่องทางติดต่อ : instagram.com/house20studio