ใกล้จบเดือนแรกของปี 2023 แล้ว ใครที่ตั้ง New Year’s Resolution เอาไว้ ทำสำเร็จกันไปกี่อย่างแล้วนะ ถ้ายังไม่ได้เริ่มหรือรู้สึกว่าอะไรหลายๆ อย่างดูไม่ค่อยเป็นใจให้ทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ ลองเริ่มจากอะไรง่ายๆ อย่าง ‘การพักผ่อน’ ก่อนไหม
การพักผ่อนที่ว่าไม่ได้หมายถึงนอนหลับเท่านั้น แต่รวมถึงการออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านที่ช่วยให้เรารู้สึกถึงการพักผ่อนทั้งร่างกายและภายในอย่างเต็มอิ่ม ตามที่ ‘Dr.Saundra Dalton-Smith’ แพทย์และนักค้นคว้าเรื่องการพักผ่อนชื่อดังเคยเล่าไว้ว่า การพักผ่อนนั้นมีอยู่ 7 ประเภท ตั้งแต่การพักผ่อนร่างกายและจิตใจ การพักผ่อนผ่านประสาทสัมผัส ไปจนถึงการพักผ่อนโดยใช้ความคิดสร้างสรรค์
คอลัมน์ Urban’s Pick ขอรวบรวม 12 สถานที่ทั่วกรุงเทพฯ ที่เหมาะแก่การใช้เวลาพักผ่อนทั้งร่างกายและภายในมาให้ทุกคนไว้ใช้เป็นตัวเลือกในการเยียวยารักษาตัวเองกัน
01 | Physical Healing
พักผ่อนร่างกาย ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
เราขอเริ่มหมวดหมู่แรกด้วยการพักผ่อนร่างกาย พูดอย่างนี้หลายคนคงคิดไปถึงฟิตเนสหรือการไปนวดคอบ่าไหล่แก้อาการ Office Syndrome แต่ความจริงแล้วในกรุงเทพฯ ยังมีสถานที่สำหรับพักผ่อนร่างกายอีกหลายแบบที่รอให้เข้าไปสัมผัสอยู่
Yunomori Onsen & Spa
‘Yunomori Onsen & Spa’ คือออนเซ็นและสปา ที่เกิดจากการผสมผสานวัฒนธรรมการแช่บ่อน้ำแร่ร้อนแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นเข้ากับบริการสปาอันเลื่องชื่อของไทย เพื่อให้ผู้มาเยือนได้หลีกหนีความวุ่นวาย ปลดปล่อยความเมื่อยล้า ด้วยน้ำแร่ธรรมชาติส่งตรงจากวัดวังขนายฯ จังหวัดกาญจนบุรี แถมยังมีพื้นที่พักผ่อนส่วนกลาง คาเฟ่และเบเกอรีสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมสถาบันความงามแบบครบวงจรรอให้บริการ เพื่อความผ่อนคลายสไตล์ญี่ปุ่นแท้แห่งแรกในเมืองไทย
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.yunomorionsen.com/th
Fly Me to the Moon Pole & Aerial Studio
ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายด้วย Pole Dance, Yoga Fly, Aerial Hoop, Aerial Cube หรือ Stretching แบบง่ายๆ ‘Fly Me to the Moon Pole & Aerial Studio’ ก็มีให้เลือกด้วยกันทั้งนั้น ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก ใกล้ BTS อารีย์ บวกกับมีคลาส Pre-introduction สำหรับมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นออกกำลังกายโดยเฉพาะ รับรองได้ว่าที่นี่จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายร่างกายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ flymetothemoonstudio.tilda.ws
Bangkok Float Center
‘Bangkok Float Center’ สถานที่แห่งแรกและแห่งเดียวในไทยที่เปิดให้บริการสปาเกลือบำบัดด้วยการลอยตัวด้วยสภาวะแบบไร้น้ำหนักในแคปซูลลอยตัว (Floating Capsule) ที่บรรจุด้วยเกลือธรรมชาติสูตรพิเศษของ Epsom Salt ที่นำเข้าโดยตรงจากประเทศเยอรมนี ในปริมาณ 700 กิโลกรัม ซึ่งเข้มข้นกว่า Dead Sea ถึง 20 เท่า
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งการล้างพิษออกจากร่างกาย กำจัดความเครียดออกจากจิตใจ รู้สึกได้ถึงความสงบและผ่อนคลาย เพิ่มประสิทธิภาพในการนอนหลับและลดอาการอ่อนล้า อาการปวดเมื่อยตามร่างกายได้เป็นอย่างดี
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/bangkokfloatcenter
02 | Mental Healing
พักผ่อนจากภายใน ทั้งจิตใจและจิตวิญญาณ
ผ่อนคลายแค่ในส่วนของร่างกายคงไม่เพียงพอ เพราะการพักผ่อนที่ดีที่สุดต้องเริ่มจากภายใน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจิตใจ ประสาทสัมผัส หรือทางจิตวิญญาณ การได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองผ่านกิจกรรมต่างๆ ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะต้องจัดการเรื่องนี้อย่างไร
Muchimore Balance House
‘Muchimore Balance House’ เรียกตัวเองว่าเป็นพื้นที่สัมผัส เรียนรู้ และดูแลจิตใจ ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้โลกภายใน โดยมีหลักการของการออกแบบกิจกรรมคือ การตระหนักรู้ตัวตามความเป็นจริง การใช้ชีวิตจากความจริงแท้ภายใน และการหาจุดสมดุลของชีวิตเราเอง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/muchimorelife
Studio Persona
ความตั้งใจของที่นี่คือ ต้องการเป็นพื้นที่สำหรับทุกคนที่ต้องการสำรวจ เรียนรู้ และดูแลจิตใจของตัวเอง โดยใช้ ‘ศิลปะ’ เป็นตัวกลาง ‘Studio Persona’ จึงกลายเป็นเหมือนหลุมหลบภัย โอเอซิสทางใจสำหรับคนเมืองที่จะพาเราเข้าไปสำรวจจิตใจด้วยโปรแกรมศิลปะบำบัด และกิจกรรมสร้างสรรค์หลากหลายรูปแบบ ด้วยความเชื่อที่ว่า ‘Everyone needs a space of mind.’
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.studio-persona.com/home
Avalokita
‘อวโลกิตะ (Avalokita)’ เป็นพื้นที่ภาวนา (Meditation Space) บนชั้น 9 ของอาคารตั้งฮั่วปัก ซอยสาทร 10 จากโครงการหนึ่งของ ‘มูลนิธิวัชรปัญญา’ พื้นที่เรียนรู้ทั้งด้านธรรมะ สังคม และศิลปะ ที่เปิดให้คนเข้ามานั่งพักผ่อนกับตัวเอง เพื่อบ่มเพาะความรัก ความกรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ได้ฟรี โดยไม่มีข้อจำกัดด้านศาสนาและกฎเกณฑ์ในการใช้งาน
อ่านบทความ ‘อวโลกิตะ : พื้นที่ภาวนาใจกลางสีลมที่เปิดให้คนเมืองเข้าใช้ฟรี’ ที่ : urbancreature.co/avalokita
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.vajrasiddha.com/avalokita-meditation-space
03 | Creative Healing
พักผ่อนสมอง เวิร์กช็อปงานคราฟต์
เวิร์กช็อปงานคราฟต์ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความสนใจไม่น้อยในปัจจุบัน เพราะนอกจากเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ซึ่งถือเป็นการพักผ่อนสมองอย่างหนึ่งแล้ว การได้ของ Handmade น่ารักๆ ฝีมือตัวเองติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย ก็ถือเป็นความภาคภูมิใจเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน
Fickle.lifestyle
ถ้าอยากได้รองเท้าแตะสุดเท่ พรมเช็ดเท้าออกแบบเอง เทียนหอมกลิ่นพิเศษ หรือทำอาหารแบบได้เลือกเองตั้งแต่วัตถุดิบ ต้องลองมาที่ ‘Fickle.lifestyle’ Activity Space ที่ผสมผสานทั้งคาเฟ่และเวิร์กช็อปไว้ในที่เดียว เหมาะสำหรับคนที่อยากหาอะไรทำในวันหยุดว่างๆ ต่อให้ไม่มีพื้นฐานด้านศิลปะก็ไม่เป็นไร เพราะแต่ละกิจกรรมมีคนสอนทุกขั้นตอนตั้งแต่พื้นฐาน
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/ficklelifestyle
Tentacles Workshop
‘Tentacles Workshop’ สถานที่ที่เป็นศูนย์การเรียนรู้ที่เน้นไปทางศิลปะและงานฝีมือ ที่ต้องการสร้างชุมชนของนักประดิษฐ์ ศิลปิน และบุคคลทั่วไปที่สนใจ ให้เชื่อมโยงแลกเปลี่ยนความรู้กัน ตั้งแต่วาดภาพ ทำน้ำหอม ดริปกาแฟ ชงชา หรือดูไพ่ยิปซี ที่จะสับเปลี่ยนหมุนเวียนตารางในแต่ละเดือน ให้ผู้ที่สนใจได้เลือกลงคลาสที่ตัวเองสนใจในวันที่สะดวก
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/TentaclesN22
Sane.workshop
‘Sane (เสน่ห์)’ คือร้านขนมไทยที่เปิดเป็นสตูดิโอเวิร์กช็อปทำขนมไทยเล็กๆ ให้ผู้ที่สนใจขนมไทยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้ลองทำความรู้จักประวัติศาสตร์ขนมไทย ตั้งแต่เริ่มทำขนมด้วยตัวเองตั้งแต่ขั้นตอนแรก ลิ้มรสเมนูที่หากินได้ยากในปัจจุบัน และนำขนมไทยฝีมือตัวเองกลับไปฝากคนที่บ้าน
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/sane.workshop
04 | Social Healing
พักผ่อนไปกับกลุ่มคนผู้มีความสนใจร่วมกัน
ปิดท้ายด้วยการพักผ่อนที่สำคัญไม่แพ้กับการพักผ่อนทางร่างกาย จิตใจ หรือการทำเวิร์กช็อป นั่นคือการพักผ่อนทางสังคมอย่างการออกไปพบปะกับกลุ่มคนที่ชื่นชอบ ใช้เวลาว่างร่วมกันทำกิจกรรมในสถานที่หรือชมรมที่ทุกคนสนใจ
Jelly Roll Dance Club
ช่วงหลังมานี้ กรุงเทพฯ จัดกิจกรรม ‘Swing in the Park สวิงในสวน’ เป็นประจำ แต่ไม่มีพื้นฐานการเต้นสวิงมาก่อนเลยกล้าๆ กลัวๆ ที่จะโชว์สเต็ป ‘Jelly Roll Dance Club’ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากลงคลาสเรียนเต้นสวิงในระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับปรมาจารย์ อีกทั้งที่นี่ยังเป็นพื้นที่สำหรับกลุ่มคนรักการเต้นสวิงในย่านอารีย์ รับรองว่าเป็นคอมมูนิตี้ที่น่ารักและช่วยให้เราผ่อนคลายอาการปวดหัวจากการงานได้แน่นอน
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.instagram.com/jellyrolldanceclub/
More Than a Game Café
‘More Than a Game Café’ ร้านบอร์ดเกมในกรุงเทพฯ ที่รวมเกมกระดานไว้มากที่สุดแห่งหนึ่ง เป้าหมายของที่นี่คือต้องการทำให้คนทุกเพศทุกวัยที่มีความสนใจในเกมกระดานได้ทำความรู้จักและใช้เวลาร่วมกัน โดยมี Game Master คอยอธิบายและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเล่นบอร์ดเกม นอกจากนี้ หากใครสนใจบอร์ดเกมชิ้นไหนเป็นพิเศษ จะซื้อกลับไปเล่นกับเพื่อนหรือครอบครัวก็ได้ไม่ว่ากัน
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.morethanagamecafe.com
BOUNCE Thailand
‘BOUNCE Thailand’ คือสนามแทรมโพลีนขนาดใหญ่บนห้างฯ The EmQuartier ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้สัมผัสกับโลกที่ไร้แรงโน้มถ่วง ราวกับเป็นพื้นที่ที่ให้อิสระกับคนทุกเพศทุกวัยได้ปลดปล่อยความเป็นตัวเองเพื่อก้าวผ่านความท้าทายในจิตใจ พร้อมๆ กับทำความรู้จักเพื่อนใหม่ที่อยู่ในแทรมโพลีนใกล้ๆ ด้วยรูปแบบการเล่นที่มีให้เลือกมากมาย โดยมีพนักงานพร้อมให้คำแนะนำและสาธิตการเล่นแบบปลอดภัยตลอดกิจกรรม
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bounceinc.co.th/th
Writer
มณิสร วรรณศิริกุล
Graphic Designer
