สารภาพก่อนเลยว่ารู้สึกพลาดเล็กๆ ที่เรามาเกาะเกร็ดตั้งหลายหน แต่กลับไม่เคยเดินมาเจอร้าน ‘กาแฟคั่วมือ Coffee & Gallery’ เลยสักครั้ง ครั้งนี้ไม่รอช้านัด คุณเบญ-เบญจมาศ แก้วเก็บ เจ้าของร้าน มาสอนคั่วกาแฟชิลๆ ในบรรยากาศร้านสไตล์ Industrial Loft ที่ออกแบบให้คล้ายโรงคั่วกาแฟ พร้อมรับลมใกล้แม่น้ำช่วงสายวันหยุด
“วันหนึ่งเราจะมองความผิดพลาดในอดีตเป็นเรื่องตลก หากปัจจุบันเราทำได้ดีกว่าที่เคย” นี่คือเหตุผลที่ทำให้คุณเบญอยากเปิดร้านกาแฟคั่วมือให้คนคั่วเอง ผิดเอง ถูกเอง และกินเองจนถึงวันนี้ ถ้าอยากรู้ว่ามันเกี่ยวกับกิจกรรมคั่วมือที่เราจะพาไปทำวันนี้อย่างไร พร้อมแล้วปล่อยใจให้สบาย เตรียมกำลังมือให้พร้อม แล้วไปสนุกกัน !
01 สารกาแฟยินดีต้อนรับ
“ที่เห็นตรงหน้าเรียกว่า ‘สารกาแฟ’ พอคั่วเสร็จพร้อมบด มันจะเปลี่ยนชื่อเป็น ‘เมล็ดกาแฟ’ แทน” คุณเบญวางสารกาแฟหรือเมล็ดกาแฟดิบสีเขียวอ่อนที่ใส่ไว้บนถ้วยดินเผา ก่อนบอกเราว่านี่คือสิ่งที่ลูกค้าหลายคนแปลกใจ เมื่อรู้ว่าเจ้ากาแฟดิบเมล็ดจิ๋ว เขาเรียกว่าสารกาแฟ (เราก็เพิ่งรู้เหมือนกัน)
ซึ่งร้านของเธอ เลือกใช้กาแฟโรบัสต้า 100% จากระนอง เพราะจากประสบการณ์ที่เป็นคอกาแฟ กินทุกวันตั้งแต่วัยรุ่น และเรียนรู้การทำกาแฟมาจากไร่กาแฟที่ระนอง ก่อนปรับสูตรการคั่วเองเพราะไม่อยากจำเจกับสูตรตายตัว โดยให้เพื่อนชิมก่อนเปิดร้านจนตาค้าง พบว่าโรบัสต้านี่แหละขมกำลังดี หวานติดปลายลิ้นอย่างละมุน ที่สำคัญไม่เปรี้ยว ไม่เหม็นหืน ไม่ฉุน เหมาะกับการคั่วมากที่สุด แม้คนไทยส่วนใหญ่จะถูกใจอาราบิก้ามากกว่า แต่ต้องยอมรับว่าหากนำอาราบิก้ามาคั่วมือจะมีรสจืดเกินไป จึงอยากให้ลูกค้าที่มาได้ลองว่าโรบัสต้าก็อร่อยไม่แพ้ใครเลยนะ
02 ลืมการฟังเสียงเเคร็ก มาคั่วกาแฟแบบใช้ตามอง
เราเทสารกาแฟดังกล่าวลงกระทะทองเหลืองขนาดน่ารักที่ตั้งอยู่บนเตาสนามพกพาเหมือนตอนไปตั้งแคมป์ แล้วคนมันไปเรื่อยๆ ตามที่คุณเบญแนะมา ไม่นานเสียงปุปะ เปาะแปะ ของสารกาแฟดังขึ้นเรื่อยๆ คล้ายเสียงการคั่วป๊อปคอร์น ชักสนุกแล้วสิ
“บางทีใครต่อใครบอกว่าทริคคั่วกาแฟคือการฟังเสียงแคร็ก 1 แคร็ก 2 หรือ แคร็ก 3 แล้วนับวินาทีต่อ แต่เรากลับไม่ชอบวิธีนั้น เพราะเราอยากให้ลูกค้าที่ไม่มีความรู้อะไรเลย ทำกิจกรรมนี้ได้แบบง่ายๆ แค่ใช้ตาดูการเปลี่ยนแปลงตรงหน้าก็พอ” คุณเบญย้ำว่าคอนเซ็ปต์ของร้านคือการทำให้กาแฟเป็นเรื่องง่ายที่สุด ก่อนหน้านี้เธอเคยเรียนรู้วิธีนับแคร็กมาบ้าง แต่แล้วก็มองว่าถ้านับผิดคนทำอาจรู้สึกลนลาน และไม่ได้ลองอะไรนอกกรอบ จึงให้ลูกค้ามองสารกาแฟที่ใช้มือคนอยู่ตรงหน้าราว 8-10 นาที ด้วยไฟกลาง ที่ค่อยๆ สุกจากด้านนอกเข้าด้านใน จนสีเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม ขนาดขยายใหญ่ขึ้น และคลายความมันออกมาจากตัวเมล็ด ก่อนจะคั่วจนกะลากาแฟได้รับความร้อนอย่างทั่วถึง ตอนนั้นแหละ มันได้เปลี่ยนเป็น ‘เมล็ดกาแฟ’ เรียบร้อยแล้ว
ป.ล. ถ้ากาแฟเกิดไหม้อย่างฉุกเฉิน กินต่อไม่ได้ คุณเบญบอกว่าไม่ต้องกังวลไป ทำเซ็ตใหม่ได้เลยไม่คิดเงินเพิ่มสักบาทเดียว เพราะเธอมองว่าความผิดพลาดของลูกค้าจะช่วยสอนให้ลูกค้า ทำใหม่ได้ดีกว่าเดิมแน่นอน
03 ฝัดกาแฟบนกระด้ง เคี้ยวเพลินเป็นสแน็ค
เพิ่งรู้ก็วันนี้ว่าเมล็ดกาแฟมันเคี้ยวกินเล่นได้เหมือนขนมขบเคี้ยวเลย !
ก่อนจะไปถึงตอนเคี้ยวเพลินๆ คุณเบญสอนวิธีการฝัดกาแฟ ที่มีหลักการเหมือนการฝัดเมล็ดข้าวบนกระด้งสมัยก่อน เพียงจับกระด้ง 2 มือ และตวัดกาแฟไปด้านหน้าอย่างช้าๆ อย่าทำแรง เตือนแล้วนะ (เพราะเราทำหกไปไม่น้อย) ฝัดไปเรื่อยๆ จนกว่าเปลือกจะออกทั้งหมด และยังยืนยันคำเดิมว่าถ้าทำหกเยอะ โดยที่เธอยังไม่ทันได้ช่วยก็สามารถคั่วใหม่ได้เลย ไม่ต้องเครียด
เมื่อเปลือกออกหมดครบถ้วน ก็ถึงเวลาชวนชิมเมล็ดกาแฟกรุบกรอบ หอมขึ้นจมูก และรสชาติกินง่าย ขมไม่มาก มีหวังถ้าวางไว้ใกล้มือแบบขนมซอง แปปเดียวอาจหมดโดยไม่รู้ตัว โดยคุณเบญเสริมว่ากาแฟโรบัสต้าที่ร้านจะคั่วใหม่วันต่อวันทุกเช้า ทำให้รสชาติอร่อย ไร้กลิ่นหืนแน่นอน
04 บดกาแฟมือหมุนให้เหมือนเหลาดินสอไม้
ถ้าคุณเคยใช้เครื่องเหลาดินสอมือหมุนตอนเด็กๆ การบดกาแฟครั้งนี้จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะเครื่องบดกาแฟมือหมุนแบบโบราณของทางร้าน ใช้หลักการเดียวกันกับการเหลาดินสอ ที่มีลิ้นชักดึงเศษดินสอออก แต่ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นกาแฟที่บดละเอียดแล้วแทน
อันดับแรกตักเมล็ดกาแฟใส่เครื่องกาแฟมือหมุนให้เต็ม จากนั้นหมุนด้ามหมุนตามเข็มนาฬิกาให้สุดแรง ช่วงแรกอาจฝืดๆ หน่อย แต่หากหมุนช้า ปล่อยให้เมล็ดกาแฟเย็น จะทำให้เหนียวและหมุนยากกว่าเดิม ฉะนั้นต้องออกแรงติดสปีด หมุนให้เร็วเหมือนตอนรีบใช้ดินสอ ! เมื่อหมุนจนลื่น มองเข้าไปแล้วเห็นใบพัดด้านในให้ดึงออกมา จะพบกาแฟผงละเอียด พร้อมต้มร้อนๆ (ใกล้จะได้ดื่มแล้ว)
05 ต้มกาแฟสดด้วยแรงดันไอน้ำ
กาที่เราจะใช้ต้มกาแฟกันวันนี้คือกา Moka Pot หรือกาต้มกาแฟสดแบบแรงดันไอน้ำ ที่มีส่วนประกอบ 3 ชิ้น มีหลักการ 3 ขั้นตอน ได้แก่ ชิ้นแรกคือส่วนใส่น้ำ ให้เราเติมน้ำพอดีกับวาว ตรงกลางวาว ใต้วาว หรือจำง่ายๆ ว่าอย่าให้น้ำมิดวาวเป็นพอ ชิ้นต่อมาคือส่วนใส่กาแฟ ให้เราตักกาแฟที่บดมาแล้วลงไปให้เต็ม และกดมันให้แน่น เรียบ เพื่อไม่ให้ไอน้ำผ่านกาแฟได้ง่าย เหมาะกับรสชาติกาแฟเย็น แต่ถ้าต้องการกินกาแฟร้อนไม่ต้องกดให้เรียบ กาแฟจะออกมาไม่เข้มมาก ช่วยให้ดื่มง่ายสบาย และชิ้นสุดท้ายคือแท่นที่ใช้ประกอบทุกส่วนเข้าด้วยกัน หมุนมันให้แน่นเพื่อกันไอน้ำออก แล้วต้มไว้ประมาณ 2-3 นาที น้ำจากส่วนล่างจะเดือด และไอน้ำจะทำปฏิกิริยาดันกาแฟขึ้นมาข้างบนนั่นเอง
06 กาแฟโฮมเมดพร้อมเสิร์ฟ
หากกาแฟที่ใช้ต้มเมื่อครู่เหลือจากการบด ให้ทำขั้นตอนที่ผ่านมาทั้งหมดอีกครั้งด้วยเครื่อง Mini Express สุดเท่ ที่เหมาะกับกาแฟร้อนโดยเฉพาะ น้ำจะค่อยๆ เดือด และไหลลงบนแก้วเป๊กใส 2 ด้าน อย่างช้าๆ จะว่าไปเหมือนกำลังดูการทดลองวิทยาศาสตร์เหมือนกันนะเนี่ย
พอออกมาจนหมด ก็ถึงเวลาค่อยๆ ละเลียดลิ้มรสกาแฟแก้วเก่งฝีมือตัวเองที่ขมแต่กลับกินง่ายกว่าที่คิด และช่วยให้หายง่วงกว่าที่เคย โดยคุณเบญแนะนำว่าควรกินกาแฟขณะที่ยังร้อนอยู่ หากปล่อยไว้นานสีจะเปลี่ยนจากสีน้ำตาลเข้มจนถึงดำไปเป็นสีน้ำตาลแดง ซึ่งทำให้รสชาติเปลี่ยนอาจขมขึ้นจนไม่ถูกปากได้
ส่วนหากอยากกินกาแฟเย็น แค่บอกคุณเบญว่าอยากได้เมนูไหน จะเอสเพรสโซ่ มัคคิอาโต้ ลาเต้ คาปูชิโน หรือมอคค่า ก็สั่งได้หมด เพิ่มเพียง 20 บาทเท่านั้น หรือถ้าวันไหนคนไม่เยอะ คุณเบญก็เปิดโอกาสให้ลูกค้าที่อยากชงกาแฟเอง มาชงตามความชอบได้เลย จะหวานมาก หวานน้อย นมมาก นมน้อย ก็ไม่ว่ากัน
07 กาแฟแปลว่าอิสระ
ตลอดเวลา 5 ปี ที่คุณเบญเปิดร้านกาแฟคั่วมือมา มีทั้งลูกค้าคนไทยและต่างชาติไหลเวียนมาไม่ซ้ำหน้า สิ่งที่เธอได้รับคือความสนุกที่ได้สอนคั่วกาแฟคนแปลกหน้า บ้างก็คั่วจนไหม้ บ้างก็ฝัดเมล็ดกาแฟจนหกเกือบหมด บ้างก็พาครอบครัวมาทำกิจกรรมในวันหยุด หรือลงสนามลองผิดลองถูก ทำไม่เป็น จนหัวเราะออกมาดังๆ ไปพร้อมกับเธอ ซึ่งนั่นทำให้เธอคิดไปถึงการเติบโตของชีวิตที่กว่าจะทำมาได้ถึง 5 ปี เธอเริ่มจากคนที่คั่วกาแฟไม่เป็น แต่รักการกินกาแฟพอๆ กับงานศิลปะที่เธอเพนต์ (ปัจจุบันก็ยังทำอยู่ในวันธรรมดา) ทำผิดไม่รู้กี่ครั้งจนเพื่อนเบือนหน้าหนีเพราะกินไม่ได้ จนมาถึงวันที่ร้านของเธออยู่มาอย่างยาวนานคู่เกาะเกร็ดแห่งนี้ด้วยความตั้งใจที่มีมาเสมอว่า
“อยากให้เรื่องกาแฟไม่ใช่เรื่องยาก”
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 09.00-18.00 น.
การเดินทาง : ข้ามเรือจากท่าเรือวัดสนามเหนือไปลงท่าเรือวัดปรมัยยิกาวาส ฝั่งเกาะเกร็ด และเดินมาทางซ้ายมือเรื่อยๆ จนถึงหมู่ที่ 1 จะเจอร้านตั้งเด่นอยู่ไม่ไกล
ราคาคั่วกาแฟ : ชุดละ 200 บาท ต่อ 2-3 แก้ว