ไม่ให้เงินพ่อแม่ เราจะเป็นคนอกตัญญูไหม - Urban Creature

ถ้าไม่มีเงินให้พ่อแม่ เราจะกลายเป็นคนอกตัญญูไหม

เชื่อว่าประโยคข้างต้นเป็นคำถามที่ติดอยู่ในใจใครหลายคน โดยเฉพาะคนวัยเริ่มต้นทำงานในยุคที่ภาวะเศรษฐกิจซบเซา ค่าครองชีพสูงลิ่วสวนทางกับรายได้ที่เท่าเดิมหรือน้อยลง บางคนอาจจะเอาตัวรอดเลี้ยงดูตัวเองได้สบายๆ แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องรัดเข็มขัดให้แน่นหรือใช้ชีวิตเข้าเนื้อพอสมควร

ปัญหาของคนรุ่นใหม่หลายคนที่เริ่มทำงานได้ไม่นาน ไม่เพียงแค่จัดการเงินเลี้ยงดูตัวเองให้อยู่รอดในแต่ละวัน แต่ยังต้องแบ่งให้ครอบครัวส่วนหนึ่ง ด้วยค่านิยมที่ปลูกฝังกันมายาวนานว่า ‘ให้เงินพ่อแม่ = เด็กกตัญญู’ แม้ว่าถ้าให้เงินไปแล้ว พวกเขาอาจจะใช้ชีวิตลำบากมากกว่าเดิม แต่ถ้าไม่ให้ก็อาจจะโดนสังคมมองว่าเป็น ‘เด็กอกตัญญู’

แนวคิดดังกล่าวเริ่มทำให้เราตั้งคำถามในใจว่า หากเราไม่มีเงินมากพอที่จะให้พ่อแม่ใช้จ่ายอย่างสุขสบาย หรือเราไม่ให้เงินพวกท่านเพราะรู้สึกยังไม่พร้อมทางการเงิน ท้ายที่สุดแล้วเราจะกลายเป็นคนไม่ดีในสายตาคนรอบตัวหรือไม่ คอลัมน์ Curiocity ขอชวนไปหาคำตอบเหล่านี้พร้อมกัน

ไม่ให้เงินพ่อแม่ เราจะเป็นคนอกตัญญูไหม ลูกเป็นคนผิดหรือรัฐสวัสดิการไม่ครอบคลุม

กตัญญูกตเวทีคืออะไร

อ้างอิงจากวารสารมานุษยวิทยาศาสนา (Journal of Religious Anthropology : JORA) อธิบายความหมายของคำว่า ‘กตัญญูกตเวที’ คือ ผู้ที่รู้ระลึกคุณของผู้มีพระคุณและทำคุณประโยชน์ตอบแทน โดยความกตัญญูในสังคมไทยมักมีอยู่ 2 ลักษณะ ดังนี้

1) การทำความดีเพื่อหวังผลประโยชน์ คือการตอบแทนคนที่ช่วยเหลือเรา ซึ่งรูปแบบนี้เป็นการตั้งนิยามในสังคมไทยมาตั้งแต่อดีต สังเกตได้จากค่านิยมการมีลูกสมัยก่อนที่ว่า ‘มีลูกเพื่อให้พวกเขาเลี้ยงดูตอนแก่’

2) การทำความดีด้วยโดยไม่หวังผลตอบแทน ลักษณะนี้สอดคล้องกับคำว่า ‘บุพการี’ ในพุทธศาสนา แปลว่า ผู้ทำคุณประโยชน์แก่ผู้อื่นโดยไม่หวังผลประโยชน์ ซึ่งคนส่วนใหญ่มักมีภาพจำความกตัญญูกตเวทีกับรูปแบบแรกที่ต้องตอบแทนผู้ที่ช่วยเหลือเรา 

แน่นอนว่าการตอบแทนบุญคุณต่อผู้มีพระคุณเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ไม่ใช่การตีกรอบผูกมัดลูกว่าต้องตอบแทนด้วยเงินถึงจะเป็นคนดี ซึ่งความเป็นจริงการตอบแทนสามารถทำได้หลายวิธี เช่น แบ่งเบาภาระพ่อแม่ไม่ให้พวกท่านเหนื่อยใจ อย่างการช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ ในสิ่งที่เราทำได้ หรือการแสดงความรักต่อพวกท่าน ก็นับว่าเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีได้เช่นเดียวกัน

สวัสดิการผู้สูงอายุไทยดีไหม

จากประโยคสมัยก่อนอย่าง ‘มีลูกให้พวกเขาเลี้ยงดูตอนแก่’ หากมองอีกมุมก็น่าคิดต่อว่า ถ้าไม่มีลูก เราก็จะใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายลำบากใช่ไหม เพราะไม่มีใครเลี้ยงดูหรือพาไปรักษายามเจ็บไข้ ซึ่งสิ่งนี้เป็นหน้าที่ของ ‘สวัสดิการผู้สูงอายุ’ ที่ต้องจัดสรรบริการและเงินบำนาญที่ครอบคลุมการใช้ชีวิตในระยะยาว

หากดูสวัสดิการผู้สูงอายุไทยที่สำคัญคือ เบี้ยยังชีพตั้งแต่ 600 – 1,000 บาท/คน/เดือน หรือผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาด้านอาหารและเครื่องนุ่งห่มสามารถขอรับเงินช่วยเหลือไม่เกิน 3,000 บาท/คน ซึ่งขอปีละไม่เกิน 3 ครั้ง รวมถึงสิทธิด้านการแพทย์ สามารถเข้ารับบริการดูแลสุขภาพต่างๆ ผ่านช่องทางใกล้บ้าน เช่น คลินิก หรือศูนย์บริการสาธารณสุข

ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยทำวิจัยว่า ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่ายประมาณ 4,000 – 6,000 บาท/คน/เดือน เมื่อเทียบกับเบี้ยยังชีพที่ได้รับก็นับว่าไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตในทุกวัน 

รวมถึงปัญหาผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีเงินออมไม่พอใช้หลังเกษียณ และยังต้องพึ่งพาเงินบุตรเป็นสัดส่วนมาก ประเด็นเหล่านี้สะท้อนถึงคุณภาพของรัฐสวัสดิการไทยยังไม่มั่นคงพอที่คนจะฝากผีฝากไข้การใช้ชีวิตในระยะยาวได้มากเท่าไหร่นัก 

สวัสดิการต่างประเทศเหมือนบ้านเราไหม

อีกหนึ่งคำถามคาใจเวลาดูหนังต่างประเทศแถบยุโรป ทำไมพวกเขาไม่ค่อยพูดถึงการให้เงินพ่อแม่บ้างเลย ซึ่งก็ย้อนกลับไปที่รัฐสวัสดิการในบ้านเขา ที่จัดสรรสวัสดิการต่างๆ ครอบคลุมในระยะยาว จนลูกหลานไม่ต้องกังวลใจเรื่องผู้สูงอายุ

เช่น ประเทศสวีเดนที่ให้เงินบำนาญเฉลี่ย 45,000 บาท/เดือน/คน รัฐบาลจัดหาที่อยู่อาศัยและคนดูแลให้หากผู้สูงอายุอยู่คนเดียว รวมถึงครอบครัวไหนต้องดูแลคนชราที่บ้านก็มีเงินช่วยเหลือให้ทันที

ประเทศเนเธอร์แลนด์ได้รับบำนาญเริ่มต้นประมาณ 25,000 บาท/คน/เดือน มีพยาบาลดูแลส่วนบุคคลและคนดูแลบ้านให้หากผู้สูงอายุไม่สามารถดูแลตนเอง รวมถึงมีบริการทางจิตวิทยาให้คำปรึกษาและคำแนะนำผู้สูงอายุอีกด้วย

สำหรับบ้านเราต้องยอมรับว่า รัฐสวัสดิการในผู้สูงอายุยังไม่ครอบคลุมการใช้ชีวิตระยะยาว ทั้งเบี้ยเลี้ยงที่ไม่พอกิน การเดินทางเข้าถึงการบริการต่างๆ ยังยากลำบาก และข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีที่เข้าถึงไม่ได้ทุกคน จึงไม่แปลกใจที่ผู้ใหญ่จะฝากความหวังให้ลูกหลานช่วยเลี้ยงดูยามชรามากกว่าการพึ่งพารัฐสวัสดิการที่ไม่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต รวมทั้งยังสร้างความกดดันให้คนรุ่นหลังแบบไม่รู้ตัว หากไม่มีเงินให้พ่อแม่เหมือนคนอื่นก็อาจจะกลายเป็นคนไม่ดีในสังคมไปโดยปริยาย

Sources :
Alljit | shorturl.asia/vnUtM
InfoPortal | shorturl.asia/AXLxS
The Matter | shorturl.asia/3xM4Q
กรมกิจการผู้สูงอายุ | shorturl.asia/Xe7No
กรุงเทพธุรกิจ | shorturl.asia/SqOC4
ประชาไท | shorturl.asia/ptTM4
สำนักงานราชบัณฑิตยสภา | shorturl.asia/GhHmo
อัครวัฒน์ ศุภเลิศวรานนท์ | บทความแก่ไปไม่จน จากกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร กองยุทธศาสตร์และแผนงาน

Writer

Graphic Designer

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.