‘อารีย์’ ที่รักสุขใจทุกครั้งที่มาเยี่ยมเยือน ด้วยบรรยากาศของย่านที่มีเสน่ห์ เต็มไปด้วยตึกสูงสลับกับตึกแถวเรียงราย ชวนให้เราเดินเข้าไปในซอยเล็กๆ ก็จะพบกับคาเฟ่ ร้านอาหาร ไปจนถึงไลฟ์สไตล์ช็อปสุดชิค หลบซ่อนอยู่ใต้เงาอาคารสูง หากให้นิยามว่าเสน่ห์ของอารีย์คืออะไร ก็คงนึกถึงความหลากหลายที่ผสมผสานอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นแหล่งออฟฟิศคนรุ่นใหม่ ร้านอาหารหลายรูปแบบ หรือจะเป็นคาเฟ่นั่งชิลล์ กินของหวานเสร็จจะไปเดินช้อปปิ้ง ทำเวิร์คช็อปค้นหางานอดิเรกใหม่ๆ ก็เพลิดเพลินได้ทั้งวัน
‘Running down the Avenue
See how the sun shines brightly
In the city, on the streets where once was pity
Mr. Blue Sky is living here today, hey !’
สวัสดีคุณก้อนเมฆโผล่มาทักทายกับเช้าสีฟ้าที่สดใส เป็นสัญญาณที่ดีในการออกเดินทาง พร้อมกับรถยนต์คู่ใจ ‘New Honda Civic’ ที่จะพาพวกเราไปออกทริปตามล่าร้านสีฟ้าย่านอารีย์ บิ้วอารมณ์กันสักหน่อย กดปุ่มเปิดเพลงบนพวงมาลัย ปรับเสียงให้ดัง เอ็นจอยไปกับเพลง ‘Mr. Blue Sky’ ของวงดนตรี Electric Light Orchestra ให้เข้ากับบรรยากาศทริปสนุกๆ ในวันนี้สักหน่อย
Light Blue | ร้านดอกไม้สุดสวยในโทนสีฟ้าสดใส ‘Flower in hand by P.’
เริ่มต้นร้านแรกที่ซ่อนอยู่ในซอยอารีย์ 2 เราขอพาทุกคนไปหลงใหลในดินแดนดอกไม้โทนสีพาสเทล ‘Flower in hand by P.’ ร้านดอกไม้ที่มีทั้งคาเฟ่ของหวาน และพื้นที่ทำเวิร์คช็อปจัดดอกไม้อบอุ่นเป็นกันเอง ในบรรยากาศที่ใครได้ไปสัมผัสต้องตกหลุมรักสีสันของดอกไม้นานาพันธุ์
นอกจากจะเดินทางมาโดยรถไฟฟ้าลงสถานีอารีย์ ใครขับรถมาก็ง่ายสามารถใช้เส้นสุขุมวิท เข้าซอยพหลโยธิน 7 วันนี้เราพาเจ้ารถสีน้ำเงินเข้มคู่ซี้มาด้วย ‘New Honda Civic’ กับสีที่เป็นเอกลักษณ์ ‘บริลเลียนท์ สปอร์ตตี้’ ที่มีความยูนีคสะดุดตา พร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยว จอดรถไปแวะเที่ยวถ่ายรูปกับร้านก็เก๋ชิคไม่ซ้ำใคร
“จุดเริ่มต้นของร้านดอกไม้ มาจาก ‘ความชอบ’ ถ้าอยากทำก็ทำเลย ไม่งั้นความสงสัยก็จะติดอยู่ในใจเสมอ ถ้าเรารู้จักตัวเอง เริ่มจากสิ่งที่ชอบ ศึกษาไปเรื่อยๆ สักวันหนึ่งเราจะค้นพบสไตล์ของตัวเอง”
ย้อนกลับไปตอนที่คุณแพร เจ้าของร้านดอกไม้แห่งนี้ กำลังเรียนต่อปริญญาโทเกี่ยวกับแพทย์ วันหนึ่งมีน้องมาชวนไปแถวปากคลองตลาด และมีโอกาสได้ไปเดินเล่นบ่อยๆ จนหลงรักดอกไม้โดยไม่รู้ตัว หลังจากนั้นจึงได้เรียนรู้การจัดช่อดอกไม้ และทำธุรกิจเล็กๆ ของตัวเองมาหลายปี จนรู้สึกว่าอยากเปิดเป็นร้านดอกไม้ ‘Flower in hand by P.’ ขึ้นมาในย่านอารีย์
ความมุ่งมั่นในการเปิดร้านนี้ คืออยากช่วยเหลือและส่งเสริมเกษตรกรไทย เนื่องจากคุณแพรเป็นคนเชียงใหม่ที่โตมากับสวน และดอกไม้ที่ปลูกในไทยก็สวยงามไม่แพ้ต่างประเทศใดเลย ที่สำคัญยังราคาถูกและคุณภาพดีอีกด้วย อย่างดอกทิวลิปที่มาจากจังหวัดระยอง หรือดอกไลเซนทัส ของจังหวัดเชียงใหม่ คุณแพรบอกกับเราว่า มันทำให้เธอรู้สึกอิ่มใจมากกว่าเงินที่ได้มาเสียอีก ความสุขในการเปิดร้านนี้ คือรอยยิ้มของลูกค้าที่ชื่นชอบในดอกไม้ที่เธอจัดนั่นเอง
นอกจากการตกแต่งร้านจะเต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้ใบไม้ อบอุ่นไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ แถมยังมีโปสการ์ดฝีมือการวาดจากศิลปิน ‘Monsty Planet’ ที่แจกให้กับลูกค้า ส่วนที่เป็นไฮไลต์ก็ต้องเหล่าของหวานและเครื่องดื่มที่ตกแต่งด้วยกลีบดอกไม้นานาชนิด อย่างขนมเค้กสุดน่ารัก ‘Rare Cheesecake’ กับ ‘Mini Lemon Cake’ ชิ้นจิ๋ว ต่อด้วย ‘คุ้กกี้’ หน้าดอกไม้ พร้อมจิบน้ำชากุหลาบหอมๆ ‘Dream of Roses’ หรือจะเป็น ‘Lavender Lemonade’ ที่ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น ซึ่งในส่วนคาเฟ่เปิดเวลา 11.00 – 17.00 น. และปิดทุกวันพุธ
หากใครสนใจอยากทำเวิร์คช้อปจัดดอกไม้ ทางร้านก็มีทั้งคอร์สสอนแบบส่วนตัว ซึ่งจะจัดขึ้นประมาณ 2 ครั้ง/เดือน และคอร์สป๊อบอัพเวิร์คช้อป ที่เปิดทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ ในราคาไม่แพง ให้ทุกคนมาสนุกได้ทุกเพศทุกวัย แม้จะไม่มีพื้นฐานมาก่อน ซึ่งทางร้านเปิดเวลา 9.00 – 17.00 น. ปิดทุกวันพุธ หรือเข้าไปดูรายละเอียดคอร์สเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/flowerinhandbyp/
Summer Blue | ช้อปปิ้งไอเท็มเด็ด สายแฟชันต้องเข้าร้าน ‘Gloc’
เขยิบมาอีกสักนิดในซอยอารีย์ 2 ไม่ไกลกันนัก สายแฟชันต้องเลี้ยวเข้าร้านเสื้อผ้าสุดฮิป ‘Gloc’ มัลติแบรนด์ที่รวบรวมผลงานจากดีไซเนอร์ไทย ตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋า ไปจนถึงของแต่งบ้านมีสไตล์ ที่ไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มไหน ก็มาช้อปปิ้งได้ที่ร้านนี้ ภายในร้านตกแต่งในโทนสีคัลเลอร์ฟูล หากใครได้เข้าไปต้องมีเผลอซื้อไอเท็มสักชิ้นกลับบ้านแน่ๆ
ร้าน ‘Gloc’ เริ่มต้นมาจาก ‘ความสนุก’ ของคุณปั๊บและเพื่อนอีกสามคนที่เป็นเจ้าของร้านร่วมกัน ความตั้งใจที่เปิดร้านนี้คือการลงมือทำในสิ่งที่ชอบ ถ้าให้นิยามว่า ‘Gloc’ คือสไตล์เสื้อผ้าแบบไหน คงเป็น ‘สไตล์แคชชวล’ เพราะอยากให้ทุกคนเข้าถึงง่าย ใครๆ ก็สามารถสวมใส่ได้ ซึ่งเทรนด์ตอนนี้ไม่ได้ยึดติดกับยูนิฟอร์มอีกต่อไปแล้ว เราสามารถแต่งตัวในสไตล์ของตัวเอง
ร้านนี้เป็นพื้นที่ที่เปิดให้ดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ได้มาโชว์ผลงานเจ๋งๆ ส่วนใหญ่จึงเป็นแบรนด์ที่คนอาจไม่ค่อยรู้จักกัน โดยเฉพาะแบรนด์ที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ คุณปั๊บบอกว่ามันเป็นความสุขในใจที่ได้สนับสนุนผลงานคนไทยด้วยกัน และดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งที่ให้คนไทยได้รู้จักดีไซเนอร์เก่งๆ เยอะขึ้น ใครเป็นสายช้อปแฟชันนิสต้าต้องแวะมาร้านนี้บ่อยๆ แล้วล่ะ เปิดทุกวัน เวลา 11.00 – 21.00 น. หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/glocbangkok/
Indigo Blue | โลกของคนรักจักรยาน ได้ลองปั่นจะติดใจ ‘Tokyobike’
เดินไปสามก้าวแล้วเลี้ยวเข้าร้าน ‘Tokyobike’ แบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นที่เปิดในไทยมากว่า 5 ปี เรียกได้ว่าคนรักจักรยานต้องถูกใจกับสิ่งนี้ เพราะเป็นร้านที่มีครบทุกอย่างของวงการนักปั่น ไม่ว่าจะเป็นจักรยาน อุปกรณ์เสริม หรือแอสเซสเซอรี่ตกแต่งจักรยาน มาพร้อมกับดีไซน์เรียบง่ายสไตล์วินเทจที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับคนเมือง สามารถปั่นได้ตั้งแต่รุ่นเด็กๆ ไปจนถึงผู้ใหญ่
แบรนด์ Tokyobike คือจักรยานที่เน้นการปั่นเล่นในเมือง จะขี่ไปทำงาน หรือไปปั่นเล่นชิลล์ๆ ก็เท่มีสไตล์ ซึ่งต่างจากจักรยานเสือภูเขาและเสือหมอบที่จะเหมาะกับการปั่นลุยๆ นอกจากดีไซน์ที่มีความคราฟต์ ยังใส่ใจในความปลอดภัยของผู้ขี่ ด้วยรูปทรงของจักรยาน ที่มีช่วงไม่ยาวและสั้นจนเกินไป สามารถวิ่งซอกแซกบนถนนได้อย่างไร้กังวล
พี่น็อต ช่างประจำร้านสุดเท่ได้บอกกับเราว่า จักรยานของร้านมีทั้งหมด 3 แบบคือ รุ่น ‘Tokyobike 26’ เหมาะสำหรับผู้ชายและ ‘Bisou’ ที่เหมาะกับผู้หญิง ทั้งสองรุ่นเป็นสไตล์คลาสสิก น้ำหนักเบา เหมาะกับการปั่นในชีวิตประจำวัน หรืออกกำลังกาย แต่ถ้าเป็นคนชอบความคล่องแคล่วสายลุยต้องเป็นรุ่น ‘Sport 9s’ ที่ต่างกันที่รูปลักษณ์ดูสปอร์ตทันสมัย และแฮนด์มือจับที่ทำให้ทรงตัวในการขับขี่ ปราดเปรียวรวดเร็ว
สิ่งที่พี่น็อตยึดอาชีพช่างจักรยานจนถึงทุกวันนี้ คือ ‘ความสุข’ ที่เกิดจากการได้พัฒนาจักรยานไปเรื่อยๆ มันไม่มีอะไรได้มาอย่างง่ายดาย ต้องลองผิดลองถูกอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ตอบโจทย์สิ่งที่ลูกค้าต้องการ มันเป็นการท้าทายตัวเองไปเรื่อยๆ และได้ทำงานในสิ่งที่รัก พี่น็อตยังบอกเทคนิคการรักษาจักรยานที่ดีคือ ‘เติมลมยางทุกอาทิตย์ และหมั่นพาออกไปปั่นบ้าง 2 – 3 ครั้งต่ออาทิตย์’ นอกจากนี้ภายในร้าน Tokyobike ยังมีขายแอสเซสเซอรี่ ขวดน้ำ รองเท้า หรือกระเป๋าสำหรับตกแต่งจักรยาน ใครอยากมาทดลองปั่นจักรยานสุดชิคก็เข้ามาที่ร้านได้เลย เปิดทุกวัน 11.00 – 19.00 น. หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.tokyobike.co.th/models/sport
เตรียมไปปักหมุดที่อื่นกันต่อ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทาง เพราะเรามีตัวช่วยที่ดีอย่างรถ ‘New Honda Civic’ ขับขี่ปลอดภัยด้วย Honda SENSING เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะจากฮอนด้า อย่างระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็ว (ACC with LSF) เมื่อขับรถบนท้องถนน ระบบจะปรับความเร็วอัตโนมัติ โดยมีกล้องและเรดาร์ตรวจจับรถคันหน้า เพื่อรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้าอย่างเหมาะสม
ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS) ที่ช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็วของรถเมื่อมีรถคันข้างหน้า รถสวนทาง หรือคนเดินถนนอยู่ในระยะที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งหากผู้ขับขี่ยังไม่ตอบสนองหรือในกรณีที่อยู่ในระยะที่เสี่ยงต่อการชน ระบบจะช่วยเสริมแรงเบรกให้อัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนหรือลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKAS) และระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (RDM with LDW) ที่จะช่วยแจ้งเตือน รวมถึงช่วยควบคุมรถในสถานการณ์การขับขี่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ขับขี่และเพื่อนร่วมทางบนท้องถนนอย่างแท้จริง
แถมใน ‘New Honda Civic’ ยังมีกล้องอัจฉริยะ ‘Honda LaneWatch’ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ที่ช่วยลดจุดบอดในการมองเห็นของกระจกมองข้างด้านซ้าย โดยใช้กล้องจับภาพและแสดงผลผ่านหน้าจอขนาด 7 นิ้ว ช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการขับรถ
Marine Blue | คาเฟ่คอกาแฟ กินดื่มสุดชิลล์ที่ร้าน ‘before thirtieth café’
หากจะหาร้านกาแฟรสชาติดี นั่งทำงานชิลล์ๆ ย่านอารีย์ เราชวนให้มาลองนั่งร้าน ‘before thirtieth café’ บนซอยพโหลโยธิน 11 กับโทนบรรยากาศสีน้ำเงินเข้มสบายตา สิ่งที่ทำให้ร้านนี้เกิดขึ้นมาจากคุณตั๋ง เพื่อนและรุ่นน้องรวมกัน 5 คนซึ่งรู้จักกันสมัยมหาวิทยาลัย ด้วยความฝันที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง และความชอบที่คล้ายกันจึงเกิดเป็นร้านกาแฟนี้ขึ้นมา
“การทำร้านกาแฟถึงจะเหนื่อยแต่ก็มีความสุข จะทำยังไงให้ลูกค้าแฮปปี้ในเวลาที่สั้นที่สุด” คำพูดของคุณตั๋งเมื่อถามถึงความรู้สึกในการเปิดร้านนี้ เวลาลูกค้านั่งทานเครื่องดื่มและเอ็นจอยในร้าน มันช่วยให้หายเหนื่อยและมีแรงทำไปโดยไม่ได้คาดหวังกำไร หากให้นิยามว่าร้าน before thirtieth café เหมือนกาแฟประเภทใด แน่นอนว่าต้องเป็น ‘Caramel Macchiato’ ที่มีความนุ่มนวล อ่อนโยนเมื่อได้สัมผัส และจะต้องหลงเสน่ห์ในความเรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดานี้
ไฮไลท์ของทางร้าน คือเมนูอาหารแสนพิถีพิถันมาจากวัตถุดิบชั้นดี อย่างกาแฟสกัดเย็น ‘Cold Brew Laos Bolaven’ โดยใช้เมล็ดกาแฟจากประเทศลาว บนเทือกเขา Bolaven หอมกลิ่นช็อคโกแลตและถั่วเป็นหลัก ต่อด้วย ‘Hot Latte’ จากเมล็ดกาแฟคั่วเอธิโอเปีย ซึ่งมีจุดเด่นคือรสเปรี้ยวนำ ผสมกับกาแฟไทยสองชนิดจากน่านและดอยช้างมาตัดกันอย่างลงตัว หรือจะลองม็อกเทล ‘Pinoffee Martini’ กาแฟผสมกับน้ำสับปะรสและน้ำไซรัปที่ทางร้านทำขึ้นมาเอง ตบท้ายด้วยค็อกเทล ‘Gentleman’ เป็นเหล้าผสมกาแฟจาก Jameson เสิร์ฟคู่กับ Kahlua ผสมกันในแก้วมาร์ตินี่ค็อกเทล
นอกจากนี้ทางร้านยังมีอาหารโฮมเมด มีเมนูแนะนำอย่าง ‘Pangasius with Mango Salsa’ ปลาแพนกาเซียที่เซียกับเนยสด เสิร์ฟคู่กับซอสซอลซ่าจากมะม่วงน้ำดอกไม้ หรือ ‘Stir – Fried Spaghetti with Fried Chili and Crispy Bacon’ สปาเก็ตตี้เบคอนที่สามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ ซึ่งอาหารโฮมเมดจะมีเฉพาะวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์เท่านั้น นอกจากนี้ยังมี Slow Bar ที่ทำคราฟท์กาแฟสดๆ เพิ่มความสุนทรีย์ในการกินอาหารอีกด้วย ใครอยากลิ้มลองความอร่อยแบบนี้ต้องไม่พลาดแวะมาร้าน before thirtieth café’ เปิดทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 9.00 – 19.00 น. และวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 10.00 – 21.00 น. หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.facebook.com/beforethirtieth.cafe/
Midnight Blue | คมบังวะ เชิญม่วนกับร้านอาหารฟิวชัน อีสาน – ญี่ปุ่นที่ “ร้านเข่ง”
มาถึงลายแทงสุดท้ายกับร้านอาหารสีน้ำเงิน บ้านหลังน้อยท่ามกลางสวนสุดร่มรื่นที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยประดิพัทธิ์ 14 จุดเด่นของร้านนี้ต้องยกให้อาหารสไตล์ฟิวชันที่ผสนผสานระหว่างสองเชื้อชาติ ‘อีสาน – ญี่ปุ่น’ บวกกับบรรยากาศที่เงียบสงบใจกลางเมือง การได้มาเติมพลังด้วยอาหารดีๆ ในร้านสวยๆ คงจะช่วยรีเฟรชความสดชื่นได้เต็มเปี่ยม
ใครมาร้านเข่งกับแก๊งเพื่อนหรือครอบครัวก็สามารถขับรถมาได้สะดวก เพราะมีพื้นที่จอดรถหน้าร้าน การดีไซน์ที่ทันสมัยของรถ ‘New Honda Civic’ ที่มีไฟหน้าดีไซน์สปอร์ต โชว์แสงส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในตอนกลางวันแบบ LED Daytime Running Light พร้อมกันชนหน้าและกระชังหน้าดีไซน์โฉบเฉี่ยว มั่นใจได้ว่าขับขี่ไปไหนก็ดูเท่ไม่มีเอาท์
ที่มาของชื่อร้าน ‘เข่ง’ มาจากชื่อของเจ้าของร้าน ‘พี่ขนมเข่ง’ หนุ่มสถาปัตย์ผู้มีแพซชันในการทำอาหาร หลังจากไปเรียนและลองทำธุรกิจกับเพื่อนจนพอมีประสบการณ์ จึงได้เปิดร้าน ‘เข่ง’ ของตัวเองขึ้นมา โดยเสน่ห์ของร้านนี้นอกจากการตกแต่งสีน้ำเงินที่สะดุดตา กลมกลืนไปกับสวนสีเขียวหน้าบ้าน ที่ขาดไม่ได้เลยคือเมนูอาหารที่ผสมผสานระหว่างสองเชื้อชาติ จากความชื่นชอบในวัฒนธรรมการกินอาหารอีสาน และอาหารญี่ปุ่นที่มีความคล้ายคลึงกันในการกินเลี้ยงกับเพื่อนฝูง อย่างเวลาดื่มก็ต้องมาคู่กับแกล้ม หรือแชร์อาหารกินด้วยกัน จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจของร้านนี้ขึ้นมา ความสุขของพี่เข่งคือรู้สึกดีใจเมื่อเห็นลูกค้ากลับมาที่ร้านอีกครั้ง หรือชื่นชอบในอาหารสไตล์ฟิวชันแบบนี้
ไปเยือนร้านนี้ต้องไม่พลาด ‘ตำถาด’ เป็นความลงตัวของอาหารอีสาน-ญี่ปุ่น จุดเด่นคือส้มตำ โดยมีเครื่องเคียงรอบข้างสไตล์ญี่ปุ่น อย่างแซลมอนสด ไก่คาราเกะ หรือวาซาบิ ให้ลูกค้าได้ลิ้มลองรสชาติใหม่ๆ ส่วน ‘กุ้งเทมปุระอัญชัญ’ เป็นเมนูที่ใครมาก็ต้องสั่ง เพราะเป็นซิกเนเจอร์ของร้านที่ใช้น้ำดอกอัญชัญมาผสมแป้งเป็นสีน้ำเงินแปลกตา หรือจะเป็นแซลมอนเทมปุระ ที่มีความพิเศษในรสชาติ ด้วยซอสต้มยำแบบไทย ตบท้ายด้วยซี่โครงหมูบาร์บีคิว อาหารฝรั่งลูกครึ่งอีสานด้วยส่วนผสมของข้าวคั่วพริกป่น ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วเข้ากันดี พร้อมจิบเซ็ตน้ำอัญชัญเพิ่มความสดชื่น
มาลิ้มลองความอร่อยม่วนใจที่ร้านเข่ง เปิดทุกวัน โดยวันจันทร์ – พฤหัสบดีและวันอาทิตย์ เปิด 11.00 – 22.00 น. และวันศุกร์ – เสาร์ เปิด 11.00 – 00.00 น. หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.facebook.com/raankeng/
กินอาหารกันจนหนำใจแล้วก็ถึงเวลาต้องเดินทางกลับบ้าน เพียงแค่กดรีโมทรถ ‘New Honda Civic’ ค้างไว้สักพัก รถก็จะถูกสตาร์ทพร้อมเปิดเครื่องปรับอากาศพร้อมให้เข้าไปนั่งตากแอร์ในรถได้สบาย หรือจะเดินเข้าไปกดปุ่มตรงที่จับประตูโดยมีรีโมตอยู่ใกล้ตัวรถ เราก็สามารถเปิดรถได้ง่ายๆ เช่นกัน ทำให้สะดวกรวดเร็วในการใช้งานสำหรับคนรุ่นใหม่ หรือมีสัมภาระในมือก็ไม่ต้องเสียเวลาไขกุญแจให้ยุ่งยาก
ระหว่างจอดรถเข้าซองได้สะดวก เพราะ ‘New Honda Civic’ มีกล้องส่องภาพด้านหลัง ‘Multi-angle Rearview Camera’ สามารถปรับมุมมองได้ 3 ระดับเพื่อการมองเห็นได้ทั่วถึงและชัดเจน ทั้งแบบ 130 องศา, 180 องศา และมุมมองจากด้านบน
นอกจากนี้ New Honda Civic ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่ด้วย ‘Electric Parking Brake’ ระบบเบรกมือไฟฟ้า ใช้งานง่ายเพียงใช้นิ้วดึงสวิตซ์ที่อยู่บนคอนโซลกลางเมื่อต้องการใช้เบรกมือ และระบบจะคลายเบรกอัตโนมัติเมื่อเหยียบคันเร่ง
ขับรถยนต์อย่างมั่นใจ ปลอดภัยในการเดินทาง ‘New Honda Civic’
หากคุณต้องขับรถยนต์ในเมืองอยู่เป็นประจำ และต้องการความปอดภัยในการเดินทาง ‘New Honda Civic’ ตอบโจทย์สำหรับคนทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดขับ, คนทำงาน หรือชอบเท่ความโฉบเฉี่ยวแบบสปอร์ต ด้วยสีบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ โดดเด่นไม่ซ้ำใคร
จุดเด่นของรถสีน้ำเงินสุดเท่คันนี้ คือนวัตกรรมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะจาก Honda ที่เข้าใจการใช้งานของผู้ใช้ถ่ายทอดออกมาสู่รถยนต์ New Honda Civic ด้วยระบบ ‘Honda SENSING’ ปลอดภัยสำหรับทั้งผู้ขับรถและคนบนถนนด้วยเช่นกัน ทำให้มั่นใจในการเดินทางไปไหนมาไหนสะดวก จะลุยในเมืองหรือออกต่างจังหวัดก็เอาอยู่ และที่สำคัญ ยังคำนึงถึงการประหยัดพลังงานเผื่อในสถานการณ์คับขัน ฟังก์ชันที่เข้าใจผู้ใช้งาน รอให้ทุกคนได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง
Content Writer : Jarujan L.
Graphic Designer : Jirayu P.
Photographer : Napat P.
Writer
