การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ถูกยืนยันครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 2019 ซึ่งนับแต่วันนั้นเป็นต้นมาชีวิตของทุกคนก็ตกอยู่ในความหวาดหวั่นโดยสมบูรณ์
แต่ในที่สุดการรอคอยก็สิ้นสุดลง เมื่อมีหลายบริษัทออกมาประกาศว่าพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้สำเร็จ ทำให้แต่ละประเทศต่างยื้อแย่งและรีบอนุมัติจัดซื้อวัคซีนจากบริษัทต่างๆ อย่างไม่รอช้า ดังนั้น มาดูกันว่า 10 อันดับประเทศที่ประชาชนได้รับวัคซีนมากที่สุดในโลกมีประเทศอะไรบ้าง (เทียบกับสัดส่วนการฉีดวัคซีนสะสมต่อ 100 คน)
อันดับ 1 ประเทศอิสราเอล
31.1 คน/ประชากร 100 คน
‘อิสราเอล’ เป็นประเทศอยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง มีประชากรทั้งหมด 8.88 ล้านคน ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 5.52 แสนคน ถึงแม้จะอนุมัติใช้วัคซีน Pfizer/BioNTech หลังสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าอิสราเอลฉีดวัคซีนให้ประชาชนของตัวเองได้มากที่สุดในโลก เฉลี่ย 150,000 คนต่อวัน แซงหน้าทุกประเทศทั่วโลกไปเรียบร้อย
อันดับ 2 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
20.9 คน/ประชากร 100 คน
ปัจจุบัน ‘สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์’ มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 2.53 แสนคน จากประชากรทั้งหมด 9.63 ล้านคน โดยเป็นประเทศแรกที่อนุมัติการใช้งานวัคซีนของ Sinopharm ที่ผลิตจากบริษัทยาของประเทศจีน และเพื่อให้ครอบคลุมประชากรทั้งประเทศ คณะกรรมการสูงสุดด้านการบริหารจัดการวิกฤตการณ์และภัยพิบัติเมืองดูไบ จึงสั่งซื้อวัคซีนจาก Pfizer/BioNTech เพิ่มเติมเข้ามาอีก โดยคาดการณ์ว่าจะฉีดได้ครบทั้งประเทศภายในสิ้นปีนี้
อันดับ 3 บาห์เรน
8.4 คน/ประชากร 100 คน
สำหรับ ‘บาห์เรน’ ประเทศในอ่าวเปอร์เซียที่มีประชากรเพียง 1.57 ล้าน แต่มีผู้ติดเชื้อเกือบ 1 แสนคน ทำให้บาห์เรนอนุมัติใช้วัคซีนโควิด-19 ของ Pfizer/BioNTech เป็นกรณีฉุกเฉินซึ่งนับเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากอังกฤษ อีกทั้งยังได้เข้าร่วมการทดลองคลินิกระยะที่ 3 ของ Sinopharm บริษัทผู้ผลิตยาที่ทางการจีนเป็นเจ้าของ เพื่อทดสอบประสิทธิภาพในการป้องกัน ก่อนวัคซีนนี้จะถูกแจกจ่ายให้กับประชาชนหลายแสนคนในเวลาต่อมา
อันดับ 4 เซเชลส์
7.1 คน/ประชากร 100 คน
‘เซเชลส์’ เป็นประเทศที่เป็นกลุ่มเกาะในมหาสมุทรอินเดีย มีประชากรทั้งหมดราวๆ 9.6 หมื่นคน โดยในนั้นมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวมอยู่ 746 คน แม้ดูเป็นตัวเลขไม่มากแต่รัฐบาลเซเชลส์ก็ได้ดำเนินการเพื่อหาทางป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสหลากหลายวิธี หนึ่งในนั้นคือการอนุมัติสั่งซื้อวัคซีนที่ผลิตโดย Sinopharm จากจีนอย่างไม่รอช้า ซึ่งการฉีดวัคซีนในครั้งนี้เริ่มขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา โดยประธานาธิบดีวาเวล รามกาลาวัน ของเซเชลส์เป็นคนแรกที่ได้รับวัคซีน
อันดับ 5 สหราชอาณาจักร
7.0 คน/ประชากร 100 คน
‘สหราชอาณาจักร’ ถือเป็นประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 สูงที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรในประเทศ โดยมีจำนวนผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 935 รายต่อวันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมเกือบ 3 ล้านคน จากประชากรทั้งหมดราว 55.9 ล้านคน ทำให้อังกฤษต้องเร่งอนุมัติวัคซีน 40 ล้านโดส เพื่อใช้กับประชาชน 20 ล้านคน จาก Pfizer/BioNTech และอังกฤษยังได้อนุมัติวัคซีนตัวที่ 2 จาก Oxford/AstraZeneca เป็นกรณีฉุกเฉิน หลังจากพิจารณาแล้วว่ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคตามมาตรฐานที่กำหนด โดยรัฐบาลอังกฤษวางแผนจะฉีดวัคซีนโดสแรกแก่ผู้สูงอายุทุกคนภายในเดือนกันยายนนี้
อันดับ 6 สหรัฐอเมริกา
3.7 คน/ประชากร 100 คน
‘สหรัฐอเมริกา’ ถือเป็นชาติที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 หนักหน่วงที่สุดในโลก โดยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมสูงถึง 24.12 ล้านคน จากประชากรทั้งหมดราว 328.2 ล้านคน ด้วยวิกฤตที่เกิดขึ้นทำให้สหรัฐฯ ทุ่มเงินกว่า 3 แสนล้านบาท จองวัคซีนกว่า 700 ล้านโดส และได้เริ่มฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna ให้ประชาชนครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2020 ทั้งยังตั้งเป้าไว้ว่าภายในปีนี้จะต้องฉีดให้ได้อย่างน้อย 200 ล้านคน
อันดับ 7 เดนมาร์ก
3.1 คน/ประชากร 100 คน
หลังจากเมื่อเดือนพฤศจิกายน ‘เดนมาร์ก’ ประกาศสั่งกำจัด ‘มิงก์’ 17 ล้านตัว เนื่องจากพบการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 และในเดือนถัดมาก็มีการสั่งล็อกดาวน์ประเทศหลังพบผู้ติดเชื้อสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งทำให้ปัจจุบันเดนมาร์กมียอดผู้ติดเชื้อรวมราวๆ 1.9 แสนคน จากประชากรทั้งหมดราว 5.806 ล้านคน ด้วยสถานการณ์ฉุกเฉินสหภาพยุโรป (EU) ที่เดนมาร์กเป็นสมาชิกอยู่จึงเร่งการอนุมัติวัคซีนจาก Pfizer/BioNTech ทำให้เริ่มฉีดครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา ก่อนที่ EU จะอนุมัติวัคซีนจาก Moderna เข้ามาเสริมทัพ
อันดับ 8 มอลตา
2.6 คน/ประชากร 100 คน
‘มอลตา’ ประเทศในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แม้จะมียอดผู้ติดเชื้อสะสมแค่ 1.57 หมื่นคน จากประชากรทั้งหมด 4.75 แสนคน แต่ด้วยเป็นสมาชิกประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) จึงทำให้มอลตาได้เริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ค.ศ. 2020 โดยวัคซีนดังกล่าวเป็นวัคซีนที่พัฒนาขึ้นโดย Pfizer/BioNTech นอกจากนี้ EU ยังตั้งเป้าที่จะฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุให้ครอบคลุมทั่วทวีปยุโรปภายในปีนี้ด้วย
อันดับ 9 สโลวีเนีย
2.1 คน/ประชากร 100 คน
ก่อนหน้านี้ ‘สโลวีเนีย’ เคยออกมาประกาศว่าตนเองเป็นประเทศแรกในยุโรปที่หยุดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้สำเร็จ แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีการระบาดระลอกใหม่ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 40 ราย สูงเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดในประเทศ ซึ่งตอนนี้สโลวีเนียมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1.49 แสน จากประชากรทั้งหมด 2.081 ล้านคน แต่ได้เริ่มทำการฉีดวัคซีน Pfizer/BioNTech ที่ได้จาก EU ไปแล้วในวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา
อันดับ 10 อิตาลี
2.0 คน/ประชากร 100 คน
ถ้าถามว่าประเทศไหนบอบช้ำจากโควิด-19 มากที่สุด เราเชื่อว่าในคำตอบของทุกคนต้องมี ‘อิตาลี’ ติดโพลมาแน่นอน เพราะอิตาลีนั้นเคยเป็นศูนย์กลางการระบาดของยุโรปมาแล้ว โดยก่อนวัคซีนรอบแรกจาก Pfizer/BioNTech และ Moderna จะมาถึงอิตาลีก็ได้สั่งยกระดับพื้นที่ทั่วประเทศให้เป็น ‘สีแดง’ จนถึงวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสตัวนี้ และมีการประกาศว่าอิตาลีวางแผนจะฉีดวัคซีนให้ประชากรราวๆ 10 – 15 ล้านคน จากทั้งหมด 60 ล้านคน ภายในเดือนเมษายน
แล้วประเทศไทยล่ะ…
ในส่วนของบ้านเราจะได้วัคซีนล็อตแรกจากจีน 2 ล้านโดส ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ล็อตที่สอง 8 แสนโดสในเดือนมีนาคม และเมษายนอีก 1 ล้านโดส และหลังจากนั้นจะมีวัคซีนอีก 26 ล้านโดส ที่ไทยได้ทำการลงนามและซื้อสูตรยาและเทคโนโลยีจาก Oxford/AstraZeneca ซึ่งหากผลลัพธ์เป็นไปในทางที่ดีก็อาจจะมีการซื้อเพิ่มอีก 35 ล้านโดส รวมเป็น 63 ล้านโดส เพื่อให้ครอบคลุมประชาชนประมาณ 30 กว่าล้านคน
*เก็บรวบรวมข้อมูลถึง วันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 2021
Source : Our World in Data