หลายงานสร้างสรรค์ในเมืองไม่ใช่แค่ช่วยพัฒนาย่านหรือชุมชนให้ดีกว่าเดิมเท่านั้น แต่หลายๆ ครั้งผลงานเหล่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันและต่อยอดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตขึ้น ด้วยการดึงดูดให้ผู้คนเกิดความสนใจ อยากทำความรู้จัก และเข้าไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ภายในพื้นที่
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ได้จัดงานประกาศรางวัลความเป็นเลิศทางความคิดสร้างสรรค์ 2568 หรือ Creative Excellence Awards 2025 ซึ่งเป็นเวทีสำคัญที่สนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย โดยมีรางวัลทั้งหมด 3 หมวด ได้แก่
Creative City Awards : รางวัลเมืองหรือชุมชนสร้างสรรค์ที่มีการใช้วัฒนธรรม อัตลักษณ์ และสินทรัพย์ท้องถิ่น มาผสานกับแนวคิดสร้างสรรค์
Creative Business Awards : รางวัลสำหรับธุรกิจที่นำความคิดสร้างสรรค์มาใช้ในการออกแบบ พัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการ ต่อยอดสู่การสร้างมูลค่าและผลักดันความยั่งยืนทั้งทางธุรกิจและสิ่งแวดล้อม
Creative Social Impact Awards : รางวัลที่ยกย่องผลงานที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม เช่น การส่งเสริมความเท่าเทียม สุขภาวะ การศึกษา และสิ่งแวดล้อม
คอลัมน์ Urban’s Pick ครั้งนี้ ได้คัดเลือก 8 จาก 15 ผลงานที่บอกเล่าถึงการทำงานกับชุมชนและย่านมานำเสนอให้ผู้อ่านรู้จักกัน เพราะการพัฒนาเมืองไม่จำเป็นต้องเป็นโปรเจกต์ยิ่งใหญ่หรือต้องก่อสร้างอาคารสถาปัตยกรรมล้ำสมัยขึ้นมาเสมอไป แค่เข้าไปดูแลบริหารจัดการ ทำของเก่าให้ดี และนำมาโปรโมตให้คนใหม่ๆ อยากรู้จักและมาเรียนรู้ก็นับว่าเป็นการช่วยเมืองได้แล้ว
บ้านข้างวัด : ชุมชนศิลปินที่เติบโตอย่างครอบครัว โดย โครงการบ้านข้างวัด
Creative City Awards – Creative Branding Award

‘บ้านข้างวัด’ คือโครงการที่ตั้งใจสร้างชุมชนแห่งการแบ่งปัน โดยที่ผู้คนอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบ เกื้อกูล และรักษาวิถีไทยเรียบง่ายท่ามกลางเมืองที่เติบโต ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์รวมงานคราฟต์ เปิดโอกาสให้ทั้งคนที่รักและชื่นชอบการทำงานฝีมือมาแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์และแลกเปลี่ยนมุมมองกัน ผ่านเวิร์กช็อป แกลเลอรี และร้านค้าในบรรยากาศอบอุ่น พร้อมจุดประกายแรงบันดาลใจในการเติบโตและสร้างสรรค์ร่วมกัน
คาล์ม วิลเลจ โดย บริษัท คาล์มวิลเลจ จำกัด
Creative City Awards – Creative Cultural Asset Award

คาล์ม วิลเลจ (Kalm Village) คือพื้นที่ชีวิตร่วมสมัย ที่เต็มไปด้วยวิถีที่เชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เพื่อให้คนทุกรุ่นได้มาเรียนรู้และเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมร่วมกัน โดยภายในพื้นที่ของโครงการประกอบไปด้วยบ้าน 9 หลัง ซึ่งแต่ละหลังนั้นทำหน้าที่เป็นพื้นที่จัดนิทรรศการ ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านงานคราฟต์ และสถานที่จัดเวิร์กช็อป เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้คนได้เข้ามามีส่วนร่วมผ่านกิจกรรมและประสบการณ์จริง
ทางเดินมรดกตลาดน้อย โดย บริษัท ปั้นเมือง จำกัด
Creative City Awards – Creative Regeneration Award

‘ทางเดินมรดกตลาดน้อย’ เป็นโครงการที่มุ่งฟื้นฟูย่านตลาดน้อยให้ยั่งยืน ผ่านความร่วมมือจากทั้งชุมชน ภาครัฐ และเอกชน โดยเริ่มจากการพัฒนาทางเดินนำร่อง เชื่อมตรอกศาลเจ้าโรงเกือกกับท่าน้ำภาณุรังษี ปรับปรุงเส้นทาง ท่าเรือ เพิ่มพื้นที่สีเขียว พร้อมสร้างศูนย์เรียนรู้ชุมชน
นอกจากการพัฒนาพื้นที่แล้ว ยังมีกิจกรรม Walking Tour เวิร์กช็อป ตลาดตะลักเกี้ยะ และพัฒนาแอปพลิเคชัน ‘walk.in.th’ รวมถึงยังเป็นส่วนหนึ่งในเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ (Bangkok Design Week) เพื่อเป็นการผลักดันตลาดน้อยสู่การเป็นย่านสร้างสรรค์ของผู้คนทุกช่วงวัย
มหาอาร์ต กับย่านสร้างสรรค์เจริญรัถ โดย โรงเรียนสอนทำกระเป๋า มหาอาร์ต และนักสร้างสรรค์ – คุณบุญชัย บุญนพพรกุล
Creative Business Awards – Creative Social Responsibility Award

จากปัญหาความซบเซาในย่านเจริญรัถ ซึ่งเคยเป็นแหล่งค้าขายอุปกรณ์ที่คึกคัก แต่กำลังเงียบเหงาลงไปเรื่อยๆ ทำให้ ‘ครูแบงค์-บุญชัย บุญนพพรกุล’ เกิดความตั้งใจในการฟื้นฟูบ้านเกิดให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งจากการนำความรู้พื้นฐานด้านการผลิตเครื่องหนังจากครอบครัว และประสบการณ์ในการสร้างโรงเรียนมาผสมผสานกัน
เกิดเป็น ‘โรงเรียนมหาอาร์ต แอนด์ คราฟต์’ โรงเรียนที่ตั้งใจจะพัฒนาชุมชนควบคู่กับการถ่ายทอดทักษะฝีมือ เพื่อจุดประกายบรรยากาศแห่งความสร้างสรรค์ในย่านเจริญรัถ และทำให้ที่นี่กลายเป็นอีกหนึ่งย่านสร้างสรรค์ของกรุงเทพมหานคร
คัก-คริส-มัด โดย เซ็นทรัล ขอนแก่น และนักสร้างสรรค์ – BWILD ISAN และ ATTA STUDIO
Creative Business Awards – Creative Collaboration Award

‘คัก-คริส-มัด’ โปรเจกต์ที่เริ่มต้นจากคำถามว่า ‘ถ้างานเทศกาลปีใหม่เป็นพื้นที่ที่ชุมชนมีส่วนร่วมและสร้างรายได้ไปพร้อมกัน จะดีกว่าไหม’
โปรเจกต์นี้จึงเกิดขึ้นพร้อมการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน ด้วยการนำไม้ไผ่กว่า 800 ลำ กระสวยทอผ้า 500 ชิ้น และฝ้ายธรรมชาติ 40 กิโลกรัมมาสร้างสรรค์ให้กลายเป็น ‘ต้นคริสต์มาสร่วมสมัย’ ที่นอกจากจะเป็นต้นไม้สัญลักษณ์แห่งเทศกาลปลายปีแล้ว ก็ยังเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวผ้าไหมอีสาน พร้อมสร้างงานให้เหล่าแม่บ้าน ช่างฝีมือ นักศึกษา และกลุ่มเปราะบางในชุมชน จังหวัดขอนแก่นอีกด้วย
หลังจบเทศกาลแล้ว วัสดุทั้งหมดยังนำไป Rethink, Reuse, Redesign ใหม่ ยกตัวอย่าง โครงเหล็กถูกนำไปทำซุ้มเด็กเล่น กระสวยถูกดัดแปลงเป็นโคมไฟ และผ้ามัดหมี่ถูกนำไปจัดแสดงต่อ โปรเจกต์นี้จึงไม่ใช่แค่การสร้างต้นคริสต์มาส แต่คือการสร้างพลังความร่วมมือของสังคมที่เข้ากับการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยแท้จริง
POP PARK BKK โดย กรุงเทพมหานคร, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ, สมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทย และ we!park
Creative Social Impact Awards – Creative Well-Being Award

เมื่อพื้นที่รกร้างในเมืองถูกปล่อยปละละเลยและกลายเป็นพื้นที่อันตราย ทางโครงการ ‘POP PARK BKK’ จึงมุ่งใช้พื้นที่ร้างเหล่านั้นมาปรับเปลี่ยนให้เกิดประโยชน์สูงสุด
โปรเจกต์นี้เปลี่ยนพื้นที่ให้กลายเป็น ‘สวนชั่วคราว’ ที่ประชาชนมีส่วนร่วมตั้งแต่การออกแบบจนถึงการใช้งานจริง ก่อนจะพัฒนาเป็นพื้นที่สาธารณะสีเขียวอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึง 6 ประเด็นหลัก ได้แก่ สุขภาวะชุมชน การสัญจร โครงสร้างพื้นฐานน้ำ-พื้นที่สีเขียว ความหลากหลายทางชีวภาพ เกษตรในเมือง และกิจกรรมสร้างสรรค์ เพื่อให้ชุมชนได้แสดงความคิดเห็นและร่วมกันออกแบบพื้นที่ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานอย่างแท้จริง
สาวบิ๊กอายเพิ่งตายเมื่อวาน (ละครเวที) โดย คณะละครมรดกใหม่และผองเพื่อน
Creative Social Impact Awards – Creative Equality Award

ละครเวทีสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน คนที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น และคนทั่วไปก็รับชมร่วมกันได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ซับไตเติลหรือเสียงบรรยายพิเศษ ด้วยการสร้างรูปแบบการแสดงแบบใหม่ที่จะทำให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม ผ่านแนวคิด ‘อยู่ร่วมกันโดยไม่แบ่งแยก’ ทั้งในฐานะผู้สร้างและผู้ชม
ความพิเศษของละครเรื่องนี้คือ การใช้ศาสตร์การสื่อสารที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นภาษามือ ดนตรีไทยและสากล นาฏศิลป์ ละครวิทยุ ละครใบ้ ภาพ เสียง และสัญลักษณ์ ทำให้ผู้ชมแต่ละกลุ่มเข้าถึงและเข้าใจเรื่องราวผ่านประสบการณ์ที่ต่างกัน
กรอม : จากขยะทะเลสู่ของเล่นสะสมเพื่อสิ่งแวดล้อม โดย บริษัท ไทยเวโตร จำกัด (รีบอร์น สตูดิโอ) และนักสร้างสรรค์ – คุณจินต์ สถาพรสถิตย์สุข
Creative Social Impact Awards – Creative Green Award

ปิดท้ายด้วย ‘กรอม’ Art Toy ที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ตรงของนักออกแบบ ผู้ถูกขยะพลาสติกกระแทกขณะโต้คลื่นในทะเลอันดามัน จนเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการเก็บขยะจากท้องทะเลมาคัดแยก ล้าง บด และหล่อขึ้นรูปเป็นคาแรกเตอร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยความโดดเด่นของกรอมคือ เส้นผมที่มีลักษณะเป็นหนวดหมึก เพื่อสื่อถึงท้องทะเลที่เต็มไปด้วยชีวิตและเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากปัญหาขยะ