UNDP ชวนหาสาเหตุความรุนแรง เมื่อความสุดโต่งและปัจจัยเชิงโครงสร้างคือบ่อเกิดของการใช้ความรุนแรง

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราเห็นภาพความเคลื่อนไหวทั้งในประเทศไทยและรอบโลก การกลับมาของฝ่ายขวาจัดและแนวคิดนิยมเผด็จการ และที่อีกด้าน ผู้คนออกไปเรียกร้องความเท่าเทียมและความยุติธรรม บางครั้งพวกเขาได้รับการรับฟังและบรรลุเป้าหมายได้ด้วยสันติวิธี แต่ก็มีอีกหลายครั้งที่เกิดความรุนแรงเพราะรัฐเมินเฉยจนทำให้สถานการณ์ยิ่งปะทุ หรือรัฐลงมือปราบอย่างรุนแรง หลายกลุ่มเลือกลงมือก่อการร้ายเพราะความคับแค้นใจที่เผชิญมาเป็นเวลานานและเชื่อว่าความรุนแรงจะเป็นคำตอบ เสียงของอาวุธปืนและระเบิดอาจทำให้ได้รับความสนใจจากสังคม แต่นั่นคือทางออกจริงหรือ ในสังคมประชาธิปไตยที่มีรากฐานมาจากการเคารพความหลากหลาย ไม่ผิดหากจะมีแนวคิดสุดโต่ง (Extremism) ที่หมายถึงยึดถือในอุดมการณ์/ความเชื่อ/ความศรัทธาในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง สิ่งนั้นอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสังคมในทางที่ดีขึ้นได้ เช่น การต่อสู้เรียกร้องสิทธิของชาติพันธุ์หรือสิทธิสตรี แต่ถ้าหากแนวคิดสุดโต่งนั้นกลายเป็นแนวคิดสุดโต่งที่นิยมความรุนแรง (Violent Extremism) เมื่อใด กลุ่มบุคคลนั้นจะมองว่าการใช้ความรุนแรงไม่ผิดและยอมทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ และเมื่อนั้น การสูญเสียก็จะเกิดขึ้น ย้อนกลับไปก่อนหน้าที่จะเกิดความสูญเสียขึ้น สาเหตุที่แท้จริงของมันคืออะไร คนเราไม่ได้มีแนวคิดสุดโต่งที่นิยมความรุนแรงขึ้นมาได้ง่ายๆ ที่ด้านหนึ่ง มันถูกฟูมฟักขึ้นมาจากความขัดแย้งทางศาสนา ชาติพันธุ์ หรือเพศ และความเดือดร้อนต่างๆ ที่มาจากการขาดโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมเพราะไม่มีส่วนร่วมทางการเมืองและไม่ถูกมองเห็นจากภาคส่วนต่างๆ เช่น ชนกลุ่มน้อยที่ถูกกีดกันทางกฎหมายในเรื่องสัญชาติและโอกาสทางเศรษฐกิจ หรือบุคคลที่มีศาสนาและวัฒนธรรมแตกต่างจากส่วนกลางทำให้รู้สึกเป็นอื่น ส่วนที่อีกด้าน ความรุนแรงอาจมาจากกลุ่มที่ไม่ได้ตระหนักถึงความแตกต่างหลากหลายและไม่ใช่ชนกลุ่มน้อย (Minority) ในสังคมก็ได้ เช่น กลุ่มหัวรุนแรงขวาจัด (Right-Wing Extremists) ในหลายประเทศ และผู้ที่สมาทานแนวคิดที่ว่าคนขาวเหนือกว่าคนกลุ่มอื่น (White Supremacy) ที่สหรัฐอเมริกา พวกเขาเชื่อว่าคนกลุ่มอื่นจะทำให้สถานะทางเศรษฐกิจและสังคมของพวกเขาสั่นคลอน จึงลงมือใช้ความรุนแรงเพราะต้องการปกป้องสถานภาพและผลประโยชน์ของตัวเองเอาไว้ หากอยากตัดไฟความรุนแรงแต่ต้นลม เราจะทำอย่างไรได้บ้าง โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ […]

แม่น้ำต้องลงไปว่ายได้! ปารีสวางแผนทำความสะอาดครั้งใหญ่ รับโอลิมปิก 2024

ปารีสกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหญ่ หลังจากประกาศว่าจะทำให้แม่น้ำแซนสะอาดจนสามารถลงไปว่ายได้ในปี 2024 ซึ่งหากทำได้สำเร็จ เมืองหลวงแดนน้ำหอมอาจเป็นต้นแบบสำคัญที่ทำให้เมืองอื่นๆ ทั่วยุโรป ลงมือทำความสะอาดแม่น้ำของตนเองที่เต็มไปด้วยแบคทีเรีย ที่ผ่านมาปารีสได้ประกาศแผนการที่จะจัดพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2024 ที่แม่น้ำแซน สายน้ำเก่าแก่ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง แต่พวกเขาไม่ต้องการให้แม่น้ำเป็นเพียงฉากหลังที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังหวังว่าจะสามารถจัดกิจกรรมบางอย่างในแม่น้ำเหมือนกับที่เคยทำในโอลิมปิกฤดูร้อนในปี 1900 ที่ผ่านมาการว่ายน้ำในแม่น้ำแซนผิดกฎหมายมาตั้งแต่ปี 1923 สาเหตุมาจากคุณภาพน้ำที่ไม่ได้มาตรฐาน ปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไขคือระบบท่อระบายน้ำในปารีส ที่ไม่สามารถรองรับฝนที่ตกลงมาอย่างหนักได้ ซึ่งน้ำเสียสามารถผสมกับน้ำฝนและไหลลงสู่แม่น้ำแซนได้จากท่อระบายน้ำกว่า 40 แห่ง ส่งผลให้มีระดับแบคทีเรียที่สูงมากจนเกิดอาการป่วยได้ ตั้งแต่ท้องร่วง คลื่นไส้ และปัญหาสุขภาพอื่นๆ เพื่อต่อสู้กับปัญหาเหล่านี้ ปารีสจะให้เงิน 1,600 ล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อถังเก็บน้ำใต้ดินขนาดใหญ่ที่สามารถจุน้ำได้ 12 ล้านแกลลอน ปริมาตรเดียวกับที่เติมสระว่ายน้ำมาตรฐานโอลิมปิกได้ 18 สระ โดยถังจะถูกสร้างขึ้นภายใต้สวนสาธารณะเชื่อมต่อด้วยอุโมงค์ใต้ดินที่จะรวบรวมน้ำจากท่อระบาย และสูบกลับเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสียได้เมื่อปริมาณฝนลดลง นครหลวงฝรั่งเศสยังกำลังทดสอบระบบที่เรียกว่า Alert หรือเซนเซอร์ลอยน้ำอัตโนมัติ เพื่อทำการวัดระดับแบคทีเรียในน้ำแบบเรียลไทม์ เพื่อการวางแผนที่ดียิ่งขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามปารีสไม่ได้เป็นผู้โชคร้ายรายเดียวที่ระบบบำบัดน้ำเสียไม่สามารถรองรับฝนตกหนักได้ หลายเมืองใหญ่ของยุโรปที่มีระบบบำบัดน้ำเสียอายุมากกว่าศตวรรษก็กำลังประสบปัญหาเดียวกัน และผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการน้ำบอกว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีผลให้ฝนตกหนักขึ้นบ่อยครั้ง จนสถานการณ์อาจเลวร้ายกว่าเดิม Source : Freethink l https://shorturl.asia/6AOQX

โฆษณาซานต้าเกย์ แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในทัศนคติต่อ LGBTQ+ ของนอร์เวย์

โฆษณาคริสต์มาสได้กลายเป็นประเพณีประจำปีในหลายประเทศ ที่มักจะหยิบยกเรื่องราวของแบรนด์มานำเสนอผ่านมนต์ขลังของซานต้า เรนเดียร์ กล่องของขวัญ หรือถุงเท้า แต่คริสต์มาสที่ผ่านมานี้มีโฆษณาของประเทศนอร์เวย์เรื่องหนึ่งที่ซานต้าจูบกับผู้ชายที่รอเขาอยู่ที่บ้านในวันคริสต์มาสอีฟ ซึ่งเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์มาก When Harry Met Santa เป็นโฆษณาความยาวสี่นาทีจาก Posten บริษัทไปรษณีย์จากนอร์เวย์ เรื่องราวมีอยู่ว่าชายคนหนึ่งกำลังเขียนจดหมายเพื่อส่งไปยังขั้วโลกเหนือโดยมีข้อความระบุไว้เพียงสั้นๆ ว่า All I Want for Christmas is you หรือทั้งหมดที่ฉันต้องการในวันคริสต์มาสก็คือคุณ ในที่นี้หมายความว่าตัวซานต้าเองนี่แหละ ที่เป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับเขา “เราต้องการฉลองครบรอบ 50 ปี ของการยกเลิกกฎหมายห้ามมีความสัมพันธ์ระหว่างคนเพศเดียวกัน” Monica Solberg ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ Posten กล่าวถึงแรงบันดาลใจเบื้องหลังของโฆษณาที่มีผู้ชมผ่านช่องทางออนไลน์มากกว่าสองล้านครั้ง ซึ่งเธอบอกว่าประหลาดใจเป็นพิเศษกับผลตอบรับที่ดีและมากขนาดนี้ ทว่านอกจากคำชมแล้ว ไอเดียครีเอทีฟชิ้นนี้กำลังถูกวิจารณ์จากชาวนอร์เวย์และประเทศในแถบนอร์ดิก ความเห็นบางส่วนบอกว่านี่คือการล่วงละเมิดทางเพศกับซานตาคลอส หรือจงใจแสดงให้เห็นว่านอกใจภรรยาอย่าง Mrs. Claus ซึ่งในหลายพื้นที่ของโลกแนวความคิดเรื่องความรักในวันคริสต์มาสแบบเกย์ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ผลสำรวจบอกว่าชาวสหราชอาณาจักรไม่ยอมรับการที่ซานตาคลอสถูกนำเสนอหรือตีความให้แสดงความรักต่อเพศเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ในประเทศนอร์เวย์ ที่แต่เดิมการรักร่วมเพศถือเป็นสิ่งต้องห้ามและเป็นความผิดทางอาญาจนกระทั่งปี 1972 การมองว่าโฆษณาเรื่อง When Harry Met Santa เป็นเรื่องราวที่อบอุ่นหัวใจมากกว่าจะวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม ซึ่งสะท้อนถึงทัศนคติที่ก้าวหน้าในด้านสิทธิ […]

นักวิจัยพัฒนาแผงอิเล็กทรอนิกส์ยืดหยุ่นคล้ายผิวหนัง หมุดหมายสำคัญเทคโนโลยีสวมใส่

นักวิจัยพัฒนาแผงอิเล็กทรอนิสก์ยืดหยุ่นคล้ายผิวหนัง เป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับเทคโนโลยีสวมใส่ในอนาคต

คริสต์มาสนี้มีแต่รอยยิ้ม เบอร์ลินขายบัตรโดยสารกินได้ผสมกัญชง ช่วยให้คนผ่อนคลายและยิ้มได้ช่วงเทศกาล

คริสต์มาสคือเทศกาลแสนอบอุ่นที่คนทั่วโลกรอคอย ขณะเดียวกันก็เป็นเทศกาลแสนวุ่นวายในหลายประเทศยุโรป ผู้คนมักวิ่งวุ่นซื้อของขวัญจนนาทีสุดท้าย ทำให้หลายคนรู้สึกเหนื่อยล้าและหัวเสียไปตามๆ กัน  เพราะเหตุนี้ Berliner Verkehrsbetriebe (BVG) บริษัทขนส่งมวลชนในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี จึงปิ๊งไอเดียผลิตบัตรโดยสารกินได้ผสมกัญชง เพราะอยากให้ผู้คนฉลองคริสต์มาสแบบไม่เครียด และช่วยให้บรรยากาศโกลาหลผ่อนคลายลง บัตรรุ่นนี้สามารถกินได้ทั้งใบ เพราะมีส่วนผสมมาจากกระดาษกินได้ และโรยด้วยน้ำมันกัญชง (Hemp Oil) ไม่เกินสามหยด โดยน้ำมันกัญชงมีสรรพคุณช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย สดชื่น และยังช่วยรักษาอาการวิงเวียนและปวดศีรษะได้ด้วย ทาง BVG อธิบาย “วิธีนี้จะทำให้คุณสามารถเดินทางรอบเบอร์ลินได้ทั้งวันโดยไร้ความกังวล และคุณยังสามารถกลืนความเครียดช่วงคริสต์มาสไปพร้อมๆ กับตั๋วของคุณได้” ทั้งนี้ ทางบริษัทชี้แจงว่า น้ำมันผลิตจากเมล็ดกัญชงที่ปลอดภัยและเป็นมังสวิรัติ 100% สามารถกินได้เช่นเดียวกับน้ำมันเมล็ดทานตะวัน น้ำมันเมล็ดฟักทอง และน้ำมันมะกอก อีกทั้งยังไม่มีสารเสพติด เช่น แคนนาบิไดออล (CBD) และ เตตร้าไฮโดรแคนนาบินอล (THC) ที่พบได้ใน ‘ต้นกัญชา’ บัตรประเภทนี้จึงไม่อันตรายและถูกกฎหมายแน่นอน (กัญชงและกัญชาคือพืชตระกูลเดียวกัน แต่คนละสายพันธุ์) BVG จำหน่ายบัตรโดยสารกินได้ผสมกัญชงระหว่างวันที่ 13 – 17 ธันวาคม 2021 […]

Lux Magazine นิตยสารเฟมินิสต์ที่เชื่อว่าชีวิตที่ดีเป็นของทุกคน

ถ้าพูดคำว่า ‘สตรีนิยม (Feminism)’ แล้วคุณนึกถึงอะไร? การเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศ การผลักดันให้เกิดสมรสเท่าเทียมที่กำลังเห็นในไทยตอนนี้ หรือการเพิ่มอัตราส่วนของผู้หญิงในองค์กร และตำแหน่งบริหารสูงๆ?  ประเด็นเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสังคมในแนวทางสตรีนิยมทั้งสิ้น ในโลกนี้มีนิตยสารเกี่ยวกับผู้หญิงจำนวนมากและขายดีมากเสียด้วย แต่ส่วนใหญ่มักจะมีเนื้อหาด้านความสวยงามและสุขภาพ น้อยนักที่จะชวนตั้งคำถามกับสิทธิที่ผู้หญิงควรได้รับ  Lux Magazine คือนิตยสารผู้หญิงภาษาอังกฤษราย 3 เดือนที่ไม่ได้อัปเดตว่าลิปสติกสีไหนกำลังมา เทรนด์แฟชั่นแบบไหนกำลังอิน ชวนคนอ่านตั้งคำถามว่า ‘สตรีนิยม’ จะก้าวหน้าและเปิดกว้างมากขึ้นได้หรือเปล่า? และพาไปหาคำตอบผ่านบทความ บทสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษจากเรื่องราวของผู้หญิงที่น่าสนใจทั่วทุกมุมโลก  ทั้งการขับเคลื่อนเพื่อเรียกร้องสิทธิในที่อยู่อาศัย การทำแท้ง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การชุมนุมประท้วง การเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิแรงงานผ่านมุมมองเรื่องเพศ เหล่านี้เป็นสิ่งที่นิตยสารหน้าใหม่ไฟแรงนี้พยายามจะนำเสนอให้เห็นว่าล้วนเกี่ยวข้องกับสตรีนิยมทั้งสิ้น มีบทสนทนาตั้งแต่เรื่องหนักๆ อย่างการถกเถียงทฤษฎีสตรีนิยม ปรัชญาทางการเมือง ไปจนถึงบทสัมภาษณ์ชีวิตประจำวันของผู้หญิงทั่วไป แอ็กทิวิสต์ และคนชายขอบในสังคม เป็นนิตยสารนอกกระแสที่เปิดมุมมองและชวนตั้งคำถามกับชีวิตของผู้หญิงที่มาจากพื้นเพที่แตกต่างและหลากหลาย ชื่อนิตยสารว่า ‘Lux’ มาจากชื่อของโรซ่า ลักเซมเบิร์ก (Rosa Luxemburg) นักปรัชญาและนักปฏิวัติหญิงชาวเยอรมัน ผู้ต่อสู้ให้เกิดความเท่าเทียมทางเพศคู่กับความเท่าเทียมทางสังคมและเศรษฐกิจไปพร้อมกัน ในขณะเดียวกันคำว่า ‘Lux’ ก็อาจตีความได้ว่ามาจาก ‘Luxury’ ที่แปลว่าความหรูหรา ดังที่นิตยสารตั้งเป้าหมายไว้ว่า ‘นอกเหนือจากการมีชีวิตไปวันๆ เราปรารถนาให้ชีวิตมีความฟุ่มเฟือย หรูหราที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่างถ้วนหน้า’ หากใครสนใจ ตามอ่านทางออนไลน์และสมัครเป็นสมาชิกนิตยสารได้เลยที่ […]

McDonald’s สาขาแรกในโลก ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ และใช้พลังงานหมุนเวียน

ปัญหาโลกร้อนทำให้อุตสาหกรรมต่างๆ ตื่นตัวและแสดงความกังวลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ธุรกิจขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ออกนโยบายและโครงการเพื่อลดการปล่อยมลพิษสู่ชั้นบรรยากาศของโลกให้มากที่สุด ล่าสุดแฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ดชื่อดังของโลกอย่าง McDonald’s ก็ร่วมรักษ์โลกด้วยการเปิดร้านอาหารสาขาแรกในสหราชอาณาจักร ที่ตัวอาคาร ‘ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์’ (Net Zero)  McDonald’s สาขานี้ตั้งอยู่ที่เมืองมาร์เก็ตเดรย์ตัน (Market Drayton) ประเทศอังกฤษ ผู้ออกแบบตัวอาคารคือบริษัทสถาปนิก Scurr Architects และได้บริษัทสถาปนิก AEW Architects มาร่วมออกแบบสถานที่ให้  ที่นี่คือ McDonald’s สาขาแรกในสหราชอาณาจักรที่ออกแบบได้ตรงตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคาร Net Zero ของ ‘สภาอาคารสีเขียวแห่งสหราชอาณาจักร’ (UKGBC) ที่กำหนดว่า อาคารที่เป็น Net Zero ต้องลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศให้มากที่สุดตลอดอายุการใช้งาน ทั้งคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากขั้นตอนการผลิตวัสดุรวมถึงคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากทุกขั้นตอนการก่อสร้าง ตั้งแต่เปิดให้บริการ ไปจนถึงช่วงรื้อถอน  ร้าน McDonald’s สาขานี้ใช้วัสดุจากธรรมชาติและวัสดุรีไซเคิลในการออกแบบ ผนังร้านหุ้มด้วยฉนวนขนแกะสายพันธุ์อังกฤษ แทนการใช้วัสดุที่มนุษย์สร้างขึ้น ส่วนผนังชั้นนอกสุดก็รีไซเคิลมาจากอุปกรณ์ไอทีและของใช้ในครัวเรือนที่มีสีขาว เช่น เครื่องพิมพ์ จอคอมพิวเตอร์ ตู้เย็น และเครื่องล้างจาน  ป้ายภายในร้านทำมาจากเมล็ดกาแฟเหลือทิ้ง ซึ่งนี่คือตัวอย่างของ ‘Circular […]

ซัปพอร์ตแบรนด์โลคอลย่านนางเลิ้ง กับโปรเจกต์ถุงของขวัญปีใหม่ Nangloeng in the bag project

อีกไม่กี่วันจะปีใหม่แล้ว ใครที่กำลังมองหาของขวัญให้คนใกล้ตัวแต่ยังไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรดี เราขอแนะนำ Nangloeng in the Bag โปรเจกต์ถุงของขวัญสุดเก๋จากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ย่านนางเลิ้ง ที่นอกจากจะไม่ซ้ำใครแล้ว ยังเป็นการซัปพอร์ตผู้ประกอบการรายย่อยเข้ากับเทรนด์สังคมยุคนี้ด้วย โปรเจกต์ Nangloeng in the Bag ริเริ่มขึ้นโดย Urban Studies Lab ที่มีไอเดียอยากช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านอาหารและชุมชนในย่านนางเลิ้งที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงกระจายรายได้สู่กิจการและชุมชนอื่นๆ ผ่านการใช้บริการและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งการพิมพ์ การขนส่ง และบรรจุภัณฑ์จากกิจการต่างๆ ภายในย่านนางเลิ้ง  Urban Studies Lab มองว่าเป้าหมายของโปรเจกต์นี้คือ การโปรโมตเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของนางเลิ้งในมิติที่เป็นพื้นที่แห่งการเปลี่ยนผ่านระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมกับวัฒนธรรมร่วมสมัยโดยเฉพาะด้านอาหาร สถาปัตยกรรม และศิลปะประยุกต์ ในระยะเริ่มต้น Nangloeng in the Bag ได้ร่วมมือกับภาคีร้านค้าบริเวณพื้นที่บล็อกสามเหลี่ยม ถนนนครสวรรค์ ถนนจักรพรรดิพงษ์ และถนนนหลานหลวง ได้แก่ Dao Tu Fook (DTF), Embassy Coffee, Mamuang Cafe, Na Cafe, Nangloeng […]

ชวนดูหนังข้ามปีกับ ฤดูหนังฝรั่งเศส ตั้งแต่ 23 ธ.ค. 64 – 28 ก.พ. 65

ชวนดูหนังข้ามปีกับ ‘ฤดูหนังฝรั่งเศส (French Cinema Season)’ เทศกาลภาพยนตร์ที่มีทั้งออฟไลน์และออนไลน์ที่ยกขบวนหนังฝรั่งเศสมาให้ดูอย่างจุใจตลอด 3 เดือน ฤดูหนังฝรั่งเศสจัดโดย สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรโรงภาพยนตร์และหลายสถาบัน จัดฉายภาพยนตร์มากกว่า 70 เรื่อง โดยจะจัดฉายในโรงภาพยนตร์ ทั้งหมด 16 แห่ง ใน 3 จังหวัด (กรุงเทพฯ นครปฐม และเชียงใหม่) และมีสตรีมมิงให้ชมในรูปแบบออนไลน์สำหรับทั่วประเทศอีกด้วย  พบกับโปรแกรมฉายพิเศษ Retrospective of Celine Sciamma และ Hommage à Chris Marker, งานเทศกาลภาพยนตร์ฝรั่งเศสที่เชียงใหม่, งานเปิดตัวภาพยนตร์, การฉายภาพยนตร์คลาสสิกและภาพยนตร์พิเศษอื่นๆ เพื่อเฉลิมฉลองภาพยนตร์ฝรั่งเศสและการกลับมาของโรงภาพยนตร์ พบกับเนื้อหาหลากหลายแนวสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์ สารคดี แอนิเมชัน หนังสั้น และอื่นๆ อีกมากมาย ตัวอย่างโปรแกรมฉายภาพยนตร์23 ธ.ค. 64 กรุงเทพฯ-นครปฐม— “อาเมลี สาวน้อยหัวใจสะดุดรัก” (Le fabuleux […]

สี Pantone แห่งปี 2022 PANTONE 17-3938 Very Peri

พอถึงช่วงสิ้นปีทีไร ราวกับธรรมเนียมที่แวดวงออกแบบทั่วโลกเป็นต้องได้ตื่นเต้นกันทุกครั้ง เพราะทุกปีจะมีการประกาศสีแห่งปีสีใหม่ล่าสุดจากทาง Pantone ออกมาอย่างสม่ำเสมอ และเป็นเหมือนการบอกเล่าเทรนด์สีที่จะได้รับความนิยมต่อไปด้วย ซึ่งในปีนี้ Pantone Color of the Year 2022 ก็คือ… PANTONE 17-3938 Very Peri  หน่วยงานผู้เชี่ยวชาญด้านสีระดับโลกอย่าง PANTONE ได้ประกาศว่านี่คือสี Blue-ish สีใหม่ เจ้าสีล่าสุดนี้เป็น ‘สี Periwinkle Blue ที่มีไดนามิกและมีอันเดอร์โทนสีม่วงแดงแสนมีชีวิตชีวา’ ซึ่งแพนโทนได้อธิบายเพิ่มเติมไว้ด้วยว่า ‘เฉดสีฟ้าเปี่ยมความสุขและอบอุ่นที่สุดนี้เป็นการผสมผสานพลังของสิ่งใหม่ๆ เข้าด้วยกัน’  ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 23 ปี นับตั้งแต่เปิดตัวโปรแกรม Color of the Year Pantone ขึ้นมา Laurie Pressman รองประธาน Pantone Color Institute กล่าว ถึงการสร้างสรรค์สีใหม่ล่าสุดอย่าง Very Peri ว่า “สีนี้สะท้อนถึงนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระดับโลก” “เมื่อเราทุกคนก้าวเข้าสู่โลกแห่งการเปลี่ยนแปลง การเลือก […]

Blue ​Bangkok​ x Museum Siam ออกคอลเลกชันใหม่ชุด ‘มาริโอ้​ ตามานโญ่’

ในกรุงเทพฯ มีตึกเก่าสวยๆ อีกมากมายที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และบอกต่อ ปีที่แล้วแฟนๆ ตึกเก่าคงได้เห็นผลงานโมเดลตึกเก่าในกรุงเทพฯ ของ Blue​ Bangkok​ จาก Bangkok Design Week กันมาแล้ว  Blue Bangkok คือกลุ่มคนที่ถ่ายทอดรูปแบบสถาปัตย์ ประวัติศาสตร์ และเรื่องราวชุมชน จากสถานที่จริงสู่งานออกแบบทั้งสองมิติและสามมิติ เพื่อเป็นที่ระลึกแห่งความทรงจำ (อ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://urbancreature.co/blue-bangkok) ปีนี้ Blue​ Bangkok​ กลับมาอีกครั้งและร่วมมือกับ Museum Siam ออกตึกคอลเลกชันใหม่ส่งท้ายปีชุด ‘มาริโอ้​ ตามานโญ่’ (Mario Tamagno) สถาปนิกชาวอิตาเลียน ผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบอาคารสำคัญของไทยที่เดินทางมารับราชการในกรมโยธาธิการ เมื่อปีพุทธศักราช 2443 (ค.ศ. 1900)  โดยคอลเลกชันนี้ Blue​ Bangkok และ Museum Siam ได้เลือก​ 4 ตึกมาย่อส่วนให้นักลงทุนอสังหาฯ ได้สะสมกัน ดังนี้– ตึกกระทรวงพาณิชย์เดิม​ (มิวเซียมสยาม)​– พระที่นั่งอนันตสมาคม– สถานีรถไฟกรุงเทพ​ (หัวลำโพง)​– […]

นิวยอร์กกำลังจะเปลี่ยนถนนกว่า 20 สายให้เป็นเขตปลอดรถยนต์

‘ทางเท้ากว้างขวาง คนเดินถนนปลอดภัย มีร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ตลอดทาง’ นี่ไม่ใช่คำขวัญของเมืองนิวยอร์กแต่อย่างใด แต่เป็นแผนการทำเมืองในฝันให้เป็นจริงที่ Downtown Brooklyn Partnership กำลังทำอยู่  โปรเจกต์นี้คือการร่วมมือกันของ Downtown Brooklyn Partnership บริษัทออกแบบ Bjarke Ingels Group และบริษัทสถาปนิกและออกแบบผังเมือง WXY เพื่อวาง Roadmap พัฒนาเมืองพลิกโฉมพื้นที่สาธารณะย่านดาวน์ทาวน์บรูกลินให้ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนเมืองมากยิ่งขึ้น ด้วยการเรียกคืนถนนกว่า 20 สายเพื่อให้คนเดินเท้าใช้งานได้มากขึ้น รวมถึงปรับปรุงพื้นที่สาธารณะและโครงสร้างพื้นฐานโดยให้ความสำคัญกับผู้คนและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เข้าถึงง่ายและใช้ได้จริง เพราะปัจจุบันการสัญจรทั้งทางเท้าและบนถนนในย่านดาวน์ทาวน์บรูกลินหนาแน่นมาก Downtown Brooklyn Partnership จึงต้องการเปลี่ยนดาวน์ทาวน์บรูกลินจากศูนย์กลางของย่านธุรกิจที่เน้นการใช้รถยนต์เป็นหลัก ให้เป็นเมืองที่เป็นผู้นำด้านการออกแบบที่ตอบโจทย์กับวิถีชีวิตของผู้คนมากขึ้น เพราะนับตั้งแต่การแบ่งเขตในปี 2004 ดาวน์ทาวน์บรูกลินได้เติบโตกลายเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญของนิวยอร์ก มีประชากรเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในจำนวน 5 เขตเลือกตั้ง และมีการใช้งานของผู้คนที่หลากหลาย มีทั้งที่อยู่อาศัย ที่ตั้งของธุรกิจใหม่ๆ และมีงานรองรับความหลากหลายของผู้คน สภาพถนนที่เป็นอยู่ในปัจจุบันจึงไม่ได้ตอบโจทย์กับผู้ใช้งานอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนเดินถนน นักปั่นจักรยาน หรือคนที่โดยสารขนส่งสาธารณะ  ปัญหาที่ย่านดาวน์ทาวน์บรูกลินเผชิญอยู่ในขณะนี้มีหลากหลายสาเหตุ เช่น ขาดพื้นที่สีเขียว ยานพาหนะแออัด ทางเท้าแคบและต่ำกว่ามาตรฐาน มีการละเมิดป้ายจอดรถ กริดของถนนที่มีอยู่ที่ชวนสับสน อีกทั้งภูมิทัศน์ถนนทางเดิน […]

1 85 86 87 88 89 128

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.