
WHAT’S UP
ตามล่า ‘ฝาท่อเยาวราช’ ผ่านแอปฯ Coral 18 ลาย 18 จุด แลกของรางวัลฟรี จาก รพ.เทียนฟ้ามูลนิธิ ถึงบริพัตร คลองโอ่งอ่าง
การเดินในเมืองจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ด้วยแอปพลิเคชัน Coral ที่ชวนทุกคนมาตามล่าลาย ‘ฝาท่อเยาวราช’ เพื่อชมงานศิลปะและศึกษาประวัติศาสตร์ของย่านนี้ไปพร้อมๆ กัน เพียงแค่โหลดแอปฯ Coral จากนั้นเข้าไปในหน้ากิจกรรม ‘ฝาท่อ Chinatown เยาวราช’ แล้วเปิดแมปเดินตามเก็บ 18 ลายฝาท่อ จาก 18 โลเคชัน ตั้งแต่บริเวณหน้าโรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิไปจนถึงถนนบริพัตร คลองโอ่งอ่าง โดยใช้ฟังก์ชันเปลี่ยนจากฝาท่อจริงให้กลายเป็นของสะสมดิจิทัลลายฝาท่อได้เลย มากไปกว่านั้น ภายในแอปฯ ยังมีรายละเอียดภาพวาดและสถานที่ของลวดลายฝาท่อนั้นๆ ให้เราอ่านกันด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีในการศึกษาประวัติศาสตร์และเรื่องราวของพื้นที่บนถนนเยาวราชแบบสนุกๆ ด้วยการนำแนวคิด Gamification มาประยุกต์ ส่วนใครที่เก็บฝาท่อดิจิทัลคู่กับตัวฝาท่อจริงครบแล้ว ก็ไปแลกรับของที่ระลึกสุดน่ารัก สติกเกอร์ลายฝาท่อ และตราปั๊มได้ที่1) ร้าน Culture Connex ชุมชนเลื่อนฤทธิ์ เวลา 11.00 – 19.00 น. (ปิดวันจันทร์)2) อาคารพิชัยญาติ เคาน์เตอร์บริการลูกค้า ชั้น 2 เวลา 07.00 – 21.00 น. ทุกวัน3) ร้าน […]
‘บ้านผีเสื้อ’ เชียงใหม่ บ้านหลังแรกของโลก ที่ใช้พลังงานสะอาด และผลิตไฟฟ้าด้วยตัวเองได้ 100%
บ้านพักอาศัยบนพื้นที่ 18 ไร่ ที่เชียงใหม่หลังนี้มีความโดดเด่นคือ เป็นบ้านที่พึ่งพาตนเองจากพลังงานแสงอาทิตย์ 100% โดยใช้เทคโนโลยีอิเล็กโทรไลเซอร์ไฮโดรเจนในการแปลงน้ำเป็นไฮโดรเจน เพื่อผลิต จัดเก็บ และใช้ไฮโดรเจนเป็นพลังงาน ทำให้บ้านสามารถผลิตพลังงานเองได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องพึ่งพาโครงข่ายไฟฟ้า บ้านผีเสื้อ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีเป้าหมายในการลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ด้วยการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนธรรมชาติที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ตอบสนองต่อความพยายามในการเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2065 ของประเทศไทย ที่นี่ใช้ระบบพลังงานแบบออฟกริดโดยอาศัยพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อนำมาขับเคลื่อนบ้านด้วยพลังงานสะอาดตลอด 24 ชั่วโมง แม้ในช่วงที่ไม่มีแสงแดด ก็ยังมีการจ่ายพลังงานอย่างต่อเนื่องและเสถียร โดยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลและไม่ปล่อยคาร์บอน ด้วยระบบของแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 140 กิโลวัตต์ (kWp) ซึ่งผลิตกระแสไฟฟ้าในช่วงกลางวันเพื่อใช้ในบ้านและตอบสนองความต้องการพลังงานทันที ขณะที่พลังงานแสงอาทิตย์ส่วนเกินจะถูกนำมาผลิตไฮโดรเจนผ่านอิเล็กโทรไลเซอร์ขนาด 20 kW ที่ทำการแยกน้ำออกเป็นไฮโดรเจนและออกซิเจน ไฮโดรเจนจะถูกเก็บในรูปแบบก๊าซที่แรงดัน 35 บาร์ ในถังจะเก็บไฮโดรเจนได้สูงสุด 42 กิโลกรัม ซึ่งสามารถจ่ายพลังงานให้กับบ้านได้ประมาณ 600 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ในเวลากลางคืนหรือช่วงที่มีแสงแดดน้อย ไฮโดรเจนที่เก็บไว้จะถูกแปลงกลับเป็นกระแสไฟฟ้าโดยใช้ระบบเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน (Fuel Cell) ขนาด 8 กิโลวัตต์ […]
‘Architecture for Dogs’ นิทรรศการผลงานการออกแบบสำหรับสุนัข เพื่อให้น้องหมาใช้งานได้ตามความต้องการ
คนเลี้ยงสัตว์เข้าใจดีว่า เฟอร์นิเจอร์หรืองานออกแบบบางชิ้นไม่ได้ทำขึ้นมาเพื่อรองรับนิสัยหรือการใช้งานของน้องหมาน้องแมวในบ้าน ทำให้หลายครั้งเราต้องรับหน้าที่ดัดแปลงหรือปรับของใช้เหล่านั้นให้เด็กๆ ใช้งานได้ แต่คงจะดีไม่น้อยถ้ามีเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อน้องหมาน้องแมวของเราโดยเฉพาะ Architecture for Dogs คือนิทรรศการที่รวมผลงานของสถาปนิกและนักออกแบบในแวดวงการออกแบบเฟอร์นิเจอร์สำหรับน้องหมาโดยเฉพาะ ที่ไม่ใช่แค่คอกหรือที่นอนทั่วๆ ไป แต่มีความพิเศษตรงที่เข้าใจในความต้องการของน้องหมา ซึ่งก่อนหน้านี้งานนี้ได้เดินทางไปจัดแสดงมาแล้วหลายประเทศ และตอนนี้ก็กำลังจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ ADI Design ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ชิ้นงานออกแบบที่ว่ามีตั้งแต่ผลงานของ ‘Hiroshi Naito’ ที่ออกแบบที่นอนทำความเย็นสำหรับสุนัขสายพันธุ์ Spitz ขึ้นมา เนื่องจากเป็นพันธุ์ขนยาว ทำให้เขาสังเกตเห็นว่าในช่วงฤดูร้อน Pepe น้องหมาที่จากไปแล้วของเขามักจะชอบไปนอนอยู่บนพื้นกระเบื้องบริเวณที่อาบน้ำเพื่อช่วยลดอุณหภูมิลง จึงออกแบบท่ออะลูมิเนียมสำหรับใส่ถุงน้ำแข็งด้านใน พร้อมกับสอดแผ่นไม้สลับกับท่อเพื่อให้น้องหมาไม่ลื่นในระหว่างที่ใช้งานที่นอนนี้ หรือบ้านรถเข็นสำหรับ Shiba ของ ‘Toyo Ito’ ที่อยากให้เจ้าหมาออกไปข้างนอกกับเจ้าของได้ทุกวันแม้จะแก่จนเดินไม่ไหวก็ตาม รถเข็นนี้ออกแบบมาให้อากาศถ่ายเทได้ดี มีเบาะนุ่มๆ รองรับ มีร่มหลังคาที่เปิด-ปิดได้หลายระดับเพื่อช่วยบังแดดบังฝน และมีการออกแบบพื้นรถให้ต่ำที่สุดเพื่อที่เจ้าหมาจะได้ขึ้น-ลงรถอย่างสะดวก นิทรรศการ Architecture for Dogs จะจัดแสดงไปจนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 หากใครมีโอกาสไปที่มิลานก็แวะไปชมได้ที่ ADI Design Museum หรือหากใครอยากนำชิ้นงานเหล่านี้มาปรับใช้กับน้องหมาที่บ้านบ้าง […]
‘House of Lucie Samui & Samui Art Center’ พัฒนาพื้นที่และสร้างแรงบันดาลใจด้วยศิลปะ บนแลนด์มาร์กทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ของสมุย
หมุดหมายแห่งใหม่ของการไปเที่ยวเกาะสมุยอาจไม่ได้มีเพียงชายหาดอีกต่อไป แต่ยังมี ‘House of Lucie Samui & Samui Art Center’ อาคารจัดแสดงผลงานศิลปะ 3 ชั้นที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของป่าเมืองร้อน จัดตั้งขึ้นเพื่อมอบโอกาสให้ศิลปินท้องถิ่นทุกแขนงเข้ามาติดต่อใช้พื้นที่ในการแสดงผลงานได้ฟรี ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย ภาพวาด งานปั้น หรืองานแกะสลักก็ตาม นอกจากนี้ยังจัดให้เป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับการจัดกิจกรรมต่างๆ ของชุมชน ทั้งการจัดเวิร์กช็อปและงานเสวนาเกี่ยวกับศิลปะในแง่ต่างๆ อีกทั้งยังมีกิจกรรม One Shot-One Minute ที่ผู้เข้าร่วมงานต่างๆ ที่จัดขึ้นภายใต้อาร์ตเซ็นเตอร์แห่งนี้สามารถเข้ามาแบ่งปันภาพถ่ายและพูดคุยถึงความรู้สึกในภาพนั้นๆ เพื่อทำความเข้าใจเรื่องราวของศิลปะได้มากขึ้นด้วย โดยตัวอาคารแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ในส่วนของชั้นที่ 1 และ 2 เป็นบริเวณของหอศิลปะสมุยที่จะจัดแสดงงานศิลปะท้องถิ่นในรูปแบบของภาพวาด งานปั้น และงานแกะสลัก ส่วนด้านบนชั้น 3 เป็นบริเวณของ ‘House of Lucie’ ที่ใช้จัดแสดงผลงานภาพถ่ายโดยเฉพาะ ในแต่ละครั้งนิทรรศการจะจัดแสดงนานถึง 1 – 2 เดือน เพื่อหวังว่าจะช่วยเสริมกำลังใจแก่ศิลปิน และเปิดโอกาสในการสร้างรายได้จากศิลปะของพวกเขาให้มากขึ้น พื้นที่ทางวัฒนธรรมแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นด้วยความร่วมมือของ ‘ฮอสเซน ฟาร์มานี’ […]
‘เวิ้งนครเกษม เยาวราช’ จากตลาดเครื่องดนตรีและของเก่าสู่โครงการรองรับการท่องเที่ยวย่านไทย-จีน
ย่านแห่งก๋วยเตี๋ยวเป็ด ข้าวผัดปู ร้านขายเครื่องดนตรี และเหล่าสินค้าต่างประเทศในความทรงจำของใครหลายคน กำลังจะถูกพลิกโฉมครั้งใหญ่ด้วยโครงการจาก AWC หรือบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) ที่ปรับปรุงพื้นที่ ‘เวิ้งนาครเขษม’ ให้กลายเป็น เวิ้งนครเกษม เยาวราช เดิมทีช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง คนไทยเริ่มสนใจดนตรีตะวันตก บนพื้นที่ 14 ไร่ของเวิ้งนาครเขษมจึงเป็นแหล่งนำเข้าเครื่องดนตรีจากตะวันตกมาขาย จนกลายเป็นที่ขายของเก่า เครื่องดนตรี เครื่องทองเหลือง รวมถึงร้านอาหาร ด้วยจุดเด่นการเป็นตึกแถวแบบอาคารไม้ ก่อนเกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ใน พ.ศ. 2508 ชาวเวิ้งฯ ได้ปรับปรุงอาคารเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมสร้างตลาดใหม่ชื่อว่า ‘ตลาดปีระกา’ เพราะสร้างเสร็จในปีระกา และเป็นที่รู้จักในฐานะที่ตั้งของร้านอาหารชื่อดัง วัตถุโบราณ และหนังสือเก่าแก่มากมาย และล่าสุดกับเวิ้งฯ ฉบับใหม่ที่กำลังจะกลายเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวและบริการหรูในโครงการ River Journey Project เชื่อมต่อสถานที่ท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่าง ทรงวาด, ล้ง 1919 และเอเชียทีค ตามแพลนแล้วในพื้นที่นี้จะมีศาลาจีน (Chinese Pavilion) ความสูง 8 ชั้น เสริมความศักดิ์สิทธิ์ […]
ชมหนังกลางแปลงฟรี 9 เรื่อง 9 คืน กับ ‘สหมงคลฟิล์มกลางแปลง ครั้งที่ 3’ วันที่ 31 ม.ค. – 8 ก.พ. ที่งานเกษตรแฟร์ 68
กลับมาอีกครั้งกับ ‘สหมงคลฟิล์มกลางแปลง ครั้งที่ 3’ ในงาน ‘เกษตรแฟร์ ประจำปี 2568’ ที่เรียกว่าเป็นหนึ่งกิจกรรมที่หลายๆ คนตั้งตารอ เพราะจะได้ชมหนังกลางแปลงทั้งหนังไทยและหนังต่างประเทศครบรสตั้งแต่หนังรัก ชวนซึ้ง ฮา หลอน และแอ็กชันร่วมกับคนทั้งงานแบบฟรีๆ ในปีนี้ก็ยังคงคอนเซปต์การนำภาพยนตร์เรื่องดังมาฉายบนจอยักษ์ ชวนให้คนที่มาเดินงานเกษตรแฟร์ได้แวะมาร่วมชมภาพยนตร์ และสนุกไปด้วยกันในบรรยากาศชิลๆ ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม – 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 พบกับภาพยนตร์ดัง 9 เรื่อง ตลอด 9 คืน ดังนี้ 1. รักแห่งสยาม (31 มกราคม)2. Now You See Me 2 (1 กุมภาพันธ์)3. เฮี้ยน (2 กุมภาพันธ์)4. The Childe (3 กุมภาพันธ์)5. สุขสันต์วันโสด (4 กุมภาพันธ์)6. แหยม […]
เช็ก 47 จังหวัดทั่วไทย ที่ถ้ามีทะเบียนบ้านอย่าลืมกลับบ้านไป ‘เลือกตั้ง อบจ.’ เสาร์ที่ 1 ก.พ. 68 เวลา 08.00 – 17.00 น.
1 กุมภาฯ อย่าลืมกาปฏิทิน จองตั๋วกลับบ้าน เพราะในวันนั้นจะมีการเลือกตั้ง ‘สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด’ และ ‘นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด’ ที่ต้องย้ำว่างานนี้ไม่มีทั้งการเลือกตั้งล่วงหน้าและการเลือกตั้งนอกเขต เท่ากับผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่จะมีการเลือกตั้ง อบจ. จะต้องกลับบ้านไปเลือกตั้งในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. เท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 2 ปี โดยการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นทั้งหมด 47 จังหวัดทั่วประเทศไทย ดังนี้ 1. กระบี่2. จันทบุรี3. ฉะเชิงเทรา4. ชลบุรี5. ตรัง6. ตราด7. นครนายก8. นครปฐม9. นครพนม10. นครราชสีมา11. นนทบุรี12. นราธิวาส13. น่าน14. บึงกาฬ15. บุรีรัมย์16. ประจวบคีรีขันธ์17. ปราจีนบุรี18. ปัตตานี19. พังงา20. พัทลุง21. พิจิตร22. ภูเก็ต23. มหาสารคาม24. มุกดาหาร25. ยะลา26. […]
Angkor Grace Residence & Wellness Resort จากโครงการบ้านพักอาศัยทิ้งร้าง สู่รีสอร์ตความยั่งยืนเพื่อสุขภาพ
อย่างที่ใครหลายคนรู้กันว่า ในช่วงวิกฤตทางการเงินมักทำให้หลายอย่างหยุดชะงัก ไม่เว้นแม้แต่สิ่งปลูกสร้างหรือโครงการต่างๆ จนบางไซต์ก่อสร้างกลายเป็นพื้นที่ทิ้งร้าง ไม่ถูกใช้งาน และกัมพูชาก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ต้องเผชิญกับวิกฤตนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในอดีต ‘Angkor Grace Residence & Wellness Resort’ คือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากกรณีที่โครงการที่อยู่อาศัยที่คนท้องถิ่นเรียกว่า ‘Boreys’ ต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2551 จนส่งผลให้สร้างเสร็จเพียงครึ่งเดียว และต้องทำการปรับเปลี่ยนรูปแบบครั้งใหญ่จากโครงการที่อยู่อาศัยให้กลายเป็นรีสอร์ต ก่อนที่การระบาดใหญ่ของโควิดจะเปลี่ยนทิศทางรีสอร์ตอีกครั้ง ด้วยแนวคิดและรูปแบบธุรกิจใหม่ที่มุ่งเน้นเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น ทำให้ Bloom Architecture บริษัทสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นในเรื่องความยั่งยืนซึ่งมีสำนักงานอยู่ในกรุงพนมเปญและปารีส มุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนอาคารด้านหน้าจากที่พักอาศัยเดิมให้กลายเป็นสถานพยาบาลระดับพรีเมียมที่เต็มไปด้วยความยั่งยืนและเน้นเรื่องสุขภาพเป็นหลัก ความท้าทายอีกอย่างที่ Bloom Architecture ต้องเผชิญคือ การสร้างอาคารต่อจากโครงสร้างและงานก่ออิฐเดิมที่เกือบเสร็จสมบูรณ์ให้กลายเป็นห้องพักที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในการบริการแบบบูรณาการ ไปพร้อมๆ กับการชุบชีวิตพื้นที่ร้างให้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งผ่านพื้นที่ด้านหน้าอาคารและบริเวณส่วนกลาง เริ่มจากการหยิบเอาแนวคิดที่เน้นธรรมชาติเข้ามาใช้ โดยเริ่มจากการสร้างทางเดินสีเขียวภายในโครงการที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแม่น้ำเสียมเรียบที่ไหลผ่านเมือง และเมื่อตัดกับคอนกรีตเคลือบสีเลียนแบบดินแดงอันเป็นสัญลักษณ์ของเสียมเรียบที่ถูกใช้เป็นวัสดุหลักของโครงการ ก็ยิ่งเชื่อมโยงตัวตึกเข้าหาพื้นที่ส่วนกลางสีเขียวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ภายในโครงการยังมีความพยายามที่จะเลือกใช้วัสดุอิฐดินเผาที่ผลิตในท้องถิ่นและบล็อกลมที่มีลวดลายแบบเขมรดั้งเดิม เพื่อให้วัสดุเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมเดิมของคนในพื้นที่ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำสองสระ ร้านอาหาร ห้องจัดงาน และร้านกาแฟเปิดให้บริการ ทีมนักออกแบบหวังว่า Angkor Grace Residence & Wellness Resort จะกลายเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ทำให้การมาท่องเที่ยวในประเทศกัมพูชาถือเป็นการพักผ่อนทั้งจิตใจและร่างกายอย่างแท้จริง Sources :ArchDaily | […]
สวน Grønningen-Bispeparken ที่ปรับปรุงจากพื้นที่รกร้างในโคเปนเฮเกนให้เป็นสวนที่เหมาะกับทุกสภาพอากาศ
ด้วยสภาพอากาศโคเปนเฮเกนที่มีความแปรปรวนสูง จึงได้มีการปรับปรุงพื้นที่ Grønningen-Bispeparken ให้เป็นสวนสาธารณะที่สอดคล้องกับสภาพอากาศซึ่งทั้งล้ำสมัยและใหญ่ที่สุดของโคเปนเฮเกน โดยแปลงพื้นที่หญ้าโล่งขนาด 20,000 ตารางเมตรที่รกร้างให้กลายเป็นสวนธรรมชาติในเมืองที่มีชีวิตชีวา สนุกสนาน และมีความหลากหลายทางชีวภาพ พร้อมสำหรับการใช้งานของทุกคน เดิมทีพื้นที่นี้เป็นโครงการบ้านพักอาศัยตั้งแต่ปี 1950 ก่อนกลายเป็นสนามหญ้ารกร้างที่ไม่ได้รับการดูแลรักษาจนทรุดโทรม เต็มไปด้วยวัชพืช ดูไม่ปลอดภัย ไม่มีกิจกรรมการใช้งานหรือสนามเด็กเล่นสำหรับเด็กๆ และผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่น และสำคัญที่สุดคือ สนามหญ้าที่มีอยู่เดิมไม่สามารถจัดการหรือรองรับน้ำฝนได้ ปี 2020 เทศบาลเมืองโคเปนเฮเกนจึงเฟ้นหาบริษัทออกแบบให้มาเสนอราคากัน จนได้ SLA สตูดิโอออกแบบแนวธรรมชาติของเดนมาร์กมาปรับปรุงพื้นที่กลางแจ้งกว่า 20,000 ตารางเมตร ให้กลายเป็นสวนภูมิอากาศแห่งใหม่ที่จะช่วยป้องกันพื้นที่จากพายุฝนฟ้าคะนองและน้ำท่วม รวมทั้งยังเพิ่มคุณค่าทางสังคม ธรรมชาติ และวัฒนธรรมให้กับชุมชนและผู้อยู่อาศัยด้วย ด้วยแนวคิดที่ไม่ได้มองว่าฝนเป็นศัตรูแต่เป็นทรัพยากรสำคัญของเมือง SLA จึงพยายามออกแบบวิธีเก็บกักน้ำฝนด้วย ‘ทางน้ำฝน’ และ ‘หลุมต้นไม้’ (BioSwales) จำนวน 18 แห่งเชื่อมต่อกันทั่วทั้งพื้นที่สีเขียวและพื้นที่ลาดเอียง ที่สามารถเก็บน้ำฝนมากกว่า 3,000 ลูกบาศก์เมตรตลอดทั้งปี รวมถึงมีการปลูกต้นไม้ 149 ต้น จาก 23 สายพันธุ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งล้วนเป็นสายพันธุ์พื้นเมืองเพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพในท้องถิ่น ยิ่งไปกว่านั้น พื้นที่แห่งนี้ยังออกแบบให้ใช้งานเชิงสังคมได้อีกด้วย โดยมี Common […]
‘EcoCrew’ บริการยืม-คืนภาชนะในงานอีเวนต์ ทางเลือกที่ช่วยให้ได้กินดื่มและลดขยะไปพร้อมๆ กัน
งานอีเวนต์นับเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างขยะจำนวนมาก เพราะตามปกติแล้วภายในงานจะมีร้านขายอาหารและเครื่องดื่มให้บริการผู้เข้าร่วมงาน ภาชนะที่ใช้บรรจุก็มักเป็นแบบใช้แล้วทิ้งเพื่อความสะดวกสบาย จากเพนพอยต์นี้เอง นำมาสู่จุดเริ่มต้นของสตาร์ทอัพ EcoCrew ที่ ‘โด-ณัฐพล อินคล้าย’ Co-Founder เล่าให้เราฟังว่า เขาไปเดินงานอีเวนต์กาแฟและพบว่ามีขยะที่เกิดจากแก้วใช้แล้วทิ้งเป็นจำนวนมาก เลยเกิดเป็นไอเดียในการมองหาวิธีจัดการขยะเหล่านี้ จนได้มาเป็น EcoCrew บริการยืม-คืนภาชนะอย่างแก้วและถ้วยรียูสสำหรับใช้ในงานอีเวนต์ ที่เปลี่ยนจากการใช้แล้วทิ้งมาเป็นการยืมไปใช้แล้วคืนเพื่อรับเงินมัดจำคืน โดมองว่า ภาชนะในงานอีเวนต์นั้นไม่จำเป็นต้องใช้เพียงแค่ครั้งเดียว เหมือนกับบริการที่เคยมีมาก่อนในอดีตอย่างน้ำปลาคืนขวด ที่เมื่อใช้ประกอบอาหารหมดแล้วก็นำขวดเปล่ากลับไปคืนที่ร้านได้ ในระยะเวลาหนึ่งปีกว่าๆ ที่เริ่มให้บริการมา EcoCrew ได้เข้าร่วมงานต่างๆ กว่า 30 งาน ซึ่งช่วยลดขยะใช้แล้วทิ้งไปได้กว่า 130,000 ชิ้น และลดจำนวนขยะไปได้ 4 – 5 เท่าเลยทีเดียว ปัจจุบัน EcoCrew เข้าไปให้บริการแทบทุกประเภทงาน ไม่ว่าจะเป็นงานประชุม งานแต่งงาน งานวิ่ง งาน Expo งาน Festival หรือแม้แต่งานระดับเมืองอย่าง ‘กรุงเทพกลางแปลง’ และจากงานกรุงเทพกลางแปลงครั้งที่ผ่านมา โดก็สังเกตเห็นว่า แทบจะไม่มีขยะใช้ครั้งเดียวทิ้งให้เห็นเลย ซึ่งนั่นถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีทั้งสำหรับผู้ให้บริการ ผู้จัดงาน และผู้เข้าร่วมงานที่ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดขยะไปได้จำนวนมาก รวมถึงยังได้รับฟีดแบ็กที่ดีจากหลายภาคส่วน […]
ร่วมลงชื่อทบทวนการผ่านร่างกฎหมาย ม. 69 กับการอนุญาตให้ใช้อวนตาถี่ล้อมจับสัตว์น้ำในเวลากลางคืน
หลังจากสภาฯ ผ่านการแก้ไขร่างกฎหมายประมงฉบับใหม่ มาตรา 69 ว่าด้วยการห้ามใช้เครื่องมืออวนล้อมจับที่มีช่องตาอวนเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตร ในเขต 12 ไมล์ทะเลนับจากทะเลชายฝั่ง ซึ่งเหมือนจะเป็นกฎหมายห้ามทั่วๆ ไปที่ดีและช่วยรักษาระบบนิเวศสัตว์น้ำ แต่แท้จริงแล้วการแก้ไขร่างกฎหมายนี้กำลังอนุญาตอย่างกลายๆ ให้จับปลาด้วยอวนล้อมขนาดเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตร ในเขตไกลกว่า 12 ไมล์ทะเลได้ ซึ่งจากตัวอย่างอวนแหนั้นมีความเล็กได้ถึง 3 – 5 มิลลิเมตร เป็นขนาดที่ปลายปากกาผ่านไม่ได้ด้วยซ้ำ และยังอนุญาตให้จับสัตว์น้ำในเวลากลางคืนได้เช่นกัน ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ต้องใช้ไฟล่อ ทำให้ปลาตัวเล็กตัวน้อย ลูกปลาหลากหลายสายพันธุ์เข้ามาติดอวนได้ง่ายขึ้น เมื่อกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ ผลที่ตามมาคือ เหล่าสัตว์น้ำวัยอ่อนจะถูกตัดตอนการเจริญเติบโตโดยอัตโนมัติ และยังทำลายห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศ เพราะการใช้อวนล้อมสัตว์น้ำในเวลากลางคืนจะมีลูกสัตว์น้ำติดมาราว 50 เปอร์เซ็นต์ และทำลายระบบนิเวศปลาไทย จนอาจกล่าวได้ว่า หลังจากนี้เราอาจไม่มีปลาไทยกินกันอีกเลย สถานการณ์ปัจจุบันของร่างกฎหมายฉบับนี้คือ หลังจาก สว. ได้รับวาระ 1 เข้าสภาฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาแก้ไขร่างเพิ่มเติม และจะเข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภา วาระ 2 และวาระ 3 ต่อไป หากผ่านครบแล้วก็จะบังคับใช้ตามขั้นตอน หลายภาคส่วนจึงออกมาคัดค้านการแก้ไขร่างกฎหมายประมงฉบับใหม่ […]
House of Lucie Samui & Samui Art Center ศูนย์ศิลปะ แลนด์มาร์กแห่งใหม่ในเกาะสมุย ที่จะเป็นสื่อกลางเชื่อมโยงผู้คนผ่านงานศิลปะ
เกาะสมุยคือปลายทางหนึ่งที่นักท่องเที่ยวหมายปองอย่างมาก เพราะนอกจากจะมีทะเลและหาดทรายที่สวยงามแล้ว ยังมี Art Gallery ให้ดื่มด่ำงานศิลป์อีกหลายแห่ง รวมไปถึง ‘House of Lucie Samui & Samui Art Center’ แลนด์มาร์กงานศิลปะแห่งใหม่ในเกาะสมุยที่กำลังจะเปิดตัวในวันที่ 25 มกราคมนี้ ที่นี่เป็นทั้งสถานที่จัดแสดงผลงานศิลปะ และศูนย์ศิลปะที่ใช้งานอาร์ตเป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงผู้คน โดยมีการออกแบบให้พื้นที่เปิดโล่ง มองเห็นบ่อบัวอันเงียบสงบด้านหลัง มากไปกว่านั้นยังมีพื้นที่จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อช่วยจุดประกายการสร้างสรรค์งาน และช่วยเหลือ สนับสนุน เชื่อมโยงศิลปินท้องถิ่น ผู้คนในชุมชน เข้ากับศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตัวพื้นที่แบ่งออกเป็น 2 ชั้น ได้แก่ ชั้นล่างเป็นศูนย์ศิลปะสำหรับจัดกิจกรรม ทั้งเวิร์กช็อป การบรรยาย ไปจนถึงการจัดแสดงผลงาน และมีการนำเสนอผลงานของ ‘กิติก้อง ติลกวัฒโนทัย’ ศิลปินชาวไทยที่มีชื่อเสียงในการสร้างสรรค์งานพิมพ์ ภาพเขียน และสื่อผสม ส่วนชั้นที่ 2 คือ House of Lucie แกลเลอรีภาพถ่ายระดับโลกที่มีสาขาอยู่ใน 7 ประเทศรวมถึงประเทศไทย โดยจะเปิดตัวพร้อมกับ ‘ISLAND’ นิทรรศการภาพถ่ายที่ถ่ายทอดความงดงาม […]