‘Sabus’ รถบัสเก่าที่เปลี่ยนให้เป็นซาวน่าเคลื่อนที่ ออกเดินทางให้บริการรอบจังหวัดเฮียวโกะ 

เมื่อไม่มีการนำไปใช้งานต่อ ‘รถบัสรุ่นเก่า’ อาจต้องจอดทิ้งไว้เฉยๆ เพื่อรอการแยกชิ้นส่วน แต่บริษัทสตาร์ทอัปในประเทศญี่ปุ่นเล็งเห็นถึงประโยชน์ที่ยังใช้งานได้ของรถโดยสารประเภทนี้ จึงเกิดเป็นไอเดียที่ผสมผสานการชมวิวผ่านหน้าต่างรถและการอบซาวน่าไว้ในรถคันเดียวกัน ‘OSTR’ บริษัทสถาปัตยกรรมในโอซาก้าได้ร่วมมือกับบริษัทสตาร์ทอัป ‘Sauna Ikitai’ ในการเปลี่ยนรถบัสเก่าให้กลับมาใช้งานได้ แต่เป็นในรูปแบบของซาวน่าเคลื่อนที่ ที่จะเดินทางให้บริการรอบจังหวัดเฮียวโกะ ซาวน่าติดล้อนี้มีชื่อว่า ‘Sabus’ เป็นรถบัสที่ได้รับการปรับปรุงให้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถเลือกระดับความร้อนได้จากตำแหน่งที่นั่งและระยะห่างจากเพดาน โดยแถวแรกจะอยู่ใกล้เตาที่สุดและได้รับความร้อนโดยตรง ซึ่งสามารถควบคุมปุ่มทำความร้อนเองได้ แถวที่สองจะมีพื้นสูงและอยู่ใกล้เพดานมากที่สุด และแถวสุดท้ายจะนั่งสบายที่สุด ด้วยม้านั่งแบบยาวที่ช่วยให้ผู้ใช้บริการยืดขาหรือจะนอนก็ยังได้ อุปกรณ์ซาวน่าส่วนใหญ่ทำขึ้นจากการนำชิ้นส่วนในรถบัสมาใช้ใหม่หรือปรับปรุงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นราวจับที่ติดกับที่นั่งที่นำป่านมาหุ้มเพื่อให้รู้สึกสบายยิ่งขึ้น สายสำหรับห่วงจับถูกนำมาใช้กับเทอร์โมมิเตอร์เพื่อบอกอุณหภูมิภายใน กล่องตั๋วที่มีหมายเลขก็ถูกเปลี่ยนเป็นภาชนะสำหรับใส่น้ำหอม ส่วนบริเวณด้านหน้าของรถบัสยังถูกปรับให้เป็นพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนและเก็บสัมภาระ โดยรถคันนี้ยังคงรักษาหน้าต่างขนาดใหญ่เอาไว้เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้ชมวิวทิวทัศน์ระหว่างที่ซาวน่าเคลื่อนตัวไปด้วย สำหรับรูปลักษณ์ด้านนอกนั้นยังคงลักษณะของรถบัสสีส้มเอาไว้ แต่มีการเพิ่มเติมองค์ประกอบบางอย่าง เช่น เติมเส้นสีฟ้าอ่อนเพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างซาวน่ากับอ่างน้ำเย็น เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการใช้งานใหม่ และป้ายข้อมูลไฟฟ้าด้านหน้ารถบัสที่เปลี่ยนให้เป็น ‘ซาวน่าไอน้ำ 37’ ซึ่งหมายถึงซาวน่าที่จะพกพาไปยังที่ต่างๆ รวมไปถึงรูปสัญลักษณ์ของรถเข็นวีลแชร์ที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นสัญลักษณ์ของห้องซาวน่าแทน Sources :Designboom | bit.ly/3zP5bdyOSTR | bit.ly/3ZWpnVySauna Ikitai | bit.ly/3mrI6dW

โรงเรียนอนุบาลใต้ทางรถไฟยกระดับในโตเกียว บรรยากาศอบอุ่น มีสนามเด็กเล่นกึ่งกลางแจ้ง ไอเดียเปลี่ยนพื้นที่รกร้างให้มีประโยชน์และปลอดภัย

ในความหนาแน่นของเมืองและผู้คน การเพิ่มพื้นที่ใช้สอยคือหนึ่งในโจทย์สำคัญที่หลายเมืองทั่วโลกยังคงหาทางออกอยู่เสมอ วันนี้เราอยากพาไปดูหนึ่งไอเดียสำหรับการออกแบบพื้นที่ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือจากการใช้ประโยชน์ ถูกนำมาปรับเปลี่ยนให้เกิดประโยชน์มากขึ้นกว่าเดิม สถานที่แห่งนี้คือ ‘โรงเรียนอนุบาล’ ที่ตั้งอยู่ใต้ทางรถไฟยกระดับในมาจิยะ ใจกลางเมืองโตเกียว ทางรถไฟที่ว่านี้ถูกสร้างขึ้นใน พ.ศ. 2474 เมื่อมีการเกิดขึ้นของทางรถไฟยกระดับแห่งนี้ ผลที่ตามมาก็คือมีร้านค้าและบ้านเรือนถูกสร้างขึ้นอยู่บริเวณพื้นที่ทางด้านล่าง ก่อเกิดเป็นภูมิทัศน์ใจกลางเมืองที่ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาอยู่อาศัย  ในเวลาต่อมา ชาวเมืองถูกเวนคืนพื้นที่เพื่อเปิดทางให้กับการเสริมโครงสร้างยกระดับจากแผ่นดินไหว สถานที่ดังกล่าวถูกทิ้งร้างให้ว่างเปล่าเป็นเวลานาน และได้เริ่มต้นนำกลับมาใช้ใหม่โดยปรับปรุงพื้นที่ด้วยการสร้างโรงเรียนอนุบาล ซึ่งเป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่เมืองกำลังขาดแคลนเพราะไม่มีที่ทางจะสร้างนั่นเอง โดยโครงสร้างทางยกระดับที่ตัดผ่านตัวเมืองแห่งนี้มีคานที่สูงประมาณ 3.9 เมตร และมีระยะความกว้างระหว่างเสาประมาณ 6 เมตร ซึ่งกว้างขวางพอเหมาะมากสำหรับการสร้างพื้นที่ห้องเรียนหรือห้องอเนกประสงค์ต่างๆ ในโรงเรียนได้เป็นอย่างดี และทางสถาปนิกก็ยังทำการออกแบบหลังคาขนาดใหญ่ยาว 70 เมตร เพื่อให้สอดคล้องกันระหว่างขนาดของโครงสร้างยกระดับและขนาดของสถาปัตยกรรม รวมถึงยังทำผนังของโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ให้ปลอดภัยและห่างไกลอันตรายจากความเร่งรีบของการจราจรบนท้องถนน ภายใต้สะพานยกระดับซึ่งเป็นหลังคาขนาดใหญ่ของโรงเรียนแห่งนี้ มีสนามเด็กเล่นกึ่งกลางแจ้งที่ไม่เหมือนใคร สร้างขึ้นจากการซ้อนทับของโครงสร้าง และโครงสร้างที่สูงก็กลายเป็นหลังคาช่วยปกป้องสนามเด็กเล่นจากแดดจ้า ฝนชุ่มช่ำ และทำให้แสงยังสอดส่องได้อย่างเพียงพอ นอกจากเครื่องเล่นแล้ว โรงเรียนอนุบาลยังมีลานซักล้างและลานจอดจักรยานด้วย จากพื้นที่ที่คนเมืองรู้สึกอันตรายอย่างใต้ชายคาทางยกระดับ ถูกออกแบบให้มีความปลอดภัยและกลายเป็นอีกสถานที่ในเมืองที่ทำให้ผู้คนได้เพลิดเพลินไปกับดอกไม้และต้นไม้ที่ปลูกบริเวณโรงเรียน และเมื่อมีการสัญจรผ่านไปบนท้องถนนก็จะทำให้ผู้ที่ผ่านไปผ่านมาได้เห็นชีวิตประจำวันของเด็กๆ เป็นเสมือนฉากการเติบโตขึ้นของอนาคตประชากรของเมืองที่เลื่อนเปลี่ยนผ่านไปในทุกวัน Source :ArchDaily | t.ly/Oq4jd

‘The Penny Piggy Bank’ กระปุกออมสินหมูแม่เหล็ก ที่ทุบแตกกี่ครั้ง ก็ประกอบใหม่ได้

ถ้าถามถึงความเศร้าหนึ่งที่เราต้องเผชิญในวัยเด็ก คงเป็นการหยอดกระปุกออมสินหมูมานานแรมปี แต่เมื่อต้องทุบหมูเซรามิกเพื่อเอาเหรียญที่หยอดไว้ออกมากลับทำใจไม่ได้ซะอย่างนั้น เพื่อให้ฝันของเด็กไม่ต้องสลายไป ‘Dario Narvaez’ จึงได้ออกแบบกระปุกออมสินหมูขึ้นมาใหม่ โดยมีความพิเศษคือสามารถทุบเพื่อนำเศษเหรียญออกมา และประกอบกระปุกออมสินเข้าด้วยกันใหม่ได้ โดยตั้งชื่อให้การออกแบบนี้ว่า ‘The Penny Piggy Bank’ กระปุกออมสินหมูสีขาวล้วนที่เผยให้เห็นพื้นผิวที่แตกร้าวแทนที่จะปกปิดไว้อย่างแนบเนียน เป็นกิมมิกเล็กๆ ของ The Penny Piggy Bank ที่ Dario Narvaez ได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปะการซ่อมแซมเครื่องปั้นดินเผาด้วยทองและยางไม้ ที่รู้จักกันในชื่อ ‘คินสึงิ (Kintsugi)’ เมื่อออกแรงทุบไปที่ The Penny Piggy Bank รอยแตกร้าวดังกล่าวจะแบ่งตัวกระปุกออมสินหมูออกเป็นชิ้นส่วน PVC ทั้งหมด 12 ชิ้น ที่ทนทานต่อแรงกระแทกสูง ทนต่อรอยขีดข่วนที่เกิดจากการทุบกระปุกออมสินซ้ำๆ และสามารถประกอบขึ้นใหม่ได้ตลอดการใช้งานด้วยแม่เหล็กที่ถูกซ่อนไว้ภายใน นอกจากนี้ The Penny Piggy Bank ยังช่วยเสริมสร้างจินตนาการสำหรับเด็กผ่านการประกอบกระปุกออมสินขึ้นมาใหม่ เพราะโครงสร้างที่ไม่เหมือนใครของกระปุกออมสินจะทำให้ผู้ใช้งานสามารถประกอบขึ้นในรูปแบบใหม่ได้หลายพันวิธี ผ่านการจัดเรียงหรือหมุนชิ้นส่วนบางชิ้นในลักษณะต่างๆ คล้ายตัวการ์ตูน Mr. Potato Head ในเรื่อง Toy […]

บริการพาผู้สูงอายุไปหาหมอตามนัด สำหรับครอบครัวที่ไม่สะดวกพาไปเอง กับเพจเฟซบุ๊ก ‘ลูกสาวพาหาหมอ’

เมื่อถึงวัยหนึ่ง การไปหาหมอตามนัดอาจกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา แต่พออายุมากขึ้น การจะไปไหนมาไหนเองคงไม่สะดวก ลูกหลานก็อาจไม่ว่างพาไปหาหมอทุกครั้ง บริการพาผู้สูงอายุไปหาหมอตามนัดจึงเกิดขึ้นเพื่อแก้ Pain Point ข้อนี้ ‘ลูกสาวพาหาหมอ’ คือธุรกิจให้บริการพาผู้สูงอายุไปหาหมอในโซนกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่เกิดขึ้นจาก ‘เอมี่-อมรรัตน์ ขันตยาภรณ์’ และลูกสาวผู้ทำหน้าที่พาผู้สูงอายุในบ้านไปหาหมอเป็นประจำ เนื่องจากญาติคนอื่นๆ มักไม่ค่อยมีเวลาว่าง ทำให้ทั้งคู่นึกถึงครอบครัวอื่นๆ ที่คนในครอบครัวอาจประสบปัญหาไม่ว่างพาผู้สูงอายุไปหาหมอ จนเกิดเป็นไอเดียที่อยากให้บริการนี้ขึ้นมา หน้าที่ของ ‘ลูกสาวพาหาหมอ’ จะเริ่มต้นตั้งแต่รับผู้สูงอายุจากที่บ้าน พาไปโรงพยาบาล ดำเนินการเรื่องเอกสาร เข้าพบคุณหมอพร้อมกับผู้ป่วยด้วยหากเป็นเคสที่ต้องการ ไปจนถึงพากลับบ้านอย่างปลอดภัย โดยตลอดระยะเวลาที่อยู่โรงพยาบาลนั้นจะมีการอัปเดตความคืบหน้าให้ญาติผู้สูงอายุทราบอยู่เรื่อยๆ แต่เนื่องจากเป็นงานที่ต้องนัดล่วงหน้า ‘ลูกสาวพาหาหมอ’ จึงไม่สามารถรับผู้ป่วยฉุกเฉินได้ รวมถึงผู้ป่วยเองต้องสามารถช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง เช่น พูดคุยสื่อสารและเดินได้ เพราะด้วยข้อจำกัดของพื้นที่รถยนต์ ทำให้พวกเธอไม่สะดวกรับผู้ป่วยที่นั่งวีลแชร์ตลอดเวลาได้ อัตราค่าบริการนี้อยู่ที่ 1,000 บาทต่อ 8 ชั่วโมง โดยยังไม่รวมค่าเดินทางที่เริ่มต้นด้วย 300 บาท หรือคิดตามระยะทางระหว่างบ้านลูกค้าถึงโรงพยาบาลทั้งขาไป-ขากลับ ซึ่งหากใครต้องการใช้บริการต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อยสามวันก่อนถึงวันนัด เพราะถ้าจองช้าคิวอาจเต็มก่อนได้ ปัจจุบัน ‘ลูกสาวพาหาหมอ’ เน้นการให้บริการเพียงพาผู้สูงอายุไปหาหมอเท่านั้น แต่ในอนาคต หากลูกค้ามีความต้องการอื่นๆ ก็อาจมีบริการเพิ่มเติม เช่น การพาไปซื้อของหรือบริการอื่นๆ […]

Light Rail Tunnel Karlsruhe ชานชาลารถไฟฟ้าที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นตัวเอกในหนังรักโรแมนติก

แม้ว่าชานชาลารถไฟฟ้าใต้ดินจะเป็นฉากที่เราเห็นกันอยู่บ่อยๆ ในหนังรักโรแมนติก แต่ความเป็นจริงแล้วที่นี่กลับเป็นสถานที่ที่มีบรรยากาศอึมครึม เต็มไปด้วยผู้คน เสียงดัง และความวุ่นวายจนมองหาความโรแมนติกไม่ค่อยจะเจอ ถ้าคุณกำลังมองภาพสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเป็นแบบนี้ เราอยากชวนไปสัมผัสความโรแมนติกของชานชาลารอรถไฟฟ้าใต้ดินรางเบาทั้ง 7 แห่งบริเวณใจกลางเมืองคาร์ลสรูเออ ประเทศเยอรมนี อย่าง ‘Light Rail Tunnel Karlsruhe’ พร้อมๆ กัน ผ่านการออกแบบและติดตั้งไฟที่จะทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกเหมือนกำลังเป็นตัวเอกในหนังรักโรแมนติกสักเรื่อง Light Rail Tunnel Karlsruhe เป็นผลงานการออกแบบของสตูดิโอออกแบบ ‘allmannwappner’ ร่วมกับ ‘Ingo Maurer’ นักออกแบบอุตสาหกรรมชาวเยอรมันที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบโคมไฟและการติดตั้งไฟ ทำให้ชานชาลาทั้ง 7 แห่งสามารถถ่ายทอดความเรียบง่ายออกมาได้ จนทำให้ผู้ใช้งานเกิดความสงบ ไม่ต้องเร่งรีบตลอดเวลาเหมือนตอนใช้งานรถไฟฟ้าใต้ดินแห่งอื่นๆ พื้นที่สีขาวที่เรียบง่ายและสม่ำเสมอตลอดเส้นทาง เกิดจากการใช้วัสดุชนิดเดียวกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบนเพดาน ผนัง หรือพื้น เพื่อลดสัญญาณรบกวนทางสายตาและให้ความสำคัญกับองค์ประกอบสำคัญอื่นๆ อย่างรถไฟ สัญลักษณ์ และตัวอักษรสีแดงภายในชานชาลาได้มากขึ้น นอกจากนี้ Ingo Maurer ยังใช้หลอดไฟ LED สีขาวให้แสงสว่างกับสถานี ส่งผลให้ชานชาลาแห่งนี้มีความมินิมอลเรียบง่าย ให้ความรู้สึกสบายตามากยิ่งขึ้น และพิเศษไปกว่าเดิมด้วยการเล่นแสงจากสปอตไลต์ RGB สีแดง น้ำเงิน […]

ตามล่าขุมทรัพย์ปริศนาแห่งธนบุรีไปกับ ‘เกมท่องธน’ (Game of Thon) ที่ผสมการเล่นบนจอและโลกจริงไว้ด้วยกัน

‘ธนบุรี’ คืออดีตเมืองหลวงที่มีเรื่องราวมากมายซ่อนไว้ ซึ่งไม่ได้อยู่เพียงแค่ในวัดวังและโบราณสถานอันยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่ยังซุกซ่อนอยู่ตามซอกซอย เส้นทาง และผู้คน รอคอยให้ใครสักคนมาค้นพบในสักวัน เร็วๆ นี้ ทุกคนจะได้สัมผัสการผจญภัยครั้งสำคัญกับ ‘เกมท่องธน’ (Game of Thon) เกมรูปแบบใหม่ที่ผสมผสานการเล่นบนหน้าจอสมาร์ตโฟนกับการเล่นในสถานที่จริงเข้าไว้ด้วยกัน โดยตัวเกมจะพาทุกคนไปตามหาเรื่องราวในอดีตของฝั่งธนฯ และเปลี่ยนประสบการณ์การท่องเที่ยวในย่านนี้ให้แตกต่างไปจากเดิม ผู้นำเสนอเกมท่องธนคือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยากพัฒนาย่านฝั่งธนบุรี ‘ยังธน’ ร่วมกับ ‘CROSSs’ และ ‘กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์’ ซึ่งภายในเกมมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ดังนี้ 1) สวมบทบาทเป็นนักผจญภัย ตามหาขุมทรัพย์ในอดีตของธนบุรีที่หายไป2) ผสมผสานการเล่นทั้งโลกหน้าจอและโลกจริงเข้าด้วยกันอย่างแนบเนียน3) เปลี่ยนย่านบางกอกใหญ่ให้เป็นดินแดนการผจญภัยแสนสนุก4) ลับสมองประลองปัญหากับมินิเกมจากสถานที่ต่างๆ ทั่วบางกอกใหญ่5) เพิ่มความสนุกและตื่นเต้นไปกับเรื่องราวของย่าน ด้วยการสะสมสัตว์เลี้ยงและการ์ดต่างๆ6) สนับสนุนและกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น ด้วยระบบคูปองแลกซื้อสินค้าจากร้านชุมชน “Game of Thon คือเกมที่จะทำให้ผู้เล่นได้รู้จักฝั่งธนฯ มากขึ้น เราอยากให้เกมนี้เป็นเหมือนตัวกลางที่ทำให้คนในพื้นที่และคนนอกพื้นที่ได้เจอมาเจอกัน และแลกเปลี่ยนความรู้ด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ คุณค่าของย่าน รวมไปถึงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในชุมชนด้วย” ‘เมฆ สายะเสวี’ สมาชิกกลุ่มยังธน เล่าให้ฟังถึงความตั้งใจของการพัฒนาเกมนี้ มากไปกว่านั้น กลุ่มยังธนยังคาดหวังว่า เกมท่องธนจะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ทำให้ผู้คนรู้จักย่านต่างๆ ในธนบุรีมากขึ้น โดยผู้เล่นเกมสามารถใช้เกมนี้ในการชักชวนเพื่อนๆ […]

O_building เปลี่ยนเส้นทางระหว่างอาคารที่มืดทึบให้น่าเดิน ด้วยกระจกครึ่งบาน รับแสงแดดและเพิ่มพื้นที่

เมื่อพูดถึงอาคารที่อยู่อาศัย เรามักนึกถึงตึกสูงที่ตั้งชิดกันจนแทบไม่เหลือพื้นที่ว่างให้เดิน เช่นเดียวกันกับเมือง Musashino ในเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่มีอาคารพาณิชย์ตั้งเรียงรายจนทำให้เกิดทางเดินที่คับแคบและมืดทึบ สตูดิโอ Yohei Kawashima Architects จึงออกแบบ ‘O_building’ อาคารที่ล้อมรอบไปด้วยกระจกครึ่งบานและทางเดินที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ เพื่อเพิ่มมุมมองที่สวยงามของเมืองโตเกียว O_building เป็นอาคารสามชั้นที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อ ‘Yohei Kawashima’ มีลักษณะเป็นอาคารที่อยู่อาศัยรูปทรงเสาธง (Flagpole-shaped Residence) ที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติทั้งทิศเหนือและทิศใต้ของโครงสร้างอาคาร Yohei Kawashima Architects พยายามออกแบบให้พื้นที่ทางเดินด้านข้างมีชีวิตชีวามากขึ้นด้วยการวางแผ่นกระจกครึ่งบานไว้ตามทาง เพื่อทำหน้าที่รับแสงและเงาของแดดที่ส่องผ่านเข้ามาตามช่องว่าง ทั้งยังช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกว่ามีพื้นที่มากขึ้นจากการสะท้อนภาพอาคารและด้านหลังของอาคารอีกฝั่งหนึ่งที่อยู่ติดกันด้วย นอกจากนี้ ทางทีมสถาปนิกยังเสริมความน่ามองของทางเดินด้วยต้นไม้เขียวขจี เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมาใช้เวลาพักผ่อนตรงบริเวณนี้ หรือผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาได้สัมผัสกับธรรมชาติ และพวกเขายังเชื่อว่าทางเดินเล็กๆ ข้างอาคารแห่งนี้จะช่วยเปลี่ยนประสบการณ์การเดินท่ามกลางแสงแดดให้สดชื่นขึ้น รวมถึงเปลี่ยนคุณภาพพื้นที่ที่เชื่อมต่อระหว่างอาคารได้อย่างแน่นอน Source :Designboom | bit.ly/40A77Cm

EDEN Singapore Apartments อะพาร์ตเมนต์ในสวนแนวตั้ง เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้คนเมืองได้ใกล้ชิดธรรมชาติ

ราว 50 ปีที่แล้ว ‘สิงคโปร์’ ถูกนิยามว่าเป็น ‘เมืองในสวน’ ด้วยนโยบายของประเทศที่วางแผนสร้างเมืองที่มีตึกสูงระฟ้า แต่ขณะเดียวกันก็อุดมไปด้วยพื้นที่สีเขียว มีวิวทิวทัศน์สบายตา ‘Heatherwick Studio’ บริษัทสถาปัตยกรรมในลอนดอน จึงได้นำแรงบันดาลใจจากแนวคิดเช่นนี้มาออกแบบ ‘EDEN Singapore Apartments’ อาคารที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ประวัติศาสตร์อย่างย่าน Newton ประเทศสิงคโปร์ สตูดิโอแห่งนี้ปรับเปลี่ยนวิธีการสร้างตึกสูงที่มีเพียงโครงสร้างแบบเหล็กและกระจก ทำการเพิ่มส่วนประกอบของธรรมชาติที่ให้อารมณ์แบบบ้านในสวน เพื่อเป็นส่วนเติมเต็มให้คนเมืองได้พบกับที่พักอาศัยบนตึกสูงที่อยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ธรรมชาติ หากมองไกลๆ จะเห็นว่า EDEN Singapore Apartments แห่งนี้มีโครงสร้างแกนกลางคล้ายกระดูกสันหลัง จัดการออกแบบให้มีหน้าต่างบานเรียวแนวตั้งมีลักษณะคล้ายใบมีด และเมื่อมองจากด้านหน้าจะพบว่าตึกแห่งนี้มีระเบียงที่ดูคล้ายกับสวนแขวนขนาดใหญ่ ที่ถูกแบ่งพื้นที่ให้เป็นระเบียงซึ่งอัดแน่นไปด้วยพรรณไม้ที่ถักทอขึ้นด้านบนและแผ่ขยายไปรอบๆ อาคาร ทำให้พื้นที่สี่เหลี่ยมของอาคารที่อยู่อาศัยแบบดั้งเดิมถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นพื้นที่ใช้สอยบริเวณด้านนอก เพื่อให้ผู้พักอาศัยมีสวนส่วนตัวบนท้องฟ้าอันเขียวชอุ่ม ได้เชื่อมโยงกับธรรมชาติและโอบรับประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เงียบสงบ นั่งคุย นั่งชิลได้ทุกเมื่อ เสมือนอยู่บนสวนสวรรค์สมชื่อ สิงคโปร์ยังคงพัฒนาเมืองด้วยแนวคิดแบบ City in a Garden เสมอมา มีกลิ่นอายของความอุดมสมบูรณ์ หรูหรา และกลมกลืนกับสภาวะแวดล้อมแบบร้อนชื้น โดยให้ความสำคัญต่อพื้นที่สีเขียวและใส่ใจดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมที่สบายตา รวมถึงยังไม่หลงลืมที่จะผสมผสานพืชพรรณต่างๆ ให้เข้ากับตึกสูงได้อย่างลงตัว เพื่อให้ผู้คนในเมืองยังคงได้ใกล้ชิดความสวยงามของธรรมชาติตลอดไป Sources :Eden | bit.ly/43cBwIuParametric […]

หมุนกาชาปองชุด ‘นวคเณศ’ กว่า 15 แบบโดยศิลปินอาร์ตทอย วันที่ 7 – 9 เม.ย. 66 ที่พิพิธภัณฑ์ฯ พระนคร

หน้าร้อนนี้ ใครกำลังมองหากิจกรรมทำในสถานที่เย็นๆ อยู่ วันนี้ – 9 เมษายน 2566 ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จัดงาน ‘สงกรานต์แฟร์ : นพเคราะห์บูชาดาราจร รับพรสงกรานต์ปีเถาะ’ นอกจากกิจกรรมมากมายแล้ว ยังมีกาชาปองคอลเลกชันพิเศษโดยเหล่าศิลปินอาร์ตทอยให้ไปเสี่ยงทายหมุนเล่นกันด้วย กิจกรรมที่ว่ามีตั้งแต่นิทรรศการพิเศษ เรื่อง ‘เก้าดารา’ ให้ไปเรียนรู้เกี่ยวกับเทวดานพเคราะห์ในวิถีชีวิตไทย ‘ตลาดเก้าล้าน’ ที่แสดงและจัดจำหน่ายสินค้าที่ต่อยอดจากโบราณวัตถุกับศิลปวัตถุ โดยนักศึกษา ศิลปิน และอาสาสมัครฯ ‘สถานีเก้าสิปป์’ มุมเวิร์กช็อปงานศิลปะที่หยิบเล่นได้ โดยนักศึกษาและศิลปินอาร์ตทอย ไปจนถึงกิจกรรมทัวร์ชมพิพิธภัณฑ์ฯ ล่าขุมทรัพย์เก็บคะแนนแลกของรางวัลพิเศษ และมุมจิบชาเก้าชนิด ส่วนฝั่งอาร์ตทอยก็มีให้ลุ้นกาชาปองชุดพิเศษ ‘นวพ่าห์’ สัตว์พาหนะ 9 ชนิดของเทวดาประจำวันเกิด โดย Little Turtle Studio ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายแล้วสำหรับคนที่พลาดรอบก่อนๆ ไป และพิเศษสุดกับการเสี่ยงทายกาชาปองพระคเณศ ‘นวคเณศ’ ที่มีทั้งหมด 15 แบบ ซึ่งออกแบบโดยเหล่าศิลปินอาร์ตทอยเพื่องานนี้โดยเฉพาะ อีกทั้งยังผ่านพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ‘นวัคคหายุสมธัมม์’ ณ วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามเรียบร้อยแล้ว งาน ‘สงกรานต์แฟร์ […]

กีตาร์ไฟฟ้าจากแผ่นเหล็กที่ประกอบเข้ากับไม้จากท้องถิ่น โดดเด่นด้วยหน้าตาโมเดิร์น

ลืมภาพกีตาร์ไฟฟ้าแบบเดิมที่เคยเห็นกันไปได้เลย ถ้าได้รู้จักกับ ‘Cosmo’ กีตาร์ไฟฟ้าที่เป็นการรวมตัวของศิลปะและอุตสาหกรรมที่ผลิตขึ้นอย่างยั่งยืน ทั้งยังมีความยืดหยุ่นและรูปทรงที่ไม่แน่นอน ‘Robin Stummvoll’ นักออกแบบชาวเยอรมัน เจ้าของแบรนด์ ‘Verso Musical Instruments’ ได้เปิดตัว Cosmo กีตาร์ดีไซน์แหวกแนวจากบอดี้ที่ดูเรียบง่ายและแปลกตาไปจากกีตาร์ไฟฟ้าที่เราคุ้นเคย ด้วยการเปลี่ยนตัวเครื่องที่ทำจากไม้แบบเดิมๆ ให้กลายเป็นแผ่นเหล็กที่มีความหนา 1 มิลลิเมตร ไปจนถึงการถอดและการจัดวางเครื่องดนตรีภายในตัวกีตาร์แบบใหม่ให้เหลือน้อยที่สุด แต่ยังสามารถใช้งานได้ดีเหมือนกับกีตาร์ทั่วไป ส่วนคอกีตาร์ทำขึ้นจากไม้โทนวูดในท้องถิ่น ที่ยึดเข้ากับแผ่นเหล็กและเคลือบด้วยสีพลาสติกเพื่อความทนทาน คุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของ Cosmo คือระบบปิ๊กอัปแม่เหล็กที่เคลื่อนย้ายได้อย่างอิสระบนพื้นผิวโลหะ และสามารถสลับกับปิ๊กอัปประเภทอื่นได้ หรือจะใช้ปิ๊กอัปสองตัวคู่กันเพื่อสร้างเสียงเพลงที่ไร้ขอบเขตก็ได้เช่นกัน ซึ่งปิ๊กอัปกีตาร์คืออะไหล่ที่ทำหน้าที่แปลงการสั่นของสายและตัวกีตาร์ ก่อนจะส่งผ่านแอมป์ให้ออกมาเป็นเสียงที่เราได้ยินกันนั่นเอง กีตาร์ไฟฟ้ารุ่น Cosmo ราคาประมาณ 60,600 บาท สามารถเข้าไปดูรายละเอียดและสั่งซื้อได้ทาง versoinstruments.com Sources :Guitar Rich | bit.ly/2GxeYJb STIRpad | bit.ly/3U9geaO Verso | versoinstruments.com Wired | t.ly/58EQ    

การแบ่งขั้ว (Polarization) สำคัญอย่างไร และทำไมถึงต้องหยุดมันก่อนสายเกินแก้

ในสังคมประชาธิปไตย ทุกคนสามารถคิดต่างและถกเถียงกันได้ บนพื้นฐานความเคารพ การโต้แย้งแลกเปลี่ยนกันสามารถนำไปสู่ความรู้ ความเข้าใจใหม่ๆ และฉันทามติต่อทางออกสังคม แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่สังคมเกิดกลุ่มแนวคิดสุดโต่งต่างขั้ว หรือที่เรียกว่า Polarization ที่ทำให้คนที่อยู่คนละขั้วไม่สามารถหารือ เคารพ หรือทนอยู่ร่วมกับขั้วความคิดที่ต่างกับตนได้ นั่นคือสัญญาณอันตรายที่เราต้องช่วยกันระมัดระวัง หากบทสนทนาในกลุ่มเริ่มยกระดับเป็น Echo Chamber ที่ได้ยินแต่เสียงยืนยันความเห็นของตัวเองและกีดกันความเห็นต่าง โดยไม่สนใจว่าสิ่งที่แลกเปลี่ยนกันนั้นเป็นข้อมูลจริงหรือเท็จ และสมาชิกในกลุ่มโจมตีฝ่ายที่คิดต่างกับตนเองด้วยข้อความที่ก่อให้เกิดความเกลียดชัง (Hate Speech) จนนัดหมายออกไปใช้ความรุนแรงในโลกจริงเมื่อไหร่ นั่นคือสัญญาณของการแบ่งขั้ว การแบ่งขั้วเกิดจากประเด็นที่หลากหลาย โดยมีพื้นฐานมาจากความเชื่ออย่างสุดโต่งของตน ไม่ว่าจะเป็นลัทธินีโอนาซี (Neo-Nazis) ที่มีความเชื่อว่าชาติพันธุ์ของตนนั้นเหนือกว่าชาติพันธุ์อื่นๆ ซึ่งในปี 2020 ตำรวจเยอรมันได้บุกค้นสถานที่ 13 แห่งใน 6 รัฐ และพบหลักฐานเครือข่ายก่อการร้ายของฝ่ายขวาสุดโต่งที่เชื่อว่าถูกปลุกระดมขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์ และในปี 2021 มีรายงานว่ากลุ่มนีโอนาซีและกลุ่มหัวรุนแรงฝ่ายขวาลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรงถึง 1,042 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 590 คนจากการโจมตีดังกล่าว ที่ประเทศไทยก็เช่นกัน ปรากฎการณ์ ‘การเมืองสีเสื้อ (Color Politics)’ ซึ่งเป็นการแสดงออกทางการเมืองของภาคประชาชนระหว่าง ‘มวลชนเสื้อเหลือง’ กับ ‘มวลชนเสื้อแดง’ ทำให้มีการแบ่งขั้วทางการเมืองอย่างหนัก ทั้งสองขั้วมีความเกลียดชัง […]

ฮาวทูสร้างโอเอซิสในเมืองให้นกและสารพัดสัตว์มีพื้นที่เล่นน้ำ ช่วยผ่อนคลายร่างกายช่วงหน้าร้อน

ในช่วงเดือนเมษายนของทุกปีจะเข้าสู่ช่วงที่สภาพอากาศร้อนแรงสุดๆ จนมีคำกล่าวหยิกแกมหยอกบอกว่า ประเทศไทยมีอยู่สามฤดู นั่นคือ หน้าร้อน หน้าร้อนมาก และหน้าร้อนโคตรๆ แต่ถึงจะร้อนขนาดไหน ผู้คนอย่างเราๆ ก็ยังเข้าไปหลบร้อนตามอาคาร ออฟฟิศ หรือสถานที่ที่มีพัดลมและแอร์เป็นตัวช่วยคลายร้อนได้ แต่กับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เช่น นก แมลง หรือกระรอก อาจไม่สามารถเข้าถึงสถานที่คลายร้อนได้ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ ที่ธรรมชาติเหลือน้อยลงเต็มที วิธีการง่ายๆ ที่จะช่วยให้นกหรือสัตว์ต่างๆ ในเมืองเย็นขึ้นได้คือ ‘การสร้างบ่อน้ำ’ เพราะการมีบ่อน้ำขนาดย่อมหลายๆ จุด จะเป็นตัวช่วยบรรเทาให้ช่วงเวลาวิกฤตของเหล่าสัตว์ตัวน้อยในเมืองเย็นสบายขึ้น RSPB หรือ ราชสมาคมแห่งลอนดอนเพื่อการคุ้มครองนก ได้แนะนำวิธีการสร้างบ่อน้ำนกง่ายๆ ไว้ดังนี้ 1) ให้สร้างบ่อน้ำแบบตื้นที่มีความกว้าง เช่น จานรองกระถางต้นไม้แบบดินเผา ที่ทนต่อสภาพอากาศเมืองร้อน 2) หากบ่อน้ำมีความกว้างมากกว่า 30 เซนติเมตร อาจจัดโซนให้มีทั้งเขตน้ำตื้นและน้ำลึกที่ไม่ควรเกิน 10 เซนติเมตร 3) ใส่หินหรือก้อนกรวดไว้ในบ่อน้ำ เวลานกบินมาเกาะหรือสะบัดขนเล่นน้ำ บ่อน้ำจะได้มีความมั่นคงแข็งแรง  4) การยกบ่อน้ำนกให้สูงจากพื้นเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อช่วยป้องกันอันตรายจากสุนัข แมว หรือสัตว์เลื้อยคลานที่จะมากินนก 5) น้ำที่ใช้ควรเป็นน้ำฝนหรือน้ำประปา […]

1 39 40 41 42 43 131

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.