WHAT’S UP
ต่อชีวิตหอศิลป์กรุงเทพฯ ผ่าน ‘Art in Postcards’ นิทรรศการโปสต์การ์ด จาก 12 ศิลปินไทย
หอศิลป์กรุงเทพฯ หรือ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร สถานที่จัดแสดงงานศิลปะเจ๋งๆ ใจกลางกรุงเทพฯ ที่เปิดให้เราเข้าชมฟรีมาตลอดหลายปี เป็นที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คน ในเดือนสิงหาคมนี้จะเปิดให้บริการครบ 10 ปีพอดี
กฟผ. จับมือเรือด่วนเจ้าพระยา เตรียมทดลองให้บริการเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า
เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ค่าฝุ่นละอองหลายพื้นที่ในประเทศไทยกลับมาอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอีกครั้ง ซึ่งสาเหตุของฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือที่เราคุ้นกันในชื่อ PM 2.5 มาจากหลายปัจจัยด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือการเผาไหม้ที่เกิดจากการคมนาคมขนส่งที่เราใช้กันทุกวัน การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงจากการคมนาคมขนส่งก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน สารประกอบไฮโดรคาร์บอน ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน สารตะกั่ว และก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนและคุณภาพของอากาศโดยรวม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จึงร่วมยกระดับคุณภาพการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าในระบบขนส่งสาธารณะ จับมือกับบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด นำเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าของ กฟผ. ออกทดลองให้บริการแก่ประชาชนทั่วไป ภายใต้แนวคิดการประหยัดพลังงานและลดมลพิษให้ได้มากที่สุด การทดลองเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้านี้จะให้บริการเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ท่าเรือปากเกร็ด – พระราม 7 และท่าเรือพระราม 7 – สาทร เป็นเวลา 6 เดือน สำหรับผู้ที่สนใจ ติดตามวันและเวลาที่เริ่มให้บริการได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ Chao Phraya Express Boat – เรือด่วนเจ้าพระยา Sources : การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย https://bit.ly/3pW0Fm2กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม https://bit.ly/3qTGxlY
ไลฟ์สไตล์กรีน ‘ชุดชั้นในเก่าที่รีไซเคิลไม่ได้’ เป็นเชื้อเพลิงทดแทนถ่านหิน เพียงส่งไปบริษัทกำจัดขยะ N 15
หากใครต้องการทิ้งกางเกงใน ชุดชั้นใน เสื้อกล้าม หรือถุงเท้าที่มีสภาพเก่าจนบริจาคไม่ไหว สามารถนำไปบริจาคได้ที่ ‘N 15 Technology’ บริษัทกำจัดของเสียและวัสดุที่ไม่ใช้แล้วจากชุมชนและโรงงานอุตสาหกรรม
ญี่ปุ่นสร้างปุ่มกดสาธารณะโฮโลแกรม ถอนเงิน ล้างมือ ขึ้นลิฟต์ และเปิดประตูได้ โดยไม่ต้องสัมผัสเชื้อโรค
ในหนังไซไฟ ตัวละครถอนเงินหน้าตู้เอทีเอ็มโดยไม่ต้องกดปุ่มอะไร ล้างมือในห้องน้ำสาธารณะโดยไม่ต้องจับก๊อก หรือขึ้นลิฟต์โดยไม่ต้องกดเลือกชั้น ไปจนถึงเปิดประตูโดยไม่ต้องใช้มือจับลูกบิดสักนิด เพราะมีโฮโลแกรมเด้งขึ้นมากลางอากาศให้สั่งการแทน เหล่านี้ดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัวและไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้ แต่มาวันนี้เชื่อว่าคงเป็นเรื่องใหม่และน่าตื่นเต้นของผู้คนไม่น้อย เพราะญี่ปุ่นเขาทำให้เกิดขึ้นจริงแล้วและล้ำมาก! ‘Floating Pictogram Technology’ คือนวัตกรรมภาพลอยโฮโลแกรมที่ติดตั้งระบบอินเทอร์เฟซแบบไร้สัมผัสด้วยเซนเซอร์ ของสองบริษัทเทคโนโลยี Murakami Kaimeido และ Parity Innovations ซึ่งคำนึงถึงความเสี่ยงในการสัมผัสสิ่งของสาธารณะนอกบ้าน ที่อาจเป็นตัวการแพร่กระจายไวรัสโคโรนาเข้าสู่ร่างกายได้ การเปลี่ยนปุ่ม แผง ก๊อก หรือลูกบิด เป็น ‘ภาพลอย’ จึงทำให้ผู้ใช้สามารถเลื่อนนิ้วเหนือภาพที่ลอยอยู่โดยไม่ต้องสัมผัสเชื้อโรคเลยสักนิด ปัจจุบันเทคโนโลยีดังกล่าวเริ่มผลิตออกมาเป็นสินค้าตัวอย่างและทดลองใช้งานจริงแล้ว ซึ่งมีเป้าหมายที่จะผลิตจำนวนมากเพื่อให้ชาวญี่ปุ่นได้ใช้กันอย่างแพร่หลายในปี 2022 Source : http://bit.ly/3s642YZ
หมดปัญหาไม่รู้จะทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ไหน ฝากพี่ไปรษณีย์ไทยไปทิ้งได้
รู้หรือไม่? ประเทศไทยมีปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์จากชุมชนสูงถึง 380,000 ตัน/ปี แต่มีเพียงร้อยละ 7 เท่านั้นที่ถูกนำกลับรีไซเคิลอย่างที่ควรจะเป็น ส่วนที่เหลือก็จะปะปนไปกับขยะมูลฝอยอื่นๆ รอการฝังกลบ และปล่อยสารเคมีอันตรายอย่างปรอท ตะกั่ว ดีบุก สะสมต่อไปในห่วงโซ่อาหาร ดังนั้น AIS และไปรษณีย์ไทยจึงจับมือกันสร้างโครงการ ‘ฝากทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์’ ที่จะช่วยให้เราจัดการขยะได้อย่างเป็นระบบมากขึ้นผ่านบุรุษไปรษณีย์กว่า 20,000 คนทั่วประเทศ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าขยะอันตรายจะถูกนำไปกำจัดและรีไซเคิลอย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากลแบบ ‘Zero Landfill’ หรือการรีไซเคิลแบบไม่มีการฝังกลบเลย ส่วนขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่รับฝากทิ้ง ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต สายชาร์จ หูฟัง พาวเวอร์แบงก์ และแบตเตอรี่มือถือ สำหรับคนที่สนใจก็นำเจ้าพวกนี้ใส่กล่องพร้อมกับเขียนหน้ากล่องว่า ‘ฝากทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์’ มอบให้บุรุษไปรษณีย์ที่แวะเวียนมาส่งจดหมายแถวบ้านได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
Vaccine Passport โชว์ผลตรวจและการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อลดข้อจำกัดการข้ามประเทศ
ทุกวันนี้การเดินทางข้ามประเทศกลายเป็นเรื่องยากราวกับย้อนไปยุคก่อนมีเครื่องบิน เพราะฉะนั้น เพื่อสลัดข้อจำกัดการข้ามประเทศ ทำให้ ‘Vaccine Passport’ หรือพาสปอร์ตวัคซีน กลายเป็นทางออกที่ ‘คาดว่า’ จะทำให้น่านฟ้ากลับมาคึกคักอีกครั้ง
เอาใจทาสหมาทาสแมว ด้วยคอนโดฯ เปิดใหม่ใจกลางเอกมัย ที่เป็นมิตรกับคนและสัตว์เลี้ยง
ทุกครั้งที่จะย้ายบ้านหรือซื้อคอนโดฯ ใหม่ หนึ่งปัญหาใหญ่ของทาสหมาทาสแมวคือไม่มีพื้นที่ให้สัตว์เลี้ยงตัวโปรดได้วิ่งเล่นอย่างอิสระ แต่เดี๋ยวนี้เดเวลอปเปอร์ด้านอสังหาริมทรัพย์หลายเจ้าก็หันมาให้ความสนใจเทรนด์ Pet Friendly มากขึ้น หนึ่งในนั้นคือโครงการ MARU Ekkamai 2 จากเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ คอนโดฯ สุดชิกที่ตั้งอยู่ย่านสุดชิลอย่างเอกมัย ความโดดเด่นของ MARU Ekkamai 2 นอกจากการออกแบบที่เน้นยูนิตพิเศษ เลือกใช้วัสดุทำความสะอาดง่าย มีพื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย ที่สำคัญ ที่นี่ยังเลี้ยงสัตว์ได้ มีพื้นที่สำหรับอาบน้ำสัตว์เลี้ยงอยู่ทางด้านหลังโครงการไว้ให้บริการ ใครที่กังวลว่าเพื่อนสี่ขาของตัวเองจะไม่มีที่อยู่ก็สบายใจหายห่วง หากสนใจก็อย่ารอช้า จูงเจ้าสี่ขาไปจับจองกันได้ที่โครงการ MARU Ekkamai 2 หรือลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลโครงการได้ที่ https://bit.ly/3jF7Ptl
อาลัยรักแด่คนที่จากไป ด้วย ‘ปักกิ่งดี’ ธุรกิจหรีดต้นไม้ช่วยลดขยะพวงหรีด นำกลับบ้านไปปลูกต่อได้
ในวันที่คนสำคัญสิ้นสุดลมหายใจ ภาพงานศพเคล้าน้ำตาในวัดและพวงหรีดดอกไม้ที่วางหน้าโลงศพเป็นสิ่งที่พบง่ายเกือบทุกงานศพไทย แต่เคยตงิดใจกันบ้างไหมว่าดอกไม้แสนสวยบนพวงหรีด จบพิธีแล้วไปไหน ไปเป็นขยะหรือเปล่าหว่า จินา โอสถศิลป์ ผู้บริหารค่ายหนังอารมณ์ดี GDH เจ้าของธุรกิจต้นไม้ ‘ปักกิ่งดี’ มองเห็นปัญหาการสร้างขยะหลังงานศพ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือพวงหรีดดอกไม้ที่ใช้แล้วทิ้ง เพราะนำไปปลูกต่อไม่ได้ เธอจึงใช้ความอารมณ์ดีผสมความใจดี (ต่อโลก) ทำพวงหรีดจากต้นไม้พร้อมจัดส่งให้ถึงงานศพในชื่อ ‘หรีดต้นไม้’ หรือ Wreath for Breath โดยต้นไม้ที่เลือกใช้จะเป็นไม้กระถาง เจ้าของงานหรือแขกเรือนสามารถนำกลับไปปลูกต่อทั้งหมด เพื่อแลกเปลี่ยนออกซิเจนดีๆ แทนของชำร่วยให้คนที่ยังอยู่ได้รับอากาศบริสุทธิ์เพิ่มขึ้น นอกจากต่อลมหายใจให้คน ที่นี่ยังมีบริการรับดูแลต้นไม้ต่อในกรณีที่เจ้าภาพบางคนแบกกลับบ้านไม่ไหว โดยรายได้ 5% จากการขายหรีดต้นไม้ยังมอบให้มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ เพื่อนำไปปลูกป่าเพื่อต่อลมหายใจให้ผืนป่าอยู่กับเราไปนานๆ อีกด้วย ป.ล. สำหรับแฟนเพจ Urban Creature เพียงแจ้งปักกิ่งดีว่าตามมาจากเพจเรา รับส่วนลดไปเลย 10% ทุกรายการ ตลอดเดือนมีนาคม ปี 2564 รายละเอียดเพิ่มเติม : www.packkingdee.com
‘ฟังบูโดกัน’ นิทรรศการเสียงออนไลน์ ที่บอกเล่าเรื่องราวของชาวบ้านกับการต่อสู้เรื่องสิทธิที่ดินบนเทือกเขาบูโด
หลังจากเทือกเขาบูโด-สุไหงปาดีถูกประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติในปี 2542 ก็ส่งผลให้ชาวบ้านไม่สามารถถือครองที่ดินทำกินอย่างยั่งยืน กลายเป็นปัญหายืดเยื้อมานานหลายสิบปี เราอยากชวนทุกคนมาฟัง ‘ฟังบูโดกัน’ นิทรรศการเสียงออนไลน์ที่จะรวมสื่อและศิลปินอาสาหลากหลายแขนง อาทิ Attention Studio, a day BULLETIN, Localry, echo, The Momentum, Trawell Thailand, Max Jenmana, ProtoZua, H 3 F, วงสามัญชน, JIPI, Julie Baker and Summer, Nut Dao, Gongkan และอีกมากมาย ที่จะมาถ่ายทอดเรื่องราวและร่วมกันเป็นกระบอกเสียงให้ชาวบ้านบนเทือกเขาบูโด สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งกำลังต่อสู้เรื่องสิทธิที่ดินทำกินหลังมีการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติทับที่ดินทำกินของชุมชน ทำให้จาก ‘ผู้อยู่อาศัยมาก่อน’ กลายเป็น ‘ผู้ทำผิดกฎหมาย’ ใครที่สนใจ ติดตามได้จากช่องทาง Facebook Page : Attention.studio ตั้งแต่วันนี้ – 15 มีนาคม 2564
Amazon สร้างออฟฟิศในฝันให้พนักงาน มีทางเดินเป็นป่า มีห้องประชุมเป็นสวน เลี้ยงหมาได้ และใช้พลังงานหมุนเวียนทั้งตึก
ทำงานบนหอคอยแก้วทรงเกลียวเหมือนก้นหอย ต้นไม้รายล้อมปกคลุมรอบทางเดิน มองออกนอกหน้าต่างมีสวนสาธารณะอยู่รอบๆ วันไหนอยากจูงสุนัขมาทำงานด้วยก็มีบริการรับเลี้ยง และหลังเลิกงานแอบไปเดินตลาดเกษตรกรที่อยู่เพียงชั้นล่างออฟฟิศ…โอ้โห ถ้าได้ทำงานท่ามกลางบรรยากาศที่ว่า คงรู้สึก Productive น่าดู ในไทยอาจจะยังไม่มีออฟฟิศในฝันแบบที่กล่าวไว้ แต่เมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา กำลังจะมีแล้วนะ! เพราะบริษัทสถาปัตยกรรม NBBJ เพิ่งออกแบบสำนักงานใหม่ ของบริษัทค้าปลีกออนไลน์ Amazon ในชื่อ ‘The Helix’ โดยมีอุดมการณ์อยากสร้างสภาพแวดล้อมให้พนักงานสามารถจัดลำดับความสำคัญของงานที่ดีต่อสุขภาพในพื้นที่ 260,000 ตารางเมตร พื้นที่ของ The Helix ประกอบด้วย 3 อาคาร มีทั้งออฟฟิศที่ตลอดทางเดินขึ้นไปทำงานจะมีพื้นที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ คล้ายป่ากลางแจ้ง นอกจากนั้นยังมีสวนสาธารณะในร่มสำหรับประชุมงานที่จุคนได้ถึง 1,500 คน พร้อมเอาใจพนักงานที่มีลูกและสุนัขด้วยบริการรับเลี้ยงสุนัขและศูนย์ดูแลเด็ก ส่วนชั้นล่างสุดของออฟฟิศเป็นพื้นที่สำหรับร้านค้า ร้านอาหาร และตลาดเกษตรกรไว้ให้ช้อปปิงยามเย็น ที่สำคัญทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ออฟฟิศจะถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่สาธารณะที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามานั่งพักผ่อนได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย Amazon อยากให้พนักงานมีสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอกท่ามกลางบรรยากาศการทำงาน แต่ก็ไม่ลืมใส่ใจสิ่งแวดล้อมรอบข้างโดยการใช้พลังงานหมุนเวียนทั้งตึก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการเป็นบริษัทที่ไม่ปล่อยคาร์บอนเลยภายในปี 2583 ซึ่งโปรเจกต์นี้จะเริ่มสร้างในปี 2565 และแล้วเสร็จในปี 2568 Source : https://bit.ly/3cX3n81
Elon Musk ยังต้องใช้ ‘Clubhouse’ คืออะไร ทำไมคนทั้งโลกสนใจ แอปฯ โซเชียลมีเดียน้องใหม่ไฟแรงนี้!
แอปฯ Clubhouse นั้นมาในรูปแบบ Drop-in Audio Chat หรือการใช้เสียงแทนการพิมพ์ ซึ่งเมื่อเข้าไปข้างในเราจะสามารถสร้างห้องสนทนาของตัวเองได้เอง นอกจากนี้ยังมีห้องอื่นๆ อีกมากมายให้เลือกเข้าร่วมฟัง ตั้งแต่รีวิวหนัง วิธีทำอาหาร การออกกำลังกาย แนวทางการเล่นหุ้น ไปจนถึงเปิดห้องร้องเพลงเฉยๆ ก็ยังมี ซึ่งหลังใช้งานเสร็จแล้วห้องสนทนานี้ก็จะถูกลบทิ้งไป ไม่มีการบันทึกเก็บไว้ และในไม่ช้า Clubhouse จะทำฟังก์ชันใหม่ที่สามารถให้ทิป หรือการสมัครสมาชิกเพื่อจ่ายเงินให้กับ Creator ได้โดยตรง สำหรับใครที่อยากดาวน์โหลด ต้องบอกว่าตอนนี้เขามีแค่ระบบปฏิบัติการ iOS เท่านั้น ที่สำคัญจะต้องถูกเชิญจากเพื่อนที่เล่นอยู่ก่อนแล้วถึงจะเข้าใช้งานได้ ซึ่งแต่ละคนก็มีสิทธิ์เชิญเพื่อนได้แค่ 2 คนเอง
ส่งโปสต์การ์ดและกำลังใจให้คนแปลกหน้า ผ่านนิทรรศการ ‘POSTCARD FROM A STRANGER’
อยากได้กำลังใจจะไปหาจากไหนดี…บางทีก็คิดไม่ออกเหมือนกัน หลายครั้งบางคนเผชิญช่วงเวลาอันยากลำบากด้วยตัวคนเดียว หันไปข้างหลังไม่แม้แต่เจอเงาของใครคอยปลอบ ประโยค “เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” หรือ “เราอยู่ข้างแกเสมอ” นานทีได้ยินหน ถ้าวันนี้ไม่สบายใจ ให้โปสต์การ์ดคนแปลกหน้าเพิ่มพลังใจก็ไม่แย่นะ จูงมือคนสำคัญ (ตัวคุณเองนั่นแหละ) ไป ‘POSTCARD FROM A STRANGER’ นิทรรศการจากทีมงานหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) Happening และเครือข่ายทางศิลปะหลายราย ที่เปลี่ยนกำแพงหอศิลป์กรุงเทพฯ เป็นกำแพงกระดาษที่เรียงรายไปด้วยโปสต์การ์ดและข้อความให้กำลังใจนับพันใบจากคนแปลกหน้า หากอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการนี้ ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่นำโปสต์การ์ดของตัวเองมา 1 ใบ พร้อมเขียนข้อความส่งกำลังใจหรืออวยพรให้ใครสักคนกลับมามีรอยยิ้มสดใสอีกครั้งก็ได้หมด แล้วแปะโปสต์การ์ดของคุณไว้ตรงไหนก็ได้ของผนัง ก่อนกลับก็อย่าลืมหยิบโปสต์การ์ดจากคนแปลกหน้าสักใบกลับไปอ่านเพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเองด้วยเช่นกัน ป.ล. ถ้าไม่มีโปสต์การ์ดติดมือมา สามารถเลือกซื้อโปสต์การ์ดที่ร้านค้ารอบหอศิลป์กรุงเทพฯ ตั้งแต่ชั้น 1 ยันชั้น 5 เลย ตั้งแต่วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ ปี 2564 ชั้น 5 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร