เช็กก่อนชม! Doesthedogdie.com เว็บไซต์สำหรับคนไม่ชอบฉากสะเทือนใจ

เคยไหม? ดูหนังแล้วเจอฉากสุดสะเทือนใจแล้วทำให้ไม่อยากดูหนังต่อ วันนี้เราจะมาแนะนำเว็บไซต์ Doesthedogdie.com ที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถเลี่ยงฉากที่เราไม่ชอบเพียงแค่เสิร์ชชื่อหนังเท่านั้น เว็บไซต์นี้จะรวบรวมข้อมูลว่าในหนังเรื่องไหนมีฉากหมาตาย แถมยังบอกด้วยว่าฉากนั้นอยู่ช่วงนาทีที่เท่าไร เราจะได้ตัดสินใจได้ทันทีว่าจะไม่ดูหรือแค่กดข้ามฉากเหล่านั้นไป นอกจากฉากสัตว์ตายแล้วก็ยังมีฉากอื่นๆ ที่มีหลายคนไม่ชอบ เช่น ฉากสะเทือนใจต่างๆ ฉากฆาตกรรมสยองขวัญ หรือฉากชวนสะดุ้ง แถมเว็บนี้ยังมีสปอยล์หนังสือ ซีรีส์ รายการทีวี และการ์ตูนอีกด้วย  คนไม่ชอบสปอยล์หนังอาจมองว่าเว็บนี้ทำให้การดูหนังสนุกน้อยลง แต่สำหรับกลุ่มคนที่ตกใจง่ายหรือมีเรื่องฝังใจกับเรื่องราวเหล่านั้น เว็บไซต์นี้ก็ถือเป็นตัวเลือกที่จะช่วยให้พวกเขาไม่ต้องดูไปลุ้นไปได้ Sources :Catdumb | https://bit.ly/39vTb3L Doesthedogdie | https://bit.ly/2O6FFfs 

Kuube ม้านั่งพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ชาร์จแบตและเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ ให้คนออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น

ลองคิดภาพเล่นๆ ถ้าพื้นที่สาธารณะใกล้บ้านเรามีที่นั่งพักที่ชาร์จแบตและเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ฟรี เราก็คงอยากออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านกันมากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าแบตมือถือจะหมดหรือต้องเสียเงินเข้าคาเฟ่ เพื่อแลกกับการเข้าถึงความสะดวกสบายเหล่านี้ ‘Kuube’ คือม้านั่งอัจฉริยะสัญชาติฮังการี ออกแบบโดยอดีตพนักงานกราฟิกดีไซน์ที่เชื่อว่าความยั่งยืนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการพัฒนา โดยเป้าหมายของพวกเขาคือการได้เป็นส่วนหนึ่งของเมืองอัจฉริยะยั่งยืนผ่าน Micro-Mobility หรืออุปกรณ์ขนาดเล็กที่ใช้พลังงานไฟฟ้าหรือพลังงานจากตัวมันเอง Kuube เป็นม้านั่งที่ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ ถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวได้ใช้งาน แถมยังเป็นการสนับสนุนให้คนออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้นอีกด้วย ตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมสเตนเลสที่รีไซเคิลได้ มีกระจกนิรภัยที่ทนทานต่อสภาพอากาศและทำความสะอาดง่าย มีหน้าจอแสดงผลที่ให้ข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ตอนนี้สภาพอากาศเป็นอย่างไร อุณหภูมิเท่าไร โดยเก้าอี้ชนิดนี้ถูกออกแบบมา 3 ขนาด ได้แก่ ‘Kuube Eco’ ม้านั่งขนาดเล็ก ‘Kuube Nano’ ม้านั่งขนาดกลาง และ ‘Kuube Plus’ ม้านั่งขนาดใหญ่ที่นั่งได้ถึง 8 คน ซึ่งแต่ละขนาดจะมีฟังก์ชันจำเป็นต่างๆ เช่น พอร์ต USB ที่ชาร์จไร้สาย และ Wi-Fi เหมือนกันแต่มีจำนวนต่างกันไป  เรียกว่าเป็นการออกแบบที่ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของความสะดวกสบายและความยั่งยืน ถ้าใครสนใจอยากเป็นเจ้าของม้านั่งพลังงานแสงอาทิตย์นี้ ก็ติดต่อสั่งซื้อและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://kuube.hu/en/  Sources :Kuube | https://kuube.hu/en/ Yanko […]

Google และ Facebook สร้างสายเคเบิลใต้ทะเล จากสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไปอเมริกาเหนือ เพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต

2 วันก่อน Google และ Facebook ประกาศแผนการเดินสายเคเบิลใต้ทะเลเพิ่มอีก 2 สาย เพื่อเชื่อมต่อสิงคโปร์ อินโดนีเซีย และอเมริกาเหนือ เข้าด้วยกัน โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างภูมิภาค สายเคเบิลทั้งสองถูกเรียกว่า ‘Echo’ และ ‘Bifrost’ เพิ่มความจุของสัญญาณอินเทอร์เน็ตขึ้นประมาณ 70% โดย Echo จะถูกสร้างขึ้นโดย XL Axiata บริษัทโทรคมนาคมของ Google ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2023 ส่วน Bifrost ดำเนินการโดย Telin บริษัทย่อยของ Telkom ในอินโดนีเซียและกลุ่มบริษัท Keppel ของสิงคโปร์ ที่มีกำหนดสร้างเสร็จในปี 2024 สายหนึ่งจะเชื่อมจากอเมริกาเหนือไปสิงคโปร์ ส่วนอีกสายจะเชื่อมจากอเมริกาเหนือไปยังบางพื้นที่ของอินโดนีเซีย  การเกิดขึ้นของสายเคเบิลใต้ทะเลทั้งสองนี้ หลายฝ่ายมองว่าจะส่งผลดีต่อการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและการเจริญเติบโตของระบบเศรษฐกิจในอินโดนีเซียและสิงคโปร์ แถมยังมีแนวโน้มว่าจะให้การแข่งขันทางเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สูงขึ้น เมื่อเราเข้าถึงอินเทอร์เน็ตจากฝั่งอเมริกาได้ดีกว่าเดิม Source : Reuters | reut.rs/2PIMyUB 

โลกร้อนกว่าเดิม! งานวิจัยจีนเผย ในปี 2100 โลกอาจมีฤดูร้อนนานถึง 6 เดือน

นอกจากอุณหภูมิของโลกจะสูงขึ้นทุกปี ล่าสุดผลการวิจัยใหม่จากสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีนเผยว่า ในปี 2100 ปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงอาจทำให้ฤดูร้อนยาวนานถึง 6 เดือน ในขณะที่ฤดูหนาวจะมีระยะเวลาสั้นลง จากการเก็บข้อมูลอุณหภูมิบริเวณซีกโลกเหนือเส้นศูนย์สูตรขึ้นไป ระหว่างปี 1952 – 2011 เพื่อศึกษาว่าแต่ละฤดูกาลเริ่มต้นและสิ้นสุดลงเมื่อไร พบว่าในช่วงฤดูร้อนกินเวลาเพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ย 95 วัน จากปกติ 78 วัน ในขณะที่ฤดูอื่นๆ ลดลงเฉลี่ย 3 – 9 วัน  จากข้อมูลชุดนี้เองทำให้นักวิจัยคาดการณ์ว่า ถ้าหากเป็นแบบนี้ต่อไป อาจสร้างผลกระทบแก่ภาคเกษตรกรรม สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ รวมถึงสุขภาพของพวกเราทุกคนด้วย  ผู้คนอาจต้องเผชิญภาวะเจ็บป่วยจากอากาศร้อนที่กินเวลายาวนานขึ้น พืชพันธุ์และสัตว์ท้องถิ่นต้องปรับตัวจากภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง เพราะหากโลกยังคงดูดซับความร้อนมากกว่าที่จะสะท้อนกลับสู่อวกาศ อาจส่งผลให้หน้าร้อนยาวนานนี้เกิดเร็วกว่าที่นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ไว้ Source : The Hill | bit.ly/2P8BGzM

สิงคโปร์สร้างเมืองยั่งยืน ภายใน 2030 ด้วยการเพิ่มต้นไม้ ขยายพื้นที่ปั่นจักรยาน ลดการฝังกลบขยะและแบนรถยนต์ดีเซล

การให้เมืองและพื้นที่สีเขียวอยู่รวมกันอาจฟังดูเป็นเรื่องยากที่จะให้ทั้ง 2 อย่างเดินหน้าไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน แต่คงไม่เกินความสามารถของประเทศเล็กๆ แต่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพอย่างสิงคโปร์แน่นอน ‘Singapore Green Plan 2030’ คือแผนพัฒนาเมืองสิงคโปร์ให้อยู่ร่วมกับพื้นที่สีเขียวได้อย่างยั่งยืน โดยการปลูกต้นไม้เพิ่มกว่า 1 ล้านต้น ขยายพื้นที่ปั่นจักรยานให้มากขึ้น แบนรถที่ใช้น้ำมันดีเซลให้ได้ภายในปี 2025 ลดปริมาณขยะฝังกลบต่อครัวเรือนลง 30 เปอร์เซ็นต์ แล้วหันมาพัฒนาโครงสร้างการรีไซเคิลขยะแทน ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้บริษัทต่างๆ มีความรับผิดชอบต่อขยะที่พวกเขาสร้าง รวมไปถึงเพิ่มการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ขึ้น 5 เท่า นอกจากนี้ ตึกที่สร้างภายในปี 2030 จะต้องใช้พลังงานต่ำสุดตามมาตรฐานที่รัฐบาลกำหนด  ด้วยแผนนี้เอง สิงคโปร์จะกลายเป็นเมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในโลก พื้นที่ 1 ใน 3 ของเมืองจะถูกปกคลุมด้วยต้นไม้ นอกจากจะเป็นการช่วยลดมลพิษแล้ว ยังนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดีอีกด้วย

‘บ้านที่ตั้งอยู่บนพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมคางหมู’ นิทรรศการที่ชวนตั้งคำถามถึงการพัฒนาสามย่านที่สวนทางกับชุมชน

ที่ผ่านมากรุงเทพฯ เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่มีการวางผังเมืองที่ชัดเจน ทำให้เกิดชุมชนที่พัฒนาไม่ทันเมือง อย่างเช่น ‘ชุมชนสามย่าน’ บริเวณถนนพระราม 4 การพัฒนาทำให้พื้นที่บริเวณสามย่านมีค่าเช่าสูงขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจบางส่วนแบกรับไม่ได้ ปรเมษฐ์ จิตทักษะ ศิษย์เก่าคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เคยอาศัยอยู่ในชุมชนแห่งนี้มากว่า 20 ปี จึงเปลี่ยนประสบการณ์และความทรงจำที่มีกับชุมชนในสามย่านซึ่งพยายามปรับตัวให้ทันระบบทุนนิยมและการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ด้วยการตั้งคำถามที่ว่า ‘ทำไมเราถึงถูกทิ้งไว้ข้างหลัง’ ในงานนิทรรศการแสร้งเสมือนจริง ‘บ้านที่ตั้งอยู่บนพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมคางหมู’ นิทรรศการนี้ไม่ใช่แค่นำเสนอเรื่องราวให้ใกล้ความเป็นจริงมากที่สุด แต่นำเสนอมุมมองและเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้จินตนาการผ่านกระบวนการดิจิทัล คล้ายๆ การเล่นเกมที่มีองค์ประกอบของภาพและเสียงจริงๆ สอดแทรกอยู่  นับเป็นการริเริ่มสร้างสรรค์ผลงานโดยความร่วมมือระหว่างศิลปินกับศูนย์ปฏิบัติการศิลปกรรมดิจิทัล (FAAMAI) เจ้าของพื้นที่โดมรูปทรงเรขาคณิตที่เป็นนวัตกรรมสำหรับการจัดนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ ในสามย่าน  นิทรรศการจะเปิดให้เข้าชมในเว็บไซต์ faamai.wpcomstaging.com/home/ ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม – 30 เมษายน นี้

‘Microsoft Mesh’ แพลตฟอร์มใหม่ที่เราจะได้คุยกันผ่านโฮโลแกรม สร้าง Avatar ได้เสมือนอยู่ในห้องเดียวกัน

เพราะการระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายคนต้องทำงานที่บ้านมากขึ้น ในช่วงแรกอาจดูเหมือนไปได้ดี แต่พอนานไป การที่ต้องมองหน้าเพื่อนผ่านช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ มันก็แอบน่าเบื่อเหมือนกัน แถมบางครั้งยังทำให้การสื่อสารคลาดเคลื่อนอีกด้วย ดังนั้น Microsoft จึงเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ที่ชื่อว่า ‘Microsoft Mesh’ ให้เราทำงานร่วมกันได้ ผ่านการสร้าง Avatar และ Holoportation ที่เป็นการฉายร่างมนุษย์จริงขึ้นไป ด้วยระบบ MR (Mixed Reality) ซึ่งตัว Avatar ของเราสามารถเดินไปเดินมา หยิบของไปวางที่ต่างๆ แถมระบบเสียงยังให้ความรู้สึกเหมือนทุกคนอยู่ในห้องเดียวกันอีกด้วย โดยสามารถใช้งานผ่านทางแว่น HoloLens แว่นตา VR ไปจนถึงหน้าจอโทรศัพท์หรือเดสก์ท็อปก็ได้ ลองคิดเล่นๆ ว่าการประชุมผ่าน Microsoft Mesh จะทำให้สนุกขึ้นมากแค่ไหน เพราะเราจะได้สร้าง Avatar ตัวเองและจำลองสิ่งต่างๆ ให้เหมือนจริง การสื่อสารของเราคงจะสนุกขึ้น เห็นภาพมากขึ้น และคลาดเคลื่อนน้อยลงอย่างแน่นอน Sources :Mashable | https://bit.ly/3vUuhViTNN | https://bit.ly/3sbSmVb

เนเธอร์แลนด์ จับมือ Fieldlab ทดลองจัดอีเวนต์ช่วงโควิด-19 หาความเป็นไปได้ใหม่ช่วยฟื้นตัวเศรษฐกิจ

หลังจากเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมายอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 สะสมของประเทศเนเธอร์แลนด์ทะลุ 1 ล้านคน เป็นชาติที่ 21 ของโลก รัฐบาลก็สานต่อโครงการที่เตรียมการมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ร่วมกับคณะนักวิจัย Fieldlab องค์กรที่ดำเนินการวิจัยให้กับรัฐบาล เพื่อหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการจัดงานอีเวนต์อย่างปลอดภัยช่วงการแพร่ระบาดนี้

‘CloudFisher’ อวนจับหมอกที่สามารถเปลี่ยนความชื้นเป็นน้ำ แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำในโมร็อกโก

ในช่วงหน้าร้อน หลายพื้นที่ก็อาจจะมีปัญหาน้ำไม่พอใช้อยู่บ้าง แต่ที่ดูได้รับผลกระทบมากที่สุดคงเป็นเกษตรกร เราจึงอยากพาทุกคนมารู้จักกับ ‘CloudFisher’ อวนจับหมอกขนาดใหญ่สุดเจ๋ง แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำในโมร็อกโก ในเขต Aït Baamrane ภูเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ของโมร็อกโกที่ผู้คนทำเกษตรกรรมเพื่อยังชีพ เป็นพื้นที่กึ่งแห้งแล้ง แต่มีหมอกเป็นจำนวนมากเพราะได้รับอิทธิพลจากหมู่เกาะคานารี Dar Si Hmad องค์กรไม่แสวงหากำไรจึงปิ๊งไอเดียทำ ‘CloudFisher’ อวนจับหมอกที่จะเปลี่ยนความชื้นเป็นน้ำ ให้ไหลลงสู่ภาชนะพลาสติกด้านล่าง ผ่านระบบท่อไปยังอ่างเก็บน้ำ แล้วส่งไปยังหมู่บ้านในพื้นที่ เนื่องจากหมอกไม่มีมลพิษ ทำให้น้ำสะอาดและพร้อมใช้งาน โดย ‘CloudFisher’ เก็บน้ำสะอาดได้มากถึง 1,600 แกลลอนต่อวัน โครงการนี้ใช้เวลาศึกษาและทดลองกว่า 10 ปีและยังได้รับรางวัล Momentum for Change จาก UN ในปี 2016 เรียกได้ว่าเป็นโครงการที่น่านำมาแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในเมืองที่มีปัญหาคล้ายๆ กัน Sources : Fieldstudy | https://bit.ly/3r6dFWH Weather | https://bit.ly/3c5oNz4

Apple เปิดตัวบริการค้นหาสถานที่ฉีดวัคซีน ผ่าน Apple Maps และ Siri โดยเริ่มใช้ที่สหรัฐฯ เป็นที่แรก

หลังจากที่เปิดให้บริการค้นหาสถานที่ตรวจ COVID-19 ใน Google Maps ไปเมื่อปีที่แล้ว ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ Apple ได้เริ่มให้บริการค้นหาสถานที่เข้ารับการฉีดวัคซีนในบางพื้นที่ของสหรัฐอเมริกาแล้ว ผู้ใช้ Apple ในสหรัฐฯ สามารถค้นหาคำว่า ‘สถานที่ฉีดวัคซีน COVID-19’ ใน Apple Maps หรือถาม Siri ว่า ‘ฉันจะเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ที่ไหนบ้าง’ เพื่อค้นหาสถานที่ฉีดวัคซีนที่ใกล้คุณมากที่สุดและทำการนัดเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนต่อไป Apple Maps จะแสดงเครื่องหมายดอกจันสีแดงเพื่อแสดงสถานที่ฉีดวัคซีนกว่า 20,000 แห่ง ที่พร้อมให้บริการทั่วสหรัฐอเมริกาและคาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต นอกจากนั้น ยังให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับ COVID-19 อื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ เช่น การจัดรายการพอดแคสต์สั้นๆ ให้ข่าวสารที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับ COVID-19 และเป็นที่น่าสนใจว่าบริการค้นหาสถานที่ฉีดวัคซีนนี้จะให้บริการในพื้นที่ประเทศไทยได้เมื่อไหร่ ต้องติดตามกัน

ชวนทุกคนร่วมสร้างสรรค์ภาพวาด พร้อม #ได้โปรดช่วยชีวิตพวกเราด้วย เพราะไม่ควรมีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเป็นสิทธิที่พลเมืองทำได้ ตราบใดที่ยังอยู่ในขอบเขตของรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมามีนักเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายคนถูกจับ แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ ทำไมพวกเขาจึงถูกปฏิบัติต่างจากนักโทษคดีอื่น ทั้งๆ ที่เขาก็คือมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกัน เราจึงอยากชวนทุกคนมาร่วมสร้างสรรค์ผลงานพร้อมติด #ได้โปรดช่วยชีวิตพวกเราด้วย ลงไปในภาพและข้อความ โพสต์ลงไปในทุกแพลตฟอร์มพร้อมกัน เพียงหนึ่งภาพของคุณ ก็ส่งเสียงของเพื่อนเราให้ดังขึ้นได้ หนึ่งร้อยคนหนึ่งร้อยภาพ หนึ่งพันคนหนึ่งพันภาพ เสียงของพวกเราต้องดังขึ้นแน่นอน ต้องไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และกระบวนการยุติธรรมของประเทศนี้ต้องปล่อยพวกเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข

หอสมุดแห่งชาติ ชวนย้อนประวัติศาสตร์ ผ่านนิทรรศการ ‘หนังสือการ์ตูนไทยไฉไลกว่าที่คิด’

รู้หรือไม่ หนังสือการ์ตูนเล่มแรกของไทยมีมาตั้งแต่ พ.ศ. 2387 หรือเมื่อ 177 ปีที่แล้ว! เริ่มตั้งแต่ลายเส้นอิทธิพลตะวันตกของ ‘ขรัวอินโข่ง’ จิตรกรชื่อดังยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น สู่การ์ตูนสะท้อนสังคมและการเมืองเมื่อประเทศเข้าสู่ประชาธิปไตย จนครองใจคนทุกเพศทุกวัยได้อย่างในปัจจุบัน กรมศิลปากร โดยสำนักหอสมุดแห่งชาติ จึงอยากเชิญชวนคนรักการ์ตูนมาร่วมย้อนประวัติศาสตร์วิวัฒนาการแต่ละยุคของการ์ตูนไทย ผ่านนิทรรศการ ‘หนังสือการ์ตูนไทยไฉไลกว่าที่คิด’ ที่จัดขึ้นเพื่อจัดแสดงประวัติความเป็นมาของหนังสือการ์ตูนไทยรวมถึงหนังสือการ์ตูนหาชมยาก ตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นมาจนถึงยุคการ์ตูนดิจิทัลในปัจจุบัน  ผู้ที่สนใจเข้าชมนิทรรศการได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 11 เมษายน 2564 ที่ห้องวชิรญาณ 2 และ 3 อาคาร 2 ชั้น 1 สำนักหอสมุดแห่งชาติ ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00 – 16.30 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 9.00 – 17.00 น. (หยุดวันนักขัตฤกษ์) Source : SARAKADEE LITE | https://bit.ly/3txsTpg

1 122 123 124 125 126 135

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.