นิสชินออกโซดา 4 รสจากบะหมี่ยอดฮิต ฉลองครบรอบ 50 ปี

เรื่องไอเดียสนุกๆ ต้องยกให้นิสชิน (Nissin) บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อดังจากญี่ปุ่นที่ขยันปล่อยของ ออกสินค้าสนุกๆ มากระตุ้นต่อมอยากลองของผู้บริโภคอยู่ตลอด 2 สัปดาห์ก่อนเพิ่งจะออกส้อมที่ใช้เป็นหลอดได้ เอาไว้ให้คนรักนิสชินที่ชอบซดน้ำบะหมี่ดื่มน้ำซุปได้ง่ายขึ้น (แต่ไม่รู้จะสำลักไหม)  ในวาระครบรอบ 50 ปี จากบริษัทที่ดังเรื่องบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ดีๆ วันนี้นึกอยากทำเครื่องดื่ม นิสชินออกโซดา 4 รสจากบะหมี่ยอดฮิตที่แฟนๆ นิสชินคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ได้แก่ รสออริจินัล รสซีฟู้ด รสแกงกะหรี่ และรสมะเขือเทศพริก กินได้ไม่ได้ไม่รู้ รู้แค่คอนเซปต์สนุกมาก สมกับเป็นแบรนด์ญี่ปุ่นที่คิดค้นรสชาติอาหารได้เก่งสุดๆ แต่รับรองว่ากินได้แน่ๆ เพราะโซดาทุกรสทำมาจากจินเจอร์เอล ครีมโซดา และโคล่า แต่งกลิ่นให้คล้ายกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต่างๆ ไม่ได้เป็นแกงกะหรี่ หรือน้ำซุปข้นๆ ผสมโซดาแบบที่เราคิด แต่ระดับนิสชินแล้ว แค่ออกโซดารสบะหมี่ก็คงจะธรรมดาเกินไป นิสชินจึงจับมือกับโรงแรม Keio Plaza เพื่อทำเมนูค็อกเทลจากโซดาทั้ง 4 รส ในคอนเซปต์ ‘Four Season Cocktail’ พร้อมบอกสูตรและวิธีชง เผื่อว่าใครที่ซื้อโซดาไปแล้วจะเอาสูตรไปชงตามบ้าง  เท่านั้นยังไม่พอ นิสชินยังเอาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้ง 4 รสนี้ไปทำเป็นขนมข้าวโพดอบกรอบแบบแท่ง หรือที่เรียกว่า Umaibo […]

พรีเซนต์ไม่ได้ ขายงานไม่เป็น วัยรุ่นอังกฤษ 84 เปอร์เซ็นต์ ทักษะการทำงานหายไปเพราะล็อกดาวน์

หลังจากล็อกดาวน์กันมาอย่างยาวนาน พนักงานบริษัทวัยหนุ่มสาวในอังกฤษกลับพบว่า ทักษะในการสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานไม่เหมือนเดิม พวกเขามีปัญหากับการพรีเซนต์ในที่ประชุม หรือการพูดคุยกับลูกค้า และเป็นกังวลว่าจะส่งผลต่อความก้าวหน้าในอาชีพและเงินเดือน  ผลสำรวจจาก LinkedIn โซเชียลมีเดียสำหรับธุรกิจและการจัดหางานเผยว่า 84 เปอร์เซ็นต์ ของพนักงานชาวอังกฤษที่อายุไม่ถึง 34 ปี รู้สึกไม่คุ้นเคยและทำตัวไม่ถูกเมื่อกลับมาใช้ชีวิตในออฟฟิศ โดย First Jobber หรือผู้ที่เริ่มงานระหว่างการแพร่ระบาดของโควิดคือกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะพลาดโอกาสในการสร้างเครือข่าย และไม่ได้เรียนรู้จากเพื่อนร่วมงาน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายมากสำหรับคนวัยนี้ “การหายไปของการพูดคุยถามไถ่ประจำวัน หรือจับกลุ่มสนทนากันในออฟฟิศอาจจะดูเหมือนไม่มีนัยสำคัญในตอนแรก แต่จะส่งผลเสียต่อการทำงานในระยะยาว” Anjula Mutanda นักจิตวิทยาในลอนดอนบอกว่าหลายคนที่เริ่มงานในช่วงล็อกดาวน์โดยไม่เคยพบปะกันในชีวิตจริง จะไม่สามารถพูดคุยเรื่องส่วนตัวกับเพื่อนร่วมงานได้ ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติของพนักงานออฟฟิศ อย่างไรก็ตามคนรุ่นใหม่อย่าพึ่งหมดหวัง เพราะยังมีข่าวดีอยู่บ้างเมื่อ LinkedIn พบว่า 90 เปอร์เซ็นต์ จากการสัมภาษณ์ผู้บริหาร 250 คน เข้าใจดีว่าพัฒนาการทางอาชีพพนักงานกำลังหยุดชะงัก ทำให้ผู้บริหารกว่าครึ่งวางแผนจะเพิ่มงบประมาณสำหรับกิจการทางสังคมเพื่อชดเชยเวลาที่เสียไปของคนหนุ่มสาวและกระชับความสัมพันธ์ของทุกคนเข้าด้วยกันอีกครั้ง เพราะมองว่าความสนิทสนมจะนำมาซึ่งทักษะที่ดีขึ้นในที่ทำงาน ซึ่งจะนำไปสู่การเลื่อนตำแหน่งหรือขึ้นค่าแรงในที่สุด  ต่อไปนี้บริษัทต้องมีลูกล่อลูกชนมากขึ้น McKinsey & Co ที่ปรึกษาด้านการจัดการจากอังกฤษมองว่าองค์กรต้องทำให้ออฟฟิศเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยมนตร์ขลังที่จะดึงดูดพนักงานให้กลับมาและมีความสนิทสนมกันอีกครั้ง โดยยกตัวอย่างนโยบายของ PwC บริษัทตรวจสอบบัญชีที่เสนอโบนัสเป็นเงินสดให้กับพนักงานสำหรับเสื้อผ้าชุดใหม่ในการใส่มาทำงาน หรือถอยจักรยานสักคันเพื่อให้การเดินทางมาสำนักงานสะดวกขึ้น

ขออีก 1,800 รายชื่อ! เรียกร้องเกษรวิลเลจออกนโยบายปกป้อง พนง. หญิงข้ามเพศที่ถูกล่วงละเมิดในห้างฯ

หลายครั้งที่เมื่อภาพหญิงข้ามเพศถูกล่วงละเมิดทางเพศปรากฏ มักจะมีคอมเมนต์ว่า “ไปอ่อยเขาเอง” “สมยอมล่ะสิ” “อยากโดนอยู่แล้วนี่” ให้เราเห็นผ่านตาอยู่บนอินเทอร์เน็ตอยู่หลายครั้ง ทั้งที่สิ่งที่สังคมควรให้ความสำคัญคือการปกป้อง เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับเหยื่อ และตั้งคำถามกับการบังคับใช้กฎหมายในการล่วงละเมิดทางเพศ โดยเฉพาะเมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับผู้หญิงข้ามเพศ แม้จะมีหลักฐานแต่แทบไม่มีการคุ้มครองเหยื่อเลย เช่นเดียวกับข่าวล่าสุด เมื่อ ‘มีมี่’ อดีตพนักงานร้านนาฬิกาที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าเกษรวิลเลจ ถูกนายจ้างซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท ล่วงละเมิดทางเพศ อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย แม้จะมีกล้องวงจรปิดชี้ชัดหลักฐาน นั่นทำให้เธอต้องตัดสินใจลาออกจากงาน เพื่อความปลอดภัย เพื่อยืนยันว่าคนในสังคมที่มองหาความเท่าเทียมของ ‘ทุกเพศ’ ยังมีอยู่ นาดา ไชยจิตต์ ตัวแทนผู้หญิงข้ามเพศจึงสร้างแคมเปญเรียกร้องผ่าน Change.org เสนอให้ห้างฯ เกษรวิลเลจ มีนโยบายป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศในสถานประกอบการและบังคับใช้อย่างเคร่งครัด ซึ่งตอนนี้เราขออีก 1,800 รายชื่อ เพื่อให้ทะลุเพดาน 7,500 รายชื่อเท่านั้น  ปัจจุบันมีมี่ดำเนินคดีทางกฎหมายกับนายจ้างในทุกช่องทางที่ทำได้ และอยู่ในขั้นตอนซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมหลักฐาน ที่สำคัญห้างฯ เกษรวิลเลจจะต้องออกมารับผิดชอบเกี่ยวกับการสร้างหลักประกันในชีวิตของพนักงาน บริษัทคู่ค้า ห้างร้านที่มาเช่าที่ และลูกค้าที่มาใช้บริการ ว่าจะปราศจากการถูกคุกคามทางเพศ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ในสังคม ที่จะสร้างความปลอดภัยให้ทุกชีวิต ทุกอัตลักษณ์ และทุกเพศวิถีในไทย ลงชื่อสนับสนุนได้ที่ : https://bit.ly/2VvnUKx 

สายเนื้อต้องลอง! เนื้อสัตว์สเต็มเซลล์ เนื้อวากิวสังเคราะห์จากห้องแล็บ ที่ออกแบบรสชาติ หน้าตาได้ตามต้องการ

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอาหารทุกวันนี้ไปไกลมาก ปัจจุบันมีเทรนด์อาหารชนิดใหม่ที่เรียกว่า ‘เนื้อสัตว์สเต็มเซลล์’ นับเป็นอาหารทางเลือกใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งมีชีวิต และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นกว่าเก่า เพราะมีวิธีการผลิตที่ใช้สเต็มเซลล์จากสัตว์และเพาะเลี้ยงด้วยสารอาหารต่างๆ ทำให้ได้สารอาหารใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์ โดยไม่จำเป็นต้องฆ่าสัตว์อีกต่อไป  ทว่ากรรมวิธีดังกล่าวอาจจะถูกใจบรรดาคนรักสัตว์ แต่ก็ยังคงไม่เป็นที่พอใจสำหรับคนรักเนื้อ เพราะทำให้ได้เนื้อที่ค่อนข้างหยาบ จึงนิยมนำไปบดรวมกับวัตถุดิบและเครื่องปรุงอื่นๆ อาทิ แฮมเบอร์เกอร์ เป็นต้น แต่รสชาติอาจจะยังไม่ใกล้เคียงกับที่ต้องการ  แต่ก้าวสำคัญของวงการเนื้อสังเคราะห์ได้เริ่มขึ้นเมื่อนักวิจัยจาก Osaka University สามารถผลิตเนื้อวากิวสังเคราะห์ ที่มีความซับซ้อนของเนื้อ และชั้นไขมันเสมือนลายหินอ่อน ของโปรดปรานของเหล่าคนรักเนื้อทั่วโลกได้แล้ว โดยใช้โครงสร้างทางจุลกายวิภาคของเนื้อวากิว จำลองเป็นพิมพ์เขียว และใช้เทคโนโลยี 3D-printing ผลิตเส้นใยของเนื้อเยื่อ เส้นใยของไขมัน และเส้นใยของหลอดเลือดในลักษณะเป็นเส้น ก่อนจะนำมาวางเรียงกัน ซึ่งเรียกขั้นตอนนี้ว่า The Marbling Process ในลักษณะเหมือนเส้นสปาเกตตีเส้นเล็กจำนวนมากที่ถูกมัดเข้ารวมกัน ความพิเศษจึงเกิดขึ้น ด้วยกรรมวิธีการดังกล่าวที่เราสามารถที่จะเรียงลำดับเส้นใยของเนื้อและไขมันได้อย่างอิสระ ซึ่งลำดับการจัดวางที่แตกต่างระหว่างไขมันกับส่วนของเนื้อ ย่อมส่งผลต่อรสชาติที่เกิดขึ้น ทำให้เราสามารถออกแบบหน้าตาและรสชาติของเนื้อได้ตามต้องการ ถึงแม้ว่าในตอนนี้เทคโนโลยีดังกล่าวจะสามารถผลิตเนื้อวากิวสังเคราะห์ได้เพียงชิ้นเล็กๆ ด้วยข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี แต่นับเป็นก้าวสำคัญของวงการอาหารโลกที่จะนำไปสู่การพัฒนาอาหารเพื่อตอบโจทย์การขาดแคลนอาหารในอนาคต และลดการเบียดเบียนสิ่งมีชีวิตอื่น บนโลกใบนี้ไปพร้อมๆ กัน Source : Freethink | https://www.freethink.com/science/lab-grown-beef

DailyBean แอปฯ ไดอารี่บันทึกอารมณ์และกิจกรรมรายวัน เพื่อทบทวนตัวเองว่าวันนี้เราสุขและทุกข์เพราะอะไร

วันนี้รู้สึกอย่างไร ฝนฟ้าอากาศเป็นใจไหม ทำกิจกรรมอะไรไปบ้าง กินข้าวครบทุกมื้อหรือเปล่า ได้นอนเต็มอิ่มไหม ลองมารีเช็กตัวเองก่อนเข้านอนกับน้องถั่วเขียวจากแอปพลิเคชัน ‘DailyBean’ ตัวช่วยบันทึกอารมณ์ ความรู้สึก และกิจกรรมในชีวิตประจำวันง่ายๆ ด้วยปลายนิ้ว!  แอปฯ DailyBean เป็นปฏิทินรายเดือนที่มีฟังก์ชันบันทึกห้วงอารมณ์และความรู้สึกรายวันด้วยถั่ว 5 อารมณ์ ตั้งแต่ยิ้มแย้มแจ่มใส ไปจนถึงร้องไห้แงๆ แถมเรายังใส่ดีเทลอื่นๆ เพิ่มเข้าไปได้ตามหัวข้อที่ต้องการ เช่น วันนี้ได้คุยกับใครเป็นพิเศษ ความรักกับไอ้ต้าวความรักเป็นไปได้ด้วยดีไหม หรืออีเวนต์พิเศษได้ออกไปช้อปปิงหรือเปล่า พร้อมทั้งจดโน้ตสั้นๆ หรือใส่ภาพลงไปได้ด้วย  น้องถั่วเขียวของเราจะวิเคราะห์อารมณ์กับกิจกรรมเหล่านั้น สรุปเป็นสถิติรายสัปดาห์และรายเดือน ดังนั้นเราสามารถย้อนกลับไปเช็กอารมณ์ของตัวเองได้ ว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้รู้สึกเศร้า หรือมีความสุขเป็นพิเศษ เพื่อรู้จักตัวเองมากขึ้นและดูว่าอารมณ์ของเราผันผวนไปหรือเปล่า ซึ่งหากผลลัพธ์ออกมาเราทุกข์มากกว่าสุข อาจจะหาทางแก้ไขต่อหรือไม่ก็ได้ หากคุณเป็นคนชอบบันทึกชีวิตประจำวันแต่ไม่ชอบเขียนยาวๆ DailyBean จึงเป็นแอปฯ ที่ตอบโจทย์ เพียงแค่ Tab ไปตามหัวข้อ แถมยังใช้งานง่ายไม่ยุ่งยากอีกด้วย ซึ่งเปิดให้ดาวน์โหลดฟรีทั้งในระบบ App Store (https://apple.co/3jYeCQy) และ Google Play (https://bit.ly/3lfuBcJ) โดยให้ทดลองใช้แบบพรีเมียม 7 วันก่อนจะปรับเป็นแบบธรรมดา อีกทั้งยังสามารถซื้อพรีเมียมรายเดือนในราคา 29 […]

ปี 2025 โซลจะมีสวนวัฒนธรรมริมน้ำที่ตอบโจทย์ทุกคน

กรุงเทพฯ มี ‘โอ่งอ่าง’ คลองที่สวยที่สุดในเมืองกรุง แต่ในปี 2025 ‘โซล’ เมืองหลวงของประเทศเกาหลีใต้กำลังจะมีสวนสาธารณะวัฒนธรรมริมน้ำ ที่มีสามดีเทลสำคัญเป็นหัวใจหลักของการดีไซน์พื้นที่ หนึ่ง. ศิลปะ  สอง. วัฒนธรรม สาม. สเปซที่เชื่อมต่อทั้งย่าน Seongdong เข้าด้วยกันให้เดินไปมาหาสู่กันได้แบบทะลุปรุโปร่ง  ทั้งสามรายละเอียด ถูกคิดค้น ออกแบบเพื่อตอบโจทย์วิถีการใช้ชีวิตของคนเมืองให้ทุกคนเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย และได้พักผ่อนหย่อนใจ คลายเครียดทั้งร่างกายและจิตใจกันถ้วนหน้า ทั้งนี้ในปี 2025 เรากำลังจะได้ยลโฉมสเปซบริเวณลำธาร Jungnangcheon (중랑천) ซึ่งจะถูกแปลงโฉมใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ประชาชนเกาหลีได้มีพื้นที่ทางวัฒนธรรมริมน้ำแห่งใหม่ ซึ่งผสมผสานระหว่างศิลปะและการพักผ่อนหย่อนใจเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว  คลองหรือลำธารจุงนังเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำฮัน มีต้นกำเนิดมาจากหุบเขา Dorak ใน Yangju จังหวัด Gyeonggi ซึ่ง Cheonggyecheon ก็เป็นลำน้ำสาขาของ Jungnangcheon ลุ่มน้ำทั้งหมดมีพื้นที่ 299.9 ตารางกิโลเมตร ลำธารส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองอึยจองบูและกรุงโซล อภิมหาโปรเจกต์ของรัฐบาลโซล (The Seoul Metropolitan Government) ครั้งนี้จะมีการสร้างถนนใต้ดินระหว่างสะพาน Changdonggyo และสะพาน Sanggyegyo ภายใต้ลำธาร […]

ฝึกอาชีพกับ ‘Young ออนไลน์’ โครงการช่วยเด็กไทยไม่ให้หลุดจากระบบการศึกษา

การระบาดของ COVID-19 เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เด็กไทยมีโอกาสที่จะหลุดจากระบบการศึกษามากที่สุดในประวัติศาสตร์ มีเด็กจำนวนไม่น้อยที่อยากเรียนต่อแต่ต้องออกจากโรงเรียนเพราะขาดแคลนทุนทรัพย์ในสถานการณ์นี้ หลายคนจึงต้องออกจากโรงเรียนเพื่อมาทำงานเต็มเวลา ทั้งๆ ที่การศึกษาควรเป็นเครื่องมือที่พาชีวิตของเด็กไทยไปได้ไกลกว่านี้  หากคุณมีนักเรียน เพื่อน และคนรอบตัวที่มีความเสี่ยงต้องออกจากโรงเรียนเพราะขาดแคลนทุนการศึกษาอยู่ เราอยากแนะนำให้รู้จักกับโครงการ ‘Young ออนไลน์’ โครงการที่ให้น้องๆ ที่เสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษาได้ฝึกทักษะอาชีพที่นำไปใช้ได้จริง และไม่มีสอนในหลักสูตรของโรงเรียน เช่น ทักษะการสื่อสาร ทักษะการตลาดออนไลน์ และทักษะการผลิตสื่อ รวมไปถึงทักษะชีวิต เช่น การตระหนักรู้ในตนเอง การแก้ปัญหา และการทำงานร่วมกับผู้อื่น โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อให้เยาวชนสามารถสร้างรายได้แก่ตนเอง ลดความเสี่ยงที่จะหลุดออกจากระบบการศึกษา และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีทักษะพร้อมใช้ชีวิตในศตวรรษที่ 21  คุณสมบัติผู้สมัคร1. เป็นนักเรียนชั้น ม.3 – 6 ที่เสี่ยงหรือมีความเสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษาด้วยปัญหาด้านทุนทรัพย์2. มีความตั้งใจ และต้องการจะอยู่ในระบบการศึกษาต่อ3. มีความมุ่งมั่นและตั้งใจทำงานที่มีคนมอบหมายให้4. ถ้ามีความสนใจเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์และสินค้าในชุมชน ยิ่งดี! เมื่อฝึกทักษะจบแล้ว เยาวชนจะเข้าทำงานกับผู้ประกอบการในพื้นที่ในการยกระดับช่องทางการขายสู่ช่องทางออนไลน์ ทั้งการวิเคราะห์ลูกค้า ออกแบบสื่อ และช่วยสื่อสารในการขาย ซึ่งรายได้จากการขายสินค้าจากการประชาสัมพันธ์และช่วยงานของเยาวชน จะกลายเป็นรายได้และทุนทรัพย์ทางการศึกษาของเยาวชนต่อไป  ระยะเวลาโครงการจะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน-ต้นเดือนธันวาคม 2564 สมัครได้แล้ววันนี้ – 18 กันยายน 2564 ลงทะเบียนได้ที่นี่ https://bit.ly/3jT0qbHป.ล. […]

สิงคโปร์เลิกแจ้งยอดติดเชื้อโควิด-19 บอกเฉพาะเตียงว่างและวิธีรับมือ แม้มีผู้ติดเชื้อใหม่สูงสุดในรอบปี

สิงคโปร์เปลี่ยนท่าทีในการรายงานประจำวันของสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยไม่ได้ชูจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นหัวใจสำคัญ และจะกล่าวถึงความพร้อมและขีดความสามารถในการดูแลผู้ป่วยแทน แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะพุ่งขึ้นสูงที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา  ในปัจจุบันสิงคโปร์ได้ทำการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนไปแล้วถึง 81 เปอร์เซ็นต์ มากที่สุดในบรรดาประเทศที่มีประชากรสูงกว่า 1 ล้านคน แต่จำนวนเคสของผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ หรืออาการไม่รุนแรงกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 2 เท่าเมื่อเทียบกับเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็น 349 ราย ในขณะที่ผู้ป่วยอาการรุนแรงมีจำนวนใกล้เคียงกับก่อนหน้านี้ กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์บอกว่าต่อไปนี้การอัปเดตจะมีเพียงวันละหนึ่งครั้ง แทนที่จะเป็นสองครั้งเหมือนเมื่อก่อน รวมถึงจะไม่รายงานเกี่ยวกับเคส หรือคลัสเตอร์ที่มีความเชื่อมโยงกันอีกต่อไปยกเว้นในกรณีที่สื่อให้เห็นถึงความรุนแรงของการแพร่ระบาด  “ตอนนี้เราอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างออกไปมากในการต่อสู้กับโควิด-19” กระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่าต่อไปนี้จะรายงานเฉพาะขีดความสามารถของโรงพยาบาลในการรับมือกับผู้ป่วย เช่น จำนวนเตียงหรือห้องไอซียูที่ยังว่างอยู่ โดยดำเนินการควบคู่ไปกับแผนการควบคุมไวรัสกลายพันธุ์ อย่างไรก็ตามถึงจำนวนผู้ป่วยมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้น แต่สิงคโปร์ยังมีความพร้อมหากสถานการณ์เลวร้ายลง Ong Ye Kung รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเคยให้สัมภาษณ์ว่า สิงคโปร์สามารถให้บริการเตียงไอซียูแก่ผู้ป่วยโควิดได้มากถึง 1,000 เตียง ซึ่งปัจจุบันมีคนไข้อยู่ในไอซียูแค่ 6 คนเท่านั้น และเคยมีผู้ป่วยโควิดที่อาการรุนแรงจนต้องเข้าไอซียูพร้อมกันสูงสุดเพียง 32 คน ในเดือนเมษายนปี 2020 รัฐบาลสิงคโปร์ยังคงมองหาช่องทางที่จะเพิ่มขอบเขตและความสามารถในการรักษาประชาชน โดยจัดพื้นที่ในสถานบริการชุมชนสำหรับผู้ติดเชื้อโควิดที่มีอาการไม่รุนแรง หรือไม่แสดงอาการ 5,500 ราย ซึ่งหากนำผู้ป่วยทั้งหมดในเดือนที่ผ่านมาเข้ามาใช้บริการ ก็ยังมีพื้นที่ว่างเหลือมากกว่า 2,000 เตียง นอกจากนี้รัฐบาลยังเตรียมให้ผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรงกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้อีกด้วย 

เพื่อนไม่คืนเงิน โดนแม่ค้าออนไลน์โกง ใช้ JusThat App ให้คำปรึกษาโดยทนาย และทำเรื่องฟ้องผ่านแอปฯ

เพื่อนยืมเงินแล้วไม่คืน ต้องทำยังไงดี ถ้าฟ้องจะคุ้มไหม?ซื้อของออนไลน์ แล้วโดนโกง จะได้เงินคืนไหม?ย้ายออกจากคอนโดฯ เก่า แต่ไม่ได้เงินประกันคืน จ้างทนายจะเสียเงินเยอะหรือเปล่า? สารพันคดีที่ใครหลายคนมองว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่อาจจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคุณ (เพราะนั่นมันเงินเรา!) ทำให้หลายคนเข้าใจว่าโอกาสชนะในการฟ้องร้องมีน้อยเหลือเกิน เพราะเคสตัวอย่างที่ได้รับความเป็นธรรมก็มีให้เห็นไม่เยอะ กลัวจ้างทนายแล้วจะไม่คุ้ม แล้วจะเสียทั้งเงิน และเวลา สุดท้ายต้องยอมปล่อยให้ตัวเองโดนเอาเปรียบไป  แต่จริงๆ แล้วคดีเหล่านี้มีทางออกและไม่ควรถูกมองข้าม ถ้าไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ให้เริ่มที่ JusThat App แอปพลิเคชันที่พึ่งทางกฎหมายสำหรับคดีเล็กๆ เพียงแค่คุณแจ้งปัญหาที่กำลังเผชิญ ทนายที่มีประสบการณ์การว่าความกว่า 40 ปี ทั้งคดีแพ่ง และคดีอาญา จะมาช่วยคุณประเมินความคุ้มค่าในการฟ้อง แจกแจงค่าใช้จ่าย คาดเดาโอกาสชนะ โดยประเมินจากข้อมูลหลักฐาน และธรรมชาติของปัญหา ที่คุณสามารถรู้คำตอบภายใน 5 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย! และเมื่อคุณตัดสินใจได้แล้วว่า ‘ฟ้องแล้วคุ้ม’ แค่คลิกกดปุ่มดำเนินคดีแล้วส่งเอกสารหลักฐานมาให้ทีมทนายตรวจสอบ ชำระเงินเริ่มต้น 500 บาท และไปขึ้นให้การที่ศาลตามวันนัดไต่สวนคดี ทางทีมทนายจะช่วยแนะนำทุกขั้นตอน รวมถึงติดตามผลให้ตลอดจนคดีสิ้นสุด เป็นการฟ้องร้องและหาทนายที่ง่ายเหมือนช้อปออนไลน์ ที่สำคัญหากทีมทนายตรวจสอบหลักฐานแล้ว คิดว่ายังไง๊ยังไงก็ไม่แนะนำให้ฟ้อง พวกเขาจะโอนเงินคืนให้เต็มจำนวนภายใน […]

Know Your Rights and Claim Them หนังสือที่จะทำให้เยาวรุ่นรู้จักสิทธิของตัวเองมากยิ่งขึ้น

เพราะเป็นเด็กจึงไม่ต้องรู้ ‘สิทธิ’ ของตัวเอง และปล่อยให้เป็นหน้าที่ผู้ใหญ่คอยดูแลอย่างนั้นเหรอ? เสียงของเด็กถูก Muted เอาไว้ และโดนเพิกเฉย เพราะทัศนคติว่า ‘เป็นเด็กจะไปรู้อะไร’ แถมรัฐบาลในหลายประเทศก็ไม่คิดว่าเด็กจะมีอำนาจและวุฒิภาวะมากพอที่จะเรียกร้องบางสิ่งได้ และกีดกันพวกเขาออกจากการรับรู้เกี่ยวกับสิทธิของตนเอง ทั้งที่สิ่งเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องรอให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ถึงจะพูดได้ แต่เด็กทุกคนจำเป็นต้องรู้และเรียกร้องได้เหมือนผู้ใหญ่ เพื่อปกป้องสิทธิของตนเองและคนอื่น ‘แองเจลินา โจลี’ และ ‘แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล’ แท็กทีมตีพิมพ์หนังสือ ‘Know Your Rights and Claim Them’ เขียนโดยความร่วมมือกับ ‘ศาสตราจารย์เจเรอดีน ฟาน บูเรน’ หนึ่งในผู้ร่วมจัดทำร่างอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ซึ่งหนังสือเล่มนี้เล่าถึงแนวคิดสิทธิเด็ก ก่อนจะพัฒนามาเป็นอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก พร้อมทั้งให้ข้อมูลเป็นแนวทางปฏิบัติ รวมถึงเรื่องเล่าของนักกิจกรรมเยาวชนที่เป็นแนวหน้าต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงด้านสิทธิมนุษยชนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการรณรงค์เรื่อง Climate Change เรียกร้องการเข้าถึงการศึกษา หรือประณามการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและแสดงพลังการยืนหยัดในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ เด็กทุกคนมีสิทธิแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก มีสุขภาพดี อาศัยอยู่ในที่ปลอดภัย ได้รับการศึกษา มีความเป็นส่วนตัว มีสิทธิเลือกและตัดสินใจในร่างกายของตัวเอง และอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน ซึ่งถ้าหากเยาวชนไม่รู้จักสิทธิของตัวเอง และไม่สามารถเรียกร้องสิทธิได้ พวกเขาเสี่ยงต่อการโดนเลือกปฏิบัติ ถูกแสวงหาผลประโยชน์ ฯลฯ […]

ล้ำไปอีกขั้นกับเทคโนโลยีไร้สาย เมื่อนักวิจัยจีนสร้างเสื้อผ้า ที่ชาร์จโทรศัพท์ได้

เป็นอีกก้าวสำคัญของยุคอุปกรณ์ไร้สาย เมื่อเสื้อผ้าสามารถชาร์จไฟให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ในตัว  กลุ่มนักวิจัยจาก Fudan University ประเทศจีนได้พัฒนาเส้นใยชนิดพิเศษ โดยหยิบเอาแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่มีข้อจำกัดในเรื่องของความยืดหยุ่น และไม่ทนต่อน้ำ มาพัฒนาต่อในรูปของเส้นใย ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ทำอุปกรณ์สวมใส่และเก็บสะสมไฟฟ้าได้ วิธีการที่ใช้คือผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนรูปเส้นใยโดยการพันลวดอะลูมิเนียมที่เคลือบด้วยลิเทียมโคบอลต์ออกไซด์และห่อแบบพิเศษเพื่อป้องกันการลัดวงจรของแผงไฟ นอกจากเก็บพลังงานได้แล้วเส้นใยเหล่านี้ยังสามารถใช้เพื่อชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ในตัว อาทิ โทรศัพท์ สมาร์ตวอตช์ เป็นต้น ซึ่งเก็บสะสมกระแสไฟฟ้า ได้ถึง 85.69 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง มากกว่าความจุของ iPhone 12 Pro Max ซึ่งเพียงพอต่อการชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในชีวิตประจำวัน แต่ความพิเศษของเสื้อผ้าตัวนี้ไม่จบแค่นั้น เพราะมีการทดสอบแล้วว่าระบบไฟยังสามารถทำงานได้ดีแม้ว่าเสื้อจะถูกพับ ล้าง หรือถูกเจาะด้วยของมีคม เทคโนโลยีนี้อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบเครื่องนุ่งห่มในอนาคต ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะยังอยู่ในขั้นทดลองแต่ภายใน 2 – 5 ปี วัสดุประเภทนี้จะถูกนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์มากขึ้นอย่างแน่นอน และอาจจะเปลี่ยนบทบาทของเครื่องนุ่งห่มไปตลอดกาล Source : VICE | https://www.vice.com/en/article/z3x9xy/fiber-battery-wireless-charge

โควิด-19 โลกร้อน และสงคราม ทำให้เด็ก 1.5 พันล้านคนทั่วโลกขาดการศึกษา

ในขณะที่เด็กๆ ในหลายประเทศทั่วโลกกำลังตื่นเต้นกับการเปิดเทอมใหม่ แต่ยังมีเด็กในประเทศกำลังพัฒนาอีกกว่า 1.5 พันล้านคนทั่วโลกที่กำลังขาดโอกาสทางการศึกษาเพราะวิกฤตรอบด้านที่พวกเขาเผชิญอยู่ โควิด-19 ภาวะโลกร้อน ความยากจน และสงครามในหลายประเทศ คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เด็ก 1.5 พันล้านต้องหลุดจากระบบการศึกษา และยังมีเด็กอีกหลายร้อยล้านคนที่อนาคตกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย เนื่องจากวิกฤตและภัยคุกคามรอบด้านที่รุนแรงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน  Save the Children องค์กรไม่แสวงผลกำไรรายงานว่า ในขณะที่ห้องเรียนทั่วโลกเตรียมที่จะเปิดเรียนอีกครั้งหลังปิดภาคเรียนฤดูร้อน ยังมีเด็กกว่า 1 ใน 4 ประเทศทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในแถบทะเลทรายซาฮารา กำลังขาดโอกาสทางการศึกษาและไม่มีโอกาสได้กลับเข้าห้องเรียนอีกต่อไปแล้ว องค์การสหประชาชาติประเมินว่า เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่เด็กประมาณ 1.5 พันล้านคนต้องออกจากโรงเรียนในช่วงการระบาดของ Covid-19 โดยเด็กอย่างน้อย 1 ใน 3 ไม่สามารถเข้าถึงการเรียนออนไลน์ได้ เนื่องจากในขณะนี้ ประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับวิกฤตหลายเรื่องพร้อมๆ กัน เช่น ปัญหาความยากจนขั้นรุนแรง ปัญหาโควิด-19 ปัญหาสภาพภูมิอากาศ ปัญหาความรุนแรงและสงคราม ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนสร้างความกลัวให้กับเด็กๆ เป็นอย่างมาก และเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้พวกเขามีความเสี่ยงที่จะหลุดจากระบบการศึกษามากขึ้นไปอีก  Save the Children วิเคราะห์และจัดอันดับประเทศตามที่มีความเปราะบางต่อสถานการณ์ต่างๆ พบว่ามี 8 ประเทศที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ […]

1 103 104 105 106 107 133

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.