หลังโต๊ะทำงานของ KongGreenGreen อินฟลูฯ ผู้เชื่อว่าไลฟ์สไตล์สายกรีนสร้างได้ด้วยความเข้าใจ

บ้านของ ‘ก้อง-ชณัฐ วุฒิวิกัยการ’ หรือ ‘ก้องกรีนกรีน’ เป็นทั้งบ้านและออฟฟิศที่กรีนสมชื่อ หลังจากเปิดประตูบ้านต้อนรับ ก้องพาเราเข้าห้องทำงานของเขาที่เต็มไปด้วยไอเทมที่เราคุ้นเคยแต่กลับแปลกตา “โคมไฟนี่ทำมาจากพลาสติกที่เคยเป็นกล่องข้าว บ้านแมวอันนั้นทำมาจากฝาขวด” ก้องแนะนำ “เมื่อก่อนออฟฟิศอยู่แถวเลียบด่วน แต่บ้านเราอยู่แถวแจ้งวัฒนะ เราขับรถไปก็เปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ ทั้งพลังงานคนและพลังงานโลก เราเลยย้ายมาอยู่ที่นี่” บทสนทนาประมาณนี้เป็นสิ่งที่เราคาดหวังว่าจะได้ฟังจากปากก้องอยู่แล้ว เพราะอย่างที่หลายคนรู้กันดี ก้องเคยเป็นพิธีกรรายการเปิดโลกอย่างกบนอกกะลา ก่อนจะผันตัวมาเปิดแชนเนล ‘KongGreenGreen’ เพื่อรณรงค์ให้คนแยกขยะกันมากขึ้นเมื่อไม่กี่ปีก่อน วันนี้ก้องกรีนกรีนเติบโตจนมีผู้ติดตามบนเฟซบุ๊กเกือบ 3 แสนคน มีหลายคลิปใน TikTok กลายเป็นไวรัลที่มียอดวิวเป็นล้าน พูดได้เต็มปากว่าเป็นหนึ่งในคอนเทนต์ครีเอเตอร์สายกรีนแนวหน้า แนวทางของคอนเทนต์ในเพจยังขยับขยายไปเล่ามากกว่าเรื่องขยะ แต่ครอบคลุมไปถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ก้องย้ำหลายรอบว่าใกล้ตัวกว่าที่เราคิด ในวาระที่ก้องเพิ่งได้รับเลือกเป็น 1 ใน 50 ครีเอเตอร์ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงจากโครงการ TikTok Change Makers เราถือโอกาสนี้มานั่งคุยกับก้องถึงความเชื่อเบื้องหลังการทำช่อง ล้วงเคล็ดลับการทำคอนเทนต์สิ่งแวดล้อมที่ขึ้นชื่อว่าเข้าใจยากให้สนุก เข้าถึงง่าย และไม่ทำให้ใครหลายคนเบือนหน้าหนี คิดว่าเป็นเพราะอะไรที่คุณถูกเลือกเป็น 1 ใน 50 ครีเอเตอร์ของโครงการ TikTok Change Makers  อาจเป็นเพราะคอนเทนต์ของเราน่าจะตรงกับแคมเปญที่เขาตั้ง นั่นคือ Change Makers […]

วิธีแยกขยะง่ายๆ ไม่มีถังแยกสีก็ทิ้งได้แบบไม่ต้องเทรวม

หลังจากที่กรุงเทพมหานครเปิดตัวโครงการ ‘ไม่เทรวม’ เพื่อรณรงค์การแยกขยะเมื่อปีที่แล้ว นโยบายถัดไปที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเพื่อช่วยจัดการขยะคือ การขึ้นค่าธรรมเนียมเก็บขยะจากบ้านที่ไม่คัดแยกขยะ โดยบ้านที่เข้าร่วมการคัดแยกขยะจะเสียค่าใช้จ่าย 20 บาทต่อเดือน ส่วนบ้านที่ไม่คัดแยกขยะนั้นจะเสียค่าใช้จ่าย 60 บาทต่อเดือน หวังเป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้นให้ครัวเรือนหันมาใส่ใจกับการแยกขยะมากขึ้น การแยกขยะนั้นไม่เพียงช่วยลดภาระการกำจัดขยะของเจ้าหน้าที่เท่านั้น แต่เรายังเรียนรู้กันมาตลอดว่าการแยกขยะเป็นหนึ่งวิธีที่ช่วยลดโลกร้อนได้ และด้วยความเคยชินที่ทิ้งขยะลงถังเดียวมาตลอดอย่างยาวนาน อาจทำให้การแยกขยะดูยุ่งยากไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ยากเกินกว่าจะลองทำ แน่นอนว่าภาพของการแยกขยะนั้นมักมาพร้อมกับถังขยะชนิดต่างๆ ที่แบ่งแยกด้วยสีสัน ช่วยให้จำง่าย แต่หลายๆ บ้านคงไม่ได้มีถังขยะสำหรับแยกขยะแต่ละประเภทโดยเฉพาะ ทำให้เกิดความสับสนว่า หากมีถังขยะแค่ใบเดียวแล้วจะแยกขยะได้อย่างไร Urban Creature เลยจะมาบอกวิธีการแยกขยะที่ทำได้ง่ายๆ โดยแบ่งเป็นสองระดับคือ 1) การแยกขยะระดับเริ่มต้น เป็นการแยกขยะที่ไม่ยุ่งยากและไม่ซับซ้อน เพียงแค่แยกขยะออกเป็นสองประเภทก่อนทิ้งลงถัง วิธีนี้จะสะดวกกับผู้เริ่มต้นแยกขยะ คนที่มีเวลาน้อย หรือพื้นที่บ้านน้อย แบ่งออกเป็น 🍪 ขยะอินทรีย์ ขยะประเภทเศษอาหารจากการทำอาหารหรือกินเหลือ โดยเทน้ำทิ้งให้เหลือแต่เศษอาหาร และแยกถุงเอาไว้ อาจใช้เป็นถุงสีใสให้มองเห็นได้ง่ายว่าเป็นขยะประเภทไหน ขยะประเภทนี้ควรทิ้งทุกวัน เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมความสกปรกและกลิ่นเหม็นภายในบ้าน 🧃ขยะทั่วไป  ขยะแห้งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระดาษ ซองขนม รวมถึงขยะพลาสติก ซึ่งพลาสติกบางประเภท เช่น ถุงพลาสติกหรือกล่องที่ใส่อาหาร ควรล้างให้สะอาดและตากให้แห้งก่อนจะนำไปทิ้ง เพื่อเลี่ยงไม่ให้เศษอาหารปนเปื้อนกับขยะอื่นๆ จนขยะแห้งเหล่านี้หมักหมมความสกปรกเอาไว้ […]

ตามไปส่องเบื้องหลัง ‘วาโก้บราเดย์ บราเก่าเราขอ’ โครงการรับบริจาคชุดชั้นใน ที่จะนำไปกำจัดให้ถูกวิธีแบบฟรีๆ

ปกติแล้วเราจัดการกับชุดชั้นในที่ไม่ใส่แล้วอย่างไรกันบ้าง เพราะชุดชั้นในเหล่านี้อาจยากที่จะนำไปรีไซเคิลใหม่ ดังนั้นหากสภาพยังดีอยู่ บางคนคงเลือกส่งต่อให้ผู้ที่ต้องการ แต่ถ้ามันเยินจนใช้งานไม่ได้แล้ว ก็แค่แยกใส่ถุงเอาไว้ แล้วทิ้งขยะเพื่อเข้าสู่กระบวนการจัดการขยะต่อไป แต่มันจะง่ายอย่างนั้นเชียวหรือ เพราะหลังจากนั้นเราแทบไม่รู้เลยว่า อดีตชุดชั้นในตัวโปรดของเราจะไปอยู่ในกระบวนการไหน และโดยส่วนใหญ่แล้วของใช้ในหมวดหมู่เสื้อผ้ามักจะถูกนำไปฝังกลบ ซึ่งนอกจากจะไม่ได้เป็นการกำจัดอย่างถูกวิธีแล้ว ยังเป็นการเพิ่มขยะให้โลกอีกทางหนึ่งด้วย เพื่อช่วยลดขยะและลดการสร้างมลพิษให้โลก ‘Wacoal’ แบรนด์ชุดชั้นในของไทยได้มองหาวิธีการแก้ปัญหาส่วนนี้ ด้วยการร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยกำจัดชุดชั้นในไปพร้อมๆ ลดโลกร้อนกับโครงการ ‘วาโก้บราเดย์ บราเก่าเราขอ’ ที่เปิดรับชุดชั้นในที่ไม่ใช้แล้วมาเข้าสู่กระบวนการกำจัดที่ถูกต้อง ลดมลพิษ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คอลัมน์ Sgreen จึงขอพาไปพูดคุยกับทางวาโก้ถึงโครงการนี้ และการร่วมมือกับ ‘ไปรษณีย์ไทย’ ในการอำนวยความสะดวกให้ทุกคนโบกมือลาชุดชั้นในเก่าของตัวเองอย่างสบายใจและสบายโลก วาโก้ขออาสากำจัดบราเก่า ‘นงลักษณ์ เตชะบุญเอนก’ กรรมการบริหารสายงานสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นเล่าให้เราฟังว่า ชุดชั้นในแต่ละตัวนั้นประกอบไปด้วยหลากหลายวัสดุ ไม่ว่าจะเป็นฟองน้ำ ผ้าที่มีทั้งเส้นใยหลายชนิด ลวด ตะขอโลหะทั้งหลาย และการทิ้งขยะประเภทนี้มักใช้วิธีการฝังกลบ ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า 400 ปีกว่าจะย่อยสลาย ทางวาโก้เองคำนึงถึงปลายทางหลังจากที่ลูกค้าซื้อสินค้าไปแล้วว่า ชุดชั้นในเหล่านั้นจะต้องกลายเป็นขยะในท้ายที่สุด ดังนั้นเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางในการลดขยะบนโลกลง ในปี 2555 วาโก้จึงมองหาวิธีการกำจัดขยะเหล่านี้ให้เร็วขึ้น พร้อมกับเปิดตัวโครงการ วาโก้บราเดย์ […]

‘Qualy’ แบรนด์ไทยที่เพิ่มมูลค่าให้ขยะพลาสติก ด้วยการใช้ความคิดสร้างสรรค์สื่อสารเรื่องสิ่งแวดล้อมและสังคม

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่แบรนด์แบรนด์หนึ่งจะสื่อสารประเด็นสิ่งแวดล้อมผ่านชิ้นงานได้แบบที่คนเห็นแล้วร้อง ‘อ๋อ!’ แต่สำหรับแบรนด์ ‘Qualy’ ไม่ว่าจะจิ้มผลงานชิ้นไหนขึ้นมาก็ต้องคุ้นหูหรือคุ้นตาทั้งนั้น ตั้งแต่ พระสติ, บอร์ดเกม Waste War, รูบิก Tactile Cube หรือปากกาวาดรูปจากไหมพรมในชื่อ เล่นเส้น เพราะไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่สวยงาม ฟังก์ชันการใช้งานสุดว้าว หรือวัสดุรีไซเคิลรักษ์โลก จะส่วนไหน Qualy ก็ไปสุดทุกทาง จนกวาดรางวัลจากเวทีดีไซน์กลับบ้านแบบไม่หวาดไม่ไหว คอลัมน์ Sgreen ชวนไปคุยกับ ‘ใจ๋-ธีรชัย ศุภเมธีกูลวัฒน์’ Design Director และ Founder ถึงแนวคิดและความตั้งใจของแบรนด์ที่ทำให้ Qualy ยืนหยัดครองตลาด พร้อมสื่อสารประเด็นสิ่งแวดล้อมและสังคมผ่านผลงานได้ยาวนานกว่า 20 ปี เล่าเรื่องผ่านดีไซน์จนค่อยๆ เติบโตในตลาดไทย “ในช่วงแรกๆ ของการทำ Qualy เราเน้นไปที่การใช้ความคิดสร้างสรรค์สร้างมูลค่าเพิ่ม ประกอบกับตอนนั้นมีปัญหาโลกร้อน เลยเล่าเรื่องพวกนี้ผ่านดีไซน์ของเรา ก่อนจะต่อยอดมาใช้วัสดุรีไซเคิล เพื่อให้สื่อสารเรื่องนี้ออกไปดียิ่งขึ้น” ธีรชัยเล่าถึงความตั้งใจช่วงแรกของแบรนด์ อีกปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมการทำแบรนด์โปรดักต์ดีไซน์นี้คือ Qualy เป็นธุรกิจที่เขาต่อยอดออกมาจากธุรกิจครอบครัวที่ก่อนหน้านี้เปิดเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนพลาสติกแบบ Original Equipment Manufacturer (OEM) […]

ขยะพลาสติกก็เปลี่ยนเป็นงานศิลปะได้ ชมผลงานที่น่าสนใจจากพลาสติกรีไซเคิลได้ที่งาน ‘คาโอ 60 ปี Saving Future Smiles’ มาพร้อมกับนวัตกรรมที่ใส่ใจโลก ใส่ใจคุณ

ในมุมมองของการรักษาสิ่งแวดล้อม ขยะพลาสติกมักถูกมองว่าเป็นผู้ร้ายในการทำลายระบบต่างๆ ไปจนถึงความยั่งยืนของธรรมชาติ แต่หากได้ทำความเข้าใจเรื่องของขยะพลาสติก จะเห็นได้ว่าขยะเหล่านี้สามารถเปลี่ยนรูปแบบเพื่อสร้างคุณค่าและให้ประโยชน์ในรูปแบบใหม่ๆ ได้ เช่นการนำมารีไซเคิลในรูปแบบใหม่ อย่างการเปลี่ยนให้เป็นผลงานศิลปะดีไซน์สวยจากเหล่าศิลปินรุ่นใหม่ที่เล็งเห็นถึงการสร้างคุณค่าให้พลาสติกและตระหนักถึงการสร้างความรู้ในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยมีศิลปะเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงและส่งต่อความเข้าใจออกไปให้ผู้คนในสังคมได้รับรู้ด้วย เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี ‘คาโอ’ จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความตระหนักรู้ให้กับคนในสังคม จากการดำเนินงานตามหลัก ESG (Environment, Society และ Governance) ที่แบรนด์ยึดถือมาโดยตลอด และพร้อมเดินหน้าสร้างความยั่งยืนทั้งการดำเนินชีวิตและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วยกัน ร่วมด้วยกับ 5 ศิลปิน ได้แก่ ‘Melt District’, ‘Benzilla’, ‘Shortbutveryverycute’ และ ‘Asazak’ ที่จะมาช่วยลดขยะพลาสติกด้วยการรีไซเคิลเปลี่ยนเป็นเครื่องใช้ที่มีดีไซน์ร่วมสมัย โดยทุกคนสามารถไปทำความเข้าใจพร้อมต่อยอดความรู้ และชมงานศิลปะจากขยะพลาสติกกันได้ในนิทรรศการ คาโอ ‘Saving Future Smiles’ ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน – 5 ตุลาคมนี้ ที่สามย่านมิตรทาวน์ แต่หากใครอยากรู้เรื่องราวความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของ คาโอ ก่อนจะไปชมงานนิทรรศการแบบเต็มๆ คอลัมน์ Sgreen ขอพาไปดูกันว่า คาโอ ดำเนินงานตามหลัก ESG […]

Meltdistrict แบรนด์ที่หลอมพลาสติกรีไซเคิลจากเชียงใหม่ ให้กลายเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ใช้งานได้ แถมยังเก๋ไก๋ชวนใจละลาย

We have to MELT because the world is MELTING. หากจะถามว่า Meltdistrict คือใครและทำอะไร ประโยคนี้บนหน้าเว็บไซต์พวกเขาเล่าความตั้งใจของพวกเขาได้ดี Meltdistrict เป็นแบรนด์ที่หลอมพลาสติกรีไซเคิลให้เป็นสินค้าใหม่ โดยสร้างสรรค์จากพลาสติก 100 เปอร์เซ็นต์ และสามารถรีไซเคิลต่อได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ก่อตั้งโดย ‘โบ-สลิลา ชาติตระกูลชัย’ และ ‘ฟ้า-ขวัญชีวา พงศ์สิมภากรณ์’ สองสาวที่พบกันด้วยความสนใจเรื่องความยั่งยืนที่ตรงกัน พวกเธอจึงขอใช้ขยะพลาสติกส่วนหนึ่งจากโรงงานรับขยะของครอบครัวขวัญชีวา ลองผิดลองถูกกับการรีไซเคิลอยู่พักใหญ่ ก่อนจะผลิตเป็นบอร์ดพลาสติกที่แปรรูปเป็นสินค้าได้อเนกประสงค์ ดีไซน์สนุก ใช้งานได้จริง กิ๊บติดผม เฟอร์นิเจอร์ กระเบื้องตกแต่งคาเฟ่ นี่คือตัวอย่างของสินค้าที่บางคนอาจจะไม่เคยคิดว่าพลาสติกรีไซเคิลก็ทำได้ คอลัมน์ Sgreen ตอนนี้ ขอพาคุณบุกเชียงใหม่ ไปสืบความลับของการหลอมพลาสติกให้กลายเป็นสินค้าหน้าตาน่าใช้ ฟังสองสาวเจ้าของแบรนด์เล่าความตั้งใจในการเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างสินค้าไลฟ์สไตล์ที่เก๋และยั่งยืนไปพร้อมกัน โรงงานขยะ ครอบครัวของขวัญชีวาทำธุรกิจแปรรูปพลาสติกมาเนิ่นนาน ภาพที่เธอคุ้นชินตั้งแต่ยังเด็กจึงเป็นภาพโรงงานรับซื้อขยะของพ่อแม่ในอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ กับกระบวนการป่นพลาสติกชิ้นใหญ่ให้เป็นเม็ดเล็กๆ แล้วส่งให้โรงหลอมเพื่อรีไซเคิลต่อ เมื่อโตขึ้น ขวัญชีวารับช่วงต่อแล้วขยายธุรกิจรับซื้อสิ่งของเหลือใช้มาที่อำเภอสันป่าตอง Meltdistrict ก็เกิดขึ้นที่นั่นเช่นกัน “เราซึมซับการรีไซเคิลมาตั้งแต่เด็ก และทำเรื่องรณรงค์ไฟป่าหรือเรื่องลดหลอดมาตั้งแต่สมัยเรียน […]

ผ่าแผนเดินเกมของปารีส​ โอลิมปิก 2024 เพื่อพิชิตเส้นชัยโอลิมปิกที่รักษ์โลกที่สุด

การจัดงานโอลิมปิกให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ฟังแล้วช่างเหนือจริง เพราะงานโอลิมปิกคือมหกรรมกีฬาระดับโลกที่มีการแข่งขันเกิดขึ้นกว่าหลายร้อยรายการ มีนักกีฬาเข้าร่วมหลักหมื่น มีผู้ชมมาเกาะติดขอบสนามกันหลักล้าน การจัดงานระดับยักษ์แบบนี้ หลีกหนีไม่พ้นต้องเผาผลาญทรัพยากรมหาศาลเพื่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก รองรับมวลมหาประชาชนที่หลั่งไหลมา แต่เพราะวิกฤตสิ่งแวดล้อมโลกทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน การหันมาใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมเลยเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไป เมื่อปารีสได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิกและพาราลิมปิกฤดูร้อน 2024 เมืองน้ำหอมจึงตั้งปณิธานว่า โอลิมปิกครั้งนี้จะเป็นโอลิมปิกที่เป็นมิตรกับโลกที่สุด มีการประเมินไว้ว่า งานโอลิมปิกในกรุงรีโอเดจาเนโร ปี 2016 และกรุงลอนดอน ปี 2012 ปล่อยคาร์บอนออกมากว่า 3.5 ล้านตัน สำหรับโอลิมปิกครั้งนี้ ปารีสตั้งเป้าสุดทะเยอทะยานไว้ว่าจะหั่นตัวเลขเหลือเพียงครึ่งหนึ่ง คือ 1.75 ล้านตัน น้อยกว่างานโอลิมปิก 2020 ที่โตเกียวซึ่งจัดในช่วงล็อกดาวน์ และปล่อยก๊าซออกมา 1.9 ล้านตันเสียด้วยซ้ำ งานนี้ปารีสพร้อมเดินเกมทุกวิถีทาง ตั้งแต่เรื่องใหญ่อย่างการก่อสร้าง การเดินทาง ไปจนถึงเรื่องเล็กอย่างอาหารการกิน มาเรียนรู้ไปด้วยกันว่าปารีสวางแผนไว้อย่างไร เพื่อพิชิตเส้นชัยการเป็นโอลิมปิกที่รักษ์โลกที่สุด ไม่เน้นสร้างใหม่ เน้นใช้สถานที่เดิม 95 เปอร์เซ็นต์ของการแข่งขันโอลิมปิกทั้งหมดจะจัดขึ้นในสนามกีฬาที่มีอยู่เดิม หรือในแลนด์มาร์กของเมืองที่ได้รับการปรับปรุงขึ้นใหม่ เช่น กีฬาฟันดาบและเทควันโด ที่จะประชันกันในอาคาร Grand Palais ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ปี 1897 หรือกีฬาขี่ม้า ปัญจกีฬา […]

‘Low Carbon Skies by Bangkok Airways’ ส่องกลยุทธ์ลดคาร์บอนของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เพื่อมุ่งสู่สายการบินที่ยั่งยืน

การสั่งสมของก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศโลกอย่างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) คือตัวการที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน สภาพอากาศแปรปรวน อุณหภูมิโลกพุ่งสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อคนทุกภาคส่วน ด้วยเหตุนี้เอง หลายองค์กรจึงหันมาจริงจังกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และดำเนินธุรกิจด้วยความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ‘บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)’ หรือ ‘สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส’ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยโครงการ ‘Low Carbon Skies by Bangkok Airways’ ที่มาพร้อมกลยุทธ์ลดการปล่อยคาร์บอนในการดำเนินธุรกิจทั้งระบบ การบินแต่ละครั้งต้องใช้เชื้อเพลิงจำนวนมากในการขับเคลื่อนเครื่องบิน ซึ่งโดยปกติแล้ว เชื้อเพลิงอากาศยานจะผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิลที่มี Carbon Footprint สูง เพื่อติดปีกสู่การเป็นสายการบินโลว์คาร์บอน บางกอกแอร์เวย์สจึงจับมือกับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR มาใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน หรือ Sustainable Aviation Fuel (SAF) SAF ที่บางกอกแอร์เวย์สใช้ เป็นเชื้อเพลิงที่ผลิตจากน้ำมันทำอาหารที่ใช้แล้ว หรือที่เรียกว่า UCO (Used Cooking Oil) โดย SAF […]

‘Climate Migrants’ เมื่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป บีบบังคับให้คนต้องย้ายถิ่นฐานเพื่อการอยู่รอด

วิกฤตโลกร้อนในตอนนี้เรียกได้ว่าก้าวเข้าสู่ภาวะโลกเดือดอย่างเต็มตัว จากกิจกรรมของมนุษย์ทุกคนที่ส่งผลกระทบให้สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็น อุณหภูมิที่สูงขึ้น ภัยพิบัติในพื้นที่ต่างๆ ที่รุนแรงขึ้นกว่าเมื่อก่อน จนทำให้ในหลายพื้นที่ต้องหาทางรับมือให้ได้ และไม่ใช่แค่ต้องเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงทางพื้นที่และภูมิอากาศเท่านั้น แต่ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ต้องอพยพจากบ้านเดิมออกไปหาถิ่นที่อยู่ใหม่ เพราะผลกระทบของสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงด้วย ออกจากบ้านเพื่อหลบไปตั้งหลักชั่วคราว ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าปัจจุบัน สภาพอากาศกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผู้คนต้องบอกลาบ้านเก่าเพื่อหาที่อยู่ใหม่ภายในประเทศ เพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างรุนแรงส่งผลให้เกิดภัยพิบัติรุนแรงกว่าเดิมหรือเกิดบ่อยขึ้นในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้ง น้ำท่วม พายุ หรือคลื่นความร้อน จนทำให้ผู้ประสบภัยต้องโยกย้ายถิ่นฐานออกไปตั้งหลักในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งในช่วงระยะเวลาสั้นๆ  เห็นได้ชัดจากรายงาน Global Report on Internal Displacement 2020 โดย Internal Displacement Monitoring Centre (IDMC) ที่ระบุว่า ในปี 2562 มีจำนวนผู้พลัดถิ่นใหม่จากเหตุภัยพิบัติเพิ่มมากขึ้นกว่า 24.9 ล้านคนใน 140 ประเทศและเขตการปกครองเลยทีเดียว ที่มีจำนวนมหาศาลขนาดนั้นเพราะภัยพิบัติเหล่านี้กระทบการใช้ชีวิตหลายส่วน ทั้งเรื่องของการดำเนินชีวิต โรคภัยไข้เจ็บ เศรษฐกิจ รวมไปถึงการประกอบอาชีพ เช่น กลุ่มเกษตรกรที่ต้องเจอกับระบบนิเวศเสียหาย หรือกลุ่มชาวประมงที่ต้องเจอกับทะเลเป็นกรด จนไม่สามารถทำงานได้ เหล่าผู้ได้รับผลกระทบจึงต้องหาทางในการดำเนินชีวิตต่อ การย้ายถิ่นฐานชั่วคราวเพื่อการดำรงชีพเลยกลายเป็นทางเลือกของใครหลายคน รอจนเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่ที่จากมาเริ่มฟื้นฟูเป็นปกติ ถึงจะย้อนกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม จากการย้ายชั่วคราว อาจกลายเป็นถาวรในอนาคตอันใกล้ […]

Sustainable Coffee Project โครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน ที่ทำให้แค่การดื่มกาแฟแก้วเดียวก็ถือว่าช่วยโลกแล้ว

วันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี ถือเป็น ‘วันสิ่งแวดล้อมโลก (World Environment Day)’ เพื่อสร้างความตระหนักและตื่นตัวด้านวิกฤตการณ์สิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นทั่วโลกให้กับทุกคน เพราะแค่เราเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตประจำวันเพียงเล็กน้อย ก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมแล้ว ยิ่งในปีนี้ที่ปัญหาสิ่งแวดล้อมทวีความรุนแรงขึ้นจากภาวะโลกเดือด การรักษาสิ่งแวดล้อมให้อยู่คู่เราไปนาน ๆ การเปลี่ยนแปลงจึงต้องเริ่มตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นผู้มีอำนาจ ตัวเราเอง หรือกระทั่งผู้ประกอบการรายเล็กหรือใหญ่ ‘OR’ ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ผ่านแนวทางการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน หรือ OR SDG ด้วยการพัฒนา ‘โครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน (Sustainable Coffee Project)’ ที่มีส่วนช่วยทำให้การดื่มกาแฟเพียงหนึ่งแก้วจาก Café Amazon ก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้ และนำเสนอผ่านโฆษณา จุดเริ่มต้นของโอกาส บนช่องทางของ OR Official ว่าแต่ โครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน จะช่วยให้การดื่มกาแฟเพียงแก้วเดียวช่วยขับเคลื่อนสังคมได้อย่างไร Urban Creature ขอพาทุกคนไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันในบทความนี้ ก่อนอื่นเราอยากพูดถึงความน่าสนใจของหนังโฆษณา ‘จุดเริ่มต้นของโอกาส’ ที่ชวนให้เราอยากติดตามต่อ กับการเปิดด้วยสองพ่อลูกใน Café Amazon ที่เพียงแค่คนพ่อยกกาแฟแบล็คคอฟฟี่ร้อนขึ้นดื่ม ทันใดนั้นฝุ่น PM […]

รู้จัก Heat Wave คลื่นความร้อนตัวร้าย กับวิธีการรับมือและนโยบายป้องกันประชากรจากทั่วโลก

“เขาว่ากันว่า ประเทศไทยมีสามฤดูคือ ร้อน ร้อนมาก ร้อนที่สุด” นี่คือคำพูดประชดประชันที่สะท้อนถึงความร้อนระอุของอากาศประเทศไทยที่เราไม่อยากชินชา แต่อุณหภูมิที่สูงขึ้นทุกปีนั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เนื่องจากปัญหาอากาศร้อนสามารถส่งผลต่ออารมณ์และสภาพสังคม ซึ่งในปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกกำลังประสบปัญหาอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างผิดปกติ และหนึ่งในสาเหตุหลักคือ ‘Heat Wave’ หรือคลื่นความร้อน องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organization : WMO) ได้กำหนดนิยามของคลื่นความร้อนว่า ภาวะที่อุณหภูมิสูงสุดประจำวันเกินค่าอุณหภูมิสูงสุดโดยเฉลี่ยประมาณ 5 องศาเซลเซียส ติดต่อกันเป็นเวลาอย่างน้อย 5 วัน แน่นอนว่าในบรรดาประเทศที่เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว ล้วนได้รับผลกระทบมากมายจากความร้อนที่สะสมในพื้นที่ โดยเฉพาะในยุโรปและเอเชียที่เกิดความผิดปกติของอุณหภูมิอากาศค่อนข้างมาก ทำให้ในแต่ละปีจะมีผู้คนเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวข้องกับความร้อน (Heat-related Illness) เป็นจำนวนไม่น้อย เนื่องจากร่างกายไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับอุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างฉับพลันได้ ทำให้ตามมาด้วยค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่าในช่วงที่เกิดคลื่นความร้อน ประชาชนในหลายพื้นที่มีอัตราการใช้พลังงานสูงขึ้น เพราะต้องใช้เครื่องปรับอากาศทำความเย็น จนส่งผลให้บางพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า อีกทั้งปัญหาคลื่นความร้อนยังส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรเสียหายในปริมาณมาก รวมถึงผลกระทบต่ออุตสาหกรรมปศุสัตว์อีกด้วย  จากที่กล่าวมาข้างต้น เราจะเห็นว่าปัญหาเหล่านี้ส่งผลต่อผู้คนทั้งในด้านสังคมและเศรษฐกิจ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายประเทศทั่วโลกจำเป็นต้องประกาศนโยบายและแนวทางการแก้ไขเพื่อรับมือกับคลื่นความร้อนที่รุนแรงขึ้นทุกปีๆ นโยบายมาตรการรับมือคลื่นความร้อนจากทั่วโลก คลื่นความร้อนสร้างปัญหาให้เมืองมากกว่าแค่ทางความรู้สึก เพราะมันส่งผลถึงทั้งสุขภาพและเศรษฐกิจ รวมไปถึงปัญหาด้านพลังงาน ทำให้หลายประเทศสร้างแผนรับมือคลื่นความร้อน ซึ่งประสานการดำเนินงานกับหน่วยงานรัฐบาลต่างๆ ยกตัวอย่าง ประเทศฝรั่งเศส ที่มีการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทั้งการสร้างอาคารทนความร้อน โดยเฉพาะสถานที่สาธารณะ เช่น […]

The Body Shop แบรนด์สกินแคร์สายกรีน ลมหายใจเฮือกสุดท้ายกับจิตวิญญาณที่ยืนหยัดเพื่อสิ่งแวดล้อม

ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์เครื่องประทินผิวหลายแบรนด์ต่างให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เห็นได้จากการรณรงค์งดใช้กลิตเตอร์ผสมในผลิตภัณฑ์เพื่อลดการเกิดขยะไมโครพลาสติก หรือการยกเลิกการทารุณกรรมสัตว์จากการทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องประทินผิวและเครื่องสำอาง แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า ที่ผ่านมามีแบรนด์เครื่องประทินผิวแบรนด์หนึ่งที่ยึดมั่นและมุ่งมั่นทำเพื่อสิ่งแวดล้อมมาก่อนกาล จนต้องพบเจอกับโศกนาฏกรรมทางธุรกิจ ล้มพับหน้าร้านในหลายประเทศทั่วโลกไป หลายคนคงเคยได้ยินหรือคุ้นตากับแบรนด์ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ชื่อดังจากสหราชอาณาจักร The Body Shop ที่วางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศไทยและทั่วโลก แต่หลังจากที่บริษัทประกาศล้มละลายไปเมื่อต้นปี 2024 ทำให้ต้องปิดสาขากว่า 198 สาขาในสหราชอาณาจักร และปัจจุบันในประเทศไทยก็ไม่มีสาขาเหลืออยู่แล้ว จะหาซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น ในช่วงเวลาที่ผู้คนหันมาใส่ใจความโปร่งใสเรื่องความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น Urban Creature ขอพาไปสำรวจที่มาที่ไปของแบรนด์ที่เป็นหนึ่งในโมเดลธุรกิจรักษ์โลกมาช้านาน และสิ่งที่พวกเขาพยายามขับเคลื่อนพร้อมกับการทำธุรกิจ รวมถึงปัจจัยที่ทำให้แบรนด์ยักษ์ใหญ่ขนาดนี้ล้มละลาย The Body Shop แบรนด์สกินแคร์ที่แคร์โลก ย้อนกลับไปเมื่อปี 1976 ร้าน The Body Shop แห่งแรกได้ถือกำเนิดขึ้นริมถนนเมืองไบรตัน ประเทศอังกฤษ โดย ‘แอนนิตา ร็อดดิก’ (Anita Roddick) ผู้ขับเคลื่อนวงการเครื่องสำอางในยุคนั้น แอนนิตามีแนวคิดที่อยากมอบทั้งความงามจากภายในสู่ภายนอก ไปพร้อมๆ กับให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม เพราะเธอเชื่อมั่นว่า การทำธุรกิจนั้นสามารถเป็นแรงผลักดันไปสู่สิ่งดีๆ ได้ ภายใต้อุดมการณ์ ‘การค้าปลีกอย่างมีจริยธรรม’ (Ethical Retailing) ว่าด้วยการสร้างแบรนด์ที่เป็นธรรม ยึดถือความซื่อสัตย์และซื่อตรงต่อลูกค้าในด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์ […]

1 2 3 11

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.