จิ้นยูนิฟอร์มนักกีฬาทีมชาติไทยใน Olympic 2024

ตั้งแต่วันที่นายกฯ ญี่ปุ่นขโมยซีนด้วยการแปลงร่างเป็นมาริโอ้ในพิธีปิดโอลิมปิกปี 2016 จนถึงพิธีเปิดของกีฬาโอลิมปิก 2020 ณ แดนอาทิตย์อุทัย ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนน่าจดจำ ชวนให้เราอยากติดตามและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งแรงใจเชียร์พลพรรคนักกีฬาทีมชาติไทย  แต่สิ่งที่ขัดใจพวกเราไม่น้อย จนกลายเป็นดราม่าที่ทุกคนพูดถึงกัน ก็คือเครื่องแต่งกายของทีมชาติไทย ตั้งแต่ชุดสูทเดินขบวนที่ขาดสีสันความน่าจดจำ ยังคงอนุรักษ์รูปแบบเสมือนดีไซน์ประจำชาติไว้ตั้งแต่ปี 1988 อย่างไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง  หรือดราม่าเรื่องชุดการแข่งขัน จนเราต้องตั้งคำถามทุกครั้ง เมื่อเห็นเหล่านักกีฬาต้องคอยถกแขนเสื้ออยู่ตลอดเวลาที่ลงสนาม และสงสัยว่าเป็นความเคยชินของนักกีฬา หรือเป็นเพราะการออกแบบที่ไม่คำนึงถึงการใช้งานจริงกันแน่ เพราะชุดเดินขบวนในพิธีเปิดเปรียบเหมือนเป็นหน้าตาของประเทศ และส่งผลถึงประสิทธิภาพในการแข่งขันของนักกีฬาทีมชาติ คอลัมน์ Urban Sketch จึงอยากลองออกแบบชุดกีฬาของทัพนักกีฬาไทย เพื่อโอลิมปิกครั้งหน้าที่ปารีส 2024 แบบฉบับ Concept Design ดึงภาพลักษณ์ความเป็นไทยแบบแคชชวลแต่ชาวต่างชาติต้องร้องอ๋อ เช่น ผ้าสามสี กางเกงลายช้าง เสื้อลายเสื่อกกลายขิด ออกมาใช้ให้สร้างสรรค์และน่าจดจำกันสักหน่อย …ชุดนักกีฬาไทยในใจของคุณๆ เป็นยังไงบ้าง ไหนลองแชร์ให้ฟังหน่อย นอกจากชุดกีฬาจะเป็นหน้าตาของประเทศแล้ว ยังส่งผลต่อการแข่งขันทั้งทางตรงและทางอ้อม เราจึงเห็นพัฒนาการของอุปกรณ์หรือชุดกีฬาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันการออกแบบอุปกรณ์ทางกีฬา อยู่ภายใต้แนวคิดว่า ทำอย่างไรให้นักกีฬา Perform ได้ดีขึ้น เป็นสารตั้งต้นง่ายๆ ที่ทำให้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะทุกท่วงท่าในการเคลื่อนไหวของนักกีฬาล้วนสัมพันธ์กับอุปกรณ์และเครื่องสวมใส่ทั้งสิ้น เรื่องเล็กๆ อย่างการถกแขนเสื้อแค่หนึ่งครั้ง อาจหมายถึงการเสียแต้มสำคัญ […]

กระเบื้องผนังเปลือกไข่ ปลายทางใหม่ของการกำจัดเศษอาหาร

แต่ละวันเรากินไข่ไก่เฉลี่ยคนละ 1 – 2 ฟอง แล้วลองคูณจำนวนคนทั้งโลกเข้าไป คิดดูว่าเปลือกไข่ถูกทิ้งต่อวันจะมีกี่พันล้านฟองกัน ซึ่งพอรวบรวมเป็นสถิติรายปีพบว่าเรามีขยะเปลือกไข่ราว 250,000 ตัน/ปี และมักใช้การฝังกลบในการกำจัดขยะ โดยพื้นที่ 1 ตร.ม. ฝังเปลือกไข่ได้ประมาณ 2,000 ฟอง และใช้ระยะเวลา 20 วันเพื่อย่อยสลาย  ดูเหมือนการกำจัดเปลือกไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่ดีไซเนอร์ชาวฮ่องกง ‘Elaine Yan Ling Ng’ อยากหาปลายทางใหม่ของเศษเปลือกไข่ที่ครีเอต เพิ่มมูลค่า และทำประโยชน์ได้มากกว่าการ ‘ทิ้ง’ จึงรีไซเคิลเปลือกไข่ให้กลายเป็น ‘CArrelé’ คอลเลกชันกระเบื้องปูผนัง โดยกระเบื้อง 1 ตร.ม. ช่วยลดจำนวนขยะได้มากถึง 20,000 ฟอง และใช้เวลาผลิตเพียง 2 วันเท่านั้น ด้วยภาพจำของคนมักมองว่าเปลือกไข่มีความเปราะบาง หารู้ไม่ว่ามันแข็งแรงกว่านั้นมหาศาล แถมยังทนต่อรังสี UV ธรรมชาติด้วย โดยขั้นตอนการทำกระเบื้อง พวกเขาจะรวบรวมเปลือกไข่ที่ถูกทิ้งจากร้านเบเกอรี ครัวโรงแรม และตามชุมชนที่ตั้งรอบโรงงานในเมืองเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ แล้วนำมาบดให้ละเอียด ก่อนจะผสมเข้ากับสารเคมี ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยให้วัสดุยึดเกาะกันได้แน่นขึ้น […]

ผู้หญิงต้องได้ใส่ชุดที่ตัวเองมั่นใจ! นักยิมนาสติกเยอรมันใส่ชุดเต็มตัวแข่งโอลิมปิกสนับสนุนทางเลือกเครื่องแต่งกาย

ฤดูกาลโอลิมปิกกลับมาอีกครั้งหลังจากถูกเลื่อนออกไปเพราะวิกฤตโควิด-19 และดูเหมือนว่าปีนี้จะมีเรื่องน่าสนใจนอกเหนือจากการแข่งขันกีฬา นักกีฬาจากหลายประเทศแสดงการเคลื่อนไหวทางสังคมที่หลากหลายโดยเฉพาะประเด็นเรื่องเครื่องแต่งกาย อย่างล่าสุดนี้ทีมนักยิมนาสติกหญิงจากเยอรมนีที่เลือกลงแข่งในชุดเต็มตัว แทนชุดยิมนาสติกรัดรูปและเว้าสูงอย่างที่เคยใส่กันมา ตามกฎแล้วชุดรัดรูปคือชุดมาตรฐานของกีฬายิมนาสติก ทั้งแบบแขนยาว แขนสั้น และไม่มีแขน ส่วนใหญ่เราจะเห็นนักกีฬาหญิงใส่ชุดรัดรูปขาเว้าสูงแบบบิกินี่ น้อยครั้งนักที่จะเห็นนักยิมนาสติกหญิงใส่ชุดรัดรูปขายาว-แขนยาวแบบเต็มตัว เพราะที่ผ่านมาชุดเต็มตัวถูกยกเว้นไว้สำหรับนักกีฬามีข้อกำหนดด้านศาสนา หรือมีประจำเดือนในขณะแข่งขันเท่านั้น แต่ในกรณีนี้ทางสหพันธ์ยิมนาสติกนานาชาติไม่มีปัญหา ขอแค่ชุดส่วนบนและส่วนล่างเป็นสีเดียวกัน การเรียกร้องครั้งนี้ของทีมนักยิมนาสติกหญิงเยอรมันทำเพื่อแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงควรมีเสรีภาพในการเลือกสวมใส่ชุดที่พวกเธอมั่นใจในการแข่งขันได้ และต่อต้านการทำให้นักกีฬาหญิงเป็นวัตถุทางเพศผ่านเครื่องแต่งกายที่ล่อแหลม Sarah Voss หนึ่งในทีมชาติเยอรมนีกล่าวว่า “นักกีฬาทุกคนควรรู้สึกปลอดภัยขณะแข่งขัน และการตัดสินควรดูจากผลงานการแสดงของพวกเขา ไม่ใช่ดูจากรูปร่าง” และเธอยังกล่าวว่า “ในทีมชาติเยอรมนีถ้าใครรู้สึกปลอดภัยหรือชอบชุดยิมนาสติกเว้าสูงก็สามารถใส่ได้ หรือถ้าอยากใส่แบบขายาวก็ใส่ได้เหมือนกัน ในทีมเราไม่ได้มีการบังคับ ทุกคนมีสิทธิ์เลือกชุดที่อยากใส่ เธอเองก็ไม่ได้อยากใส่ชุดรัดรูปขายาวเสมอไป ขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นเธออยากแสดงแบบไหนแค่นั้นเอง” นอกจากทีมชาติเยอรมนีแล้ว นักยิมนาสติกหญิงทีมชาตินอร์เวย์ยังชื่นชมการตัดสินใจครั้งนี้ และสนับสนุนเพื่อนนักกีฬาทีมเยอรมนีที่กล้าแสดงจุดยืนเรื่องสำคัญของนักกีฬาอีกด้วย  การเรียกร้องเรื่องเครื่องแต่งกายของนักกีฬาหญิงในการแข่งขันโอลิมปิกที่เป็นประเด็นก่อนหน้านี้คือกรณีของทีมนักกีฬาแฮนด์บอลหญิงจากนอร์เวย์ที่ปฏิเสธการใส่ชุดบิกินี่เข้าแข่งขัน ทำให้ถูกปรับจากสหพันธ์แฮนด์บอลแห่งยุโรป นักร้องอเมริกันชื่อดังอย่าง P!nk เสนอจะจ่ายค่าปรับให้เพื่อสนับสนุนการต่อต้านการทำให้นักกีฬาหญิงเป็นวัตถุทางเพศ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเป็นเวทีที่นานาประเทศจะได้แสดงศักยภาพผ่านการแข่งขันกีฬา แต่ในปัจจุบันโอลิมปิกเป็นพื้นที่ที่ทำให้นักกีฬาได้ตั้งคำถามและสื่อสารสิ่งที่ตนต้องการไปสู่สายตาประชาคมโลกด้วยเช่นกัน Sources : BBC Sport | https://www.bbc.com/sport/av/gymnastics/56916789Reuters | https://tinyurl.com/2ea255ep

7 ตัวช่วยยืนหนึ่งเรื่อง WFH ทำงานไม่สะดุดแถมไม่หลุดโฟกัส

Work from Home มาเป็นปีจนร่างยม และดูท่าว่าต้องทำงานอยู่บ้านกันไปอีกยาว ใครว่าทำงานอยู่บ้านง่ายกว่าออฟฟิศ เราว่าไม่จริงเพราะมีปัญหาจุกจิกตามมาสารพัด ทั้งเสียงหมาเสียงรถคอยรบกวนเวลาประชุม กองงานสูงท่วมหัวจนเรียงลำดับไม่ถูก หรือโดนตามงานในแชตไลน์ส่วนตัว แถมเตียงนุ่มๆ ยังเป็นมารผจญมายั่วยวนให้อยากทิ้งตัวนอนอีก!  Urban’s Pick ครั้งนี้ จึงขอปฏิวัติระบบ Work from Home เพื่อให้การทำงานเป็นระเบียบและสะดวกมากกว่าเดิมด้วย 7 ตัวช่วยที่ทำให้การทำงานอยู่บ้านไม่มีสะดุด เรียกว่าคล่องปรื๋อยิ่งกว่าทำงานออฟฟิศแน่นอน! คอนเฟิร์ม! 01 | เลิกคุยงานผ่านไลน์ แล้วมาสร้างเครือข่ายผ่าน Slack ปัญหาใหญ่ของการย้ายสถานที่ทำงานจากออฟฟิศมาเป็นบ้านคือ ‘การสื่อสาร’ จะคุยงานผ่านอีเมลก็ช้าเกินไป หรือจะคุยงานผ่านไลน์ทั้งแชตส่วนตัวกับแชตเรื่องงานก็ปนกันไปหมด ‘Slack’ จึงเป็นตัวช่วยที่เหมาะสมที่สุดในสถานการณ์แบบนี้ ด้วยสโลแกนของแบรนด์ว่า ‘Where work happens’ (ที่ที่เกิดการทำงาน) ก็รู้ทันทีว่าคิดมาเพื่อแก้ไขปัญหาการสื่อสารในที่ทำงานโดยเฉพาะ Slack คือซอฟต์แวร์ที่เราคุยกันผ่านแชตส่วนตัวหรือสร้าง ‘Channel’ ขึ้นมาเพื่อคุยกันเฉพาะกลุ่มก็ได้ ทั้งยังแชร์ไฟล์จากแอปพลิเคชันพาร์ตเนอร์เข้าแชตได้ด้วย เช่น Google Drive, Dropbox, Evernote และอีกกว่า 2,200 แอปฯ เลยทีเดียว […]

เกิดไม่ทันเห็น ก็ได้เห็น เมื่อเชียงใหม่คืนชีพเจดีย์หลวง 600 ปีด้วยเทคนิค Projection

เวลาไปท่องเที่ยวสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เราต่างวาดฝันถึงความงดงาม ความสมบูรณ์ ของโบราณสถานที่แตกหัก เราเห็นเพียงเศษซากของอารยธรรมที่เคยรุ่งเรือง จนในบางครั้งเราก็คงอยากเห็นว่ายามรุ่งเรืองของโบราณสถานนั้นหน้าตาจะเป็นอย่างไร แตกต่างจากภาพวาดมากน้อยแค่ไหน  แต่เราอาจจะไม่ต้องจินตนาการคิดไปไกลอีกต่อไป เพราะล่าสุดสมาคมสถาปนิกล้านนาฯ ร่วมกับศูนย์นวัตกรรมล้านนาสร้างสรรค์ ได้ทดลอง Installation Art ครั้งสำคัญ ส่องแสงเลเซอร์ไปยังองค์เจดีย์หลวงวรวิหาร โบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้เทคนิค “Projection” หรือ “ภาพฉาย” สร้างเส้นรอบรูปขององค์เจดีย์ในลักษณะภาพฉายสองมิติ แต่งเติมลงไปบนตัวเจดีย์ที่เป็นสามมิติ การทดลองนี้จึงเป็นการลองใช้ “มิติความแบน” จากโลกกราฟิกสองมิติด้วยขนาดความน่าจะเป็น 1 ต่อ 1 ของตัวโบราณสถาน เพื่อกระตุ้นการรับรู้ใหม่ให้ “มิติความลึก” ในโลกกายภาพสามมิติ เพื่อเติมเต็มซากปรักหักพังด้วยจินตนาการ ศิลปะ และวิทยาศาสตร์ แต่งแต้มความสมบูรณ์ขององค์เจดีย์ ให้เราได้ชื่นชมความงดงาม ความยิ่งใหญ่ ด้วยตาเปล่า โดยไม่กระทบโครงสร้างของโบราณสถานเดิม ตามการอ้างอิงรูปทรง ความสูง จากการศึกษาเทียบเคียงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โดยนักวิชาการ นักประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมล้านนาหลายท่าน นับเป็นก้าวที่สำคัญของวงการศิลปะและวัฒนธรรม ในอนาคตเราคงจะได้เห็นภาพ Visual ของโบราณสถานอีกหลายแห่งในประเทศไทยในรูปแบบงานศิลปะร่วมสมัยมากขึ้นและอาจจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นกระตุ้นการท่องเที่ยวโบราณสถานให้กลับมาครึกครื้นอีกครั้ง 

CoCare Plus เปิดให้คำปรึกษาและแนะนำการ Home Isolation บน LINE OA ฟรี!

หากใครมีผลโควิด-19 ออกมาเป็น ‘บวก’ ทั้งแบบไม่มีอาการหรือมีอาการน้อยมาก และถือว่าเป็นผู้ป่วยสีเขียวที่สามารถ Home Isolation หรือกักตัวแยกที่บ้านได้ แล้วไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องทำอย่างไรทาง ‘Thai CoCare’ องค์กรที่รวบรวมเหล่าบุคลากรทางแพทย์อาสา ตั้งแต่หมอ พยาบาล เภสัชกร นักจิตวิทยา ไปจนถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้เปิดบริการ LINE OA เพื่อดูแล ติดตามอาการ และให้คำแนะนำในเรื่องการปฏิบัติตนที่ถูกต้องในการแยกกักตัวที่บ้านโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยขั้นตอนการเข้ารับคำปรึกษามี 2 วิธีด้วยกัน 1. สำหรับคนที่มีผลตรวจว่าติดเชื้อ ให้แอดไลน์ @CoCarePlus หรือกดลิงก์ https://bit.ly/3zGMIxw เพื่อ Add Friend หลังจากนั้นกดส่งข้อความถึงบุคลากรทางการแพทย์อาสาในช่องแชต เพื่อแจ้งว่ามีผลตรวจโควิดเป็นบวก และระหว่างรอเจ้าหน้าที่ตอบกลับให้กดลงทะเบียนกรอกชื่อ-นามสกุล เบอร์ติดต่อ โรคประจำตัว และวันที่ตรวจ PCR แล้วกดบันทึกข้อมูลเอาไว้ เพื่อรอประเมินอาการในขั้นถัดไป และ 2. สำหรับคนที่ยังไม่มีผลติดเชื้อสามารถแอดไลน์ไอดี @CoCare หรือกดลิงก์ http://bit.ly/line-CoCare เพื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ถึงข้อสงสัยเกี่ยวกับโควิด-19 ซึ่งช่องทางดังกล่าวเปิดให้คำปรึกษาฟรี ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 – […]

Super Dad ความซูเปอร์ฮีโร่ของพ่อคนธรรมดา

ผลงานภาพถ่ายชุด Super Dad เป็นการหยิบเอาเรื่องราวจริงในอดีตที่พ่อเคยเล่าให้ฟัง แล้วเรามองว่าเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ น่าตื่นเต้น มาสร้างเป็นภาพถ่ายที่เปรียบพ่อเป็นซูเปอร์ฮีโร่ผ่านภาพและเรื่องราวที่เหมือนจะธรรมดา

‘หนังไทยไปไกลกว่านี้ ถ้าไม่ถูกปิดปาก’ คุยกับ หมู ไก่ พี่น้องผู้กำกับบ้านบุญประกอบ

เอหิปัสสิโก (Come And See) เป็นภาพยนตร์สารคดีตีแผ่มุมมองความศรัทธาในสถาบันบางอย่างผ่านคดีพระธัมมชโย วัดพระธรรมกาย ลำดับล่าสุดของผู้กำกับ ไก่-ณฐพล บุญประกอบ ที่เกือบถูกเซนเซอร์โดยรัฐไทย แต่ตอนนี้กำลังจะได้ลง Netflix วันที่ 1 สิงหาคม 2564  Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน เป็นภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้ว่าด้วยเรื่องราวความสัมพันธ์ของสองเพื่อนสนิทที่ติดอยู่ในเฟรนด์โซน ลำดับล่าสุดของผู้กำกับ หมู-ชยนพ บุญประกอบ ที่โลดแล่นบนจอภาพยนตร์ถึง 13 ประเทศทั่วเอเชีย ‘ไก่’ คนน้อง ชอบเล่าเรื่องจริงในสังคมผ่านสารคดี เพราะอยากเพิ่มจำนวนสารคดีในประเทศไทยที่มีน้อย (มาก) ด้วยปัจจัยเสี่ยงยาวนับพันข้อ ‘หมู’ คนพี่ ชอบทำหนังคอเมดี้ เพราะอยากเห็นคนไทยหัวเราะออกมาดังๆ และการลุ้นว่าคนดูจะขำมุกที่ใส่ไว้ในเรื่องไหม นั่นแหละคือความท้าทาย ทั้งสองมีมุมมองการกำกับ ลีลา และจุดมุ่งหมายต่างกัน แต่การเป็นคนทำหนังเหมือนกันนี่แหละ คือจุดร่วมที่ทำให้ฉันนัดสองพี่น้องบ้านบุญประกอบมาคุยถึงการเลือกให้คุณค่างานศิลปะของรัฐไทย การปิดปากงานสร้างสรรค์ และการไม่ยอมรับความจริง จนทำให้อุตสาหกรรมหนังไทยติดปัญหา ยังไปได้ช้าพอๆ กับการมีวัคซีนโควิด-19 ดีๆ ในประเทศ วงการหนังไทยแบบไหนที่พวกคุณอยากเห็น หมู : อยากเล่าอะไรก็ได้ เพราะคอนเทนต์ดีๆ […]

ผลิตโคมไฟจากเปลือกส้ม ด้วย 3D Printing ชิ้นแรกของโลก!

เห็นชื่อครั้งแรกถึงกับหันมามองส้มในมือ ‘มันทำยังไงวะ’ แต่ก่อนสมองจะเผลอจินตนาการถึงวิธีการร้อยแปดพันเก้า เจ้าของไอเดีย ‘Ohmie’ (โอมี่) โคมไฟเปลือกส้มอย่าง ‘Krill Design’ สตาร์ทอัปจากแคว้นซิซิลี ประเทศอิตาลี ก็อธิบายโพรเซสทั้งหมดลงใน Kickstarter เหมือนกวักมือเรียกชวนล้อมวงว่าเดินมานี่ เดี๋ยวพี่จะเล่าให้ฟัง Krill Design ตั้งต้นความคิดว่าอยากทำโคมไฟที่ดูปัง ทันสมัย และยั่งยืน แต่ดีไซน์หรือวัสดุแบบไหนล่ะ ที่ตอบโจทย์ ทำให้พวกเขาย้อนกลับมามอง ‘ส้ม’ ซึ่งเป็นพืชพื้นถิ่นในแคว้นซิซิลี และยังครองสัดส่วนการผลิตส้มทั่วโลกอยู่ที่ 3% มีการนำไปแปรรูปเป็นโปรดักต์ต่างๆ และมีเปลือกส้มเหลือทิ้งชนิดที่ว่าใช้ได้ไม่มีวันหมดเลยทีเดียว แน่นอนว่ากระบวนการทำโคมไฟ Ohmie ไม่ได้จบที่ปอกเปลือกส้มแล้วแปะไปกับโครงโคมไฟ เพราะเขาใช้เทคนิค 3D Printing ในการขึ้นรูป โดยนำเปลือกส้มแห้งมาบดเป็นผงละเอียด จากนั้นร่อนซ้ำอีกครั้ง ก่อนนำไปผสมกับผงไบโอโพลิเมอร์ที่มาจากผัก และผลิตอัดให้รูปแบบเม็ด เพื่อนำมาใช้เป็นเนื้อวัสดุ ซึ่งตัวโคมไฟที่ได้จะมีน้ำหนักเบาเพียง 150 กรัมเท่านั้น โดยดีไซน์ของโคมไฟขนาด 23 ซม. ตั้งแต่ลวดลายพื้นผิว กลิ่นส้ม และสีสันสดใส ล้วนสะท้อนถึงต้นกำเนิดว่ามาจากไหน ซึ่งนอกจากทุกอย่างล้วนเป็นส้มแล้ว เหล่าดีไซเนอร์อยากโชว์ศักยภาพของ ‘เศษอาหาร’ ว่านำกลับมาใช้ใหม่เป็นโปรดักต์ […]

SAVANT AUTISM ธีสิสที่ใช้จิวเวลรี่ลบภาพออทิสติก = เอ๋อ

สายตาของคนนอกที่มองเด็กออทิสติก = เอ๋อ นั่งน้ำลายยืด ติงต๊อง ปัญญาอ่อน ล้วนเป็นสิ่งที่ มุ้ย-พิชชาภา จรีภรณ์พงษ์ เจ้าของศิลปนิพนธ์ ‘Savant Autism’ เห็นคนอื่นมอง ‘อิคคิว’ น้องชายออทิสติกมาตั้งแต่เด็กจนโต ทำให้เธอคิ้วขมวดสงสัยว่าเพราะอะไรสังคมถึงมองเด็กออทิสติกเป็นคนแปลกแยก ในเมื่อเธอใช้ชีวิตคลุกคลีกับน้องชายมาทุกวันทุกเวลามาตลอด 18 ปี และเห็นอิคคิวมีอารมณ์ ความรู้สึก การวิเคราะห์เหมือนคนปกติ อาจบกพร่องทางการสื่อสารบ้าง แต่ไม่ได้หมายความว่าน้องชายของเธอ ‘บกพร่องความเป็นมนุษย์’ การไม่เข้าใจตัวตนและมองข้ามความสำคัญเด็กออทิสติกของสังคมไทย กลายเป็นแพสชันของมุ้ยตั้งแต่ยังเล็กว่าอยากสื่อสารให้เข้าใจ ‘เด็กออทิสติก’ เสียใหม่ ผนวกเข้ากับความฝันที่อยากมาทางศิลปะ และถูกใจสาขาออกแบบเครื่องประดับ เลยเป็นโจทย์ท้าทายว่าเธอจะใช้จิวเวลรี่เหล่านี้ถ่ายทอดเรื่องราวที่อยากสื่อสารออกมาอย่างไรดี วันนี้ความตั้งใจของมุ้ยออกมาเป็นรูปเป็นร่างกับ ‘Savant Autism’ ธีสิสที่เธอออกแบบเครื่องประดับและอุปกรณ์เสริม ไม่ว่าจะเป็นกำไล สร้อยคอ แหวน เข็มกลัด หมวก เสื้อ และกระเป๋า เพื่อแสดงคุณค่าและความเป็นอัจฉริยะของเด็กออทิสติกผ่านปฏิสัมพันธ์กับคนในครอบครัวและผู้อื่น Savant Autism = อัจฉริยะออทิสติก ถ้าใครเคยดูเรื่อง ‘Rain Man’ ตัวละครที่ชื่อว่า ‘เรย์มอนด์ แบทบิท’ เป็นชายออทิสติกที่มีความจำดีเกินเรื่อง […]

FYI

Tomorrow. Reimagined. พฤกษาสร้างนิยามใหม่ของที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร

จะดีแค่ไหน ถ้า “บ้าน” สถานที่ที่เราใช้ชีวิตตั้งแต่ตื่นเช้าไปจนถึงเวลาเข้านอน เรียกว่าเป็นศูนย์รวมทุกกิจกรรมของชีวิตตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป กับโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้เวลาเราเลือกบ้านสักหลังต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง “Lifestyle Disruption” ผู้คนมองหานวัตกรรมมาเพิ่มความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย หรือ “Sustainable Development” ความยั่งยืนในแง่ของสิ่งแวดล้อม สังคม และการอยู่อาศัย ซึ่งไม่ใช่แค่การใช้ชีวิต แต่รวมไปถึงส่งต่อสภาพแวดล้อมที่ดีให้คนรุ่นต่อไปได้ สุดท้ายคือ “Health & Wellness” การเข้าถึงบริการสุขภาพและการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน เพราะคนไม่ได้มองหาแค่ “การรักษา” แต่การดูแลสุขภาพกายและใจคือสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้น เพื่อการเลือกบ้านที่ตอบโจทย์มากที่สุด แนวคิด “Tomorrow. Reimagined.” ของ พฤกษา ที่นำความต้องการของผู้บริโภคมาเป็นโจทย์สำคัญในการออกแบบ เพื่อ “อนาคต” ของลูกบ้าน และเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของแบรนด์ว่า “พฤกษา ใส่ใจ…เพื่อทั้งชีวิต” ในการสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับลูกบ้านอย่างแท้จริง สุขภาพมาก่อนเสมอ ช่วงปีที่ผ่านมาเราต่างประสบกับสิ่งรุมเร้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อม นวัตกรรมที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ ไปจนถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เป็นชนวนให้หลายคนเล็งเห็นความสำคัญ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องสุขภาพ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทำให้ผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจเรื่องของ Health & Wellness […]

ญี่ปุ่นหาทำนามบัตรรอยยิ้ม มอบความสดใสช่วงโควิด-19 ช่วยปิดจ็อบธุรกิจด้วยยิ้มนอกแมสก์

จอห์นคะ…ผ่านมาเกือบสองปีแล้วสินะ ที่ฉันโดนแมสก์กินพื้นที่ไปเกือบครึ่งหน้า หลงเหลือแค่สายตาที่ใช้สื่อสารความรู้สึกแทน แม้เขาว่าสายตามันหลอกกันไม่ได้ แต่เชื่อเถอะว่าบางทีลูกค้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสายตาของฉันนั้นสื่ออะไร! (#ทีมตาแข็ง) แต่ แต่ แต่! ‘Nagaya Printing’ บริษัทพรินติ้งจากประเทศญี่ปุ่น ไม่นิ่งดูดาย เพราะพวกเขาเชื่อว่าการเห็นดวงตาที่หยีจนเป็นสระอิ ไม่มีทางสู้ ‘รอยยิ้ม’ ได้หรอก! ยิ่งแวดวงธุรกิจต้องคอยพบปะลูกค้าใหม่ๆ การส่งรอยยิ้มจะช่วยสร้างความประทับใจได้ดีกว่า และไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าแลกเปลี่ยนนามบัตรแต่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตากัน พวกเขาจึงผุดไอเดีย ‘Smile Meishi’ หรือแปลตรงตัวว่า ‘นามบัตรรอยยิ้ม’ เพื่อช่วยให้การเจรจาธุรกิจเต็มไปด้วยความสดใส การพรินต์หน้าตัวเองลงนามบัตรอาจไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรในญี่ปุ่น แต่การพรินต์ครึ่งหน้าเปื้อนรอยยิ้มของตัวเองลงนี่สิ เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายไปสักหน่อย ลองนึกตอนแลกนามบัตรกัน แล้วให้ลูกค้าถือให้พอดีกับหน้าครึ่งบนของเราก็จะเห็นใบหน้าเต็มๆ โดยไม่ต้องถอดแมสก์ เรียกว่าเป็นอีกทางที่ช่วยส่งเสริมการขายให้คุณลูกค้าประทับใจแบบรัวๆ  หลังจากเปิดตัวบริการ ‘นามบัตรรอยยิ้ม’ ไปเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา ก็ได้กระแสฮือฮาไปทั่วเลยทีเดียว ซึ่ง Smile Meishi ไม่ใช่โปรดักต์แรกที่เขาคิดจะทำในช่วงโควิด-19 เพราะก่อนหน้านั้นมี ‘หน้ากากนามบัตร’ ซึ่งสกรีนข้อมูล และช่องทางติดต่อลงบนแมสก์ที่ใส่ เพื่อให้ลูกค้ารู้จักเรามากขึ้น โดยไม่ต้องสัมผัสนามบัตร และเลี่ยงการติดเชื้อนั่นเอง Source :Grape | https://bit.ly/2V5Je92

1 77 78 79 80 81 96

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.