ขอต้อนรับงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 28 กับธีม BOOK DREAMS ด้วยลิสต์หนังสือในฝันที่ชาว Urban Creature อยากได้
เพราะแม้ตอนนี้ราคาหนังสือแต่ละเล่มจะเริ่มพุ่งทะยานไปไกลจนเราต้องคิดแล้วคิดอีกเวลาควักเงินซื้อ แต่พออยู่ในงานหนังสือที่รายล้อมไปด้วยหนังสือมากมายหลากหลายประเภทที่มีหน้าปกล่อตาล่อใจ หลายๆ ครั้งเราก็มักจบลงด้วยการหอบหนังสือกองโตกลับบ้านพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม (ที่ต้องไปบริหารจัดการเงินทีหลัง)
ในลิสต์นี้มีตั้งแต่ฟิกชันอ่านสนุก วรรณกรรมแปลแนวสืบสวนสอบสวน ชีวประวัติคนสำคัญระดับโลก ไปจนถึงน็อนฟิกชันเรื่องการออกแบบและเมืองที่ทำให้เราหันกลับมามองพื้นที่อยู่อาศัยในสายตาที่ต่างออกไป ว่าแต่มีเล่มไหนบ้าง มาอ่านที่เราป้ายยากัน
ชื่อหนังสือ : สถาปัตย์-สถาปนา : การ(เมือง)ดีไซน์พื้นที่และความนัยสถาปัตยกรรม
สำนักพิมพ์ : มติชน (บูท J47)
ชื่อผู้เลือก : เดือนเพ็ญ จุ้ยประชา
ตำแหน่ง : Managing Editor
ปกติเป็นคนชอบอ่านงานเขียนประเภทนิยาย แต่จะมีบ้างบางครั้งที่เปลี่ยนอารมณ์ไปอ่านงานน็อนฟิกชันแนวการเมือง ซึ่งหนึ่งในงานเขียนแนวนี้ที่ประทับใจคือ ‘ศิลปะ-สถาปัตยกรรมคณะราษฎร’ โดย ‘ชาตรี ประกิตนนทการ’ ที่เล่าเรื่องการเมืองในศิลปะการออกแบบได้อย่างสนุก ชวนติดตาม พร้อมกับเปิดตาเราให้เห็นมุมมองทางอุดมการณ์และความเชื่อที่ซุกซ่อนอยู่ของการออกแบบสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะในหลายๆ สถานที่ที่เราเคยผ่านไปผ่านมาแต่ไม่เคยครุ่นคิดถึงต้นตอที่มาของมัน
ด้วยเหตุนี้ เราจึงอดไม่ได้ที่จะลิสต์ ‘สถาปัตย์-สถาปนา : การ(เมือง)ดีไซน์พื้นที่และความนัยสถาปัตยกรรม’ ผลงานเล่มใหม่ของอาจารย์ชาตรีไว้ในใจ ต่อให้กองดองจะสูงเด่นท้าทายแค่ไหนก็ตาม โดยเล่มนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนตามประเด็นพื้นที่ ได้แก่ พื้นที่เมือง ที่ว่าด้วยการปะทะกันของแนวคิดเก่า-ใหม่ของการออกแบบ, พื้นที่อุดมการณ์ ที่ว่าด้วยความเป็นไทยและการเมืองในพื้นที่ และพื้นที่ความเชื่อ ที่ว่าด้วยการออกแบบที่มีพื้นฐานจากศาสนาความเชื่อ
ใครที่กำลังมองหางานเขียนแนวการเมืองที่อ่านสนุก ย่อยง่าย และเปิดพื้นที่ใหม่ๆ ในการมองเมือง หนังสือเล่มนี้น่าจะตอบโจทย์แน่ๆ
สั่งซื้อออนไลน์ที่ : linktr.ee/matichonbook
ชื่อหนังสือ : Restorative Cities ให้นครเยียวยาใจ
สำนักพิมพ์ : มติชน (บูท J47)
ชื่อผู้เลือก : อนรรฆพร ลายวิเศษกุล
ตำแหน่ง : Assistant Editor
เมืองสีเขียว
เมืองสีน้ำเงิน
เมืองแห่งผัสสะ
เมืองแห่งกิจกรรม
เมืองแห่งการละเล่น
เมืองแห่งการเยียวยา
หัวข้อย่อยในหน้าสารบัญเหล่านี้ทำให้เรารู้สึกสนใจอยากอ่านหนังสือ ‘Restorative Cities ให้นครเยียวยาใจ’ ทันที เพราะอยากรู้ว่าหน้าตาของเมืองที่ว่านี้จะเป็นแบบไหน และทำไมมนุษย์ต้องพยายามออกแบบเมืองเหล่านี้
Restorative Cities คือผลงานโดย ‘Jenny Roe’ และ ‘Layla McCay’ แปลเป็นภาษาไทยโดย ‘ธาม โสธรประภากร’ หนังสือเล่มนี้จะพาเราไปสำรวจแนวทางและการวางผังเมืองในรูปแบบต่างๆ ที่จะส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพใจของผู้อยู่อาศัยทุกกลุ่ม ผ่านโครงการและกรณีศึกษาจากหลายประเทศทั่วโลก เช่น เมืองที่มีต้นไม้และผืนน้ำ เมืองที่เราสูดอากาศได้เต็มปอด เมืองที่ผู้หญิงไม่ต้องหวาดกลัวเมื่อต้องเดินทางกลางดึก เมืองที่ผู้สูงอายุและคนพิการเข้าออกอาคารได้สะดวก เมืองที่มีลานกิจกรรมและสนามเด็กเล่นเพียงพอ ฯลฯ
เราเชื่อว่า Restorative Cities เป็นหนึ่งในหนังสือที่ตอบโจทย์กับยุคปัจจุบันที่หลายๆ เมืองกำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง แออัดไปด้วยมลพิษรอบด้าน ไหนจะความวุ่นวายจากรถติดและความเร่งรีบของผู้คน ที่ทำให้สุขภาพจิตของผู้คนย่ำแย่ลงเรื่อยๆ เพราะ Restorative Cities เป็นเสมือนพิมพ์เขียวสู่การก่อร่างนครแห่งการเยียวยาหัวใจของคนทุกกลุ่ม รวมถึงสะท้อนภาพเมืองในฝันที่หล่อเลี้ยงความสุขและชุบชูหัวใจของผู้อยู่อาศัยทุกคน
สั่งซื้อออนไลน์ที่ : linktr.ee/matichonbook
ชื่อหนังสือ : The Maid คุณเมดกับคดีฆาตกรรมปริศนาในโรงแรมหรู
สำนักพิมพ์ : Words publishing (บูท B46)
ชื่อผู้เลือก : ณิชกมล บุญประเสริฐ
ตำแหน่ง : Content Writer
การจัดตู้หนังสือประจำปีกลับมาอีกครั้งเพื่อเตรียมพร้อมต้อนรับหนังสือกองใหม่ที่จะได้จากงานหนังสือ ทำให้เราพบว่าหมวดหมู่ของหนังสือที่มีเยอะมากที่สุดคือนิยายสืบสวนสอบสวน
ในบรรดานิยายสืบสวนหลายเรื่องที่เรามีมักเป็นการตามหาความจริงในสถานที่ปิด เพราะฉะนั้นเราจึงไม่อยากพลาดการสืบสวนใน ‘โรงแรมหรู’ แห่งนี้ไป และอยากรู้ว่าเรื่องราวปริศนาที่ต้องตามหาความจริงไปกับ ‘คุณเมด’ นั้นจะแตกต่างจากเรื่องอื่นๆ และน่าตื่นเต้นขนาดไหน
‘The Maid คุณเมดกับคดีฆาตกรรมปริศนาในโรงแรมหรู’ คือหนึ่งในหนังสือที่เราเก็บเข้าลิสต์สำหรับการช้อปปิงในครั้งนี้ ด้วยความที่เป็นนิยายขายดีกว่า 1 ล้านเล่มตั้งแต่ครั้งแรกที่วางขาย และได้รับการแปลกว่า 38 ภาษาทั่วโลก รวมไปถึงการที่ Universal ได้ซื้อลิขสิทธิ์ในการสร้างเป็นภาพยนตร์แล้วนั้น ทำให้เราอยากพิสูจน์ความสนุกและร่วมตามหาความจริงในโรงแรมนี้ด้วย
เรื่องราวเล่าถึงตัวละคร ‘มอลลี’ เมดสาวผู้มีปัญหาด้านการสื่อสารและการเข้าสังคม เธอทำงานอยู่ในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง และความวุ่นวายก็เกิดขึ้นเมื่อเธอพบเข้ากับ ‘ศพ’ ของแขกประจำโรงแรม ทำให้เธอตกเป็นผู้ต้องสงสัยของการเสียชีวิตในคดีนี้ เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของตัวเอง มอลลีจึงต้องรีบหาฆาตกรตัวจริงให้เจอ ก่อนที่อะไรๆ จะสายเกินไป
สั่งซื้อออนไลน์ที่ : amarinbooks.com/product/the-maid
ชื่อหนังสือ : Based on True (Crime) Stories ข่าวร้ายกลายเป็นคดี
สำนักพิมพ์ : Loupe Editions (Salmon Books บูท L22)
ชื่อผู้เลือก : มณิสร วรรณศิริกุล
ตำแหน่ง : Content Writer
เราได้เล่มนี้มาจากการป้ายยาในระหว่างฟังพอดแคสต์ ‘Untitled Case’ จาก ‘Salmon Podcast’
หลังจากเหตุการณ์น่าสลดที่เด็กอายุ 14 ก่อเหตุยิงบนห้างฯ พารากอน จนสร้างแรงกระเพื่อมต่อสังคมเป็นวงกว้างโดยมีสื่อเป็นคนตีกรอบการรับรู้ จนเกิดการตั้งคำถามขึ้นว่า การนำเสนอข่าวในลักษณะนี้ควรออกมาในรูปแบบไหนจึงจะดีต่อสังคมและไม่ก่อให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบในอนาคต
การนำเสนอข่าวอาชญากรรมในแต่ละครั้งมีอะไรมากกว่าแค่สถานการณ์ในที่เกิดเหตุเพียงชั่วครู่ เพราะคำบอกเล่าจากฆาตกร ผู้เคราะห์ร้าย ตำรวจ นักสืบ สื่อมวลชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ยังมีส่วนช่วยขยายมุมมองให้เราเห็นว่า ภายในเรื่องเดียวกันยังประกอบด้วยปัจจัยรายล้อมอีกมากที่ส่งผลให้คดีต่างๆ ดีขึ้นหรือเลวร้ายลงได้ด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นบทเรียนให้เรื่องราวอันโหดร้ายไม่เกิดขึ้นซ้ำรอยในสังคมอีก
ในหนังสือ ‘Based on True (Crime) Stories ข่าวร้ายกลายเป็นคดี’ เป็นการหยิบเอาเรื่องเล่าจากคดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นจริงจนกลายเป็นข่าวดังที่ลงเอยด้วยความสูญเสีย จากปลายปากกาของ ‘ณัฐกมล ไชยสุวรรณ’ อดีตนักข่าวอาชญากรรมและคอลัมนิสต์ผู้สนใจเรื่องเล่าจากคดีอาชญากรรมต่างๆ ทั่วโลก ที่จะทำให้เห็นมุมมองและแนวคิดการเล่าคดีอาชญากรรมที่เราอาจไม่เคยนึกถึงมาก่อน
สั่งซื้อออนไลน์ที่ : store.minimore.com/loupe/items/BASEDONTRUECRIME
ชื่อหนังสือ : Lessons in Chemistry บทเรียนเคมีสตรี
สำนักพิมพ์ : Beat (Biblio บูท K08)
ชื่อผู้เลือก : นัทธมน คภะสุวรรณ
ตำแหน่ง : Proofreader
‘…คัลวินผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกจากเคมบริดจ์ด้วยระยะเวลาเป็นสถิติและได้รับเสนอตำแหน่งงานสี่สิบสามตำแหน่งให้พิจารณา เขาตอบรับตำแหน่งงานนี้โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะชื่อเสียง แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะหยาดน้ำฟ้า ที่คอมมอนส์ฝนตกไม่บ่อย ในทางตรงกันข้าม เอลิซาเบธรับข้อเสนองานที่แฮสติงส์เพราะว่านี่เป็นข้อเสนอเดียวที่เธอได้รับ’
เนื้อหาบางส่วนจากหนังสือ ‘Lessons in Chemistry บทเรียนเคมีสตรี’ นวนิยายเปิดตัวเล่มดังของ ‘บอนนี การ์มัส’ ที่สร้างปรากฏการณ์ทั่วโลก ได้รับการตีพิมพ์ไปกว่า 40 ภาษา และถูกสร้างเป็นซีรีส์ทางสตรีมมิง Apple TV+ ที่ชวนให้เราอยากซื้อมาอ่านอีก 500 กว่าหน้าที่เหลือให้จบตั้งแต่เห็นชื่อเรื่อง
บทเรียนเคมีสตรี (หรือ เคมิส-ตรี ถ้าอ่านให้พ้องกับชื่อภาษาอังกฤษ) เป็นเรื่องราวในศตวรรษที่ 1950 ของ ‘เอลิซาเบธ ซ็อตต์’ นักเคมีสาวผู้ใช้ชีวิตอยู่นอกขนบผู้หญิงตามยุคสมัย ไม่นับถือศาสนา ไม่แต่งงาน ไม่อยากมีลูก แถมยังทำงานตำแหน่งนักเคมีในห้องแล็บที่มีแต่นักวิทยาศาสตร์ชายล้วน ฟังดูแล้วน่าแปลกใจและชวนให้สงสัยว่า ในยุคที่ความเท่าเทียมทางเพศมีอยู่น้อยนิด และผู้หญิงยังไม่มีบทบาทในสังคมอย่างปัจจุบัน ความคิดนอกขนบนี้จะส่งผลให้ชีวิตของเอลิซาเบธพบเจออะไรบ้าง เธอต้องต่อสู้เพื่อแสวงหาความสำเร็จทางอาชีพและชีวิตส่วนตัวอย่างไร แล้วอะไรทำให้เธอกล้าหาญและยังยืนหยัดในวิถีทางของตัวเอง
มารออ่านไปพร้อมกันกับเรื่องราวที่จะส่งต่อพลังและสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนในทุกยุคสมัย ไม่เว้นแม้แต่ยุคปัจจุบันที่ดูเหมือนคนจะตระหนักและให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทางเพศ…แต่ก็แค่ดูเหมือนนะ
สั่งซื้อออนไลน์ที่ : www.biblio-store.com/shop/9786168332221
ชื่อหนังสือ : A Short History of Nearly Everything
สำนักพิมพ์ : Salt (บูท H24)
ชื่อผู้เลือก : พนิดา มีเดช
ตำแหน่ง : Art Director
หากคุณเคยตั้งคำถามว่าตัวเราถือกำเนิดมาได้อย่างไร อะไรที่กอปรร่างสร้างตัวมาเป็นสิ่งมีชีวิตช่างสงสัยอย่างเราๆ ในปัจจุบัน หนังสือเล่มนี้อาจตอบข้อสงสัยเหล่านั้นให้กับเราก็เป็นได้
‘A Short History of Nearly Everything’ ของ ‘Bill Bryson’ เป็นหนังสือแนว Pop Science อีกเล่มหนึ่งที่เราอยากอ่าน นอกจากจะสนองความขี้สงสัยของตัวเราเองแล้ว หนังสือเล่มนี้ยังบอกเล่าเรื่องราวและพาสำรวจความเป็นมาของ (เกือบ) ทุกสรรพสิ่ง ตั้งแต่การกำเนิดของจักรวาล ไปจนถึงจุดกำเนิดของสิ่งมีชีวิตบนโลกและมนุษยชาติที่เกิดมาจากความว่างเปล่า กลายมาเป็นอะไรสักอย่าง และวิวัฒนาการกลายเป็นตัวเรา
และในช่วงท้ายของเล่ม คุณบิลจะพาไปคลุกคลีกับนักโบราณคดี นักมานุษยวิทยา ไปจนถึงนักคณิตศาสตร์ ผ่านการเดินทางไปยังงานของเขาเหล่านั้น พร้อมกับความพยายามในการอ่านงานวิจัยและตั้งคำถาม เพื่อให้ได้มาซึ่งคำตอบที่ผ่านมุมมองของคนเหล่านั้น และทำให้เราเข้าใจความเป็นมนุษย์ผ่านเลนส์ที่หลากหลายมากขึ้น จนนี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้หนังสือเล่มนี้กลายเป็น National Bestseller จนได้ชื่อว่าเป็นหนังสือวิทยาศาสตร์สามัญประจำได้
มาร่วมตั้งคำถาม เดินทาง และสำรวจไปพร้อมกัน
เราอาจค้นพบคำตอบของคำถามอันยิ่งใหญ่นี้ก็ได้นะ
สั่งซื้อออนไลน์ที่ : salt.co.th/product/pre-order-a-short-history
ชื่อหนังสือ : Atonement ตราฝังตรึง
สำนักพิมพ์ : Lighthouse Publishing (เอ-บุ๊ค ดิสทริบิวชั่น บูท J40)
ชื่อผู้เลือก : ศศิตา มณีวงษ์
ตำแหน่ง : Graphic Designer
นวนิยายเรื่อง ‘Atonement ตราฝังตรึง’ มีจุดเริ่มต้นแค่เพียงความฟุ้งฝันของ ‘ไบรโอนี’ เด็กหญิงผู้มีความใสซื่อบริสุทธิ์เท่ากับความเร้นลับซับซ้อนภายในใจ เรื่องเล่าจากปากคำของเธอส่งผลลุกลามบานปลายต่อชะตากรรมของ ‘ซิซีเลีย’ และ ‘ร็อบบี’ จนกลายเป็นโศกนาฏกรรม
‘เรื่องเล่า’ จึงเป็นทั้งบาปที่ตราตรึง ขณะเดียวกันก็ยังเป็นหนทางในการไถ่ถอนบาปที่เคยก่อไว้ด้วย ตราบาปที่ไม่อาจไถ่ถอนให้ย้อนคืนกลับไปใหม่ได้ จำต้องชดใช้ด้วยความฟุ้งฝันของเรื่องเล่านั้นเสียเอง ดังที่ตอนหนึ่งเขียนว่า
‘…นักเขียนนวนิยายจะไถ่ถอนบาปให้สำเร็จได้อย่างไรกันเล่า ในเมื่ออำนาจเบ็ดเสร็จในการตัดสินผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้เธอกลายเป็นพระเจ้าไปในคราวเดียวกัน ไม่มีบุคคลใด สิ่งใด หรือรูปลักษณ์อันสูงส่งกว่าใดๆ ให้เธออ้อนวอน รอมชอม หรือยกโทษให้แก่เธอ ไม่มีสิ่งอื่นใดเหนือขึ้นไปจากตัวเธอแล้ว ในจินตนาการของเธอนั้น เธอเป็นผู้กำหนดข้อจำกัดและเงื่อนไข จึงไม่อาจมีการไถ่ถอนบาปให้พระเจ้าหรือนักเขียน…’
ตราฝังตรึง เคยถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ซึ่งตราตรึงใจคนดูมาแล้ว แม้ว่าในภาพยนตร์จะสื่อความและอารมณ์ของนวนิยายได้อย่างดีเยี่ยม แต่ความรื่นรมย์ ความโศกเศร้าอย่างลึกซึ้ง และภาวะอันขัดแย้งภายในใจของตัวละคร ตลอดจนตอนจบของเรื่องที่ขาดหายไป อาจต้องอ่านจากนวนิยายเท่านั้น
‘เอียน แม็คอิวัน’ ผู้เขียนนวนิยายเรื่องนี้ มีชื่ออยู่ในรายชื่อ 50 นักเขียนชาวอังกฤษที่ยอดเยี่ยมที่สุดนับตั้งแต่ ค.ศ. 1945 ของหนังสือพิมพ์ เดอะไทมส์ (The Times) จากประสบการณ์กว่า 40 ปีในวงการวรรณกรรม ทำให้แม็คอิวันได้รับรางวัลทางวรรณกรรมมาแล้วนับไม่ถ้วน ทั้งในสหราชอาณาจักรและในต่างประเทศ
สั่งซื้อออนไลน์ที่ : www.a-bookdistribution.com/product/853221
ชื่อหนังสือ : PLUTO ตามล่านักฆ่าแอนดรอยด์
สำนักพิมพ์ : เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์
ชื่อผู้เลือก : แทนทะเล ทิพย์แสง
ตำแหน่ง : Creative Editor
‘พลูโต’ เป็นผลงานมังงะ Miniseries ความยาว 8 เล่มจบของ ‘อ.นาโอกิ อุราซาวะ’ ที่เอาตอนหนึ่งจาก ‘เจ้าหนูปรมาณู’ อันโด่งดังของ ‘อ.เทะสึกะ โอซามุ’ มาตีความใหม่เป็นแนวสืบสวนสอบสวน/แอ็กชัน/ระทึกขวัญ อันเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ของอุราซาวะ
‘หุ่นยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก’ เป็นชื่อตอนหนึ่งในเจ้าหนูปรมาณู เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อสุลต่านในประเทศแห่งหนึ่ง ส่งหุ่นยนต์ยักษ์นามว่า ‘พลูโต’ ออกไปจัดการกับเหล่าหุ่นยนต์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก 7 ตนที่ประจำการทำหน้าที่ต่างๆ อยู่ 7 ประเทศทั่วโลก แน่นอนว่าเป็นเจ้าหนูอะตอม 1 ใน 7 หุ่นยนต์ที่ต้องเอาชนะพลูโตให้จงได้
แม้ในเรื่องราวต้นฉบับจะเป็นเรื่องราวสั้นๆ จบในตอน นำเสนอฉากแอ็กชันและความเก่งกาจของอะตอมและพลูโต ซึ่งเหมาะสำหรับกลุ่มผู้อ่านวัยเด็ก แต่ อ.นาโอกิ นำเรื่องราวทั้งหมดมาขยายความและเจาะลึกไปถึงความหมายของการเป็น ‘หุ่นยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก’ โดยเปลี่ยนตัวละครเอกจากเจ้าหนูอะตอมเป็น ‘เกซิกต์’ หุ่นยนต์ตำรวจ 1 ใน 7 หุ่นยนต์เพื่อเดินเรื่องผ่านธีมสืบสวนสอบสวนว่าพลูโตคือตัวอะไร มาจากไหน และเป้าหมายของมันคืออะไรกันแน่ ผ่านการสำรวจโลกที่ตั้งคำถามว่าหุ่นยนต์ถูกสร้างขึ้นเพื่ออะไร หุ่นยนต์มีความรักได้หรือไม่ และหุ่นยนต์ฆ่าคนได้หรือไม่
ขอยืมคำโปรยจาก Netflix Thailand ที่ว่า ‘ทำไมมนุษย์จึงเกลียดชังกัน’ และ ‘ทำไมหุ่นยนต์ต้องหลั่งน้ำตา’ เบียวๆ แบบนี้ถูกใจผมดีนัก ใครกำลังตามหามังงะที่อ่านจบได้ในเวลาไม่นานและชวนขนลุกในทุกเล่มที่อ่าน พลูโตจะเปิดให้สั่งจองทางออนไลน์ในวันที่ 12 – 31 ตุลาคม 2566
นอกจากนี้เรายังอยากขอแนะนำเรื่องนี้และเรื่องอื่นๆ ของนาโอกิ อุราซาวะ ไม่ว่าจะเป็น Monster, 20th Century Boys และเรื่องที่ยังไม่มีลิขสิทธิ์ในไทยอย่าง Billy Bat ไปด้วยเลย
สั่งซื้อออนไลน์ที่ : nejavu.com