SUETOMI AoQ Cafe Stand คาเฟ่วินเทจในเกียวโตที่มีความลึกเพียง 1 เมตร

คุณคิดว่าร้านกาแฟจะเล็กได้แค่ไหน ที่เกียวโตมีร้านกาแฟที่มีขนาดเพียง 10 ตารางเมตร ด้วยความลึกของร้านเพียง 1 เมตรเท่านั้น ‘SUETOMI AoQ Cafe Stand’ คือคาเฟ่ที่มีเจ้าของเดียวกันกับ ‘SUETOMI’ ร้านอาหารชื่อดังในเกียวโตจากผลงานการออกแบบของสตูดิโอ G architects studio และ Ryohei Tanaka ที่ตั้งอยู่บนหัวมุมถนน Matsubara-dori ติดกับร้านราเมน Chanponteiso Honkeshijokarasumaten ใกล้กับสถานีรถไฟ Shijō Station ความพิเศษคือ ที่นี่เป็นคาเฟ่ไม้ในรูปแบบวินเทจ ที่นั่งพักและด้านข้างของร้านมีการติดตั้งแผ่นทองแดงที่ถูกออกซิไดซ์ด้วยซอสถั่วเหลืองและแอมโมเนียมคลอไรด์ในปริมาณเหมาะสมเพื่อให้เกิดการกัดกร่อน กลายเป็นสีสนิมออกโทนฟ้า คล้ายกับสี ‘Suetomi Blue’ ซึ่งเป็นสีประจำร้าน SUETOMI เดิมที่อยู่ห่างจากตัวคาเฟ่ไปเพียงสามนาทีเท่านั้น ทำให้นอกจาก SUETOMI AoQ Cafe Stand จะเป็นคาเฟ่คอนเซปต์เก๋ที่ดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นป้ายบอกทางเพื่อนำลูกค้าไปยังร้านเรือธงของ SUETOMI บนถนน Tamatsushimachō อีกด้วย ไม่เพียงเท่านี้ ในช่วงนอกเหนือเวลาทำการ พื้นที่นั่งพักของ SUETOMI AoQ Cafe […]

‘อีสานเอิ้นหา (Isan Calling)’ เสพงานศิลป์พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมอีสาน ที่จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม นครราชสีมา วันที่ 7 ธ.ค. 67 – 1 ม.ค. 68

ก่อนหมดปีนี้ Urban Creature อยากชวนคนรักงานศิลปะออกเดินทางไปเสพงานอาร์ตท่ามกลางบรรยากาศดีๆ ที่ ‘จิมทอมสันฟาร์ม’ กับโครงการ ‘อาร์ต ออน ฟาร์ม ณ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม’ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่อยู่ภายใต้การดูแลและคัดสรรโดยทีมงานหอศิลป์ บ้านจิม ทอมป์สัน ที่เชิญศิลปินเข้ามาทำงานและสร้างสรรค์ผลงานในฟาร์มมาตั้งแต่ปี 2552 สำหรับปีนี้อาร์ต ออน ฟาร์มมาพร้อมกับธีม ‘อีสานเอิ้นหา (Isan Calling)’ ที่รวม 17 ศิลปิน ทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่ล้วนแล้วแต่เคยมีผลงานร่วมกับงานมหกรรมศิลปะนานาชาติระดับโลก เช่น ไทยแลนด์ เบียนนาเล่ เชียงราย (2566) เวนิส เบียนนาเล่ (2566) เอเชีย แปซิฟิก ไทรเอ็นเนียล บริสเบน (2567) เป็นต้น มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานที่เชื่อมโยงงานศิลปะจากหลากหลายวัฒนธรรมกับพื้นที่ของฟาร์ม โดยเน้นเรื่องการใช้วัสดุพื้นถิ่น งานฝีมือ ความยั่งยืน และระบบนิเวศ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่จะทำให้เราเข้าใจถึงวัฒนธรรมอีสานมากขึ้น เช่น นิทรรศการลำโลก, นิทรรศการอเมริกันอีสาน ที่มาพร้อมแนวเพลงคันทรีเพื่อกล่อมเกลาบรรยากาศในโซนอเมริกันอีสาน, […]

คุยเรื่องแสงไฟ ชีวิต และเมือง กับ ‘ผศ. ดร.จรรยาพร สไตเลอร์’

เมืองยามค่ำคืนเต็มไปด้วยแสงสว่างจากหลากหลายที่ จนหลายครั้งก็อาจเป็นมลภาวะทางแสงให้กับเราโดยไม่รู้ตัว จะดีกว่าไหมหากเมืองเรามีการออกแบบแสงสว่างที่เหมาะสมซึ่งจะช่วยชีวิตเราได้ในทุกมิติ “การออกแบบแสงสำหรับเมือง มันก็จะมีความสัมพันธ์กับการพัฒนาชุมชนเมืองอย่างยั่งยืนในทุกมิติ” Urban Creature คุยกับ ‘ผศ. ดร.จรรยาพร สไตเลอร์’ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและนวัตกรรมการส่องสว่าง (LRIC) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ถึงเรื่องแสงสว่างที่ส่งผลกับการใช้ชีวิตของเราและควรถูกให้ความสำคัญทั้งจากภาครัฐและเอกชน

ขนหัวลุกกับน้าผี ไปเรียนรู้เรื่องไทยๆ ในช่วงค่ำคืนส่งท้ายปีกับงาน ‘What’s Thai วัดไทย 2024’ วันที่ 20 – 22 ธ.ค. 67 ที่ Museum Siam

Night at the Museum กลับมาชวนให้ทุกคนได้ออกมาใช้ชีวิตและเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ในช่วงค่ำคืนกันอีกครั้ง โดยในปีนี้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 14 แล้ว และแน่นอนว่าก็ยังมีพิพิธภัณฑ์อีกมากมายทั่วกรุงเทพฯ ที่เข้าร่วมเทศกาลนี้ และเชื้อเชิญให้ชาวเมืองได้แวะเวียนมาเยี่ยมชมสถานที่ในตอนกลางคืนกัน เช่นเดียวกับที่ Museum Siam ที่ในปีนี้มาพร้อมกับตอน ‘What’s Thai วัดไทย 2024’ ที่จะพาไปเรียนรู้เรื่องราวความเป็นไทยผ่านความสนุกในแบบไท้ป์ไทย จากปกิณกะ ประวัติศาสตร์ งานรื่นเริงของวัดไทย สื่อสารความเป็นไทยที่สะท้อนอัตลักษณ์และวิถีชีวิตของคนไทยผ่านทุนทางวัฒนธรรมที่กลายมาเป็นอำนาจทางวัฒนธรรมทั่วโลก รวมไปถึงยังมี ‘Ghost Power ส่งผีไทย ไปผีโลก’ เรื่องของผีไทยที่จะทำให้ทุกคนได้ใกล้ชิดและตามติดเรื่องราวในแง่ของตำนาน การแบ่งปันประสบการณ์ และการเล่าเรื่องราวของผีที่เราเองอาจไม่เคยรู้มาก่อน พร้อมกิจกรรมชวนขนหัวลุกอื่นๆ อีกมากมายจัดแสดงขึ้นในห้องคลังความรู้อีกด้วย มากไปกว่านั้น ตลอดทั้งสามวันนี้จะมีกิจกรรมมากมายกว่าแค่เปิดห้องให้เรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นโชว์ต่างๆ ทอล์ก รวมไปถึงคอนเสิร์ต ที่ชวนให้มาสนุกกันฟรีๆ ตั้งแต่ 16.00 – 22.00 น. What’s Thai วัดไทย 2024 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 – 22 ธันวาคม […]

ชวนรู้จัก Uniqlo UTme บริการออกแบบเสื้อได้ตามใจ พบกับสองสาขาใหม่ เมกาบางนาและไอคอนสยาม

หากใครเคยแวะเวียนไปที่ยูนิโคล่สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ จะต้องเคยเห็นบูทสีขาวขนาดใหญ่ตรงกลางร้านอย่างแน่นอน ในบูทนั้นมีทั้งเครื่องพิมพ์ลาย เสื้อและกระเป๋าวางให้เลือกสรร พร้อมแท็บเล็ตหลากหลายอันให้ได้ใช้งาน พื้นที่นั้นเรียกว่า Uniqlo UTme หรือบริการสุดพิเศษจากยูนิโคล่ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้สนุกกับการออกแบบเสื้อยืดและกระเป๋าผ้าตามต้องการ ไม่ว่าจะลายเสื้อหรือกระเป๋าจากภาพถ่ายอย่างรูปสัตว์เลี้ยงตัวโปรด ภาพวิวที่คิดถึง หรือหากสนใจเป็นคาแรกเตอร์ต่างๆ ที่มีอยู่แล้วก็ยังได้ เพราะที่นี่มีทั้ง Snoopy, Minecraft, Doraemon และตอนนี้ที่กำลังเป็นกระแสสุดๆ กับ Monchhichi ตุ๊กตาสุดน่ารัก วันนี้ชาว Urban Creature ขอร่วมพิมพ์ลายน้อง Monchhichi ลงบนเสื้อและกระเป๋าผ้าง่ายๆ ผ่านแท็บเล็ตที่ยูนิโคล่จัดไว้ให้ โดยเลือกประเภทของสินค้าที่สนใจ ได้แก่ กระเป๋าหรือเสื้อ แล้วจึงเลือกรูปแบบของลายที่ต้องการพิมพ์ ประกอบด้วยรูปภาพ ข้อความ ลายเพนต์ และสติกเกอร์ต่างๆ ในหมวดสติกเกอร์ของแต่ละคาแรกเตอร์ก็มีลายให้เลือกหลากหลาย โดยเราเลือกน้อง Monchhichi ที่มีตั้งแต่น้องตัวเดี่ยว เป็นกลุ่ม หรือแม้แต่ชื่อทั้งภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น จากนั้นก็ได้เวลาออกแบบให้สติกเกอร์ที่เราเลือกอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ โดยสามารถลดหรือขยายขนาดของสติกเกอร์ได้ เมื่อออกแบบจนพอใจแล้วก็บอกพนักงานยูนิโคล่ให้เข้ามาช่วยดู และใช้เวลาเพียงไม่นานเสื้อหรือกระเป๋าที่ออกแบบก็จะอยู่ในมือเราแล้ว ส่วนใครสนใจเสื้อ UTme ที่ออกแบบไว้อยู่แล้ว สามารถเลือกซื้อได้ที่ชั้นในโซน Uniqlo UTme เช่นเดียวกัน เสื้อยืดผู้ใหญ่ราคา 790 […]

ทำความเข้าใจ ‘บ้านเพื่อคนไทย’ โครงการใช้พื้นที่การรถไฟฯ สร้างเป็นบ้านให้ผ่อนเดือนละ 4,000 บาท อยู่ได้นาน 99 ปี

หลายคนอาจเห็นข่าวโครงการนี้ผ่านๆ ตากันบ้างแล้ว แต่อาจยังมีข้อสงสัยหรือรายละเอียดที่ยังไม่ค่อยเข้าใจ วันนี้ Urban Creature ขอสรุปรวมข้อมูลเกี่ยวกับ ‘บ้านเพื่อคนไทย’ ว่ามีความสำคัญ รายละเอียด รวมถึงไทม์ไลน์ความเป็นไปมาให้ทุกคน บ้านเพื่อคนไทยคืออะไร โครงการนี้สร้างขึ้นโดยใช้ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยมีจุดเด่นคือ เป็นที่ดินที่เดินทางสะดวก ใกล้ขนส่งสาธารณะไม่ว่าจะเป็นรถไฟหรือรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งพบว่าที่ดินรอบพื้นที่สถานีรถไฟหรือมีทำเลใกล้กับระบบรางแต่ไม่ได้ใช้เพื่อการเดินรถ มีอยู่ถึงประมาณ 38,000 ไร่ ทั่วกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ไปจนถึงทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยจะดำเนินการสร้างเป็นคอนโดมิเนียม 2 ขนาด คือ 30 และ 45 ตารางเมตร และบ้านเดี่ยวขนาด 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ พร้อมลานจอดรถสองคัน พื้นที่ 50 ตารางวา เป้าหมายคือการเน้นสร้างบ้านคุณภาพดี ผ่อนเริ่มต้นที่เดือนละ 4,000 บาท ในระยะเวลา 30 ปี หลังจ่ายครบยอดสามารถถือครองได้ 99 ปีก่อนกลับคืนสู่มือรัฐบาล ซึ่งมีความละม้ายคล้ายคลึงกับโครงการที่อยู่อาศัยของหน่วยการเคหะแห่งชาติสิงคโปร์ หรือ Housing & […]

หมุดถนนเรืองแสงแบบไฮบริด ผลงานจากนักวิจัย ม.วลัยลักษณ์ สร้างถนนที่ปลอดภัยด้วยวัสดุรีไซเคิล

เป็นที่รู้กันดีว่าการขับรถตอนกลางคืนเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการหลีกเลี่ยง ยิ่งเป็นการขับรถในเส้นนอกเมืองที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอก็อาจทำให้มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น แต่หลังจากนี้การขับรถในเวลากลางคืนอาจไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป เพราะล่าสุดทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้ทำการพัฒนานวัตกรรม ‘หมุดถนนเรืองแสงแบบไฮบริด’ ด้วยเทคโนโลยี ‘Glow-in-the-Dark (GiD)’ ร่วมกับการรีไซเคิลผงแก้ว จากการร่วมมือกันของนักวิจัยจากสำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ร่วมกับนักวิจัยจากประเทศไทย อินโดนีเซีย และสหราชอาณาจักร ภายใต้การสนับสนุนจากมูลนิธิ Mitsui Sumitomo Insurance Welfare Foundation ประเทศญี่ปุ่น และทำการยื่นจดอนุสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว โดยความพิเศษของหมุดถนนเรืองแสงนี้คือ สามารถดูดซับพลังงานจากแสงในช่วงเวลากลางวันและปล่อยแสงในที่มืดได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง ด้วยความสว่าง 150 mcd/m² ซึ่งถือว่าสว่างกว่ามาตรฐานสะท้อนแสงทั่วไป และสามารถสะท้อนแสงไฟจากพาหนะที่จะเป็นการช่วยเพิ่มความปลอดภัยในพื้นที่ที่มีแสงสว่างน้อย เช่น ทางโค้ง ทางแยก และจุดทางข้ามได้ด้วย อีกทั้งการใช้ผงแก้วรีไซเคิลยังช่วยประหยัดพลังงาน เนื่องจากไม่ใช้ไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่ ทำให้ลดต้นทุนการผลิตและวัสดุได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ยังทนทานต่อสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี และจากการทดลองนำตัวหมุดเรืองแสงติดตั้งบนถนนภายในมหาวิทยาลัยและในพื้นที่ต่างๆ แล้วพบว่า ตัวหมุดเรืองแสงนี้สามารถทนต่อแรงกดจากยางรถยนต์น้ำหนักกว่า 30 ตัน และยังคงความสว่างได้ดีในทุกสภาพแวดล้อม ในอนาคตทีมวิจัยมีแผนที่จะพัฒนาและปรับปรุงวัสดุให้ทนทานยิ่งขึ้น รวมถึงขยายการใช้งานในระดับประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่ยังไม่มีระบบไฟถนน ซึ่งในตอนนี้ก็อยู่ระหว่างการพูดคุยถึงความเป็นไปได้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเพิ่มความปลอดภัยทางถนน ส่งเสริมการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในงานจราจรให้มากขึ้น นอกจากนี้ […]

Wonderwhy : City Walker นิตยสารที่บอกเล่าคัลเจอร์ชาว SEA ประเดิมฉบับแรกด้วยธีม ‘การเดินในเมือง’

ไม่ใช่แค่เมืองไทยหรอกที่เดินทางด้วยเท้าในเมืองยาก เพราะหลายๆ ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ล้วนประสบปัญหาคล้ายๆ กัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าจะเดินไม่ได้ซะหน่อย! ในยุคที่คนรุ่นใหม่หันมาสนใจสิ่งพิมพ์กันมากขึ้น คนทำงานสร้างสรรค์และสื่อนอกกระแสทั่วโลกก็หันมาจับตลาดสิ่งพิมพ์อย่างซีน (หนังสือทำมือ) หรือนิตยสารรายสะดวก จนมีเหล่านิตยสารน้องใหม่ที่ลงลึกในประเด็นใดประเด็นหนึ่งออกมาวางขายให้นักอ่านทั่วโลกเป็นเจ้าของกันอย่างคึกคัก หนึ่งในนั้นคือ Wonderwhy นิตยสารที่เปิดตัวและตีพิมพ์ฉบับแรกไปไม่กี่เดือนก่อนโดยสื่อออนไลน์ด้านวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ใช้ชื่อเดียวกัน ซึ่งหลังจากเผยแพร่คอนเทนต์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มามากกว่าสามปี พวกเขาก็ลงมือทำสิ่งพิมพ์เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนอ่านอื่นๆ มากขึ้น โดยประเด็นแรกที่หยิบยกขึ้นมาคือเรื่อง การเดินในเมือง แน่นอนว่าเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่เป็นมิตรกับคนเดินเท้าเท่าไหร่นัก แต่ถึงอย่างนั้น ทิวทัศน์รายทางและความมีชีวิตชีวาของวิถีชีวิตผู้คนตามริมถนนก็ยังควรค่าให้เดินสำรวจ ซึ่งในขณะเดียวกัน ‘การเดิน’ ก็ถือเป็นวิธีการเดินทางที่ง่ายที่สุด สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และยังทำให้คนแข็งแรงอีกด้วย ภายในเล่มประกอบด้วยบทสัมภาษณ์ชาว SEA ที่เดินไปทำงาน ฮาวทูเตรียมตัวสำหรับคนที่อยากลองเดินเยอะๆ ในเมือง เบื้องหลังการวางผังเมืองของสิงคโปร์ซึ่งเป็นเมืองที่เดินได้เดินดีที่สุดแล้วในบรรดาประเทศแถบนี้ ไปจนถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสนุกๆ ที่แวดล้อมการเดิน เช่น ขนส่งสาธารณะ อุปกรณ์ตัวช่วยในการเดิน รูตการเดินที่แนะนำโดยอินฟลูเอนเซอร์ในหลากหลายประเทศ เป็นต้น รับรองว่าอ่านจบแล้วทำเอาอยากสวมรองเท้าดีๆ สักคู่ แล้วออกไปเดินสำรวจกรุงเทพฯ ให้รู้แล้วรู้รอดเลยล่ะ ใครที่สนใจ สั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ t.ly/2ISHw หรือจะตามไปซื้อที่หน้าร้าน SPACEBAR ZINE โครงการ GalileOasis ราชเทวี และร้าน Rock Paper […]

พาชม Installation Art ในโครงการ The Society จาก Sansiri PHUKET ที่ผสานกีฬาและศิลปะไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

หากใครได้ผ่านไปยังย่านเชิงทะเล-บางเทา ที่ภูเก็ต จะต้องพบ ‘The Society’ โซเชียลสเปซแห่งแรกในภูเก็ต ที่เข้ามาทำให้การใช้ชีวิตมีสีสันมากยิ่งขึ้น ด้วยการสร้างแรงบันดาลใจทางกีฬา ศิลปะ และวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างยั่งยืน พร้อมเป็นพื้นที่ให้ทุกคนได้พบเจอผู้คนที่หลากหลาย สร้างแรงบันดาลใจร่วมกันได้ไม่รู้จบ นอกจากร้านอาหารสเปนชื่อดังอย่าง VAMOS และร้านกาแฟ BEANS Coffee Roaster แล้ว ที่นี่ยังมี Installation Art จากศิลปินชื่อดัง ‘ยูน-ปัณพัท เตชเมธากุล’ เข้ามาร่วมส่งต่อแรงบันดาลใจกับ 4 ผลงานที่เชื่อมศิลปะและกีฬาให้เข้ากันอย่างลงตัว เริ่มต้นด้วยชิ้นแรกอย่าง ‘เรือใบ’ ที่ถูกขึงตึงด้วยผ้าใบจากชุดบาบ๋า-ย่าหยา ซึ่งหากใครเคยไปงานแต่งงานของชาวภูเก็ตหรือตามประเพณีเปอรานากัน อาจพบสไตล์การแต่งกายที่เป็นศิลปวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างจีนและมลายู โดยมีลักษณะเป็นชุดจีนคอตั้ง มีแขนจีบ และคลุมด้วยผ้าปักลายดอกไม้ประดับเอาไว้อย่างสวยงาม ยูนได้หยิบเอาเอกลักษณ์ปักษ์ใต้นี้มาสร้างประติมากรรมผ้าใบที่ชูเรื่องราวของชุมชน วัฒนธรรม และการละเล่นของภาคใต้ ตามมาด้วย ‘Surfboard’ ที่ถูกตีความผ่านมนตร์เสน่ห์ของชิโน-ยูโรเปียน ด้วยสีซึ่งเป็นเอกลักษณ์สำคัญของย่านเมืองเก่าภูเก็ต ยกตัวอย่างชัดๆ ก็ตึกสีเหลืองขนาดใหญ่อันเป็นจุดเช็กอินสำคัญของเมืองนั่นเอง และจากความโดดเด่นเหล่านั้น ยูนก็ใช้มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ลงบน Surfboard ซึ่งเป็นกีฬาทางน้ำที่เชื่อมโยงกับเมืองภูเก็ตโดยตรง นอกจากนี้ยังมี ‘Beach Volleyball’ ที่ถูกสร้างขึ้นจากอวนแหและเศษขยะในท้องทะเล เพื่อเน้นย้ำถึงความยั่งยืนและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวการใช้ชีวิตริมทะเลและชายหาด […]

‘Plaza del Zarrón’ จัตุรัสสำหรับทุกคน ที่ผสานเมืองเก่าและความร่วมสมัยบนพื้นที่ลาดของเมือง

จัตุรัสแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับทุกคนในเมืองอัลมาซาน ประเทศสเปน โดยมีความตั้งใจสร้างการเชื่อมต่อระหว่างย่านเมืองเก่ากับพื้นที่สร้างใหม่ ผ่านตัวพื้นที่ที่ถูกร้อยเรียงด้วยรากฐานทางประวัติศาสตร์ของเมืองอัลมาซาน ผสมผสานกับชีวิตสมัยใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเสรีภาพและความปัจเจกชน การเข้าถึงที่นี่สามารถเข้ามาได้จากหลากหลายเส้นทาง เพื่อเน้นย้ำถึงการเข้าถึงของทุกคน ร่วมกับการเปลี่ยนแปลงระดับความสูงของพื้นอย่างแนบเนียนด้วยการสร้างฐานลาดเอียงและซิกแซ็กสลับไปมา ภายในจัตุรัสมีจุดชมวิว โดยแต่ละจุดมีการวางมุมที่ไม่เหมือนกันเพื่อแสดงทิวทัศน์และแสงที่แตกต่างกัน ส่วนด้านในของพลาซาเป็นที่ตั้งของที่นั่ง ต้นไม้ และประติมากรรม Zarrón ที่ถูกย้ายมาจากพลาซาเมเยอร์ (Plaza Mayor) หรือจัตุรัสใหญ่กลางกรุงมาดริด เพื่อจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองวันนักบุญปาสกาล ไบลอน (San Pascual Bailón) พร้อมด้วยการเต้นรำซาร์รอนแบบดั้งเดิม ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 17 พฤษภาคมของทุกปี กิจกรรมนี้นับเป็นกิจกรรมสำหรับแหล่งท่องเที่ยวระดับภูมิภาค ซึ่งการย้ายมาจัดที่นี่นั้นช่วยเชื่อมโยงประวัติศาสตร์ของอัลมาซานกับชีวิตสมัยใหม่ในเชิงสัญลักษณ์ได้ อีกทั้งยังแสดงว่าที่นี่เป็นพื้นที่สำหรับทุกๆ คนโดยแท้จริง ไม่ว่าจะการเต้นรำ เฉลิมฉลอง หรือแม้กระทั่งการใช้ชีวิตโดยทั่วไปก็ล้วนเกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น ด้านการออกแบบ จัตุรัสนี้ผสานมรดกของเมืองกับการออกแบบร่วมสมัย โดยเลือกใช้วัสดุที่สอดคล้องกับความสวยงามดั้งเดิมของอัลมาซานอย่างแผ่นคอนกรีตเก่า ไม้ และโครงโลหะ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโรงหล่อและงานไม้ดั้งเดิมของเมือง โดยเฉพาะคอนกรีตเก่าที่สะท้อนถึงโทนสีและพื้นผิวของเมืองเก่า รวมถึงใช้รูปแบบการปูพื้น ประกอบด้วยแผ่นสี่เหลี่ยมขนาด 8 x 8 และ 16 x 16 เหมาะสำหรับการเป็นพื้นที่จัดกิจกรรม การรวมตัว และการพักผ่อน ยิ่งไปกว่านั้น พื้นที่นั่งเล่นยังถูกจัดไว้อย่างเป็นระบบ […]

‘Kigumi และ Komorebi’ ต้นคริสต์มาสที่ประกอบขึ้นจากไม้ และกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ใช้งานได้จริงหลังหมดเทศกาล

พอถึงช่วงเทศกาลสิ้นปี สิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยคือต้นคริสต์มาสที่นำมาตกแต่งหรือตั้งโชว์ในสถานที่ต่างๆ เพื่อต้อนรับและเติมเต็มบรรยากาศช่วงสิ้นปี ซึ่งพอหมดเทศกาล ต้นไม้เหล่านี้ก็จะถูกนำไปเก็บและกลายเป็นต้นไม้กักเก็บฝุ่น กว่าจะนำออกมาใช้อีกครั้งก็ต้องนับวันรอเกือบครบปี พอเห็นปัญหาดังนี้ สถาปนิกชาวญี่ปุ่น ‘Kengo Kuma’ จึงได้ออกแบบต้นคริสต์มาสใหม่ให้นำไปใช้ต่อได้แม้ไม่อยู่ในช่วงเทศกาล ด้วยการใช้ส่วนประกอบต่างๆ ที่ถอดออกและนำไปประกอบใหม่เป็นเฟอร์นิเจอร์ได้ ซึ่งต้นคริสต์มาสนี้สร้างขึ้นโดย ‘Karimoko’ ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ชาวญี่ปุ่น และตั้งโชว์อยู่ที่ล็อบบี้โรงแรม The Tokyo EDITION ใน Toranomon และ Ginza ต้นแรกชื่อว่า ‘Kigumi’ ตั้งอยู่ในโรงแรมสาขา Ginza ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นย่านแห่งเทคโนโลยีล้ำสมัยและวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ผสมผสานกันเหมือนกับการทอผ้า Kigumi จึงเกิดขึ้นจากการทอกิ่งไม้เข้าด้วยกัน ส่วนอีกต้นที่ตั้งอยู่ในโรงแรมสาขา Toranomon มีชื่อว่า ‘Komorebi’ แสดงออกถึงการเป็นพื้นที่ของเยาวชนที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง Komorebi จึงมีความสดใสเป็นแรงบันดาลใจ และได้รับการออกแบบให้แสงแดดลอดผ่านใบไม้บนต้นได้ ทั้งสองต้นจะตั้งโชว์จนหมดช่วงเทศกาลคริสต์มาส และจะนำไปประกอบเป็นเฟอร์นิเจอร์เพื่อใช้งานต่อในโรงแรมทั้งสองสาขา แต่ขณะเดียวกันก็มีการจำหน่ายช่องทางออนไลน์และเปิดประมูลด้วย ซึ่งรายได้ทั้งหมดจะบริจาคให้กับมูลนิธิ Make-A-Wish Japan ที่ทำตามความปรารถนาของเด็กๆ ที่เป็นโรคร้ายแรง Sources :Edition Hotels | tinyurl.com/5h9vz76r Yanko Design | […]

Pet Forest Gimpo สุสานในเกาหลีใต้ ที่อยากเป็นบ้านหลังสุดท้ายของสัตว์เลี้ยงก่อนกลับดาวหมาแมว

ในวันที่สัตว์เลี้ยงที่เรารักจากไป การได้มีพื้นที่เล็กๆ ในการร่ำลาและกลับมาระลึกในวันที่คิดถึง คงเป็นสิ่งที่ใครหลายคนต้องการ ปัจจุบันจึงเกิดเป็นธุรกิจที่ดูแลภาวะหลังความตายของสัตว์เลี้ยงขึ้นจำนวนมาก เพื่อปลอบโยนผู้เลี้ยงในวาระสุดท้ายของเจ้าตัวเล็ก ‘Pet Forest Gimpo’ คือสถานที่ทำพิธีศพสัตว์เลี้ยงแห่งแรกของประเทศเกาหลีใต้ ในเมืองกิมโป ที่เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1999 ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบของทุ่งนาและโรงงานใกล้เคียง หลังจากเปิดทำการมาหลายสิบปี ตัวอาคารได้รับการรีโนเวตในปี 2024 นี้ เพื่อเป็นพื้นที่ที่สามารถดูแลช่วงเวลาหลังความตายของเหล่าสัตว์เลี้ยงได้อย่างครบวงจร และช่วยปลอบประโลมความสูญเสียของเจ้าของไปพร้อมๆ กัน ภายในอาคารเล็กๆ ขนาด 340 ตารางเมตรที่มีการแบ่งสันพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วน เอื้อให้ผู้ใช้บริการได้มีเวลาส่วนตัวในการบอกลาน้องๆ มีห้องให้คำปรึกษา ไปจนถึงบริเวณโถงกลางที่รายล้อมด้วยกระจก และสวนสีเขียวภายนอกที่ช่วยเพิ่มความลึกให้มิติของพื้นที่ สร้างความสงบให้กับผู้ใช้งาน Pet Forest Gimpo ให้บริการผู้ที่ต้องการทำพิธีศพสำหรับสัตว์เลี้ยง ให้ความช่วยเหลือและคำปรึกษาแก่เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่โศกเศร้า รวมไปถึงบริการช่องเก็บอัฐิในลักษณะตู้กระจกสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่นอกจากจะเก็บอัฐิได้แล้ว ยังใส่ของที่เต็มไปด้วยความทรงจำเพื่อกลับมาระลึกถึงสัตว์เลี้ยงตัวโปรดในวันครบรอบการจากไปได้ด้วย Sources : ArchDaily | t.ly/gXRiKBRIQUE MAGAZINE | t.ly/G91Hy

1 2 3 174

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.