‘รถเข็นประเทศไทย’ หนังสั้นแสนสิริ ที่ชวนทุกคนช่วยกันฝ่าวิกฤตให้ประเทศเดินหน้าต่อได้
การแพร่ระบาดของโควิดได้สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คนทั่วโลก และยิ่งในประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำสูงมันกลายเป็นฝันร้ายของคนชั้นกลางและชั้นล่าง คุณอาจจะโชคดีหากเป็นคนที่มีฐานะ มีทุนเยอะ มีกำลังมากกว่า และสามารถเข้าถึงโอกาสในการรักษา การป้องกัน และหาหนทางรอดมากกว่า คนตัวเล็กๆ หรือธุรกิจรายย่อยที่กำลังเขามีต้นทุนน้อย ที่ต้องพยายามดิ้นรนประคองตัวเองให้รอดในแต่ละวัน แต่ถ้าหากคนที่แข็งแรงหันมาช่วยเหลือกัน ยื่นมือเข้ามาช่วยผู้ที่กำลังล้ม และพากันไปข้างหน้าด้วยกันจนพ้นจากวิกฤติก็คงจะดีไม่น้อย นี่จึงเป็นที่มาของโครงการ No One Left Behind แสนสิริไม่ทอดทิ้งใคร ที่มองว่าสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบวงกว้างเช่นนี้ ไม่ควรจะมีใครสักคนเดียวถูกทิ้งให้อยู่ข้างหลัง ไม่ว่าคนหรือองค์กรนั้นจะเป็นใคร หากเขากำลังประสบปัญหาอยู่ ก็ควรจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้ที่มีกำลังกว่า มีโอกาสรอดมากกว่า ไม่ใช่ใช้โอกาสที่มีเอาตัวรอดอยู่คนเดียว หากเป็นเช่นนั้นประเทศก็จะล้ม แสนสิริจึงตั้งใจที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เริ่มต้นแคมเปญต่างๆ ที่เข้าไปช่วยเหลือผู้คนในภาคส่วนต่างๆ ให้ได้มากที่สุด และชวนให้ทุกคนที่ยังมีกำลัง มีโอกาส ร่วมมือกันช่วยเหลือประเทศให้รอดจากสถานการณ์โรคระบาดนี้ไปด้วยกันทุกคน ความตั้งใจที่จะพาทุกคนให้รอดไปด้วยกันนี้ได้ถูกถ่ายทอดเอาไว้ในหนังสั้นเรื่อง ‘รถเข็นประเทศไทย’ ซึ่งได้ผู้กำกับอย่าง สวิฟท์-กฤษฏิ์สมัชญ์ เอื้อละพันธุ์ ที่เคยลงพื้นที่เข้าไปนำเสนอเรื่องราวปัญหาของผู้คนไร้บ้านที่ถูกสังคมซ่อนไว้ในมุมมืด ในสายตาของผู้กำกับที่มองเห็นคุณค่าของผู้คนทุกคน หนังเรื่องนี้ของเขาจะช่วยทำให้คนดูเห็นถึงคุณค่าของกันและกัน และลุกขึ้นมาช่วยเหลือกันให้รอดจากวิกฤติโรคระบาดนี้ไปด้วยกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ไอเดียเบื้องหลังหนังเรื่องนี้มีที่มาอย่างไร มีสัญญะอะไรที่ถูกใส่ไว้และมีความหมายอย่างไรบ้าง วันนี้เราจึงชวนสวิฟท์มานั่งพูดคุยกัน ผู้กำกับพร้อมแล้ว คนอ่านพร้อม กล้องพร้อม ไมค์พร้อม ไฟพร้อม ตีสเลต…แอ็กชัน! โจทย์จากแสนสิริที่สวิฟท์ได้รับคือหนังจะต้องมองเลยไปถึงตอนที่โรคระบาดผ่านพ้นไปแล้ว […]