‘บางโพ’ ย่านที่ผสมผสานกันระหว่างเสน่ห์เก๋าๆ ของคนรุ่นเก่า และความสร้างสรรค์ชิกๆ ของคนรุ่นใหม่อย่างลงตัว

สถานีต่อไป บางโพNext Station Bang Phoโปรดระวังตกหลุมรักย่านนี้อย่างจังขณะอ่าน ไม้แต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์ที่ต่างกันฉันใด ย่านแต่ละย่านย่อมมีชีวิตและเสน่ห์เฉพาะตัวฉันนั้น ดังเช่น ‘บางโพ’ ย่านเก่าแก่ในกรุงเทพฯ ที่ชื่อเสียงเรียงนามไม่เคยขาดหายตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งการเป็นย่านโก้คนเก๋ตามเนื้อเพลงสาวบางโพ บทเพลงแห่งยุคที่ไม่ว่าใครๆ ต่างเคยคุ้นหู หรือจะเป็นความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรงานไม้ ณ ซอยประชานฤมิตร ศูนย์รวมงานศิลป์ประเภทไม้และช่างไม้ในตำนานไว้อย่างคับคั่ง แต่เมื่อตัดภาพมายังบางโพในปัจจุบัน ที่นี่มีภาพใหม่เป็นย่านแห่งการผสมผสานกันระหว่างเสน่ห์เก๋าๆ ของคนรุ่นเก่าและความสร้างสรรค์ชิกๆ ของคนรุ่นใหม่อย่างลงตัว เพราะขณะที่ร้านรวงใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ร้านเก่าแก่โบราณก็ยังอยู่ได้และยังคงเสน่ห์เหมือนเคย ทั้งนี้เพราะทั้งสองฝ่ายต่างถ้อยทีถ้อยอาศัย เปิดรับซึ่งกันและกัน ร่วมกันเป็นรากฐานที่ดีของย่าน จนทำให้บางโพเติบโตกลายเป็นย่านสร้างสรรค์อย่างมั่นคงดั่งต้นไม้ที่ยืนหยัดแข็งแรง คอลัมน์ Neighboroot ครั้งนี้ขอพาทุกคนไปลัดเลาะบางโพ สืบเสาะร้านเก่าร้านใหม่ ชวนมองย่านผ่านเลนส์ของคนหลากหลายอาชีพ สนทนาพาทีกับผู้คนหลากหลายรุ่น ทั้งคนบางโพแท้ตั้งแต่เกิด ตลอดจนคนที่ย้ายจากถิ่นกำเนิดมาปักหลักปักฐานและมาดมั่นว่าจะอยู่ที่นี่ ไม่ย้ายไปไหนอีก เราตกหลุมรักบางโพแล้วแล้วคุณล่ะ หากจะเรียกบางโพว่า ‘จุดสานเมือง’ คงไม่เกินความจริงนัก เนื่องจากปัจจุบันบางโพเป็นจุดที่เชื่อมต่อกับพื้นที่อื่นๆ ได้อย่างสะดวก หลังจากการสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ทำให้พื้นที่โดยรอบได้รับการพัฒนา และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ตั้งแต่การเข้ามาของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ‘สถานีบางโพ’ จนถึงการยกระดับเป็นทำเลทองที่หมายปองของนักลงทุนจำนวนมาก ด้วยความที่เดินทางง่าย และเป็นพื้นที่ที่มีเอกลักษณ์ของย่านชัดเจน หากใครแวะเวียนไปบางโพตอนนี้นอกจากภาพมุมระนาบของตึกแถวที่ขนาบสองข้างถนนประชาราษฎร์ จะเห็นที่พักคอนโดมิเนียมเรียงรายเป็นฉากหลัง สะท้อนถึงการเป็นย่านที่อยู่อาศัยยุคใหม่ที่น่าจับตามอง […]

หนึ่งวันใน INVESTORY พิพิธภัณฑ์เรียนรู้การลงทุนแห่งแรกของไทย ที่เชื่อว่าทุกคนเป็นฮีโร่ทางการเงินได้

‘เงิน’ เป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่เราคิด และเชื่อว่ายิ่งอายุมากขึ้นเท่าไร หลายคนก็ยิ่งมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเก็บมากขึ้น เช่น เงินที่เราเก็บมาตลอดทั้งชีวิตจะเพียงพอต่อการใช้หลังเกษียณไหม และทำอย่างไรจึงจะมีเงินเพียงพอ ถึงจะบอกว่าเป็นเรื่องใกล้ตัว แต่ในขณะเดียวกัน การเงินและการลงทุนก็ดูเป็นเรื่องไกลตัว เพราะมีแต่ตัวเลข เข้าใจยาก แถมชวนงงสุดๆ กับกองทุนนั้น หุ้นนี้ หรือการออมเงินหลากหลายรูปแบบ ด้วยเหตุนี้ Urban Creature อยากชวนทุกคนมาเรียนรู้เรื่องเงินๆ ทองๆ ไปด้วยกันที่ ‘พิพิธภัณฑ์เรียนรู้การลงทุน (Investment Discovery Museum)’ หรือ ‘INVESTORY’ ที่ซ่อนตัวอยู่ชั้นใต้ดินของอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มากไปกว่านั้น ด้วยความที่เป็นซีรีส์คอนเทนต์ ‘MUSEUM-IN-SIGHT เพ่งพิศพิพิธภัณฑ์’ เราจะพาไปเจาะลึกเรื่องราวที่ซ่อนตัวอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ผ่านคนทำงานผู้อยู่เบื้องหลัง ตั้งแต่ที่มาที่ไปของที่นี่ ความมุ่งมั่นตั้งใจ ความใส่ใจในทุกรายละเอียด ตลอดจนเรื่องราวอินไซต์ที่ถ้ามาเยี่ยมชมเฉยๆ ก็อาจไม่รู้ว่ามีสิ่งนี้ซ่อนอยู่ แหล่งเรียนรู้ใต้ดินโบยบินสู่อิสรภาพทางการเงิน ถัดไปไม่ไกลจาก MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ นอกจากตึกสูงที่เป็นที่ตั้งของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว ลึกลงไปชั้นใต้ดินยังเป็นที่ตั้งของห้องสมุดมารวย ห้องสมุดที่รวบรวมหนังสือและสื่อสารสนเทศเกี่ยวกับการเงินการลงทุน และ ‘พิพิธภัณฑ์เรียนรู้การลงทุน (Investment Discovery Museum)’ หรือ ‘INVESTORY’ แหล่งเรียนรู้เรื่องการเงินและการลงทุนแห่งแรกของประเทศไทย จุดหมายปลายทางของเราในวันนี้ด้วย […]

ชวนไปเพ่งพิศ 10 พิพิธภัณฑ์ ที่ได้รับการันตีจากโครงการ Museum STAR

‘พิพิธภัณฑ์’ เป็นเสมือนกุญแจเปิดสู่โลกกว้าง กระตุ้นความคิดและจินตนาการผ่านประสาทการรับรู้ทั้ง 5 ไม่ว่าจะเป็นรูป รส สัมผัส กลิ่น เสียง โดยที่ทุกอย่างได้รับการจัดเรียงและคิดมาเป็นอย่างดีแล้ว และแต่ละคนเองคงมีพิพิธภัณฑ์ติดดาวในดวงใจที่จะไปกับเพื่อนหรือคนเดียวก็เอนจอยและเพลิดเพลินทุกครั้ง ไม่ว่าจะไปชมนิทรรศการ ไปสำรวจพื้นที่ หรือไปใช้เวลาพักผ่อนสบายๆ ก็ตาม ถึงอย่างนั้นก็คงดีไม่น้อยถ้าเราจะได้ลองไปเยี่ยมเยียนมิวเซียมแห่งใหม่ๆ เผื่อได้สถานที่ชุบชูใจเพิ่มเติมมาไว้ในลิสต์อีก เพื่อเป็นอินโทรสู่ซีรีส์คอนเทนต์ที่ Urban Creature ร่วมกับสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) และ Museum Thailand จึงอยากชวนผู้อ่านมารู้จักกับลิสต์ 10 พิพิธภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลโครงการ Museum STAR กันก่อนที่จะไปทัวร์แต่ละแห่งอย่างลงลึก พร้อมรับรู้เบื้องหลังการดำเนินงานผ่านถ้อยคำของตัวแทนมิวเซียมในบทสัมภาษณ์คอลัมน์ One Day With… 1) หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (Bangkok Art and Culture Centre) ‘หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หรือ BACC’ คือ Art Center เคียงคู่กรุงเทพฯ และพื้นที่สาธารณะใจกลางเมืองที่ทำหน้าที่เป็นแหล่งรวมตัวของชาววัยรุ่นสยาม ซึ่งไม่เคยว่างเว้นจากนิทรรศการหมุนเวียนนับร้อยที่กระจายตัวทั่วทุกชั้นตั้งแต่ชั้น 1 – 9 อีกทั้งยังมีการปรับตัวให้สอดคล้องกับยุคสมัยอยู่ตลอดเวลา […]

ออกแบบ ‘Hawker Center’ แบบไทยๆ แก้ปัญหาหาบเร่แผงลอย คืนพื้นที่ทางเท้าที่หายไป

‘ไทยแลนด์ดินแดนสตรีทฟู้ด’ หนึ่งในอัตลักษณ์ของไทยที่เลื่องลือกันไปทั่วโลก ทว่าเบื้องหลังก็มีปัญหาคลาสสิกมากมายที่ต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไข อย่างที่รู้กันว่า กรุงเทพฯ กับหาบเร่แผงลอยเป็นปัญหาคาราคาซังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งการล้ำเส้นทางเท้า กีดขวางทางสัญจร ความสกปรกจากน้ำทิ้งและเศษซากจากการประกอบอาหารหรือตั้งร้าน รวมถึงสุขอนามัยของผู้บริโภค  ปัจจุบันกรุงเทพฯ นำ ‘Hawker Center’ โมเดลศูนย์อาหารจัดระเบียบร้านของสิงคโปร์มาปรับใช้บ้างแล้ว แต่ก็เจอทางตันและข้อจำกัดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นที่ไม่เอื้อต่อการจัดสรร การควบคุมมาตรฐาน ทุนสนับสนุน ไปจนถึงการคงไว้ซึ่งเสน่ห์ของสตรีทฟู้ดแบบไทยๆ ส่งผลให้ประเด็นหาบเร่แผงลอยเป็น Love-Hate Relationship ที่อยู่คู่คนกรุงเทพฯ มาอย่างยาวนาน ถึงอย่างนั้น การแก้ไขปัญหาก็ไม่ควรเป็นการขับไล่ร้านเหล่านั้นออกไปเพื่อเป็นการตัดจบ แต่ควรเป็นประเด็นขบคิดว่า เราจะทำอย่างไรให้ทางเท้ากลับมาเป็นทางเท้าเหมือนเดิม ในขณะเดียวกันก็ไม่กระทบการทำมาหากินของเหล่าผู้ประกอบการ คอลัมน์ Urban Sketch ขอเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบ ‘Hawker Center แบบไทยๆ’ สีสันจัดจ้านตามแบบฉบับสตรีทฟู้ดไทยที่ขมวดจบทุกปัญหา เสนอทางออกที่หลายฝ่ายจะแฮปปี้ คืนทางเท้าที่ดีให้นักสัญจรทางเท้าทุกท่าน อีกทั้งยังคงความเป็นสตรีทฟู้ดอันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของไทย ขอให้ทางเท้ามีทางให้เท้าเดิน อย่างแรกร้านค้าต้องรู้ก่อนว่า ตรงไหนบ้างที่ห้ามตั้งร้านหาบเร่แผงลอย ปัจจุบันเทศกิจกำหนดว่า บริเวณที่ห้ามจำหน่ายสินค้าเด็ดขาดคือทางเท้าแคบที่กว้างไม่ถึง 2 เมตร ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ทางเท้าที่ดีควรมีความกว้างมากกว่าหรือเท่ากับ 2 เมตร แต่ประเทศไทยเองยังมีหลายพื้นที่ที่ทางเท้าแคบและไม่ได้มาตรฐาน เมื่อมีหาบเร่แผงลอยมาตั้งร้านอีกจึงเกิดปัญหาซ้ำซ้อนตามมา ถ้าไปดูกรณีของไต้หวันจะพบว่า […]

‘Bangkok World Expo 2032’ ธีสิสว่าด้วยการจัดงานมหกรรมระดับโลกที่จะพลิกโฉมมักกะสันในฐานะหัวใจเชื่อมเมือง

‘Osaka World Expo 2025’ กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญในปีนี้ที่คนพูดถึงกันทั่วโลก และน่าไปเยือนสักครั้งหากมีโอกาส  เพราะนอกจากเป็นหนึ่งในงานมหกรรมระดับโลกที่แต่ละประเทศได้ร่วมเวทีประกาศความสำเร็จในแบบของตัวเองแล้ว ยังเป็นสปอตไลต์ที่ฉายความพร้อมในหลากหลายมิติของประเทศเจ้าภาพอีกด้วย แต่ที่ใครหลายคนอาจยังไม่รู้คือ จริงๆ แล้วไทยเองก็เคยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงานนี้ถึงสองครั้งสองคราในปี 2020 และ 2028 แต่สุดท้ายกลับไปไม่ถึงฝั่งฝัน เนื่องจากความไม่พร้อมในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านทุนสนับสนุนหรือด้านโครงสร้างพื้นฐานในเมือง ทว่าความหวังนี้ยังคงไม่หายไป แม้จะมีคำถามว่า แล้วตอนนี้ไทยเราพร้อมหรือยังที่จะขึ้นสู่การเป็นเจ้าภาพงานระดับโลก แต่อีกคำถามที่น่าสนใจและชวนจินตนาการต่อไม่แพ้กันคือ แล้ว ‘Bangkok World Expo’ จะหน้าตาเป็นยังไงกันนะ  คอลัมน์ Debut พาไปพูดคุยกับ ‘ธีร์-ธนกฤต กาญจนารมย์’ นิสิตจากภาควิชาการวางแผนภาคและเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่จะทำให้เราเห็นภาพอนาคตและศักยภาพของไทยมากขึ้น ผ่าน ‘Bangkok World Expo 2032’ ธีสิสจบการศึกษาของเขา วาระพิเศษพลิกโฉมประเทศไทย การทำธีสิสเกี่ยวกับงานมหกรรมระดับโลกของธนกฤตเริ่มต้นจากความชอบในการดูบอล และเห็นว่าการจัดงานมหกรรมขนาดใหญ่อย่างบอลโลกหรือบอลพรีเมียร์ลีกมักตามมาด้วยอีเวนต์ที่ช่วยดึงดูดให้คนมาใช้พื้นที่สาธารณะร่วมกันได้ ในขณะเดียวกัน ธนกฤตเองก็อยากทำงาน Redevelopment หรืองานพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ ที่หยิบเอาพื้นที่ว่างมาฟื้นฟูพัฒนากลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ เขาจึงเล็งเป้าไปที่ ‘World Expo’ ซึ่งเป็นงานมหกรรมขนาดใหญ่ระดับโลก สำหรับใครที่ยังไม่เข้าใจว่า World […]

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.