เวลาคุยกับหมอดู คุณถามว่าอะไรกันบ้าง?
ช่วงนี้เครียดกับเพื่อนร่วมงานมาก งานนี้จะรอดไหม?
ที่ทำงานบีบเงินเดือนสุดๆ ปีนี้จะรวยไหม?
ทุ่มเทให้เขาขนาดนี้ เขาจะรักเราบ้างไหม?
คำถามเหล่านี้ต่างเป็นปัญหาสุดกลุ้มใจของใครหลายคน หากให้เลือกปรึกษาระหว่างจิตแพทย์กับหมอดู เชื่อว่าส่วนใหญ่ขอพุ่งเข้าหาแม่หมอก่อนเป็นอันดับแรก เพราะปัจจุบันศาสตร์ทำนายอนาคตฮิตในบ้านเรา และทุกวันนี้มีธุรกิจสายดวงผุดขึ้นมากมายเป็นดอกเห็ด
โดยเฉพาะบริการดูดวงออนไลน์ที่ได้รับความนิยมล้นหลาม ทุกคนเข้าถึงโซเชียลมีเดียได้อย่างง่ายดาย เช่น YouTube, Facebook, Twitter หรือ TikTok จนทำให้บางคนที่ชอบดูดวงมองว่า หมอดูก็สามารถทำให้พวกเขามีกำลังใจและรู้สึกมีความหวังในวันที่เขาหลงทาง รวมทั้งให้คำปรึกษาคล้ายกับจิตแพทย์คนหนึ่งเลยทีเดียว
ดูดวง ที่พึ่งยามยากที่เข้าถึงง่าย
ความนิยมการดูดวงไม่ใช่เรื่องคิดไปเอง จากข้อมูลวิจัยพฤติกรรมการดูดวงคนเมืองในกรุงเทพฯ ของอัครกิตติ์ สินธุวงศ์ศรี จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเผยว่า คนดูดวงส่วนมาก 2 ใน 3 เป็นวัยทำงานช่วงอายุ 20 – 40 ปี และเป็นโสด สาเหตุที่เลือกดูดวงเนื่องจาก 1 ใน 3 พบว่ารู้สึกเครียดและต้องการที่พึ่งพาทางจิตใจ จึงต้องการรับรู้เรื่องอนาคต เพื่อสร้างความมั่นใจการตัดสินใจในปัจจุบัน
เรื่องที่คนเมืองมักจะปรึกษาแม่หมอมากที่สุด 3 อันดับแรกคือ 1) การก้าวหน้าในหน้าที่การงาน 2) การเงินและการค้า และ 3) เรื่องโชคลาภ เช่น หวย หรือการชิงโชคต่างๆ เหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยยังรู้สึกไม่มั่นคงในการทำงาน การเงิน หรือความสัมพันธ์ เนื่องด้วยคนดูดวงส่วนใหญ่สถานภาพโสดอยู่อาศัยเพียงลำพัง จึงเกิดความรู้สึกโดดเดี่ยว สับสน และวุ่นวาย จึงต้องการที่พึ่งจากการดูดวงที่สามารถเข้าถึงสะดวกทั้งทางโลกออนไลน์และออฟไลน์ ในราคาที่พวกเขาจ่ายไหวประมาณ 300 – 499 บาท
เทรนด์การดูดวงในปัจจุบันมีการพัฒนามากกว่าแต่ก่อน เดิมมุ่งเน้นการให้คำทำนายเป็นหลัก แต่ในสังคมทุกวันนี้บางความคิดเห็นมองว่า หมอดูยังกลายเป็นคนที่คอยรับฟังปัญหาความหนักอกหนักใจของลูกดวง เมื่อเวลาพวกเขาถามคำถาม ซึ่งส่วนใหญ่พวกเขาต้องการระบายความในใจหรือคนที่คอยรับฟังอยู่เคียงข้าง รวมถึงการดูดวงยังสามารถให้คำแนะนำต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาโดยตรง เช่น ช่วงนี้เหนื่อยหน่อยนะแต่จะดีขึ้นในภายหลัง หรือรักตัวเองให้มากเพราะต่อไปเราจะเลือกได้ เหล่านี้ดูเป็นเหมือนคำพูดธรรมดา แต่กลับทำให้พวกเขารู้สึกมีกำลังใจไม่ใช่น้อย
แล้วทำไมคนไม่เข้าหาจิตแพทย์?
หากถามว่า ถ้ามีเรื่องปวดใจอยากไปพบจิตแพทย์หรือไม่ เชื่อว่าหลายคนตอบอยากไป แต่ทุกวันนี้สาเหตุส่วนใหญ่ที่คนไม่เข้าหาจิตแพทย์เนื่องจากการบริการในโรงพยาบาลรัฐบาลยังไม่ค่อยสะดวกสบายมากเท่าไหร่นัก ด้วยการจองคิวที่ต้องใช้เวลานานประมาณ 1 – 2 เดือนแถมยังมีเวลาจำกัดในการคุย สำหรับการบริการในภาคเอกชนมีราคาสูงหลายเท่าตัว เฉลี่ยประมาณ 1,000 – 2,000 บาท/ชั่วโมง/ครั้ง เทียบกับภาครัฐบาลเฉลี่ยประมาณ 300 – 500 บาท/ครั้ง
ในมุมบุคลากรที่เกี่ยวข้องนับว่าขาดแคลนหนักมาก จากข้อมูลกรมสุขภาพจิตปี 2563 พบว่าในประเทศไทยมีจำนวนจิตแพทย์ทั้งหมด 206 คน เจ้าหน้าที่จิตวิทยาทั้งหมด 109 คน และจำนวนผู้ป่วยทั้งหมด 2.7 ล้านคน คิดเป็นอัตราส่วนจิตแพทย์ 1 คนต่อผู้ป่วย 6,366 คน มากไปกว่านั้นยังรวมถึงปัญหาจิตแพทย์กระจุกตัวในเมืองมาก แตกต่างจากในระดับจังหวัดที่มีบุคลากรน้อยถึงขั้นทั้งจังหวัดมีจิตแพทย์ 1 – 2 คน
เราควรปรึกษาใคร?
การดูดวงเป็นทางเลือกหนึ่งในการสร้างความสบายใจระยะสั้น แต่ไม่ควรดูดวงจนขาดสติเกินไป มันก็จะกลายเป็นดาบสองคมที่ทำให้เรางมงายและเครียดหนักได้มากกว่าเดิม ทั้งนี้ การดูดวงไม่ใช่การแก้ปัญหาชีวิตโดยตรง แต่เป็นเหมือนการให้คำแนะนำหรือคำเตือน ที่ทำให้เราระมัดระวังตนเองมากยิ่งขึ้น เพราะสุดท้ายแล้วคนที่จะกำหนดชีวิตตนเองได้ก็ขึ้นกับตัวเราอยู่ดี
ถ้าวันหนึ่งเรารู้สึกกังวลและเครียดจนเกิดผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ ก็ควรรีบเข้ามาพบจิตแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง โดยพวกเราสามารถสังเกตพฤติกรรมของตนเองหรือคนรอบข้างได้ง่ายๆ เช่น ซึมเศร้าตลอดเวลา หวาดระแวงทุกเรื่องผิดปกติ ไม่มีสมาธิทำกิจกรรม เกิดอาการหลงลืม เบื่ออาหารหรือกินมากขึ้น ใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยแบบไม่ยั้งคิด นอนไม่หลับหรือนอนมากผิดปกติ ได้ยินเสียงแว่วๆ หรือเห็นภาพที่ผู้อื่นมองไม่เห็น รวมทั้งคิดทำร้ายตนเองและเข้าใจผิดว่ามีคนทำร้ายเราอยู่ตลอดเวลา หากเกิดอาการอย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าว ควรรีบติดต่อจิตแพทย์ให้ทันท่วงที
ทั้งนี้ สิ่งที่เหมือนกันของการดูดวงและการปรึกษาจิตแพทย์ คือคนที่ต้องการคำปรึกษารู้สึกเครียดภายในจิตใจ หลายคนเลือกดูดวงเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยผ่อนคลายความวิตกกังวลให้พวกเขา เพราะสะดวกและรวดเร็ว หากเลือกได้ก็มีจำนวนคนไม่น้อยที่อยากได้รับคำปรึกษาจากจิตแพทย์โดยตรง ในขณะเดียวกันก็ติดปัญหากับการเข้าถึงการรักษาของจิตแพทย์ ที่มีทั้งข้อจำกัดราคา บุคลากร หรือการกระจายสถานที่ให้คำปรึกษาไม่เพียงพอ จึงไม่แปลกใจที่คนจะหันไปพึ่งการดูดวงมากกว่าการพบจิตแพทย์ที่ต้องใช้เวลาและขั้นตอนมากมาย
Sources :
BBC NEWS | shorturl.asia/jAENX
HealthToday | shorturl.asia/Gut7N
The Matter | shorturl.asia/MyXSa
กรุงเทพธุรกิจ | shorturl.asia/2dW4O, shorturl.asia/7PjLJ, https://shorturl.asia/XkqVL
วารสารวิจัยสังคม | shorturl.asia/ICwpo
โรงพยาบาลมนารมย์ | shorturl.asia/Fhexs
Writer
จารุจรรย์ ลาภพานิช
Writer
