5 เมืองเที่ยวพักผ่อนที่โรแมนติกที่สุดในโลก - Urban Creature

เมืองที่โรแมนติกที่สุดในโลกมีหน้าตาเป็นแบบไหนกันนะ

‘วันวาเลนไทน์’ คือเทศกาลแห่งความรักที่ผู้คนทั่วโลกรอคอย เพราะเป็นโอกาสที่พวกเขาจะได้แสดงความห่วงใยแก่คนที่ปรารถนาดี ส่วนบรรดาคู่รักก็มักชวนกันทำกิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่แลกเปลี่ยนของขวัญ ดูหนังแบบมาราธอน กลับไปสถานที่เดตแห่งแรก รวมถึงไปดินเนอร์สุดพิเศษที่ร้านอาหารหรือคาเฟ่น่ารักๆ แต่ถ้าจะให้ดูคลั่งรักและเซอร์ไพรส์หน่อยก็ต้องวางแผนไปเที่ยวในสถานที่ที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศสุดโรแมนติก

คอลัมน์ City by Numbers วันนี้ขอพาทุกคนขึ้นเครื่องบินไปสำรวจ 5 เมืองแสนโรแมนติกที่สุดของโลก อ้างอิงข้อมูลเมื่อปี 2022 จากเว็บไซต์บริการฝากกระเป๋าระดับโลกอย่าง Bounce ที่ให้คะแนนเมืองต่างๆ จากปัจจัยรอบด้าน เช่น จำนวนสถานที่ทำกิจกรรมโรแมนติก จำนวนสถานที่พักโรแมนติก จำนวนร้านอาหารโรแมนติก และจำนวนการค้นหาเกี่ยวกับสิ่งโรแมนติกที่ต้องทำในเมืองนั้นๆ เป็นต้น โดยคะแนนเต็มอยู่ที่ 10 คะแนน เมืองไหนจะเป็นตัวท็อปเรื่องความโรแมนติกสำหรับคู่รัก ไปติดตามพร้อมกันเลย

5 เมืองเที่ยวพักผ่อน ที่โรแมนติกที่สุดในโลก

1) ปารีส ประเทศฝรั่งเศส
คะแนนความโรแมนติก : 8.87

เมื่อพูดถึงเมืองท่องเที่ยวพักผ่อนที่โรแมนติกที่สุดในโลก คนส่วนใหญ่มักนึกถึง ‘ปารีส’ เป็นเมืองแรกเสมอ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เมืองหลวงของฝรั่งเศสจะติดอันดับ 1 ด้วยคะแนนมากถึง 8.87 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ปารีสดึงดูดคู่รักจากทั่วโลกได้ไม่ยากคือศิลปะตั้งแต่ยุคเรเนซองส์และสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงความงามและความน่าค้นหาทางประวัติศาสตร์ มากไปกว่านั้น ปารีสยังมีโรงแรมโรแมนติก 706 แห่ง มีร้านอาหารโรแมนติก 1,511 แห่ง และมีการค้นหาสิ่งโรแมนติกที่ต้องทำในเมืองมากถึง 112,620 ครั้งต่อปีเลยทีเดียว

2) ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา
คะแนนความโรแมนติก : 7.59

‘ซานฟรานซิสโก’ คว้าลำดับที่ 2 ไปครองด้วยคะแนน 7.59 ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องเนินเขา วิวทิวทัศน์ที่สวยงามของอ่าว และสถาปัตยกรรมที่งดงามเหมาะแก่การพักผ่อนแบบโรแมนติก โดยเมืองนี้มีกิจกรรมมากถึง 310 กิจกรรม เช่น การเดินเล่นในสวนสาธารณะ Golden Gate และการเดินทางด้วยรถเคเบิล โดยบริเวณอ่างซานฟรานซิสโกยังมีสปาและศูนย์สุขภาพให้คู่รักเลือกพักผ่อนหลายแห่งด้วย

3) อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
คะแนนความโรแมนติก : 7.49

อันดับที่ 3 คือ ‘อัมสเตอร์ดัม’ ที่มีคะแนน 7.49 ที่นี่เป็นเมืองที่เน้นธรรมชาติ มีสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยดอกไม้สวยงาม โดยเฉพาะดอกไม้ขึ้นชื่อของประเทศอย่างทิวลิปที่จัดแสดงและสร้างความสดใสให้กับเมืองแทบจะตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังมีคลองและสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่เพิ่มความโรแมนติกให้แก่เมืองอีกด้วย ทั้งนี้ อัมสเตอร์ดัมได้คะแนนสูงจากจำนวนร้านอาหารและโรงแรมโรแมนติก รวมถึงกิจกรรมโรแมนติกอย่างการล่องเรือในลำคลองใจกลางเมืองนั่นเอง

4) บาร์เซโลนา ประเทศสเปน
คะแนนความโรแมนติก : 7.44

สถานที่พักผ่อนสุดโรแมนติกอันดับที่ 4 คือ ‘บาร์เซโลนา’ เมืองที่สวยงามควรค่าแก่การไปเยือน เพราะเป็นที่ตั้งของสถาปัตยกรรมโดดเด่นระดับโลกอย่างมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย (The Sagrada Familia) และตึกคาซามิลา (Casa Milà) บาร์เซโลนามีกิจกรรมโรแมนติกให้ทำมากถึง 591 กิจกรรม มีร้านอาหารโรแมนติกมากกว่า 800 แห่ง และมีการค้นหาสิ่งโรแมนติกที่ต้องทำมากถึง 3,180 ครั้งต่อปี

5) ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส
คะแนนความโรแมนติก : 7.28

ปิดท้ายด้วยอันดับ 5 อย่าง ‘ลิสบอน’ ที่มาพร้อมคะแนน 7.28 เมืองหลวงของโปรตุเกสแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งแสงสี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแสงสะท้อนยามค่ำคืนบนแม่น้ำเทกัสแสนกว้างใหญ่ ลิสบอนมีสถานที่ท่องเที่ยวให้คู่รักได้เพลิดเพลินมากถึง 487 แห่ง ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นบนถนนแก่เก่าอย่าง Alfama เดินสำรวจสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ จนถึงล่องเรือในแม่น้ำที่สวยงาม ไม่เพียงเท่านั้น เมืองนี้ยังมีร้านอาหารโรแมนติกให้เลือกมากมาย แต่ค่าที่พักค่อนข้างแพง เพราะการเข้าพักสองคืนในโรงแรมสำหรับคู่รักมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,179 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 40,000 บาท) เลยทีเดียว

นอกจากนี้ Bounce ยังเปิดเผยจุดหมายปลายทางสุดโรแมนติกอันดับที่ 6 – 10 ด้วย ได้แก่ ฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี, ดับลิน ประเทศไอร์แลนด์, เซบียา ประเทศสเปน, แซนตาบาร์บารา ประเทศสหรัฐอเมริกา และมาร์ราเคช ประเทศโมร็อกโก

Source :
Bounce | t.ly/22k4

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.