หลังจากปีที่ผ่านมาชีวิตต้องเผชิญกับการล็อกดาวน์กรุงเทพฯ วนไปหลายรอบ ทำให้ชีวิตประจำวันเดินวันละไม่กี่ร้อยก้าว ทำให้ร่างกายเผาผลาญน้อยลง และน้ำหนักเพิ่มขึ้นแบบเงียบๆ ปีนี้เราจึงอยากชวนทุกคนมาตั้งปณิธานกับตัวเองไว้ว่า ปีนี้จะออกนอกบ้านไปทำอะไรแอ็กทีฟมากขึ้น เพื่อเรียกพลังชีวิตกลับคืนมา และลองออกไปทำกิจกรรมใหม่ๆ ในกรุงเทพฯ ให้บ่อยขึ้น
หากคุณเป็นคนที่ทำงานหรือเรียนออนไลน์อยู่บ้านติดหน้าจอมาทั้งสัปดาห์ เราอยากชวนมาใช้เวลาวันหยุดด้วยการออกนอกบ้านไปทำกิจกรรมสนุกๆ ด้วยกัน กิจกรรมทั้ง 9 สถานที่ที่เลือกมามีทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เราคัดสรรมาทั้งในร่มและกลางแจ้ง เล่นได้ทั้งบนบกและในน้ำ จะเล่นคนเดียว เล่นเป็นคู่ หรือชวนเพื่อนไปแฮงเอาต์เป็นกลุ่มก็ได้ทั้งนั้น ไม่แน่ว่าปีนี้คุณอาจจะได้สกิลใหม่ หรือเจองานอดิเรกใหม่ที่ชอบก็ได้นะ ทั้งหมดที่คัดสรรมามีหลายราคาให้เลือกไป และบางกิจกรรมอยู่ในพื้นที่สาธารณะเข้าได้แบบฟรีๆ ได้ทำกิจกรรม ได้สุขภาพ ลองจิ้มสักกิจกรรมแล้วจองคิวเพื่อนๆ ไว้นะ!
ล่องเรือใบ พายคายัก และวินด์เซิร์ฟ ที่ศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอน
นอกจากจะมาเดิน วิ่ง ปั่นจักรยานในสวนหลวง ร.9 กันได้แล้ว ที่ ‘ศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอน’ ยังเป็นศูนย์รวมกิจกรรมทางน้ำที่ครบและหลากหลายที่สุด ได้แก่ เรือใบ พายคายัก ซัปบอร์ด และวินด์เซิร์ฟ แถมค่าเรียนและค่าสมาชิกรายปียังถูกมากๆ ใครบ้านใกล้อยู่ในย่านนี้จะยิ่งดีเข้าไปใหญ่เพราะมาใช้ได้จนคุ้ม แถมช่วงแดดร่มลมตกที่นี่ยังบรรยากาศดีมาก มาเล่นกีฬาแล้วยังมานั่งปิกนิกในสวนต่อได้
*การจองคอร์สเรียนกีฬาแต่ละชนิดติดต่อสอบถามราคาที่เฟซบุ๊กของสวนได้โดยตรง เนื่องจากตารางเรียนและเวลาไม่เท่ากัน อาจมีการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์โควิด-19
สถานที่ : สวนหลวง ร.9
เวลาทำการ : จันทร์-พุธ 09.00 – 19.00 น., พฤหัสบดี-อาทิตย์ 09.00 – 17.00 น.
ราคา : ทางศูนย์กีฬามีให้สมัครสมาชิกรายปี 20 – 60 บาท/ปี
ที่ตั้ง : ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (ซอย 43)
https://goo.gl/maps/mqf2ew695kHgqiD18
Facebook : https://www.facebook.com/bungnongbon
โทร : 02-328-0236
ฝึกปีนแบบแพะภูเขาที่ Stonegoat Climbing
ผาจำลองน้องใหม่ในกรุงเทพฯ ในย่านพระโขนงที่เราอยากแนะนำสำหรับนักปีนป่ายคือ Stonegoat Climbing ที่นี่จะมีเฉพาะ Bouldering หรือการปีนผาแบบตัวเปล่าที่ต้องใช้ทุกส่วนในร่างกาย ความสนุกของการปีนที่ Stonegoat Climbing คือเส้นทางที่เปลี่ยนใหม่อยู่เรื่อยๆ แต่ละโซนจะมีความชาเลนจ์แตกต่างกันไป แบ่งออกเป็น 7 สี 7 ระดับ ตามสีของสายรุ้งตั้งแต่ Introduction, Challenge และ Futile และมีหน้าผาทั้งหมด 6 โซน Tonsai (ต้นไทร), Railey (ไร่เลย์), Island (เกาะ), Sikhio (สีคิ้ว), Competition Wall, Khon Kaen (ขอนแก่น) ให้เราเลือกชาเลนจ์ตัวเอง ถ้าอยากเรียนรู้เทคนิคการปีนให้แน่นกว่านี้ก็ลงคอร์สมาเรียนเพิ่มเติมได้ด้วย ถ้าปีนเองไม่ต้องใช้ครูช่วยสามารถ Walk-in ได้เลย ที่สำคัญย่านนี้ของกินอร่อยเยอะมาก สามารถแวะกินร้านอร่อยอย่างโอกินาวาคินโจและไอศกรีมรินทาโรต่อได้เลย
สถานที่ : Stonegoat Climbing
เวลาทำการ : จันทร์-ศุกร์ 11.00 – 22.00 น., เสาร์-อาทิตย์ 10.00 – 21.00 น.
ราคา : Day Pass ผู้ใหญ่ 450.- เด็ก 360.- รองเท้า 100.- ชอล์ก 20.-
ที่ตั้ง : 36/3 ซอยสุขุมวิท 69 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
Facebook : www.facebook.com/stonegoatclimbinggym
โทร : 06-3219-9933
ปีนผาท้าความสูงที่ Urban Playground Climbing
กีฬาปีนผาเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่อยากชวนให้ลองทำสักครั้งในชีวิต เหมาะกับคนที่อยากออกแรงทั่วร่าง เพราะปีนผาเป็นกีฬาที่ต้องใช้ร่างกายทุกส่วน ทั้งแขน ขา และหน้าท้องในการพาตัวเองขึ้นไปถึงจุดสูงสุด นอกจากนี้ยังต้องใช้แรงใจ และต้องใช้ทักษะในการคิดแก้ปัญหาระหว่างที่ปีนด้วย ต้องวางแผนการปีน มองเส้นทาง เพื่อให้การใช้ร่างกายของเรามีประสิทธิภาพและไปถึงเป้าหมายให้ได้
ฟังๆ ไปเหมือนจะยาก แต่จริงๆ แล้วคนที่ไม่เคยปีนมาก่อนก็เริ่มด้วยการมาลองกีฬานี้ที่ Urban Playground Climbing ได้เลย โดยเฉพาะคนที่อยากลองทั้ง 2 แบบคือ
1. Top Roping
การปีนผาที่ผู้เล่นจะใส่ Harness (สายรัดสะโพก) และใช้เชือกตลอดการปีน และมีพาร์ตเนอร์หรือผู้สอนคอยจับเชือกอยู่ด้านล่างตลอดเวลา ซึ่งเป็นการปีนที่ค่อนข้างปลอดภัยกว่า และเหมาะกับคนที่ยังกลัวความสูงแต่อยากลองเพราะมีครูช่วยดูแลตลอดการเล่น ทำให้เราไม่ตกจากหน้าผาแน่นอน แต่ถ้าใครไม่กลัวความสูงจะยิ่งปีนสนุกเพราะที่ Urban Playground Climbing มีหลายความสูงให้เลือก และสำหรับใครที่เล่นเป็นอยู่แล้ว ที่นี่เขามี Auto Belay ให้ปีนเองด้วยนะ
2. Bouldering
เหมาะสำหรับคนที่อยากท้าทายพลังแขน ขา และหน้าท้อง แบบไม่มีอุปกรณ์ช่วย ไม่กลัวตก กล้ากระโดด เพราะเป็นรูปแบบการปีนที่ใช้การเคลื่อนไหวสั้นๆ ระยะทางประมาณ 3 – 4 เมตร ผู้เล่นสามารถปีนตัวเปล่าได้เลย เน้นเทคนิคในการทรงตัวและการวางแผนเส้นทาง การปีนผาประเภทนี้ถึงจะไม่สูงมากและมีเบาะรองข้างล่าง แต่ก็ต้องระวังเรื่องการบาดเจ็บจากการกระโดดหรือตกจากหน้าผาด้วยนะ เพราะอาจจะทำให้เท้าแพลงได้
*มาที่ Urban Playground Climbing จ่าย Day Pass 1 ครั้งสามารถปีนได้ทุกแบบ เล่นได้ทั้งวัน และใช้ส่วนอื่นๆ ในฟิตเนส The Racquet Club ได้ด้วยนะถ้าแรงเหลือ
เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่นี่ต้องจองคิวล่วงหน้าก่อนเข้าใช้บริการนะ สามารถติดต่อจองคิวได้ที่ LINE @rqclub
สถานที่ : Urban Playground Climbing (อยู่ใน The Racquet Club)
เวลาทำการ : จันทร์-ศุกร์ 11.00 – 22.00 น., เสาร์-อาทิตย์ 10.00 – 21.00 น.
ราคา : Day Pass วันธรรมดา 495.-, วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 595.-,
ค่าครูผู้สอน (Belay Service) 500.-/ชั่วโมง (เหมาะสำหรับคนที่ปีนครั้งแรก), ค่าเช่ารองเท้า 150.-
ที่ตั้ง : อาคาร The Racquet Club สุขุมวิท 49/9 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
Facebook : www.facebook.com/urbanplaygroundclimbing/
โทร : 02-119-7200
ลานเซิร์ฟสเก็ต Wiggle Wave ที่รีโนเวตจากโรงหนังเก่า
ถึงช่วงนี้จะไม่ใช่ช่วงพีกสุดๆ ของเทรนด์เซิร์ฟสเก็ตแล้ว แต่เราเชื่อว่าคนที่ตกหลุมรักกิจกรรมนี้แล้วยังสนุกกับมันอยู่ เพราะคอมมูนิตี้เติบโตขึ้นเยอะมากๆ จากเทรนด์ในช่วงล็อกดาวน์ปี 2021 หลังจากนั้นก็ทำให้มีสถานที่เล่นเซิร์ฟสเก็ตเปิดใหม่อยู่เรื่อยๆ
อีกหนึ่งสถานที่เล่นเซิร์ฟสเก็ตที่สวยจนเราอยากแนะนำให้รู้จักและไปลองเล่นกันคือ Wiggle Wave (วิกเกิลเวฟ) ที่รีโนเวตมาจากโรงหนังเก่า “วิกไอยรา” อดีตโรงหนังเก่าที่มีชื่อเสียงของตำบลแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม ให้กลายเป็นสนามสไตล์ Wooden Ramp ในพื้นที่ 900 ตร.ม. สนามเซิร์ฟสเก็ตที่โชว์เนื้อไม้ล้วนๆ ดึงดูดให้นักเล่นต้องเดินทางไปลองถึงเมืองแม่กลองสักครั้ง ตัวสนามเป็นไม้ทั้งหมด แบ่งเป็น 4 โซน Wiggle Wave Ramp, Wiggle Pumptrack, Bowl Wiggle, Flat ZoneA, และ Wiggle Flat ZoneB เล่นได้ทั้งมือใหม่และมือโปร
สถานที่ : Wiggle Wave
เวลาทำการ : จันทร์-อาทิตย์ เวลา 11.00 – 21.00 น.
ราคา : 100.-/คน รอบละ 1.50 ชั่วโมง รอบส่วนตัว รอบละ 1,500.-
ที่ตั้ง : 543 1 แม่กลอง ตำบลแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม สมุทรสงคราม 75000
https://maps.app.goo.gl/8SnxfgNoX2eEheJd9
Facebook : https://www.facebook.com/wiggleboy.54/
โทร : 08-0999-5424
เล่นเวกบอร์ดในทะเลสาบที่ Taco Lake
สำหรับสายกีฬาทางน้ำ ที่บึงตะโก้มีกิจกรรมที่เหมาะทั้งกับสายลุยและสายชิล แต่ทั้งสองอย่างได้ออกกำลังกายทั้งแขนและขาอย่างเต็มที่ ถ้าชอบลุยเราแนะนำให้ลองเวกบอร์ด (Wakeboard) กีฬาเอ็กซ์ตรีมทางน้ำที่ต้องใช้บอร์ดเป็นอุปกรณ์หลักในการเล่น โดยมีสายเคเบิลลากให้เราเคลื่อนที่ไปบนผิวน้ำ ความสนุกของกีฬานี้อยู่ที่การได้ฝึกการทรงตัว และท้าทายขีดจำกัดของตัวเอง สำหรับคนที่เล่นเป็นแล้วจะยิ่งสนุกและผาดโผนมากขึ้น แต่ถ้าใครยังเป็นมือใหม่หรือไม่เคยลองเล่นก็ไม่ต้องกลัวเพราะมีสตาฟคอยให้คำแนะนำอยู่ตลอด
นอกจากนี้ยังมี SUP Board (Stand Up Paddling) สำหรับสายชิล กิจกรรมนี้จะได้ใช้ร่างกายทุกส่วน จะยืนพายนั่งพายก็ได้ออกกำลังกายเหมือนกัน สำหรับคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็สามารถใส่ชูชีพพายได้ แต่ต้องทรงตัวให้ดีๆ นะ
ที่นี่น้ำค่อนข้างสะอาด มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ล็อกเกอร์ ไว้บริการอย่างดี และมีร้านอาหารให้เติมพลังหลังจากเล่นกีฬาหิวๆ ด้วย
สถานที่ : Taco Lake (บึงตะโก้)
เวลาทำการ : ทุกวัน 12.00 – 22.00 น.
ราคา : Wakeboard 400.-/วัน รวมอุปกรณ์, SUP ทั้งวัน 300.- (เพิ่ม Instructor 200.-)
ที่ตั้ง : 175/1 ทางคู่ขนาน ถนนบางนา-ตราด ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี สมุทรปราการ 10540
Facebook : https://www.facebook.com/tacolake/
โทร : 06-1626-2252
เล่นเซิร์ฟใจกลางพร้อมพงษ์ที่ Flow House Bangkok
กรุงเทพฯ ก็มีที่ให้ฝึกเล่นเซิร์ฟนะ! ใครใจคิดถึงคลื่นทะเลแต่ยังไม่มีเวลาไป เราแนะนำให้ไปเล่นเซิร์ฟที่ใจกลางทองหล่อกันก่อนที่ Flow House Bangkok ที่โต้คลื่นในสระเทียมแห่งแรกและแห่งเดียวในกรุงเทพฯ ถ้ายังเล่นไม่เป็นไม่ต้องกลัว เพราะมีสตาฟคอยสอนและให้คำแนะนำได้ตลอด
Flow House Bangkok อยู่ในโครงการ A Square ซอยสุขุมวิท 26 เดินทางสะดวกสบายด้วย BTS (สถานีพร้อมพงษ์ ทางออก 6) หรือ MRT (สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทางออก 4) แล้วนั่งวินมอเตอร์ไซค์ต่อเข้ามา ถ้ามีรถส่วนตัวมาก็สามารถจอดที่โครงการได้ ที่นี่มีห้องน้ำ ร้านอาหาร บริการครบครัน เหมาะกับการชวนแก๊งเพื่อนไปแฮงเอาต์ หากิจกรรมทำใกล้ๆ ในวันที่ไม่อยากออกนอกเมือง
สถานที่ : Flow House Bangkok (โครงการ A Square)
เวลาทำการ : จันทร์ – พุธ 11.00 – 21.00 น., พฤหัสบดี – อาทิตย์ 10.00 – 21.00 น.
ราคา : 990 บาทเป็นต้นไป ส่วนราคาโปรโมชั่นอื่นๆ สามารถติดตามได้ทางเพจหรือเว็บไซต์
ที่ตั้ง : 120/1 โครงการ เอ สแควร์ ซอยสุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
https://goo.gl/maps/H4s69CntX92urfKYA
Facebook : https://www.facebook.com/FlowHouseBangkok2
โทร : 02-108-5210
พายซัปในแม่น้ำเจ้าพระยากับ SUP Station Thailand
หากใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศการเล่น SUP ที่ SUP Station Thailand ก็เป็นอีกจุดหมายหนึ่งที่น่าไปลอง ที่นี่เป็นสถานที่สำหรับเล่น SUP ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกของประเทศไทย แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะอันตราย เพราะก่อนพายจะต้องเรียนรู้วิธีการพายกันก่อน และตลอดทางที่พายจะมีสตาฟไปด้วย ช่วยให้คำแนะนำตลอดทาง ได้ฝึกทั้งกำลังแขนและกำลังขาแน่นอน รับรองว่าพายเสร็จมีเกร็ง ใครมีน้องหมาที่ไม่กลัวน้ำอยากจะพามาร่วมทริปด้วยกันก็ได้นะ เพราะที่นี่เขา Pet Friendly มากๆ
สถานที่ : SUP Station Thailand
เวลาทำการ : อังคาร-ศุกร์ 08.00 – 19.00 น., เสาร์-อาทิตย์ 07.00 – 20.00 น.
ราคา : Touring Board 500.-/คน, Race Board 700.-/คน รวมอุปกรณ์ ระยะเวลาพาย 2 ชม.
ที่ตั้ง : 23 ตำบลบางหลวง อำเภอเมืองปทุมธานี ปทุมธานี 12100
Facebook : https://www.facebook.com/supstationthailand
โทร : 09-2427-9522
วิ่งกินลมชมวิวที่ Benjakitti Forest Park
สวนป่าเบญจกิติใจกลางกรุงฯ ช่วงนี้คึกคักเป็นพิเศษ เพราะเพิ่งเปิดให้ใช้งานได้ไม่นาน แถมยังบรรยากาศดี เห็นวิวเมืองกรุงเทพฯ ในมุมใหม่ๆ
นอกจากจะออกแบบได้สวยงามแล้วยังอยู่ใจกลางเมืองมากๆ ระยะทางจาก BTS อโศกถึงประตูสวนประมาณ 2 กิโลเมตร ถ้าจะมาวิ่งคิดซะว่าเดินวอร์มขาไปเพลินๆ แต่ถ้ามาด้วยรถยนต์ส่วนตัวแนะนำให้มาช่วงเช้าจะมีที่จอดรถเยอะกว่า เพราะช่วงเวลาที่เหมาะกับการวิ่งในช่วงนี้คือช่วงเช้า คนไม่พลุกพล่านเท่าช่วงเย็น โดยเฉพาะถ้าอยากวิ่งชมวิวบน Skywalk เส้นทางการวิ่งก็สนุกเพราะสามารถวิ่งลงล่างขึ้นบนได้ตามใจชอบ ถ้ามีแรงเหลือจะวิ่งเชื่อมทั้งสวนเก่าและสวนใหม่ก็ได้นะ
สถานที่ : สวนป่าเบญจกิติ
เวลาทำการ : 05.00 – 21.00 น.
ราคา : เข้าฟรี
ที่ตั้ง : ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
https://goo.gl/maps/cnbUkAQzYbi45iEb9
ปั่นจักรยานเที่ยวในสวนรถไฟ
สวนรถไฟเป็นอีกพื้นที่สาธารณะใจกลางเมืองที่บรรยากาศดี ร่มรื่นและน่ามาใช้งาน แต่สำหรับคนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว จุดเช่าจักรยานจะอยู่ค่อนข้างไกลจากขนส่งสาธารณะ (ถ้ามาจาก BTS ต้องเดินต่ออีกประมาณ 2.3 กม. ถ้าไม่อยากเหนื่อยก่อนอาจจะนั่งวินมอเตอร์ไซค์แทนก็ได้) แต่ถ้ามาด้วยรถยนต์ส่วนตัวสามารถจอดรถแล้วเดินไปเช่าจักรยานใกล้ๆ ลานจอดรถสวนรถไฟได้เลย
ที่ร้านเช่าจักรยานมีให้เลือกหลากหลายแบบ มีทั้งจักรยานเด็กและผู้ใหญ่ เริ่มต้นที่ 30 – 100 บาท มาแต่ตัวก็ปั่นได้ทั้งครอบครัว ทางจักรยานที่สวนรถไฟมีระยะทางรอบละประมาณ 2.5 กิโลเมตร แนะนำให้แต่งตัวคล่องแคล่วเหมาะกับการออกกำลังกาย เพราะถึงจะร่มรื่นบรรยากาศดี แต่ปั่นจักรยานช่วงกลางวันหรือแม้แต่ช่วงเย็นก็ร้อนจนหลังเปียกได้เช่นกัน
สวนรถไฟเหมาะกับการปั่นเพื่อออกกำลังกาย หรือปั่นเที่ยวพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ภายในสวน เป็น One Day Trip ที่สนุกและได้สุขภาพ คำเตือนคือไม่เหมาะกับขาเร็วที่อยากมาซ้อมปั่นจักรยาน เพราะที่นี่มีครอบครัวและเด็กๆ เยอะ อาจจะทำให้เกิดอันตรายขณะปั่นได้
สถานที่ : สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ)
เวลาทำการ : สวนรถไฟ 04.00 – 21.00 น., ร้านเช่าจักรยาน 08.00 – 19.00 น.
ราคา : 30 – 100.-
ที่ตั้ง : ถนน กำแพงเพชร 3 แขวง ลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
โทร : 02-537-9221
Writer
