เวลาพูดถึงวิกฤตสิ่งแวดล้อม คนมักนึกถึงภาวะโลกร้อน แต่จริงๆ แล้ว ‘น้ำ’ ถือเป็นหนึ่งในวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในยุคที่เมืองกำลังพัฒนาไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว จนน้ำสะอาดในธรรมชาติไม่เพียงพอต่อการใช้งาน
ยิ่งในประเทศไทยที่ครั้งหนึ่งพื้นที่ภาคตะวันออกซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC (Eastern Economic Corridor) ต้องเผชิญปัญหาวิกฤตน้ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำแล้ง น้ำท่วม น้ำเสีย และสภาวะภูมิอากาศที่แปรปรวนอย่างหนักในช่วง พ.ศ. 2566
หลังจากเหตุการณ์นั้น หนึ่งสิ่งที่ภาคอุตสาหกรรมจำเป็นต้องให้ความสนใจอย่างเร่งด่วนคือ การบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน รักษาสมดุลของระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิม เพราะหากไม่สามารถบริหารจัดการน้ำได้ สิ่งที่ตามมาคือผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน

ด้วยเหตุนี้ ‘WHA Group’ ผู้นำด้านการพัฒนาและบริหารจัดการ โลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภคและพลังงาน ดิจิทัลโซลูชัน และโมบิลิตี้แบบครบวงจร จึงได้ประกาศ 5 ภารกิจหลักภายใต้กรอบการดำเนินงานด้านความยั่งยืน เพื่อตอกย้ำบทบาทผู้นำในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่ความยั่งยืน
โดยภายในภารกิจนั้นมีโครงการ ‘WHA Clean Water for Planet : Powering Industry, Sustaining Life’ เป็นส่วนหนึ่งภายใต้กรอบการดำเนินงาน เพื่อสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่ล้ำหน้าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่สังคมและทุกภาคส่วน
เปลี่ยนจากตั้งรับเป็นเตรียมความพร้อมจัดการปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าหลากหลายเมืองทั่วโลกตื่นตัวในการรับมือปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง WHA Group เองมองว่า การเป็นฝ่ายรอตั้งรับความเปลี่ยนแปลงอาจไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว
ขณะเดียวกัน การรับมือกับสถานการณ์สิ่งแวดล้อมในอนาคตทำคนเดียวคงไม่เห็นผล ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไป หรือกลุ่มอุตสาหกรรมจำเป็นต้องขับเคลื่อนไปด้วยกัน
WHA Group จึงเริ่มจากการตั้งเป้าหมายที่จะปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ให้ได้ภายใน พ.ศ. 2593 และก้าวสู่หลักเศรษฐกิจหมุนเวียนได้อย่างสมบูรณ์ในที่สุด ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งทางตรงและทางอ้อม
โดยมี ‘การบริหารจัดการน้ำอย่างครบวงจร (Water Conservation Program)’ เป็น 1 ใน 5 ภารกิจสำคัญ ภายใต้กรอบการดำเนินงานด้านความยั่งยืน 5 ปี นอกเหนือจากภารกิจอื่นๆ อย่างระบบนิเวศการขนส่งสีเขียว (Green Mobility), นวัตกรรมโซลูชันลดคาร์บอน (Decarbonization Solutions), การก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Construction) และการจัดการของเสียอย่างยั่งยืน (Waste Reduction by 3R)

จัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดได้ เท่ากับช่วยจัดการทรัพยากรโลกด้วย
หากจะพูดถึงการบริหารจัดการน้ำอย่างครบวงจร (Water Conservation Program) โครงการหนึ่งของ WHA Group ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ โครงการ ‘WHA Clean Water for Planet’ ที่ดำเนินการผ่าน WHA Utilities and Power Plc. หรือ WHAUP ที่ดำเนินการมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2559
เพราะโครงการนี้ถือเป็นโครงการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในและนอกพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ผ่านองค์ประกอบหลักของระบบบริหารจัดการน้ำ ดังนี้
– การจัดหาและพัฒนาแหล่งน้ำดิบ : มองหาแหล่งน้ำหลากหลาย เพื่อควบคุมคุณภาพน้ำดิบและบริหารความเสี่ยงจากการขาดแคลนน้ำ
– การผลิตและจำหน่ายน้ำอุตสาหกรรม : ผลิตน้ำหลากหลายประเภท เช่น น้ำบริสุทธิ์ (Clarified Water), น้ำประปา (Tap Water) และ DM Water หรือน้ำที่ผ่านกระบวนการกำจัดแร่ธาตุและไอออนต่างๆ ออก ทำให้ได้น้ำที่มีความบริสุทธิ์สูง โดยน้ำแต่ละประเภทจะมาพร้อมระบบกระจายน้ำที่มีประสิทธิภาพเพื่อส่งมอบน้ำคุณภาพ โดยมีการสูญเสียน้อยที่สุด
– การบำบัดน้ำเสียและนำกลับมาใช้ใหม่ : ด้วยเทคโนโลยีบำบัดน้ำเสียที่หลากหลาย เช่น Rotation Biological Contactor, Activated Sludge, Aerated Lagoon และ Constructed Wetland หรือระบบบึงประดิษฐ์ เพื่อให้น้ำได้รับการบำบัดอย่างถูกต้องพร้อมต่อยอดด้วย ระบบนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ (Reclamation Water System) ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ได้แก่ Ultra Filtration และ Reverse Osmosis สามารถผลิตน้ำคุณภาพสูง ส่งต่อให้อุตสาหกรรมที่ต้องการ เช่น ปิโตรเคมี และอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
– การบริหารจัดการน้ำอัจฉริยะ : ใช้เทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence), IoT (Internet of Things), SCADA (Supervisory Control and Data Acquisition) และ OCR (Optical Character Recognition) ในการควบคุมคุณภาพ ตรวจจับการรั่วไหล ไปจนถึงคาดการณ์การใช้น้ำ เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียน้ำอย่างสูญเปล่า
– การส่งต่อความรู้ในการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ : สนับสนุนการเรียนรู้และถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับคุณค่าของน้ำ เทคโนโลยีการบำบัดน้ำ และการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน

จะเห็นได้ว่า โครงการ WHA Clean Water for Planet ครอบคลุมการจัดการน้ำอย่างครบวงจร ตั้งแต่แนวคิดการวางระบบบริหารจัดการ การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ การเสาะหาทรัพยากรน้ำทางเลือกการสร้างอ่างเก็บน้ำสำรองภายในนิคมอุตสาหกรรม ไปจนถึงการบำบัดและนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ มากไปกว่านั้น โครงการยังมุ่งถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการจัดการน้ำไปสู่ชุมชนรอบข้าง เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและส่งเสริมการตระหนักรู้เรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ต่อยอดจากการจัดการน้ำภายในนิคมไปสู่การสร้างประโยชน์แก่สังคมในวงกว้าง
ระบบนิเวศน้ำที่ยั่งยืนจะทำให้อุตสาหกรรมยั่งยืนไปด้วย
หลังจากดำเนินการมาเป็นระยะเวลากว่า 9 ปี ในปี 2568 นี้ ทาง WHA Group ได้พัฒนาโครงการ WHA Clean Water for Planet : Powering Industry, Sustaining Life ให้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยการสร้าง ‘ระบบนิเวศน้ำที่ยั่งยืน’ ครอบคลุมตั้งแต่ภาคอุตสาหกรรมจนถึงชุมชน ผ่านการดำเนินการก่อสร้างและส่งมอบระบบบำบัดน้ำเสียให้กับชุมชนต่างๆ เพื่อยกระดับคุณภาพน้ำในลำคลอง
จากเดิมที่จัดการระบบน้ำให้อุตสาหกรรมอย่างเดียว ก็มีการขยายขอบเขตมาถึงแหล่งน้ำในชุมชนผ่านโครงการ WHA Clean Water for Planet สำหรับ ‘ชุมชน’ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ การพัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีการดำเนินการไปแล้วในหลายพื้นที่
หนึ่งตัวอย่างที่อยากชวนดูคือ โครงการบึงประดิษฐ์ ที่บำบัดน้ำเสียจากชุมชน แล้วคืนน้ำดีสู่แหล่งน้ำธรรชาติ โดยมีพื้นที่ดำเนินการคือ
– อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ที่มีการดึงน้ำเสียจากจากชุมชนที่มีพื้นที่ติดนิคมอุตสาหกรรมของ WHA ทั้งจากตลาดชุมชน อพาร์ทเมนต์ ที่อยู่อาศัย โดยมีความสามารถในการบำบัดน้ำได้ถึง 146,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี
– ตำบลหนองคล้า จังหวัดจันทบุรี พื้นที่ 15 ไร่ที่มีความสามารถบำบัดน้ำเสียได้ถึง 292,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี เมตรต่อปี นอกจากนั้นพื้นที่นี้ยังถูกพัฒนานำไปใช้เป็นพื้นที่สาธารณะเพื่อการสันทนาการสำหรับชุมชนโดยรอบ
โครงการต่อยอดจากบึงประดิษฐ์เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
หนึ่งในโครงการที่ต่อยอดจากการพัฒนาระบบบึงประดิษฐ์ของ WHA คือการนำ ผักตบชวา ซึ่งเป็นพืชที่ใช้ในการบำบัดน้ำ มาพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม โดย WHA ได้ร่วมมือกับบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) พัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าชนิดใหม่จากการรีไซเคิลเส้นใยผักตบชวาผสมกับเส้นใยพลาสติก (PET) และเส้นใยฝ้าย กลายเป็น ผ้า Upcycled ที่ถูกนำไปผลิตเป็นกระเป๋านักเรียนในกิจกรรม WHA School Contribution รวมทั้งต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ซึ่งสร้างรายได้ให้กับชุมชนมากกว่า 1 ล้านบาทต่อปี โครงการนี้เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2564 ไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะและเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้ แต่ยังสร้างรายได้ เพิ่มโอกาสการจ้างงานให้กับคนในชุมชน และลดค่าใช้จ่ายในการกำจัดผักตบชวาได้อีกทางหนึ่งด้วย
อีกตัวอย่างโครงการที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ ‘โครงการสายสืบสิ่งแวดล้อม’ ซึ่งมุ่งให้ความรู้แก่นักเรียนเกี่ยวกับความสำคัญของน้ำและการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 มีการอบรมเยาวชนแล้วกว่า 3,500 คน จาก 40 โรงเรียนรอบนิคมอุตสาหกรรม

อุตสาหกรรมที่ยั่งยืนต้องเติบโตไปพร้อมชุมชนรอบข้าง
จากการดำเนินงานและโครงการมากมายที่กล่าวไปทั้งหมด เป็นเครื่องการันตีอย่างดีถึงเป้าหมายระยะยาวของโครงการ WHA Clean Water for Planet ที่ต้องการมุ่งสู่การใช้ทรัพยากรน้ำให้เกิดความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้การจัดการน้ำอย่างยั่งยืนกลายเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในยุคปัจจุบัน พร้อมทั้งต่อยอดการบริหารจัดการน้ำในอุตสาหกรรมไปสู่ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในวงกว้าง
นับเป็นการสร้างผลลัพธ์ที่ดีทั้งต่อภาคธุรกิจและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากน้ำที่ได้จากการบำบัดสามารถนำมาขายคืนให้กับอุตสาหกรรมได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม ของ WHAUP อีกทั้งยังช่วยลดการพึ่งพาน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ และไม่สร้างผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม

มากไปกว่านั้น ปัจจุบัน WHAUP ยังมีความสามารถในการที่จัดการน้ำรวม 173 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี และตั้งเป้าลดการใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติจำนวน 25 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ซึ่งเทียบเท่าการใช้น้ำของประชากรกว่า 685,000 คน ภายในปี 2572 อีกทั้งเตรียมต่อยอดการบริหารจัดการน้ำในอุตสาหกรรมไปสู่ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมให้ได้มากขึ้นอีกด้วย
การลงมืออย่างจริงจัง คำนึงถึงทุกส่วนอย่างรอบด้าน และมองการณ์ไกลถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมที่อยู่ในหลักคิดของทุกโครงการ ล้วนการตอกย้ำถึงแนวคิด ‘กรีนที่กินได้’ ของ WHA Group ที่มองว่า ‘ความยั่งยืนไม่ใช่ต้นทุน แต่คือการลงทุน’ ซึ่งเป็นปรัชญาที่สะท้อนถึงการสร้างความเจริญควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม ในทุกขั้นตอน เราคำนึงถึงการจัดการน้ำอย่างรอบด้าน โดยไม่แย่งน้ำจากภาคครัวเรือน และมุ่งใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อสนับสนุนทั้งภาคอุตสาหกรรมและชุมชนอย่างสมดุล เพราะ เชื่อมั่นว่าธุรกิจจะไม่มีทางเติบโตได้อย่างแท้จริง หากชุมชนไม่สามารถเติบโตไปพร้อมกัน
นี่คือคุณค่าที่ WHA Group ยึดมั่น และเป็นแก่นสำคัญของพันธกิจ ‘WHA: WE SHAPE THE FUTURE’ ที่สะท้อนถึงการสร้างอนาคตที่เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับสิ่งแวดล้อมและชุมชน
