‘พิพิธภัณฑ์’ เป็นเสมือนกุญแจเปิดสู่โลกกว้าง กระตุ้นความคิดและจินตนาการผ่านประสาทการรับรู้ทั้ง 5 ไม่ว่าจะเป็นรูป รส สัมผัส กลิ่น เสียง โดยที่ทุกอย่างได้รับการจัดเรียงและคิดมาเป็นอย่างดีแล้ว
และแต่ละคนเองคงมีพิพิธภัณฑ์ติดดาวในดวงใจที่จะไปกับเพื่อนหรือคนเดียวก็เอนจอยและเพลิดเพลินทุกครั้ง ไม่ว่าจะไปชมนิทรรศการ ไปสำรวจพื้นที่ หรือไปใช้เวลาพักผ่อนสบายๆ ก็ตาม ถึงอย่างนั้นก็คงดีไม่น้อยถ้าเราจะได้ลองไปเยี่ยมเยียนมิวเซียมแห่งใหม่ๆ เผื่อได้สถานที่ชุบชูใจเพิ่มเติมมาไว้ในลิสต์อีก
เพื่อเป็นอินโทรสู่ซีรีส์คอนเทนต์ที่ Urban Creature ร่วมกับสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) และ Museum Thailand จึงอยากชวนผู้อ่านมารู้จักกับลิสต์ 10 พิพิธภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลโครงการ Museum STAR กันก่อนที่จะไปทัวร์แต่ละแห่งอย่างลงลึก พร้อมรับรู้เบื้องหลังการดำเนินงานผ่านถ้อยคำของตัวแทนมิวเซียมในบทสัมภาษณ์คอลัมน์ One Day With…
1) หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
(Bangkok Art and Culture Centre)

‘หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หรือ BACC’ คือ Art Center เคียงคู่กรุงเทพฯ และพื้นที่สาธารณะใจกลางเมืองที่ทำหน้าที่เป็นแหล่งรวมตัวของชาววัยรุ่นสยาม ซึ่งไม่เคยว่างเว้นจากนิทรรศการหมุนเวียนนับร้อยที่กระจายตัวทั่วทุกชั้นตั้งแต่ชั้น 1 – 9 อีกทั้งยังมีการปรับตัวให้สอดคล้องกับยุคสมัยอยู่ตลอดเวลา และเปิดรับศิลปินหน้าใหม่ให้ได้มีพื้นที่จัดแสดงงาน
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีโรงหนัง โรงละคร ห้องสมุดศิลปะ มุมหนังสือสำหรับเด็ก ร้านค้าผลิตภัณฑ์ศิลปะ และร้านอาหารเครื่องดื่มที่ทางหอศิลปกรุงเทพฯ คัดสรรมาเป็นอย่างดี พร้อมบริการและกิจกรรมให้ความรู้ที่จัดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ เรียกได้ว่าครบจบในที่เดียว ตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย เหมาะสำหรับเป็นแหล่งเรียนรู้ที่จะมารับมุมมองใหม่ๆ สร้างแรงบันดาลใจ หรือใช้พักผ่อนฮีลใจในวันหยุดไปในเวลาเดียวกัน
หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
ที่อยู่ : 939 ถนนพระรามที่ 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
เวลาทำการ : วันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 20.00 น. (ปิดวันจันทร์และช่วงวันหยุดปีใหม่และเทศกาลสงกรานต์)
ค่าเข้าชม : ฟรี
ช่องทางติดต่อ : Bacc หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
2) หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน (Jim Thompson Art Center)

ถัดมาจากหอศิลปกรุงเทพฯ ไม่ไกล ในซอยเกษมสันต์ 2 มี Art Center อีกแห่งซ่อนตัวอยู่ ที่นี่คือ ‘หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน’ อาคารอิฐสีส้มผสมปูนเปล่า 4 ชั้น ที่ออกแบบมาเพื่อเชื่อมโยงศิลปะเข้ากับชีวิตและไลฟ์สไตล์ของผู้คน โดยจัดสรรพื้นที่ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานหลากหลายกลุ่ม
นอกจากการออกแบบสเปซที่สวยงาม เปิดโล่งให้แสงธรรมชาติเข้าถึง มองเห็นวิวทิวทัศน์เมืองแล้ว แหล่งเรียนรู้แห่งนี้ยังมุ่งเน้นการนำเสนอประวัติศาสตร์สงครามเย็นและบริบทใกล้เคียง เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมได้ทำความเข้าใจและเห็นอดีตของประเทศใน SEA ผ่านผลงานของศิลปินไทยและต่างประเทศที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาจัดนิทรรศการกันเป็นประจำ
ขณะเดียวกัน หอศิลป์แห่งนี้ยังมีบริการอื่นๆ รองรับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองด้วย ตั้งแต่ร้านอาหาร Selected Shop และห้องสมุดวิลเลียม วอร์เรน สเปซดีๆ สำหรับนั่งอ่านหนังสือหรือนั่งทำงาน แถมบนดาดฟ้ายังมีร้าน ‘ลาบเสียบ’ ร้านกับแกล้มอีสานฟิวชันซ่อนตัวอยู่ด้วย
หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน
ที่อยู่ : 10/1 ซอยเกษมสันต์ 2 ถนนพระรามที่ 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 10.00 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 50 บาท / นักเรียนอายุต่ำกว่า 10 ปี เข้าชมฟรี
ช่องทางติดต่อ : The Jim Thompson Art Center
3) พิพิธภัณฑ์เรียนรู้การลงทุน (Investment Discovery Museum)

ใครจะรู้ว่าชั้นใต้ดินของ ‘อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)’ ย่านรัชดาฯ จะมีพิพิธภัณฑ์ซ่อนตัวอยู่
‘พิพิธภัณฑ์เรียนรู้การลงทุน’ คือศูนย์การเรียนรู้ด้านการเงินและการลงทุนแห่งแรกของไทย ที่ร้อยเรียงเรื่องราวอย่างสนุกสนานเพื่อทำให้เยาวชนและคนทั่วไปเข้าใจเรื่องยากๆ ให้ง่ายขึ้น บวกกับฐานกิจกรรมต่างๆ ให้ผู้เข้าชมได้ลองมีส่วนร่วมในการสื่อสารผ่านสื่อตอบโต้ (Interactive) ประเภทต่างๆ ทั้งเกม กราฟิกบอร์ด สื่อหน้าจอสัมผัส และแอนิเมชัน
รับรองได้ว่าทุกคนที่มาที่นี่จะได้ความรู้ที่ช่วยบริหารชีวิตของเราให้มีความมั่นคงและอิสระทางการเงินมากขึ้น รู้สถานการณ์การเงินในปัจจุบัน ไปจนถึงทักษะการวางแผนการเงินในอนาคตกลับบ้านไปด้วยแน่นอน
พิพิธภัณฑ์เรียนรู้การลงทุน
ที่อยู่ : ชั้นใต้ดิน อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 93 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400
เวลาทำการ : วันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 09.30 – 18.00 น. (ปิดวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ในเทศกาลปีใหม่และเทศกาลสงกรานต์)
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 100 บาท / เด็ก นักเรียน นักศึกษา (ไม่เกินระดับปริญญาตรี) ที่มีอายุไม่เกิน 23 ปี ผู้สูงอายุ (ชาวไทยที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป) ภิกษุ สามเณร และผู้พิการ เข้าชมฟรี
ช่องทางติดต่อ : SET Thailand
4) พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (Museum of Contemporary Art)

‘พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัยกรุงเทพมหานคร หรือ MOCA’ คือศูนย์รวมความวิจิตรงดงามของศิลปะไทยร่วมสมัย ที่รวบรวมผลงานจิตรกรรมและประติมากรรมไทยร่วมสมัยและชิ้นงานประเภทต่างๆ ของศิลปินไทยชั้นบรมครูมากถึง 800 ชิ้น นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงศิลปะร่วมสมัยนานาชาติที่ชั้นบนสุดของอาคาร โดยเป็นการจำลองบรรยากาศห้องนิทรรศการประเทศแถบยุโรป
ด้วยการออกแบบสถานที่ที่สวยงาม และชิ้นงานศิลปะอันหลากหลาย พร้อมกับการบริการที่เป็นมิตร ทำให้ที่นี่เป็นหมุดหมายแฮงเอาต์ที่ไม่ว่าจะมาศึกษางานศิลป์อย่างจริงจัง หรือมาเดินเล่นกับเพื่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ก็เหมาะทั้งนั้น
พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย
ที่อยู่ : 499 ถนนกำแพงเพชร 6 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
เวลาทำการ : วันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 18.00 น. (ปิดวันจันทร์)
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300 บาท / นักเรียนและนักศึกษา 120 บาท / เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ผู้พิการ และนักบวช เข้าชมฟรี
ช่องทางติดต่อ : MOCA Museum of Contemporary Art
5) ท่าพิพิธภัณฑ์ (Museum Pier)

แม้จะเปิดได้ไม่นานมาก แต่ ‘ท่าพิพิธภัณฑ์’ ได้กลายเป็นแลนด์มาร์กฝั่งศิลปะย่านพระนคร ที่รอให้ผู้ชมร่วมสำรวจการเปลี่ยนผ่านยุคสมัยของศิลปะไทยตั้งแต่ยุคแรกเริ่มจนถึงยุคสมัยปัจจุบัน
ด้วยความที่เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่บนอาคาร 3 ชั้นที่ตั้งอยู่ในโครงการท่าช้างวังหลวง ทำหน้าที่เสมือนคลังจัดแสดงผลงานศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัยของไทย ฉายให้เห็นไทม์ไลน์การพัฒนาศิลปะผ่านการจัดแสดงผลงานและนิทรรศการหมุนเวียน ตั้งแต่การเข้ามาของอิทธิพลจากศิลปินต่างประเทศที่แทรกซึมผสานเข้ากับศิลปะไทยกว่า 2 ศตวรรษที่แล้ว จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของศิลปินไทยชั้นครูหลายท่าน นอกจากนี้ยังมีการเปิดพื้นที่ให้ศิลปินรุ่นใหม่ได้จัดแสดงผลงานสร้างสรรค์ของตัวเองอีกด้วย
ท่าพิพิธภัณฑ์
ที่อยู่ : 166 ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 10.00 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม : ชาวไทย 100 บาท / ชาวต่างชาติ 300 บาท / นักเรียนและนักศึกษา 50 บาท / เด็กที่มีความสูงไม่เกิน 90 เซนติเมตร เข้าชมฟรี
ช่องทางติดต่อ : Museum Pier ท่าพิพิธภัณฑ์
6) บ้านพิพิธภัณฑ์ คุณาวงศ์ (Kunawong House Museum)

ทุกวันอาทิตย์ ในซอยลาดพร้าว 54 ประตูดินแดนศิลปะร่วมสมัยของ ‘บ้านพิพิธภัณฑ์ คุณาวงศ์’ จะเปิดต้อนรับผู้มาเยือน รวมถึงเพื่อนใหม่ผู้รักศิลปะและวัตถุโบราณเก่าแก่
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เกิดจากความรักและความสนใจสิ่งของในโลกศิลปะของ ‘เสริมคุณ คุณาวงศ์’ ที่เก็บรวบรวมผลงานกว่า 1,000 ชิ้น เปรียบเสมือนสมุดบันทึกการเดินทางของศิลปะไทยร่วมสมัยจากอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยอีกความพิเศษคือ ที่นี่เน้นวัตถุโบราณ ของเก่าแก่ ประติมากรรม เครื่องเรือน และของตกแต่งบ้านจากหลากหลายยุคสมัยและวัฒนธรรม ทำให้เราได้เห็นประวัติศาสตร์ไทยผ่านของชิ้นใหญ่ไปจนถึงสิ่งละอันพันละน้อยที่มีความหลากหลาย
ภายในพื้นที่ประกอบด้วยพื้นที่ 3 ส่วนที่เชื่อมโยงกัน พื้นที่แรกคือ อาคารคิวบิค ที่รวมโซนจัดแสดง ห้องอาหาร และห้องอื่นๆ ไว้ด้วยกัน ต่อมาคือ สวนแห่งชีวิต จัดแสดงผลงานที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณ ความเป็นมนุษย์ และการปล่อยวาง โดยจัดเรียงไว้ท่ามกลางธรรมชาติ มีหอพระเป็นตัวแทนของศาสนาและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยตั้งอยู่ เปิดให้ผู้ศรัทธาเข้าไปเคารพบูชาอย่างเสรี ไม่มีการจำกัดศาสนา และพื้นที่ส่วนสุดท้ายคือ บ้านพักอาศัยของตระกูลคุณาวงศ์ ที่ปัจจุบันเป็นหนึ่งในพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะเช่นกัน
บ้านพิพิธภัณฑ์ คุณาวงศ์
ที่อยู่ : 33 ซอยลาดพร้าว 54 ถนนลาดพร้าว แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310
เวลาทำการ : วันอาทิตย์ เวลา 09.30 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม : อายุ 10 ปีขึ้นไป 450 บาท / เด็กอายุ 1 – 10 ปี 250 บาท / เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี เข้าชมฟรี
ช่องทางติดต่อ : Kunawong House Museum
7) ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย
(Bank of Thailand Learning Center)

อดีตโรงพิมพ์ธนบัตรและเงินตราแห่งประเทศไทยที่เคยเป็นสถานที่หวงห้ามสำหรับคนทั่วไป แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เปิดให้ผู้คนเข้ามาใช้พื้นที่และทำกิจกรรมต่างๆ ได้
‘ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย’ คือพื้นที่สานต่อความคิดและจินตนาการไร้ที่สิ้นสุดของคนเมือง ที่เปิดให้คนทั่วไปเข้าชมวิวัฒนาการเศรษฐกิจของไทย ไปจนถึงบทบาทของธนาคารกลาง ตั้งแต่นิทรรศการโรงพิมพ์ธนบัตร นิทรรศการเงินตรา และนิทรรศการบันทึกอารยธรรมเงินตราโลก อีกทั้งยังมี ‘หอจดหมายเหตุ’ คลังข้อมูลชั้นต้นเกี่ยวกับการเงินและเศรษฐกิจของไทยสำหรับผู้สนใจศึกษาค้นคว้า
นอกจากนี้ยังมี ‘ห้องสมุดพระองค์เจ้าวิวัฒนไชย’ Co-working Space บรรยากาศดี ให้นั่งอ่านหนังสือที่ชอบอย่างเงียบสงบ พร้อมชมแสงพระอาทิตย์ตกและทัศนียภาพความสวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทอดยาวสุดปลายสายตา ทำให้รู้สึกเหมือนได้ชาร์จแบตฯ ตัวเอง
ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่อยู่ : 273 ถนนสามเสน แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
เวลาทำการ : วันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 09.30 – 20.00 น. (ปิดวันจันทร์และวันหยุดสถาบันการเงิน)
ค่าเข้าชม : ฟรี
ช่องทางติดต่อ : ศูนย์การเรียนรู้แบงก์ชาติ – BOTLC
8) พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร แห่งที่ 2 (ทุ่งครุ)
(The Bangkok Children’s Discovery Museum II (Thung Khru))

วัยเด็กคือรากฐานของทุกสิ่ง เป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดในการหล่อหลอมลักษณะนิสัยและสร้างพื้นฐานทางอารมณ์ที่ดี พื้นที่สำหรับเด็กเพื่อการเรียนรู้และการเติบโตจึงเป็นสิ่งสำคัญ
‘พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร แห่งที่ 2 (ทุ่งครุ)’ เป็นศูนย์การเรียนรู้สำหรับครอบครัว ที่จำลองโลกกว้างเพื่อผลักดันทักษะความสามารถและเพิ่มขีดความสุขสนุกสนานให้กับเด็กๆ ประกอบด้วยโซนนิทรรศการ โซนของเล่นเพื่อการเรียนรู้ มุมหนังสือสำหรับเด็ก สวนน้ำ พื้นที่จัดกิจกรรมเวิร์กช็อปที่ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้จากการเล่นและลงมือทำจริง
พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร แห่งที่ 2 (ทุ่งครุ)
ที่อยู่ : 10 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร 10140
เวลาทำการ : วันอังคาร-วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00 – 16.00 น. (ปิดวันจันทร์)
ค่าเข้าชม : ฟรี
ช่องทางติดต่อ : พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครแห่งที่ 2 (ทุ่งครุ)
9) พิพิธภัณฑ์งู (Siam Serpentarium)

ในย่านลาดกระบังมี ‘พิพิธภัณฑ์งู’ ที่จะพาเด็กๆ และผู้ชื่นชอบงูไปเรียนรู้ทุกเรื่องของสัตว์ชนิดนี้ ตั้งแต่อวัยวะทุกส่วน การเกิด การล่าเหยื่อ การเอาตัวรอด ตลอดจนการสืบพันธุ์ อีกทั้งยังมีการจำลองภาพ สี และวิถีที่งูมองโลก เพื่อเรียนรู้และเข้าใจการมองเห็นของงูในแบบที่เราไม่เคยรู้มาก่อน
อีกทั้งใกล้ๆ กันกับพิพิธภัณฑ์งูยังมี ‘สวนงู’อาณาจักรงูที่แรกและที่เดียวในเอเชีย ที่รวบรวมงูหลากหลายสายพันธุ์จากทั่วโลกให้ชมกัน แถมยังมีฐานความรู้และกิจกรรมเกี่ยวกับงูอีกมากมาย รับประกันว่าใครมาที่นี่แล้วจะได้ความรู้อินไซต์เกี่ยวกับงูมากขึ้นอย่างแน่นอน
พิพิธภัณฑ์งู
ที่อยู่ : 969 ถนนหลวงแพ่ง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520
เวลาทำการ : วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 10.00 – 17.00 น. (จำหน่ายบัตรรอบสุดท้าย 16.00 น.) และวันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 18.00 น. (จำหน่ายบัตรรอบสุดท้าย 17.00 น.)
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 350 บาท / เด็ก 150 บาท / คนไทยที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปและเด็กที่มีความสูงน้อยกว่า 90 เซนติเมตร เข้าชมฟรี
ช่องทางติดต่อ : Siam Serpentarium “สยาม เซอร์เพนทาเรียม” (สวนงู สยามเซอร์เพนทาเรี่ยม)
10) ซีไลฟ์ แบงคอก โอเชียน เวิลด์ (SEA LIFE Bangkok Ocean World)

‘ซีไลฟ์ แบงคอก โอเชียน เวิลด์’ หรือที่คุ้นหูกันในชื่อ ‘สยามโอเชียนเวิลด์’ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ซ่อนตัวอยู่ในศูนย์การค้าพารากอน ที่จะพาเราไปท่องอาณาจักรใต้ทะเลและใกล้ชิดกับสัตว์น้ำนับหมื่นชีวิต
นอกจากทำเลที่เดินทางสะดวก การบริการและดูแลรักษาที่ได้มาตรฐาน ตัวอะควาเรียมที่แบ่งเป็นโซนต่างๆ ก็ทำออกมาได้น่าเดินสำรวจ ไม่ว่าจะอุโมงค์ใต้น้ำที่ยาวที่สุดในประเทศไทย หรือจะเป็นโซนเพนกวินสุดน่ารัก อาณาจักรม้าน้ำ ภารกิจใกล้ชิดฉลาม ภาพยนตร์สามมิติเสมือนจริง และอื่นๆ อีกมากมาย ถือเป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เกี่ยวกับทะเลใจกลางเมืองที่น่าแวะไปชมสักครั้ง
ซีไลฟ์ แบงคอก โอเชียน เวิลด์
ที่อยู่ : ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้นบี1 – บี2 ถนนพระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 10.00 – 20.00 น. (เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 19.00 น.)
ค่าเข้าชม : มีอัตราค่าเข้าชมหลากหลายแพ็กเกจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและซื้อบัตรเข้าชมล่วงหน้าทางเว็บไซต์ได้ที่ www.visitsealife.com/bangkok/tickets/
ช่องทางติดต่อ : SEA LIFE Bangkok Ocean World
‘MUSEUM-IN-SIGHT เพ่งพิศพิพิธภัณฑ์’ คือซีรีส์คอนเทนต์จาก Urban Creature ที่จะพาไปสำรวจพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับรางวัล Museum STAR ว่า กว่าจะมาเป็นแหล่งเรียนรู้ติดดาวให้เราเข้าชม มีอินไซต์อะไรที่คนเข้าชมอย่างเราๆ ไม่เคยเห็นมาก่อนบ้าง