หนึ่งในกิจกรรมที่เราชอบทำในวันหยุด นอกจากรื้อตู้หาหนังสือดีๆ สักเล่ม หรือเลือกหนังสนุกๆ มาดูสักเรื่องแล้ว การไปเดินเที่ยวเล่นตามย่านต่างๆ ในกรุงเทพฯ ไปดูวิถีชีวิต พูดคุยกับผู้คน ชื่นชมบรรยากาศ พร้อมลิ้มลองอาหารรสเด็ดของย่านนั้นๆ ถือเป็นกิจกรรมสุดโปรดของเราเช่นกัน และหลังจากอยู่ฝั่งพระนครมาสักพัก รอบนี้เราปักหมุดข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาเที่ยวที่ฝั่งธนฯ มาดูวิถีชีวิตของคนที่ยังมีความผูกพันกับสายน้ำจนแทบจะไหลรวมเป็นสายเดียวกัน
.
เมื่อก่อนถ้าพูดถึง ‘ฝั่งธนฯ’ อาจจะรู้สึกไกลและไม่มีอะไรน่าค้นหา แต่จริงๆ แล้วในความเรียบง่ายที่เราเห็นมันเต็มไปด้วยเรื่องราวอันมีเสน่ห์ ที่เกิดขึ้นท่ามกลางการดำเนินชีวิตแบบดั้งเดิมของผู้คน ผสมผสานกับความเป็นอยู่อย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ร่วมกับความเจริญที่นำไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ เข้ามาผสมผสานอย่างกลมกลืน
ย้อนเวลากลับไปสมัยกรุงเทพฯ ยังมีชื่อว่า ‘บางกอก’ ธนบุรี คือ ย่านเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตชาวบางกอกที่ผูกพันกับสายน้ำ จนได้ชื่อว่า ‘เวนิสแห่งตะวันออก’ ธนบุรีตั้งอยู่บนดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยา มีลำคลองเล็กใหญ่แตกแขนงออกไปหลายสาย
.
สมัยก่อน ‘แม่น้ำเจ้าพระยา’ ไม่ใช่สายที่เราเห็นบนแผนที่ในปัจจุบัน แต่เจ้าพระยาสายเก่านั้น คือ ‘คลองบางกอกน้อย’ ในปัจจุบัน เมื่อ พ.ศ. 2065 สมเด็จพระไชยราชาธิราชแห่งกรุงศรีอยุธยาโปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลองลัดบางกอกใหญ่ตรงส่วนที่แคบที่สุด ซึ่งก็คือบริเวณปากคลองบางกอกน้อยไปถึงปากคลองบางกอกใหญ่ ส่วนที่กลายเป็นลำน้ำเจ้าพระยาในปัจจุบันคือ หน้าสถานีรถไฟบางกอกน้อยถึงวัดอรุณฯ ซึ่งคลองที่ลัดเลาะย่านบางกอกให้เกิดชุมชนริมน้ำมากมาย โดยเฉพาะริมคลองบางกอกใหญ่ หรือคลองบางหลวงนั่นเอง
| ‘ชุมชนริมคลองบางหลวง’ ที่ยังอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของวันวาน
“เสียงเรือเครื่องดังมาแต่ไกล ก่อนจะวิ่งผ่านหน้าเราไปอย่างเฉียดฉิว บ่งบอกว่าเราถึงชุมชนริมคลองบางหลวงแล้ว”
‘ชุมชนริมคลองบางหลวง’ เป็นชุมชนเก่าแก่ตั้งแต่กรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ข้างคลองบางหลวง หรือคลองบางกอกใหญ่ เป็นคลองสายสำคัญที่แยกจากแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งขวาของป้อมวิชัยประสิทธิ์ และสิ้นสุดที่คลองมอญตรงข้ามปากคลองชักพระ
.
ชุมชนริมคลองบางหลวง สถานที่ที่ยังเต็มไปด้วยวัดวาอาราม บ้านไม้ชั้นเดียวเก่าแก่ ร้านรวงต่างๆ ใกล้กันยังมีตลาดที่จอแจไปด้วยพ่อค้าแม่ขาย สะท้อนการใช้ชีวิตของคนย่านนี้ได้อย่างชัดเจน แต่ส่วนที่คึกคักและเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปของชุมชนริมคลองบางหลวง คือตั้งแต่วัดกำแพงบางจากถึงวัดคูหาสวรรค์ ปัจจุบันบริเวณนี้กลายเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบงานศิลปะ หลงใหลธรรมชาติ และบรรยากาศอันเงียบสงบ
| พาชมศิลปะ ‘ในบ้านศิลปิน‘
“บ้านมีชีวิต เพราะคนใช้ชีวิต”
‘บ้านศิลปิน’ สถานที่โดดเด่นอีกแห่งหนึ่งในชุมชนริมคลองบางหลวง มนตร์เสน่ห์ของประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมเป็นบ้านเก่าของตระกูลรักสำรวจ ก่อนที่ทายาทรุ่นสุดท้ายได้ขายบ้านหลังนี้ให้กับ ‘คุณชุมพล อักพันธานนท์’ เพื่อปรับปรุงให้เป็นสถานที่รวมตัวของคนรักงานศิลปะ
.
บ้านไม้หลังน้อยแบ่งพื้นที่เป็น 2 ชั้น โดยด้านบนของตัวอาคารเปิดเป็นแกลเลอรีแสดงงานศิลปะ ส่วนด้านล่างเป็นพื้นที่สำหรับงานศิลปะต่างๆ และการแสดงหุ่นละครเล็กให้ได้ชมกัน แถมยังมีมุมขายของที่ระลึกโปสต์การ์ด ไปจนถึงคาเฟ่สำหรับนั่งชิลจิบกาแฟชมวิวริมคลองมองคนพายเรือไปมา บ้านศิลปินจึงเป็นสถานที่แห่งวัฒนธรรมย่านฝั่งธนบุรีที่ใครๆ ก็ต้องตกหลุมรัก
ที่ตั้ง : http://bit.ly/38pbK6l
วันและเวลา : เปิดทุกวัน 10.00 – 18.00 น.
| ตำนานอาหารคาวหวานต้อง ‘ตลาดพลู‘
เดินเล่น แวะถ่ายรูป ทักทายคุณลุงคุณป้าในชุมชนสักพัก ท้องน้อยๆ ก็ส่งเสียงประท้วงบอกว่าถึงเวลาอาหารกลางวันแล้วนะ! เราจึงพากันยกทัพไปที่ ‘ตลาดพลู’
.
ย้อนไปในอดีตเดิมทีแถวตลาดพลูเป็นพื้นที่ของชาวจีนที่มาตั้งถิ่นฐานมาตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี ต่อมาเมื่อย้ายเมืองหลวงไปฝั่งพระนคร ชาวจีนบางส่วนที่ตลาดพลูจึงย้ายตามไปด้วย และมีชาวมุสลิมจากภาคใต้เข้ามาแทนที่ ทั้งชาวมุสลิมและชาวจีนจึงได้เริ่มทำสวนพลูเป็นอาชีพหลัก จนเกิดเป็นตลาดซื้อขายพลูขึ้นมา จึงทำให้เรียกตลาดพลูมาจนถึงปัจจุบัน
‘ตลาดพลู’ ตลาดที่ขึ้นชื่อเรื่องแหล่งอาหารรสเด็ดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ที่ใครๆ ต่างพา กันไปลิ้มลองความอร่อยกันอย่างล้นหลาม อาทิ กุยช่ายรสเด็ด ขนมเบื้องโบราณสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ข้าวหมูแดงริมทางรถไฟ หมี่กรอบต้นตำรับจากประเทศจีน หรือร้านขนมหวานเจ้าเก่าเจ้าเดิม
ที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/mWmXXX1P8TkwuUvr6
วันและเวลา : เปิดทุกวัน 07.00 – 22.00 น.
| ไปหาเจ้าคอร์กี้ที่ ‘Corgi in the Garden‘
เปลี่ยนบรรยากาศมานั่งชิลดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ เอนจอยกับน้องหมากันที่ ‘Cafe corgi in the garden’ ที่เหล่าบรรดาทาสหมารับรองต้องถูกใจในความน่ารักสดใสของน้องหมาหลากหลายสายพันธุ์ แต่หลักๆ คือ ‘Corgi’ เจ้าหมาตัวเตี้ยขาสั้นหูตั้งตัวสีน้ำตาล
.
เมื่อก้าวเข้ามาในร้านจะรับรู้ถึงความรู้สึกโปร่งสบาย ด้วยการตกแต่งร้านด้วยต้นไม้ เน้นความเป็นธรรมชาติ และบริเวณภายนอก ยังมีโซน ‘Dog Garden’ ไว้ให้น้องหมาออกมาวิ่งเล่น ออกกําลังกายส่ายก้นดุ๊กดิ๊กกันด้วยนะ แต่แอบกระซิบว่าทางร้านมีการจัดให้เข้าเพียง 4 รอบ และรอบละ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ดังนั้นก่อนไปอย่าลืมเช็กเวลาจะได้ไม่ต้องรอนาน
ที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/piDvbqYAsHHU34nK7
วันและเวลา : เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) 12.30 – 18.00 น. และ 10.30 – 18.00 น. ในวันเสาร์-อาทิตย์
| แวะชิมผลไม้รสหวานที่ ‘บางหว้าเมลอนฟาร์ม‘
ก่อนกลับเราได้แวะไปยัง ‘บางหว้าเมลอนฟาร์ม’ โชคดีที่เราได้คุยกับ ‘พี่โหน่ง’ เจ้าของฟาร์ม จากอดีตวิศวกรที่ผันตัวเองมาเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่และตั้งใจเปิดโรงเรือนเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรของคนเมือง
.
พี่โหน่งบอกว่า หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเมลอนต้องปลูกในเมืองหนาวเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วกรุงเทพฯ นี่แหละเหมาะแก่การปลูกเมลอนที่สุด เพราะเมลอนเป็นพืชเขตร้อน โดยพี่โหน่งปลูกเมลอนไว้ด้วยกัน 3 โรงเรือน ด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์ ปีหนึ่งปลูกได้ถึง 4 ครั้ง ให้ผลหวานฉ่ำตลอดทั้งปีเลย ใครมาเที่ยวบางหว้าเมลอนฟาร์มก็อย่าลืมซื้อเมลอนสายพันธุ์ ญี่ปุ่นแท้หวานๆ กิโลกรัมละ 150 บาท นอกจากนี้ ยังนำเมลอนสกัดเย็นและเมลอนปั่นเย็นชื่นใจให้ชิมกันสดๆ
ที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/fMG7oJiDaGUbSUsY8
วันและเวลา : เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) 10.30 – 18.00 น.
| ‘วัดหนัง’ มนต์ขลังย่านฝั่งธนฯ
ก่อนหมดวันเราชวนเพื่อนๆ เข้าไปทำบุญไหว้พระที่ ‘วัดหนังราชวรวิหาร’ วัดโบราณที่สร้างขึ้นประมาณปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ก่อนหน้าที่จะมาเป็นวัดพระอารามหลวงนี้ วัดหนังเคยร้างอยู่กว่า 200 ปี ต่อมาวัดหนังก็ได้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ของรัชกาลที่ 3 และทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ ขึ้นภายในวัด และสิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้พระอุโบสถและพระวิหารนั้นก็คือพระปรางค์องค์สูงใหญ่ที่ตั้งอยู่ระหว่างกลาง ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ให้เรามาสักการบูชาด้วย
ที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/nYHoaFgRXi4341Q76
วันและเวลา : เปิดทุกวัน 06.30 – 18.00 น.
Writer
