“ถ้าอุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นเกินเฉลี่ย 1.5 องศาเซลเซียส โลกนี้อาจไม่ใช่สถานที่ที่มนุษย์อยู่ได้” นี่คงเป็นชุดข้อมูลที่หลายคนน่าจะเข้าใจกันดีถึงวิกฤตของโลกที่ปัจจุบันแน่นอนแล้วว่า อุณหภูมิโลกจะสูงแตะถึง 1.5 องศาเซลเซียส แต่จะทำยังไงไม่ให้สูงเกินไปมากกว่านี้
เพราะอุณหภูมิเป็นสิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้ถึงสถานการณ์โลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง และกำลังเกิดวิกฤตต่างๆ มากมายที่ขยับเข้าใกล้ตัวเราทุกคนแล้ว ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดไม่กี่เดือนนี้คือ น้ำท่วมสูงมากกว่าปกติในพื้นที่กรุงเทพฯ เนื่องจากน้ำทะเลหนุนสูงขึ้นทุกปีจากการละลายของแผ่นน้ำแข็งขั้วโลก และการเกิดภัยพิบัติต่างๆ มากมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นถ้าเรายังไม่รีบแก้ไขตอนนี้
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จึงจับมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร จัดภารกิจเร่งด่วนเพื่อกู้โลก ผ่านอีเวนต์อีโค่สุดล้ำที่สนุก ไม่น่าเบื่อ ในชื่อว่า ‘Central Pattana : The Urgent Project – Better Future is Now’ สร้างสรรค์พื้นที่ Sustainability Experiential Space ใจกลางเมือง ‘ย่อย’ เรื่องความยั่งยืนให้เข้าใจง่าย และช่วยโลกได้จริงผ่านการจำลองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต รวมถึงมีกิจกรรมเวิร์กช็อปและการเสวนาให้ความรู้ผ่าน Green Influencer อีกมากมาย ตั้งแต่วันนี้ – 30 ตุลาคม 2565 ที่เซ็นทรัลเวิลด์
ที่สำคัญ แค่มาเดินเล่นในงาน โลกก็จะมีต้นไม้เพิ่ม 1 ต้น เพราะ 1 การเยี่ยมชมและลงทะเบียน = ต้นไม้ 1 ต้นที่จะได้ร่วมปลูกในแผน Journey to Net Zero ปลูกป่า 1 ล้านต้นของเซ็นทรัลพัฒนา
ใครที่กำลังลังเลว่าจะมาดีไหม เราจะช่วยเพิ่มการตัดสินใจ พาดูไฮไลต์แต่ละโซนในงานนี้มาฝากกันก่อน
เริ่มจากโซนแรก นับเป็นไฮไลต์หลักของงานที่เซ็นทรัลพัฒนาสร้างสรรค์พื้นที่ขึ้นมา เพื่อให้การรักษ์โลกเป็นเรื่องสนุกมากกว่าที่คิด ผ่านธีมที่ชื่อว่า The Urgent Island หรือพื้นที่ทดลอง ‘เร่งด่วน-เรียนรู้-กู้โลก’ โดยจะแบ่งออกเป็น 4 บูทหลัก ได้แก่
1. Live Better (สีฟ้า) บูทที่ให้เราลองรับบทบาทเป็น Waste Manager หรือนักจัดการขยะด้วยหลัก 7R ที่เข้าใจง่ายและใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เป้าหมายเพื่อลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกนำมาผลิตวัสดุต่างๆ รู้จักใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุดก่อนกลายเป็นขยะ และลดปริมาณขยะมูลฝอยในครัวเรือนที่เป็นจุดเริ่มต้นส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศโลก
หลักการ 7R เริ่มตั้งแต่ Reduce เลือกใช้ทรัพยากรเท่าที่จำเป็น / Replace ใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม / Recycle คืนชีพให้ขยะกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง / Reuse นำวัสดุกลับมาใช้ซ้ำจนกว่าจะหมดอายุการใช้งาน / Refill เลือกใช้สินค้าแบบเดิม ไม่เพิ่มขยะเกินความจำเป็น / Repair ซ่อมแซมให้ใช้งานได้ใหม่ และ Return อุดหนุนสินค้าที่ใช้บรรจุภัณฑ์หมุนเวียน
นอกจากนี้ ยังมีเกมให้ร่วมสนุกแลกรับของรางวัล ฝึกสกิลการนำขยะประเภทต่างๆ ไปทิ้งให้ถูกตามถัง มีจุดรีฟีลให้นำขวดพลาสติกมาเติมน้ำยาล้างจาน และตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรีไซเคิลแปรสภาพจากขยะมาเป็นของใช้ที่เป็นประโยชน์อีกครั้ง
2. Style Better (สีเหลือง) บูทสร้างความเข้าใจถึงปัญหาจาก Fast Fashion และขยะสิ่งทอ ที่นับเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ก่อมลพิษมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก และสร้างปัญหาด้านขยะจำนวนมหาศาล ซึ่งเพียงเราใส่ซ้ำตัวเดิมก็สามารถช่วยลดการใช้น้ำมัน ลดพลังงานทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ ไปได้เยอะ
ไฮไลต์ของบูทนี้จึงให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วม รับสิทธิ์บริการซ่อมเสื้อผ้าฟรี! กับศิลปิน Sang Does Weave จำนวน 1 ชิ้น / 1 ใบเสร็จ จากการช้อปหรือทานอาหารในศูนย์ฯ ครบ 500 บาท เพื่อคืนชีพเสื้อผ้าที่พังแล้วให้กลับมาใหม่แบบมีสไตล์โดดเด่นไม่เหมือนใคร
3. Eat Better (สีแดง) บูทที่พูดถึงเรื่อง Food Waste ให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาของขยะอาหาร และเรียนรู้เส้นทางตั้งแต่จุดเริ่มต้นการผลิตจนถึงปลายทางการมาเป็นอาหารหนึ่งจาน และวนกลับนำมาใช้ประโยชน์อีกครั้ง เพียงแค่แยกขยะทิ้งให้ดีตั้งแต่ในครัวเรือนก็มีส่วนช่วยโลกได้มากแล้ว
ภายในบูทยังมีการเล่นเกม Interactive แข่งทำคะแนน และฝึกคัดแยกขยะทั่วไปกับขยะอาหารออกจากกันให้ถูกต้อง เป็นการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจคู่กับความสนุกสนานไปด้วยในตัว และได้รับของรางวัลฟรี! เมล็ดพืชจาก Central Pattana และ Patom Organic Living อีกด้วย
4. Ride Me (สีเขียว) Clean & Renewable Energy บูทพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนที่แสดงให้เห็นภาพการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าในทุกด้าน ผ่าน Interactive Bike สร้างพลังงานด้วยการปั่นจักรยาน เมื่อปั่นครบแล้วก็รับของรางวัลจากตู้กาชาปองด้วยนะ
และอีกหนึ่งความพิเศษของโซนนี้ เมื่อสแกน QR Code ครบ 3 บูท คือ สีฟ้า สีเหลือง และสีแดง รับฟรี! ไอศกรีม ‘Melting Planet’ จำลองรูปโลกกำลังละลาย 1 สกู๊ป จากร้าน Ampersand Gelato ที่รังสรรค์ขึ้นมาเฉพาะงานนี้ เพื่อสะท้อนถึงปัญหาวิกฤตที่โลกกำลังเผชิญอยู่ ณ ตอนนี้
สำหรับโปรเจกต์ร่วมกับพาร์ตเนอร์และแบรนด์รับเชิญมากหน้าหลายตาจะจัดอยู่ในโซน Pavilion for Betterment Zone 1 และ Pavilion for Betterment Zone 2 ที่มีความสนุกและความน่าสนใจแตกต่างกัน แต่มีจุดยืนเดียวกันคือ ต้องการสร้างโลกอย่างยั่งยืน
UNDP สร้างสรรค์พื้นที่เรียนรู้เทคโนโลยีและพลังงานสะอาดผ่าน Interactive Game ‘Mission 1.5’ จากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ
SCG ที่ยกไฮไลต์มาทั้ง SCG Green Choice ที่เป็นบอร์ดแลกเปลี่ยนความเห็นถึงปัญหาของโลกในปัจจุบัน และนำเสนอผลิตภัณฑ์และการบริการที่ช่วยส่งเสริมเรื่องสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยที่ดี และ SCG Bi-ion ที่สร้างประสบการณ์การอาบป่ากลางเซ็นทรัลเวิลด์ สัมผัสอากาศสะอาด ปลอดภัย จากระบบที่ได้คิดค้นขึ้นมา
VOLT City EV นำเสนอนวัตกรรมแห่งโลกอนาคต รถยนต์ใช้พลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อนแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ดีไซน์สวยสไตล์มินิมอลในราคาที่จับต้องได้
CIRCULAR T-Shirt Club แบรนด์แฟชั่นที่ผลิตจากวัตถุดิบสิ่งทอรีไซเคิล 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ผ่านการฟอกย้อม ลดการใช้น้ำ ลดการใช้ยาฆ่าแมลง ประหยัดพลังงานรอบด้าน ซึ่งที่บูทมีกล่องรับบริจาคเสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้วนำไปรีไซเคิล ใครจะมาเดินงานก็อย่าลืมพกเสื้อผ้าไม่ใช้แล้วมาด้วยนะ
นี่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ในงานยังมีบูทอีกมากมายให้ไปร่วมสนุก ทั้งเครือ PTT, เนสท์เล่, SC GRAND, Loopers, คาเฟ่ Tempered, Yindii, กรุงเทพมหานคร และอื่นๆ อีกเพียบ
นอกจากนี้ ยังมีเสวนาและเวิร์กช็อปกับ Green Influencer ชื่อดังให้เข้าร่วมฟรีตลอด 10 วัน ที่จะช่วยเติมเต็มแรงบันดาลใจ และสร้างแนวทางการกู้โลกในแบบที่ตรงกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่…ถ้าใครมีหัวใจรักโลก เข้ามาเดินเล่นรับชมสิ่งที่น่าสนใจในงานเลย เพราะโลก ณ ตอนนี้ รอไม่ได้แล้ว
Writer
