ความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจนั้นไม่ใช่แค่การมองเห็นแต่ประโยชน์ของธุรกิจของตัวเอง แต่ยังรวมไปถึงการขยายโอกาสให้ธุรกิจหรือภาคส่วนอื่นๆ ได้เติบโตไปด้วยกัน เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้เรื่อยๆ
ด้วยเหตุนี้ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ถึงใช้โมเดล The Ecosystem for All กลยุทธ์ที่เชื่อมโยงธุรกิจหลักอย่างศูนย์การค้าที่เป็นหัวใจหลักในการสร้างความแข็งแกร่งของระบบทั้งหมด เข้ากับธุรกิจที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน และโรงแรม หวังตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทุกคน พร้อมทั้งมีการลงทุนในระยะยาวเพื่อสร้างอนาคตแห่งการใช้ชีวิต ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ชวนไปดูกันว่า เซ็นทรัลพัฒนามีกระบวนการดำเนินงานอย่างไร ที่ทำให้ประสบความสำเร็จจนกลายเป็นผู้นำเบอร์หนึ่งอสังหาริมทรัพย์ไทยเพื่อความยั่งยืน และส่วนการลงทุนที่ว่านั้นมีโครงการอะไรที่จะเกิดขึ้นในอนาคตบ้าง
สร้างสรรค์และพัฒนาโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อเนื่อง
แม้จะได้ชื่อว่าเป็นผู้นำเบอร์หนึ่งแล้วก็ตาม แต่ด้วยบทบาทของการเป็น Place Maker ทำให้เซ็นทรัลพัฒนาไม่เคยหยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์พื้นที่ใหม่ๆ เพื่อมุ่งมั่นพัฒนาโปรเจกต์และสร้างประโยชน์ในวงกว้าง จึงเกิดเป็นไอเดียและการวางแผนลงทุนบุกเบิกย่านต่างๆ ผ่านการสร้างโครงการมิกซ์ยูสเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ในแต่ละพื้นที่อยู่เสมอ
ถือเป็นการสร้างย่าน ผลักดันศักยภาพทั้งเมืองหลัก-เมืองรองในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวทั่วประเทศ รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คนและเมืองให้ดีขึ้น
ลงทุนในระยะยาวเพื่อรองรับการสร้างแลนด์มาร์กแห่งใหม่
ก่อนหน้านี้ ทางเซ็นทรัลพัฒนาได้ลงทุนสร้างโครงการมิกซ์ยูสไปแล้วกว่า 20 โครงการทั่วประเทศ แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีอีกหลายพื้นที่ในประเทศไทยที่เซ็นทรัลพัฒนาเชื่อว่าสามารถพัฒนาและปรับปรุงให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อีกมาก
โดยภายใน 5 ปีนี้ เซ็นทรัลพัฒนามีแผนการลงทุนระยะยาวตั้งแต่ปี 2567 – ปี 2571 ด้วยจำนวนเงินกว่า 121,000 ล้านบาท ในการเปิดโครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่ เพื่อรองรับการให้บริการในพื้นที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ เริ่มด้วย ‘เซ็นทรัล นครสวรรค์’ ที่เปิดให้บริการแล้ว และพร้อมยกระดับเมืองสู่ Gateway to the North
อีกแห่งคือ ‘เซ็นทรัล นครปฐม’ ปฐมบทใหม่ของความสุข เชื่อมต่อภาคตะวันตก โดยมีพื้นที่สวนขนาดใหญ่ที่ดีไซน์สวยงาม สะท้อนอัตลักษณ์เมืองคือพระปฐมเจดีย์ และอีกแห่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ ‘เซ็นทรัล กระบี่’ ที่จะมาเติมเต็ม Retail Lifestyle ให้กับเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกในปี 2568 นี้
บุกเบิกความล้ำด้วยโครงการระดับ The World’s New Magnitude
นอกจากกระจายการพัฒนาไปในจังหวัดต่างๆ แล้ว เซ็นทรัลพัฒนายังเห็นโอกาสในการพัฒนาเมืองด้วย ทำให้คนเมืองจะได้เห็นโครงการระดับ The World’s New Magnitude จากเซ็นทรัลพัฒนาที่เป็น New Luxury ในเมืองอย่าง ‘Dusit Central Park (ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค)’ ซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ตรงบริเวณสีลม-สาทร
โครงการนี้เป็นโครงการมิกซ์ยูสระดับโลกที่จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตใกล้ชิดพื้นที่สีเขียวใจกลางเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญของชาวเมืองผู้ต้องการสถานที่ในการพักผ่อนหย่อนใจ หรือหลบหนีจากความวุ่นวายที่ต้องพบเจอในแต่ละวัน และในโครงการนี้ยังมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมดุสิตธานีโฉมใหม่, ที่อยู่อาศัย, ศูนย์การค้า Central Park และส่วนของอาคารสำนักงาน Central Park Offices เพื่อรองรับการใช้ชีวิตและการทำงานในอนาคต
ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค จะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะเป็นแหล่งเศรษฐกิจให้กับย่านใจกลางเมืองของกรุงเทพฯ ที่ดึงดูดนักลงทุนหรือธุรกิจต่างๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเมืองได้อีกด้วย
สร้างโอกาส กระจายรายได้ให้กับชุมชน
แผนการปรับปรุงพื้นที่ส่วนต่างๆ ของเซ็นทรัลพัฒนา ไม่ได้มองเห็นแค่การพัฒนาแบรนด์ในส่วนของ The Ecosystem for All เท่านั้น แต่ยังเป็นการพัฒนาพื้นที่เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและชุมชน ปัจจุบัน เซ็นทรัลพัฒนามีจากการจ้างงานกว่า 120,000 คนทั่วประเทศ
และไม่ใช่แค่โครงการที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างหรือโครงการที่เข้าสู่แผนการดำเนินงานแล้วเท่านั้น แต่เซ็นทรัลพัฒนามุ่งมั่นตั้งใจว่า ในทุกๆ การขยายโครงการใหม่จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นจำนวนหลายพันคน ซึ่งกว่า 80 เปอร์เซ็นต์จะเป็นคนท้องถิ่นของเมืองนั้นๆ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการดูแลชุมชนให้เติบโตไปด้วยกัน
ดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมาย NET Zero 2050
นอกจากการพัฒนาโปรเจกต์และยกระดับชีวิตผู้คนแล้ว ด้วยเทรนด์ในปัจจุบันที่ทั่วทั้งโลกยกให้เรื่องของความยั่งยืนและความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมเป็นส่วนสำคัญในการเดินหน้าธุรกิจ ส่งผลให้เซ็นทรัลพัฒนาดำเนินงานโดยคำนึงถึงความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมของการทำธุรกิจให้เติบโตควบคู่ไปกับการเดินหน้าทางเศรษฐกิจ พร้อมทั้งขับเคลื่อนประเทศไทย ด้วยแผนงานความยั่งยืนที่มีเป้าหมาย ‘NET Zero 2050’ หรือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593
ทำให้ในทุกๆ ขั้นตอนการดำเนินงาน ตั้งแต่การเริ่มต้นก่อสร้าง มีการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นการใช้เสาเข็ม Reuse การดูทิศทางลมสำหรับการระบายอากาศภายใน หรือแม้กระทั่งการใช้พลังงานสะอาดภายในตัวโครงการ เป็นต้น
คู่ค้าคือส่วนสำคัญในการเติบโต
นอกเหนือจากคนทำงานและลูกค้าที่ใช้บริการแล้ว การดำเนินงานและโครงการต่างๆ ของเซ็นทรัลพัฒนาจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ได้ หากไม่มีการสนับสนุนจากคู่ค้า ดังนั้นเซ็นทรัลพัฒนาจึงมีการดูแลด้วยกลยุทธ์ Holistic Partnership ที่เชื่อมโยงทั้ง B2B2C (Business-to-Business-to-Customer) เข้าใจทั้งลูกค้าา และคู่ค้า จากความเชี่ยวชาญและเข้าใจตลาดทั่วประเทศ
เซ็นทรัลพัฒนาได้ดึงจุดแข็งในการช่วยปั้นธุรกิจคู่ค้าผ่าน The 1 BIZ ที่ช่วยให้แบรนด์ประหยัดต้นทุนและเวลาในการทำ CRM (Customer Relationship Management) ด้วย Database จาก The 1 ที่มีสมาชิกอยู่กว่า 20 ล้านคน ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์สร้างโอกาสเติบโตอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็นการรักษาลูกค้าเก่า ดึงดูดลูกค้าใหม่ และเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ จากการตัดสินใจเลือกเจาะตลาดได้ถูกต้องตามจุดแข็งของแบรนด์
เตรียมพบกับโครงการต่างๆ จากเซ็นทรัลพัฒนาที่จะเปิดให้บริการในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งมากไปกว่าการมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้บริการแล้ว ยังเป็นโครงการที่ตั้งใจจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคนในพื้นที่ กระจายรายได้ในจังหวัด พร้อมเชิดชูอัตลักษณ์ไทย เพื่อสร้างเมืองเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพมากขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในการกระตุ้น GDP และเศรษฐกิจประเทศ
Writer
