หากในโลกใต้น้ำ มี ‘แอเรียล’ เป็น ‘แอ็กทิวิสต์’ - Urban Creature

ใกล้เข้ามาทุกทีกับ ‘The Little Mermaid’ ผลงานสุดคลาสสิกของดิสนีย์ที่กลับมาอีกครั้งในรูปแบบภาพยนตร์เวอร์ชันคนแสดง

แต่ก่อนที่จะตีตั๋วไปดูพร้อมกันในช่วงปลายเดือนนี้ เราแอบมาคิดดูเล่นๆ ว่า ถ้าเงือกสาว ‘แอเรียล’ ที่เรารู้จักเกิดขึ้นและเติบโตภายใต้ท้องทะเลยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยปัญหาสิ่งแวดล้อมและการตื่นรู้ในเรื่องต่างๆ ความใฝ่ฝันที่อยากเป็นมนุษย์เดินดิน ได้ตกหลุมรักใครสักคนจนยอมแลกเสียงของเธอ เพื่อให้กลายร่างเป็นมนุษย์ในระยะเวลาเพียงสามวันนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน

คอลัมน์ Urban Isekai ขอพาทุกคนดำดิ่งลงมหาสมุทรไปพบกับแอเรียลในเวอร์ชันใหม่ที่ใครๆ อาจคาดไม่ถึง ด้วยการอิเซไกให้แอเรียลเป็น ‘แอ็กทิวิสต์’ ผู้พยายามขับเคลื่อนสังคมใต้น้ำของ The Little Mermaid เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

The Little Mermaid

01 | จัดทำ MOU จัดการขยะและของเสียลงสู่ทะเล สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้โลกใต้น้ำ

ปัญหาใหญ่ของโลกใต้น้ำที่เราเห็นมาตั้งแต่ The Little Mermaid เวอร์ชันแอนิเมชันคงหนีไม่พ้นเรื่อง ‘ขยะ’ เพราะทั้งซากเรืออับปางและเศษขยะที่เหล่ามนุษย์โยนทิ้งลงมาต่างก็ถูกแอเรียลหยิบเอามาสะสมจนกลายเป็นกรุสมบัติส่วนตัวไปหมด

แต่ในยุคปัจจุบัน ถ้าจะให้แอเรียลหยิบเอาส้อมมาหวีผม เอาขยะมาสะสมเหมือนก่อน ฐานทัพเรืออับปางคงมีอยู่เต็มท้องทะเล เป็นแบบนี้เห็นทีคงไม่ดีแน่

คงต้องลุกขึ้นมาจัดทำ MOU จัดการขยะและของเสียลงสู่ทะเลระหว่างบนบกกับใต้น้ำกันสักหน่อย ไม่งั้นทั้งเงือกทั้งสัตว์น้ำคงจะตายกันหมด เพราะนอกจากเศษขยะ สารเคมีที่ติดมากับขยะเหล่านี้ก็มีไม่น้อยเช่นกัน

02 | เปลี่ยน ‘ราชา’ ให้เป็น ‘ประชาธิปไตย’ ส่งราชาไตรตันเข้าสู่ระบบการเลือกตั้ง

เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าชาวเงือกใต้น้ำโอเคกับการที่ราชาไตรตันขึ้นเป็นราชาแล้วจริงๆ

เห็นอย่างนี้คงต้องลุกออกมาปฏิวัติเกมการเมืองใต้น้ำกันหน่อย แม้ว่าแอเรียลจะเป็นถึงลูกของไตรตัน แต่จะให้เข้าข้างพ่อตัวเองท่าเดียวคงไม่เวิร์กเท่าไหร่ เพราะที่ผ่านมาก็เป็นตัวไตรตันนี่แหละที่ห้ามไม่ให้แอเรียลทำตามความต้องการของตัวเองมาตลอด

งานนี้เลยขอให้ ‘ราชาธิปไตย’ กลายเป็น ‘ประชาธิปไตย’ กับเขาบ้าง ด้วยการส่งราชาไตรตันเข้าสู่ระบบการเลือกตั้ง ให้ชาวเงือกเป็นคนเลือกผู้ปกครองกันไปเลย เพราะถึงใครจะได้เป็นผู้นำ อีก 4 ปีก็เลือกตั้งใหม่อยู่ดี แถมงานนี้ไม่มีเงือก ส.ว. 250 คนมาเกี่ยวด้วย เป็นชัยชนะแบบใสสะอาดแน่นอน

03 | รณรงค์แคมเปญ ‘My Tail, My Choice’ เคารพความหลากหลายทางกายภาพ

ไม่ว่าจะมีหาง สีผม สีผิว หรือรูปร่างหน้าตาเป็นแบบไหน เราก็ยังเป็นเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์เงือกใต้ท้องทะเลกันอยู่ดี

ถ้าโลกมนุษย์มีแคมเปญ ‘My Body, My Choice’ งั้นโลกใต้น้ำก็น่าจะมี ‘My Tail, My Choice’ กับเขาได้บ้างเหมือนกัน เพื่อเคารพความหลากหลายทางกายภาพที่เกิดขึ้นภายใต้ท้องทะเลให้มากขึ้น

หรือใครอยากเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ทำจากเปลือกหอยเป็นอย่างอื่น เปลี่ยนสีครีบหางให้ไปตามสีที่ตัวเองชอบก็ย่อมได้ ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เปิดกว้างให้เงือกในสังคมได้แสดงออกถึงตัวตนและความชอบของตัวเอง เพื่อให้สังคมใต้ท้องทะเลน่าอยู่ขึ้น

04 | ทำบัตร ‘Aquatic Animals Identity Card’ ขจัดปัญหาสัตว์น้ำชายขอบ

เพราะสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไม่ได้มีแค่เงือกเพียงอย่างเดียว การให้สิทธิและตัวตนใต้ทะเลจึงต้องควบคุมไปถึงสัตว์น้ำแต่ละสายพันธุ์ด้วย

ดังนั้นถ้าจะให้เกิดความเท่าเทียม ไม่แบ่งแยก และสามารถระบุตัวตนของแต่ละตัวได้ เพื่อไม่ให้สัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่งรู้สึกว่ากำลังถูกทอดทิ้งหรือโดนผลักไปให้กลายเป็นสัตว์น้ำชายขอบ การมีบัตร ‘Aquatic Animals Identity Card’ อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ

เพราะนอกจากจะรับรู้ได้ว่าโลกใต้น้ำมีประชากรของสัตว์แต่ละสายพันธุ์มากน้อยแค่ไหน และสัตว์ชนิดไหนที่เสี่ยงสูญพันธุ์ ยังทำให้เราทราบได้ด้วยว่าผู้คนบนบกจับสัตว์น้ำมากเกินไปหรือไม่จากระบบการตรวจสอบประชากร

05 | จัด ‘Cultural Exchange Camp’ แลกเปลี่ยนหางและขา ค้นหาตัวตนที่ใช่

‘อยากจะอยู่กับพวกคนบนดิน อยากจะยลยินคนเต้นรำอย่างไรหนอ เดินเคลียคลอบนสอง เรียกอะไรนะ อ๋อ เท้า’

ทุกวันนี้ถ้าอยากเปลี่ยนหางให้เป็นขา เดินเหยียบทรายสีขาวนวล หนทางเดียวคือการเดินไปหาเออร์ซูลาเพื่อแลกเสียงกับหาง

แต่นั่นไม่น่าใช่หนทางที่ดีที่สุด เราขอเสนอทางออกของเรื่องนี้สำหรับชาวเงือกที่อยากเดินบนบกด้วยสองเท้าและมนุษย์ที่อยากสัมผัสประสบการณ์แหวกว่ายอยู่กลางทะเล ด้วยการจัด ‘Cultural Exchange Camp’ ขึ้นมาซะเลย เหล่าเงือกจะได้ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ มองหาช่องทางเปลี่ยนหางให้เป็นขากับเออร์ซูลาแบบเดิมๆ

ยิ่งถ้าค่ายนี้เกิดประสบความสำเร็จ ก็อาจกลายเป็นหนึ่งช่องทางที่นอกจากจะทำให้ทั้งเงือกและมนุษย์ได้ค้นหาตัวตนที่ใช่แล้ว ยังเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและความรู้กัน สร้างสัมพันธไมตรีระหว่างโลกใต้น้ำและโลกบนบกในระยะยาว

06 | ร่างกฎหมาย ‘Interspecies Marriage’ สนับสนุนความรักต่างสายพันธุ์

ถ้าความรักคือสิ่งสวยงาม แล้วทำไมความรักต่างสายพันธุ์ระหว่างเงือกและมนุษย์ถึงกลายเป็นเรื่องต้องห้ามอยู่เสมอ

ในฐานะที่แอเรียลเป็นเงือกสาวผู้มีประสบการณ์อาบน้ำร้อนฝ่าฟันอุปสรรคความรักต่างสายพันธุ์มาก่อน จึงขอเดินหน้ารณรงค์ให้โลกใต้น้ำและโลกมนุษย์จับมือกันร่างกฎหมาย ‘Interspecies Marriage’ ที่สนับสนุนความรักต่างสายพันธุ์อย่างแท้จริงขึ้นมาสักที

รับรองว่ารัฐบาลไหนที่ยอมรับร่างกฎหมายฉบับอันนี้ ต้องได้ใจประชาชนเงือกและมนุษย์ไปแบบเต็มๆ อย่างแน่นอน เพราะถือเป็นการให้ความสำคัญต่อสิทธิเสรีภาพและความหลากหลายทางสายพันธุ์ที่ไปได้ไกลมากกว่าแค่ความหลากหลายทางเพศ

Writer

Graphic Designer

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.