ทุกคนน่าจะรู้จัก ‘Barbie’ ในฐานะของตุ๊กตาที่โด่งดังทั่วโลก แต่หากใครที่เป็นแฟนบาร์บี้หรือนักสะสมของเล่นย่อมรู้ดีว่า ตุ๊กตาของเล่นที่อยู่ในความทรงจำของเด็กๆ นั้นมีเรื่องราวที่น่าสนใจอยู่มาก
บาร์บี้นั้นได้แรงบันดาลใจมาจาก Bild Lilli หรือตัวการ์ตูนในนิตยสารที่กลายมาเป็นตุ๊กตาหญิงสาวสัญชาติเยอรมนีผู้มีลุคเจ้าเล่ห์ เซ็กซี่ มีเสน่ห์น่าหลงใหล โดย ‘Ruth Handler’ ได้ซื้อมาให้ ‘Barbara’ ลูกสาวของเธอที่ชื่นชอบการเล่นตุ๊กตาเป็นชีวิตจิตใจ ทำให้ใน ค.ศ. 1959 แฮนด์เลอร์เปิดบริษัท Mattel และผลิตตุ๊กตาบาร์บี้ออกมาวางขาย เพื่อเพิ่มของเล่นสำหรับเด็กผู้หญิงให้มีความหลากหลายมากขึ้น
แต่ขณะเดียวกัน บาร์บี้ก็กลายมาเป็นภาพแทนของหญิงสาวที่มีรูปลักษณ์สวยงามตามอุดมคติในยุคก่อน จนมีหลายเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า บาร์บี้ทำให้หลายคนเป็นโรคคลั่งผอมหรือหมกมุ่นกับ Beauty Standard เกินไป แบรนด์ตุ๊กตาชื่อดังจึงพยายามลบภาพจำเหล่านั้นออกและปรับตัวตามยุคสมัย เพื่อทำให้เห็นว่า แท้จริงแล้วบาร์บี้คือโลกที่ทุกคนเป็นได้ทุกสิ่ง ตามคอนเซปต์ที่ว่า ‘Barbie You Can Be Anything’
จนถึงปัจจุบันบาร์บี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 63 ปี จากตุ๊กตาหญิงสาวผมบลอนด์ ตาสีฟ้า เอวคอด เลิศหรู รูปลักษณ์สมบูรณ์แบบ ถูกพัฒนาให้มีความหลากหลายทั้งเรื่องของเชื้อชาติ รูปร่าง หน้าตา สีผิว อาชีพ ฯลฯ มากขึ้น เพื่อส่งเสริมบทบาทของผู้หญิงให้มีความเท่าเทียมในสังคม และก่อเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ชื่นชอบตุ๊กตาบาร์บี้ทั่วโลก
นอกจากเป็นตุ๊กตาของเล่นแล้ว บาร์บี้ยังถูกนำไปสร้างเป็นการ์ตูนที่มีเนื้อหาสนุกๆ สร้างแง่คิดดีๆ ให้รับชมกันหลากหลายตอน และในวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา ภาพยนตร์เรื่อง Barbie เวอร์ชันคนแสดงก็เข้าฉายให้เราได้ชมกัน
คอลัมน์ Urban Isekai จึงไม่รอช้า ขอตีตั๋วไปเยือนบาร์บี้แลนด์เพื่อสำรวจว่าประชาชนบาร์บี้นั้นมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร
ดินแดนที่ใช้สีชมพูสิ้นเปลืองที่สุด
อย่างแรกที่เราสะดุดตาคือ ทุกอย่างในบาร์บี้แลนด์เป็นสีชมพู (Fluorescent Pink) เกือบทั้งหมด โดยรูปแบบของอาคารที่อยู่อาศัยนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากยุค 1940 – 1970 เพียงแต่ที่อยู่อาศัยของบาร์บี้จะใช้วัสดุเป็นพลาสติกทั้งหมด ส่วนโครงสร้างของบ้านมี 3 ชั้น ชั้นแรกคือห้องนั่งเล่น มีบาร์และสระว่ายน้ำอยู่ข้างๆ ชั้นสองเป็นห้องอาบน้ำและห้องแต่งตัว ส่วนชั้นสามคือห้องนอนที่มีสไลเดอร์ลงมายังสระว่ายน้ำชั้นล่างสุดได้
พื้นที่สาธารณะมีเหลือล้น
ในบาร์บี้แลนด์มีพื้นที่สาธารณะค่อนข้างเยอะ แต่เมืองของบาร์บี้อาจไม่มีพื้นที่ส่วนตัวมากนัก เนื่องจากชาวบาร์บี้จะอาศัยรวมกันในเมือง มนุษย์อินโทรเวิร์ตที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวอาจอยู่ในเมืองแห่งนี้ยากหน่อย
ทุกวันจากนี้คือปาร์ตี้
โลกของบาร์บี้มักเน้นการพบปะสังสรรค์ เต้นรำ หรือทำกิจกรรมมากมายไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน มนุษย์ที่จะเข้ามาอาศัยอยู่ในบาร์บี้แลนด์จำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคมที่ให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้
ชาวบาร์บี้เขาหน้าตาดีเกินไปไหม
เมื่ออยู่ในบาร์บี้แลนด์ เราได้เดินสวนกับประชากรบาร์บี้มากมาย จากการสังเกตเราพบว่าบาร์บี้นั้นมีถึง 45 สัญชาติ และทุกคนล้วนเบ้าหน้าดี มีสัดส่วนที่สมบูรณ์จนมนุษย์อย่างเรารู้สึกประหม่าเมื่อเดินอยู่ท่ามกลางมวลชนบาร์บี้
อยากทำอยากเป็นอาชีพไหนก็เอาเลย
เมื่อได้อยู่ในบาร์บี้แลนด์มาเป็นเวลานาน เราก็ค้นพบความจริงอีกข้อว่า ประชาชนบาร์บี้มีอาชีพมากมายถึง 200 อาชีพ สมคำร่ำลือที่บอกว่าบาร์บี้เป็นอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพบรรณาธิการแฟชั่น พยาบาล แอร์โฮสเตส ผู้บริหาร นักบินอวกาศ หมอ ประธานาธิบดี ผู้ประกาศข่าว นักแข่งรถ วล็อกเกอร์ ผู้พิพากษา ผู้ช่วยเชฟ ฯลฯ
ทุกที่คือแคตวอล์ก
ว่ากันว่าในบาร์บี้แลนด์ ทุกๆ ปีจะมีรองเท้าที่ผลิตใหม่กว่า 1,000 ล้านคู่มาให้เลือกใส่ และเสื้อผ้าอีกกว่า 100 แบบมาให้เลือก Mix & Match รวมถึงวิกผมอีกเป็นปริมาณหลายร้อยให้เลือกจัดทรงที่ใช่ในสไตล์ที่ชอบ แถมเครื่องประดับอย่างสร้อย แหวน นาฬิกาข้อมือ แว่นตา รองเท้า ก็จัดเต็มสุดพลัง เพียงเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วหมุนตัวก็เปลี่ยนชุดได้ทันที
ข้าวของเครื่องใช้ที่เน้นดีไซน์ ไม่เน้นฟังก์ชัน
ทุกครั้งที่ตื่นนอน ผมของบาร์บี้จะไม่ยุ่งเหยิง เสื้อผ้ายังคงเรียบเนียน และที่สำคัญพวกเขาไม่มีกลิ่นปาก! อีกอย่างคือในบาร์บี้แลนด์ไม่ต้องใช้น้ำและไฟ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายรายเดือน แต่ถึงอย่างนั้นบาร์บี้ก็ยังแปรงฟันด้วยแปรงที่ใหญ่กว่าหน้า อาบน้ำที่ไม่มีน้ำ ส่องกระจกที่ไม่มีกระจกอยู่เป็นประจำ
ความสัมพันธ์แบบเธอเป็นของฉัน ฉันเป็นของเธอ
แม้ตุ๊กตาชื่อบาร์บี้จะมีอยู่เต็มเมือง ทว่าบาร์บี้ก็ยังมีพี่น้อง 7 คนที่ไม่ได้ใช้ชื่อว่าบาร์บี้อยู่ด้วย ได้แก่ Skipper, Stacie, Chelsea, Krissy, Kelly, Tutti และ Todd นอกจากนี้ บาร์บี้ยังมีสัตว์เลี้ยงมากกว่า 40 ชนิดที่วิ่งกันวุ่นอยู่ในบาร์บี้แลนด์ แบ่งเป็นสุนัข, ม้า, แมว, นกแก้ว, ชิมแปนซี, หมีแพนด้า, สิงโตทะเล, ยีราฟ, ม้าลาย ฯลฯ และมีแฟนหนุ่มชื่อเคนอยู่เต็มเมืองไปหมด
เดินทางง่ายสไตล์บาร์บี้
ในบาร์บี้แลนด์ไม่มีขนส่งสาธารณะ เพราะทุกบ้านต่างมีรถยนต์สวยหรูดีไซน์ดีจอดประจำตำแหน่ง และที่สำคัญพวกเขาไม่ต้องเสียเวลาตระเตรียมตัวก่อนออกเดินทางนัก เพราะเวลาอยากออกไปทำอะไรที่ไหนก็แค่ลอยตัวจากบนบ้านลงมาที่รถได้เลย
ชุมชนเพื่อนบ้านอันแน่นแฟ้น
โลกของบาร์บี้มักแสดงให้เห็นถึงชุมชนที่สนิทสนมกัน ซึ่งเหล่าเพื่อนบ้านล้วนมีปฏิสัมพันธ์และสังสรรค์กันอยู่บ่อยๆ เนื่องจากทุกบ้านไม่มีกำแพง ทุกคนมองเห็นและทักทายกันได้ทันทีหลังตื่นนอน ใครที่มาอยู่ที่นี่แล้วมองหาความเป็นส่วนตัว บอกได้เลยว่าฝันไปเถอะ