เพราะอันตรายมีอยู่ทุกที่
คำคำนี้ดูไม่เกินจริง เมื่อเราได้ดูภาพยนตร์แฟรนไชส์ Final Destination ที่แต่ละภาคล้วนดำเนินเรื่องผ่านการใช้ชีวิตทั่วๆ ไปของเหล่าตัวละคร ทว่าในความทั่วไปนั้นกลับมีเหตุการณ์บางอย่างที่พาให้ชะตาชีวิตของพวกเขาถึงจุดจบอย่างน่าสยดสยอง
หลังจากทิ้งห่างไปกว่า 14 ปี ตอนนี้ Final Destination กลับมาอีกครั้งกับคอนเซปต์ที่ยังคงทำเอาคนดูอย่างเราๆ หวาดเสียวไปกับสิ่งรอบตัว จนต้องมองซ้ายมองขวาคอยใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง
คอลัมน์ Urban Isekai อยากชวนมาลองคิดเล่นๆ ว่า หากเซตติ้งใน Final Destination เป็นกรุงเทพฯ จะมีเหตุการณ์อะไรบ้างที่ทำให้เราใช้ชีวิตอยู่ดีๆ ก็ชะตาขาดไม่รู้ตัว
ขับรถอยู่ดีๆ ก็มีชิ้นส่วนก่อสร้างร่วงหล่นจากท้องฟ้า

สถานการณ์ที่ทำให้คนไทยรู้สึกเหมือนใช้ชีวิตอยู่ใน Final Destination ตลอดเวลา คงหนีไม่พ้นการขับรถผ่านเส้นทางที่กำลังมีโครงการก่อสร้างหรือซ่อมแซมสะพาน โดยเฉพาะเส้นพระรามที่สองที่ไม่จบไม่สิ้นสักที ยิ่งนานวันไปแทนที่โครงสร้างสะพานจะแข็งแรงพร้อมใช้งาน กลับมีข่าวอุบัติเหตุเศษนั่นเศษนี่ร่วงลงบนถนนตลอดเวลา ส่งผลให้คนที่ใช้รถใช้ถนนเส้นทางนั้นต้องเสี่ยงดวงทุกครั้ง เพราะไม่รู้ว่าวันดีคืนดีจะหวยออกที่รถของเราไหม ทำได้เพียงแค่รีบเหยียบคันเร่งพร้อมสวดมนต์ให้สบายใจว่าจะปลอดภัยไปตลอดทาง
ตามหลังรถกระบะอยู่ดีๆ ก็มีเหล็กเส้นพุ่งเข้ามาในรถ

ไม่ใช่แค่ต้องคอยระวังแผ่นปูนจากฟากฟ้า แต่ยังมีรถกระบะร่วมทางที่ทำเอาต้องเว้นระยะห่างเกินกว่า 5 เมตร เพราะหลายคันมักท้าทายความสามารถในการขนของ ด้วยการวางเรียงสินค้าสูงเกินหลังคารถจนโอนไปเอียงมา เสี่ยงว่าจะร่วงลงมาขวางถนนหรือไม่ก็ทับรถที่ขับตามหลัง และบ่อยครั้งที่เราเจอก็มักเป็นเหล็กเส้นยาวที่มีผ้าสีแดงผูกเอาไว้เป็นสัญลักษณ์ให้คันหลังคอยระวังอันตราย
แต่แหม…ทั้งหัวและท้ายของเหล็กกลับยื่นเกินออกมาจากตัวรถ แถมอุปกรณ์ยึดเหล็กก็ดูไม่แข็งแรงเท่าไหร่ ทำให้รถยนต์ทั้งข้างหน้าและตามหลังต้องหวาดระแวงว่าเหล็กเส้นเหล่านั้นจะหลุดออกมาพุ่งทะลุกระจกรถตัวเองหรือไม่ แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว
ขี่มอเตอร์ไซค์อยู่ดีๆ ก็ชนสายไฟที่ห้อยลงมาขวางทาง

รถยนต์ไม่ปลอดภัย มอเตอร์ไซค์ก็เสี่ยงภัยได้เหมือนกัน เพราะใครจะไปคาดคิดว่า สายไฟฟ้าที่ควรอยู่สูงนั้นจะหย่อนลงมากลายสภาพเป็นสิ่งกีดขวางการจราจรได้ หากขี่รถเร็วหรือขี่ช่วงกลางคืนที่มีแสงสว่างไม่มากพอก็อาจไม่ทันสังเกตถึงความผิดปกติ รู้ตัวอีกทีก็โดนสายไฟเกี่ยวล้มคว่ำ ได้รับบาดเจ็บ หรือมากไปกว่านั้นก็ม่องเท่งไม่รู้ตัว
ทางเท้าที่ให้คนเดิน อยู่ดีๆ ก็มีมอเตอร์ไซค์ขี่มาชน

ขยับจากการเสี่ยงชีวิตบนท้องถนนมาเป็นบนทางเท้าที่ดูเหมือนว่าจะปลอดภัย แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
เพราะที่นี่คือกรุงเทพฯ ระหว่างเดินเรามักพบเจอรถมอเตอร์ไซค์ที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนบนทางเท้าได้ แถมหลายครั้งยังบีบแตรไล่ หรือพุ่งเข้าใส่คล้ายจะชนเราเสียอย่างนั้น ถ้าโชคดีหน่อยก็พอเอี้ยวตัวหลบทัน แต่ถ้าหลบไม่ทันก็ถูกเฉี่ยวชน แถมยังโดนคนบนมอเตอร์ไซค์สาปส่งเพราะเดินไม่ระวังรถบนทางเท้าอีก
เดินบนทางเท้าอยู่ดีๆ ก็ร่วงลงไปอยู่ในท่อไม่รู้ตัว

ระวังรถราบนทางเท้าไม่พอ ยังต้องระวังท่อที่เป็นกับดักตลอดทางอีกด้วย อย่าลืมว่าบางครั้งคนเราก็มีธุระต้องรีบเดินจนไม่ทันสังเกตความผิดปกติบนพื้น ทำให้พลาดเหยียบเข้ากับท่อสภาพไม่ปกติ ไม่ว่าจะเป็นฝาท่อที่ปิดไม่สนิท หรือฝาท่อที่เสียหายแต่ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาแก้ไขและทำสัญลักษณ์ให้ผู้คนสังเกตเห็น หนักกว่านั้นคือท่อที่รอการซ่อมแซมด้วยการวางแผ่นไม้กระดานปิดทับแบบลวกๆ เพื่อให้คนเดินเท้าคอยเลี่ยงท่อชำรุดเหล่านี้ด้วยตัวเอง
แม้การตกท่อดูไม่ได้อันตรายถึงชีวิตแต่ก็ทำให้บาดเจ็บสาหัสได้ ไหนจะเรื่องของความสะอาดที่ส่งผลต่อการติดเชื้อเสี่ยงต่อโรคอื่นๆ และร้ายที่สุด แม้ว่าจะไม่ถึงแก่ชีวิตในทันที ก็มีสิทธิ์เสียชีวิตได้ในภายหลัง