การแบ่งขั้ว (Polarization) สำคัญอย่างไร และทำไมถึงต้องหยุดมันก่อนสายเกินแก้
ในสังคมประชาธิปไตย ทุกคนสามารถคิดต่างและถกเถียงกันได้ บนพื้นฐานความเคารพ การโต้แย้งแลกเปลี่ยนกันสามารถนำไปสู่ความรู้ ความเข้าใจใหม่ๆ และฉันทามติต่อทางออกสังคม แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่สังคมเกิดกลุ่มแนวคิดสุดโต่งต่างขั้ว หรือที่เรียกว่า Polarization ที่ทำให้คนที่อยู่คนละขั้วไม่สามารถหารือ เคารพ หรือทนอยู่ร่วมกับขั้วความคิดที่ต่างกับตนได้ นั่นคือสัญญาณอันตรายที่เราต้องช่วยกันระมัดระวัง หากบทสนทนาในกลุ่มเริ่มยกระดับเป็น Echo Chamber ที่ได้ยินแต่เสียงยืนยันความเห็นของตัวเองและกีดกันความเห็นต่าง โดยไม่สนใจว่าสิ่งที่แลกเปลี่ยนกันนั้นเป็นข้อมูลจริงหรือเท็จ และสมาชิกในกลุ่มโจมตีฝ่ายที่คิดต่างกับตนเองด้วยข้อความที่ก่อให้เกิดความเกลียดชัง (Hate Speech) จนนัดหมายออกไปใช้ความรุนแรงในโลกจริงเมื่อไหร่ นั่นคือสัญญาณของการแบ่งขั้ว การแบ่งขั้วเกิดจากประเด็นที่หลากหลาย โดยมีพื้นฐานมาจากความเชื่ออย่างสุดโต่งของตน ไม่ว่าจะเป็นลัทธินีโอนาซี (Neo-Nazis) ที่มีความเชื่อว่าชาติพันธุ์ของตนนั้นเหนือกว่าชาติพันธุ์อื่นๆ ซึ่งในปี 2020 ตำรวจเยอรมันได้บุกค้นสถานที่ 13 แห่งใน 6 รัฐ และพบหลักฐานเครือข่ายก่อการร้ายของฝ่ายขวาสุดโต่งที่เชื่อว่าถูกปลุกระดมขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์ และในปี 2021 มีรายงานว่ากลุ่มนีโอนาซีและกลุ่มหัวรุนแรงฝ่ายขวาลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรงถึง 1,042 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 590 คนจากการโจมตีดังกล่าว ที่ประเทศไทยก็เช่นกัน ปรากฎการณ์ ‘การเมืองสีเสื้อ (Color Politics)’ ซึ่งเป็นการแสดงออกทางการเมืองของภาคประชาชนระหว่าง ‘มวลชนเสื้อเหลือง’ กับ ‘มวลชนเสื้อแดง’ ทำให้มีการแบ่งขั้วทางการเมืองอย่างหนัก ทั้งสองขั้วมีความเกลียดชัง […]