‘Login.jp_’ ช่อง YouTube ดีเจเซตที่นำดนตรีสมัยใหม่เข้าไปเยือนร้านโลคอลในตำนานของญี่ปุ่น

ถ้าพูดถึงเสน่ห์ของญี่ปุ่น นอกจากปลาดิบ ศาลเจ้า หรือการวางระบบเมืองที่เป็นระเบียบแล้ว บรรยากาศแบบ ‘ท้องถิ่น’ แท้ๆ ในร้านค้าเก่าแก่ หรือวิวทุ่งนาสีเหลืองอร่าม กว้างสุดลูกหูลูกตา ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน วันนี้ Urban Creature ขออาสาพาทุกคนลัดฟ้าไปแดนอาทิตย์อุทัย เพื่อทำความรู้จัก ‘Login.jp_’ ช่อง YouTube ที่จะยกระดับการฟังเพลงจากดีเจเซต (DJ Set) ทั่วไป ให้ล้ำกว่าที่เคยด้วยการยกบูทดีเจไปตั้งในโลเคชันที่คาดไม่ถึง โดยเฉพาะซีรีส์ ‘The Shoten’ (แปลว่า ร้านค้า) เพราะพวกเขาตั้งใจนำเพลงยุคใหม่ไปเจอกับร้านค้ารุ่นเก๋าที่กำลังจะเลือนหายไป เพื่อเชื่อมวัฒนธรรมสองขั้วเข้าด้วยกัน ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้ร้านหรือสถานที่ต่างๆ ดูมีบรรยากาศที่สนุกขึ้น แต่ยังทำให้เราได้เห็นวัฒนธรรม การใช้ชีวิต และบางพื้นที่ที่ค่อยๆ เลือนหายไปในโลกที่เทคโนโลยีและ AI เข้ามาแทนที่การใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม และเราขอทำหน้าที่คิวเรเตอร์เลือก 3 โลเคชันแสนสนุกที่โชว์ความเป็น Login.jp_ ได้อย่างดีจนอยากชวนไปชมกัน Sakana ร้านขายปลาที่สืบทอดกันมาสี่รุ่นย่านอาคาบาเนะ คลิปแรกของช่องที่หยิบเอาดนตรีสนุกๆ มามิกซ์รวมกับบรรยากาศร้านขายปลาที่สืบทอดกันมายาวนานกว่าสี่รุ่นในย่านอาคาบาเนะ โตเกียว Login.jp_ อธิบายถึงไอเดียการเลือกที่นี่ไว้ว่า ปลาและอาหารทะเลเป็นส่วนสำคัญในอาหารของชาวญี่ปุ่นมาตั้งแต่ยุคโจมง (Jomon) หรือย้อนไปได้ถึง 13,000 […]

แจ้งหมีใกล้ฉันกับ BowBear แอปฯ แผนที่เตือนภัยหมีแบบเรียลไทม์ หลังสถิติหมีเข้าพื้นที่ชุมชนพุ่งสูง

หลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นมีสถิติการพบเห็นหมีบุกรุกเข้าใกล้พื้นที่อยู่อาศัยของมนุษย์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2568 พบว่า ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ของเหตุหมีทำร้ายคน เกิดขึ้นในพื้นที่ที่ประชาชนใช้ชีวิตประจำวัน เช่น เขตที่อยู่อาศัยและพื้นที่เกษตรกรรม ไม่ใช่ในป่าลึก และมีผู้เสียชีวิตจากการถูกหมีทำร้ายสูงถึง 10 ราย WISM บริษัทเทคโนโลยีจากญี่ปุ่นจึงได้พัฒนาแอปพลิเคชัน BowBear เพื่อเตือนให้ประชาชนรู้ถึงตำแหน่งของหมี โดยชื่อแอปฯ มาจากคำว่า Bow ที่ออกเสียงเหมือนใน ‘Bow and Arrow’ หรือ คันธนู และเป็นคำพ้องเสียงกับภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า ‘การป้องกัน’ ด้วย แอปฯ นี้ทำงานด้วยระบบ Crowdsourcing หรือการรวบรวมข้อมูลจากผู้ใช้ทุกคน แทนที่การเตือนภัยแบบดั้งเดิมอย่างป้ายประกาศหรือการเดินลาดตระเวนของชุมชน เมื่อผู้ใช้งานพบเห็นตัวหมี ร่องรอย รอยเท้า หรือแม้แต่มูลของหมี ก็ปักหมุดลงบนแผนที่ของแอปฯ ได้ทันที โดย ‘หมุดสีแดง’ คือจุดที่มีการยืนยันการพบเจอหมี ส่วน ‘หมุดสีส้ม’ คือจุดที่คาดการณ์ว่าอาจพบเจอหมีได้ ข้อมูลนี้จะถูกแชร์ไปยังผู้ใช้งานคนอื่นที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์ ‘เสียงสุนัขเห่า’ ที่กดใช้เวลาเจอหมี ในความดังต่อเนื่องที่ผู้พัฒนาแอปฯ ยืนยันว่าจะทำให้หมีตกใจและหนีไปได้ ด้วย UI […]

โบกมือลา Osaka Expo 2025 หลังต้อนรับผู้เข้าชมทั่วโลกกว่า 25 ล้านคน สร้างผลกำไรเกือบ 7 พันล้านบาทตลอด 6 เดือน เตรียมพัฒนาพื้นที่เป็นศูนย์กลางความบันเทิงต่อ

World Expo 2025 ที่จัดขึ้นบนเกาะยูเมะชิมะ นครโอซากา มียอดผู้เข้าชมสะสมทะลุ 25 ล้านคน พร้อมด้วยผู้เข้าร่วมอย่างเป็นทางการถึง 165 ประเทศและองค์กร แซงหน้างานเอ็กซ์โปครั้งก่อนที่จังหวัดไอจิในปี 2005 และสร้างผลกำไรจากการดำเนินงานที่คาดว่าจะสูงถึง 2.8 หมื่นล้านเยน (ราว 6.8 พันล้านบาท) จากการขายตั๋วและสินค้าที่ระลึก โดยเฉพาะมาสคอตดังอย่าง ‘เมียะคุ เมียะคุ’ (Myaku-Myaku) ที่ไปร่วมมือกับตัวละครดังมากมาย เช่น ซานริโอ ทามาก็อตจิ ริลักคุมะ ฯลฯ อีกเรื่องที่น่าติดตามต่อคือ พื้นที่ขนาดใหญ่บนเกาะยูเมะชิมะ โอซากานี้ จะถูกนำไปพัฒนาต่อ โดยเก็บรักษาโครงสร้างบางส่วนไว้ ส่วนงานจัดแสดงอื่นๆ จะรื้อถอนออกไป คล้ายกับ Aichi Expo เมื่อปี 2005 ที่ปัจจุบันพื้นที่นั้นได้กลายเป็น Ghibli Park ต้อนรับนักท่องเที่ยวให้มาเยือนนาโกยาและจังหวัดใกล้เคียงอยู่เสมอ โดยของโอซากานั้นจะพัฒนาพื้นที่ให้เป็นศูนย์กลางความบันเทิงนานาชาติ โดยมีแผนการสร้างสวนน้ำ สนามแข่งรถ Formula One รีสอร์ตครบวงจรที่มีบ่อนคาสิโน พื้นที่พักอาศัย และเขตประชุมและนิทรรศการ (MICE) […]

Grand Green Osaka เมืองในสวนแห่งใหม่ใจกลางโอซากา พื้นที่ธรรมชาติที่ช่วยลดคาร์บอน และส่งเสริมพลังงานสะอาดของเมือง

ที่นี่คือโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผสมกับพื้นที่สาธารณะและพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ที่ปรับปรุงมาจากลานขนส่งสินค้าสถานีโอซากาเหนือ ซึ่งถือเป็นทำเลทองในภูมิภาคคันไซ โครงการนี้ออกแบบโดย Nikken Sekkei เป้าหมายคือการสร้าง ‘เมืองภายในสวน’ (City Within a Park) เพื่อส่งเสริมการรวมกลุ่มของชุมชนเมือง และมอบพื้นที่สีเขียวที่เป็นหัวใจสำคัญของการใช้ชีวิตในอนาคต สวนขนาดใหญ่กว่า 28 ไร่ใจกลางเมือง ภายในพื้นที่รวมกว่า 550,000 ตารางเมตร Grand Green Osaka แบ่งออกเป็นสวนสาธารณะใจกลางเมืองขนาด 4.5 เฮกตาร์ และที่ดินส่วนตัวขนาด 4.6 เฮกตาร์ ซึ่งเดินทางได้สะดวกสบายจากการเชื่อมต่อโดยตรงกับสถานี JR Osaka และพื้นที่เมืองโดยรอบ โดย Nikken Sekkei ร่วมมือกับบริษัทออกแบบภูมิทัศน์ชื่อดัง GGN เพื่อเปลี่ยนพื้นที่ทั้งหมดให้เป็นสวนสาธารณะที่ผสานเข้ากับอาคารได้อย่างกลมกลืน การออกแบบที่โดดเด่นคือการสร้าง ‘คันดิน’ ที่ทำให้เกิดความแตกต่างของระดับความสูง ซึ่งช่วยลดขอบเขตระหว่างสวนสาธารณะและพื้นที่ส่วนตัว ทำให้เกิดความต่อเนื่องของพื้นที่และใช้งานได้หลากหลาย อาคารต่างๆ ตั้งแต่ตึกสูงไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างสวนสาธารณะชั้นเดียว ล้วนได้รับการออกแบบด้วยผังพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัส และจัดเรียงเป็นกลุ่มให้เชื่อมโยงกันไปรอบสวนสาธารณะ 4 ไฮไลต์สำคัญชวนให้ไปชม ไฮไลต์สำคัญๆ ของที่นี่ประกอบด้วย ‘Great Lawn’ ที่ตั้งอยู่ใน […]

Tokyo Tatemono Mitsutera Building ตึกที่รวมวัดกับโรงแรมไว้ในที่เดียว ผสมผสานความเก่าและใหม่เข้าด้วยกันแบบ Win-Win

จะเป็นอย่างไรถ้าวัดและโรงแรมตั้งอยู่ในที่เดียวกัน แบบชนิดที่ว่าแม้แต่ทางเข้าก็ยังเป็นทางเดียวกัน ‘Tokyo Tatemono Mitsutera Building’ คืออาคารใจกลางเมืองโอซากา ตัวอย่างการอนุรักษ์ศาสนสถานโบราณเดิมด้วยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างโดยรอบจนเป็นวัดสไตล์เมือง เพื่อโอบรับผู้มาเยือนที่มีหลากหลายกลุ่ม แม้มองจากภายนอก Tokyo Tatemono Mitsutera Building จะเป็นตึกหน้าตาโมเดิร์นทั่วๆ ไป แต่เมื่อมองเข้าไปจะพบว่ามีวิหารหลักเก่าแก่ของ ‘วัดมิสึเทระ’ (Mitsutera Temple) ซึ่งเป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์มากกว่า 1,300 ปี ซึ่งได้รับการเคารพนับถือและเป็นส่วนหนึ่งของเมืองซ่อนตัวอยู่ จากเหตุการณ์ระเบิดเมืองโอซากาในปี 1945 ทำให้ทั้งผู้คนและสิ่งก่อสร้างในเมืองได้รับผลกระทบและความเสียหายเป็นวงกว้าง โชคดีที่ตัววิหารหลักของวัดไม่ได้รับความเสียหายอะไรมาก จึงมีการตัดสินใจสร้างตึกที่ภายในประกอบด้วยร้านค้าต่างๆ และโรงแรม Candeo Hotels ครอบวิหารไว้ ขณะเดียวกัน ด้วยความที่คอนเซปต์ของโรงแรมคือ ‘Gleaming Brightly’ โถงทางเข้าหลักจึงตกแต่งด้วยงานแล็กเกอร์เคลือบเงาและแผ่นทอง สะท้อนถึงความสง่างาม สว่างไสว ทำให้ตัวตึกสมัยใหม่กลมกลืนไปกับสถาปัตยกรรมเดิมของตัววัด ภายในตึกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ วัด โรงแรม และร้านค้า ผ่านการออกแบบชั้น 1 – 3 ด้วยโครงสร้าง Atrium เป็นห้องโถงใหญ่ที่รองรับผู้คน […]

ญี่ปุ่นจำลองระบบป้องกันน้ำท่วมใต้ดินใน ‘Minecraft’ เมื่อเกมเป็นทั้งพื้นที่สร้างสรรค์และการเรียนรู้ ที่พร้อมให้เหล่านักสำรวจเข้าเยี่ยมชม

อย่างที่รู้กันว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เผชิญภัยพิบัติอยู่บ่อยครั้ง ส่งผลให้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องคอยให้ความสำคัญกับการเตรียมแผนรับมือและจัดการกับความเสี่ยงอย่างรอบคอบ หนึ่งในนั้นคือปัญหาน้ำท่วม ทั้งจากฝนตกหนักหรือพายุโหมกระหน่ำ รัฐบาลจึงสร้างระบบระบายน้ำใต้ดินขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อเป็นที่รองรับน้ำ และป้อมปราการใต้ดินป้องกันน้ำท่วมเมือง เพื่อให้คนทั่วไปเข้าใจการทำงานของระบบนี้ กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น (MLIT) ได้เปิดตัวแผนที่ Minecraft วิดีโอเกมแนว Sandbox สามมิติ ในการจำลองอุโมงค์ระบายน้ำใต้ดิน หรือ ‘G-Cans’ ซึ่งเป็นระบบควบคุมน้ำท่วมใต้นครโตเกียวที่อลังการที่สุดในโลก จุดประสงค์คือ เพื่อเป็นคอร์สส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องการป้องกันภัยพิบัติ และโปรโมตการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น เนื่องจากมีการเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าศึกษาสถานที่จริงได้ โดยจะมีการใช้แผนที่เกม Minecraft นี้เป็นส่วนหนึ่งในการนำทัวร์ด้วย ไฮไลต์ที่ห้ามพลาดของแผนที่จำลองนี้คือ การพาไปชมแท็งก์น้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งเรียงรายเหมือนเสาวิหาร นอกจากจะทำหน้าที่ยึดค้ำเพดานแล้ว ยังช่วยควบคุมแรงดันไม่ให้น้ำจากใต้ดินลอยขึ้นสู่ผิวดินอีกด้วย อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือห้องควบคุมกลาง ที่เราสามารถควบคุมระบบเปิด-ปิดประตูระบายน้ำได้ด้วยตัวเอง หรือจะลองไปสำรวจพื้นที่ชุมชนโดยรอบที่ได้รับการป้องกันจากป้อมปราการใต้ดินก็ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ทุกคนสามารถรับชมผ่านเกมได้อย่างสมจริง ที่รัฐบาลญี่ปุ่นลงทุนทำขนาดนี้ ก็เพื่อทำให้ประชาชนเห็นระบบ กระบวนการ และผลลัพธ์ที่ได้จากการวางแผนจัดการภัยพิบัติของประเทศ ที่ให้ความสำคัญกับปัญหาต่างๆ รวมถึงกลวิธีในการส่งเสริมความรู้ให้คนในเมือง เพราะนอกจากจะได้ความสนุกจากการเล่นเกมแล้ว ยังได้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันภัยพิบัติ แถมได้เยี่ยมชมสถานที่จำลองเสมือนจริงในเวลาเดียวกันอีกด้วย ดาวน์โหลดแผนที่ฟรีผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานแม่น้ำเอโดะกาวะได้ที่ tinyurl.com/577fey5z โดยแผนที่นี้เปิดให้ใช้ได้กับ Minecraft Bedrock เวอร์ชัน 1.21.1 และ Education Edition […]

Hakata อาณาจักรขนส่งสาธารณะที่รวมทุกการเดินทางไว้ในที่เดียว

‘ฮากาตะ’ ถ้าได้ยินชื่อนี้แล้วคิดถึงอะไรกันบ้าง กลิ่นหอมกรุ่นของราเม็งน้ำซุปกระดูกหมู ตลาด Christmas Market ย่านช้อปปิงขนาดใหญ่ที่เดินซื้อของเชื่อมต่อกันได้ไม่สะดุด หรือสถานีชื่อดังที่ถ้าอยากท่องเที่ยวในภูมิภาคคิวชูให้ครบๆ สักครั้งต้องใช้สถานีนี้เป็นจุดเชื่อมต่อ และหากใครเคยได้ยินเรื่องที่รัฐบาลไทยสนใจรวมขนส่งสาธารณะไว้ในที่เดียวเพื่อให้การเดินทางในไทยไร้รอยต่อ โมเดลที่รัฐบาลนำมาใช้เป็นต้นแบบก็คือ ฮากาตะ เมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่นนี่เอง คอลัมน์ City in Focus จึงขอชวนทุกคนมาดูย่านที่ทำให้การเดินทางด้วยรถ ราง บัสเป็นเรื่องง่าย แสนสบาย เชื่อมต่อรถ-ราง-บัส ในพื้นที่เล็กๆ ของฮากาตะแห่งนี้ รู้หรือไม่ว่าที่นี่ประกอบไปด้วยศูนย์รวมการเดินทางทั้งบัส แท็กซี่ รถไฟฟ้าใต้ดิน ชินคันเซ็น และรถไฟ JR โดยเหมาะทั้งสำหรับการเดินทางในเมืองฟุกุโอกะเอง และเดินทางออกไปต่างเมือง ไม่ว่าจะโตเกียว นาโกยา หรือไปดู World Expo ที่โอซากาก็ยังได้ นอกจากสถานีกลางนี้จะรวบรวมทุกการเดินทางเอาไว้แล้ว ตำแหน่งที่ตั้งของสถานีฮากาตะยังมีความพิเศษตรงที่สถานีนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฟุกุโอกะ ในระยะที่ไปถึงพื้นที่สำคัญๆ ได้ในเวลาเพียงน้อยนิด เช่น หากจะไปช้อปปิงที่แหล่งวัยรุ่นอย่างเทนจินก็ห่างเพียง 3 สถานี ใช้เวลาเดินทาง 5 นาทีเท่านั้น หรือจะไปสนามบินก็ใช้เวลาเพียง 2 สถานีเช่นเดียวกัน โดยปกติด้วยความยิ่งใหญ่ของรถยนต์ ราง […]

เรียนรู้เหตุการณ์แผ่นดินไหวกรุงเทพฯ รับมือภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกะทันหันอย่างไรบ้าง

อาคารสั่นคลอน อาการวิงเวียน ที่พักอาศัยเสียหาย ทั้งหมดนี้เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ แม้จุดเกิดเหตุจะไม่ได้เกิดขึ้นโดยตรงในประเทศไทย แต่ด้วยแรงสั่นสะเทือนที่สูงถึง 7.7 แมกนิจูด ส่งผลให้คนเมืองผู้แทบไม่เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อนรับรู้ถึงความสั่นไหว และกลายเป็นผู้ประสบภัยในเวลาเพียงไม่กี่นาที นอกเหนือจากความตื่นตระหนกตกใจแล้ว แรงสั่นสะเทือนยังสร้างความเสียหายในหลายพื้นที่โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ทั้งที่อยู่อาศัยและอาคารสำนักงานที่อาจไม่ได้คำนึงถึงการเผชิญหน้ากับแผ่นดินไหวรุนแรงแบบนี้มาก่อน และด้วยความที่เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่คนกรุงเทพฯ ต้องเจอกับแผ่นดินไหว ก่อให้เกิดความสับสนในการรับมือสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องการแจ้งเตือนล่วงหน้า วิธีการป้องกันตัวเอง ความปลอดภัยของการใช้ชีวิตในอาคาร หรือกระทั่งการใช้เส้นทางจราจรเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินที่ไม่เคยมีใครให้ข้อมูลมาก่อนว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรหากเจอเหตุการณ์แบบนี้ คอลัมน์ Report จะพาไปสำรวจว่า ในเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน กรุงเทพฯ ต้องเจอกับปัญหาในการรับมือสถานการณ์แบบไหนบ้าง มีการจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร และประเทศไทยสามารถนำวิธีการเตรียมพร้อมป้องกันภัยจากประเทศที่ต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติเหล่านี้อยู่บ่อยครั้งมาปรับใช้ได้มากน้อยแค่ไหน ปัญหาเมืองที่เกิดขึ้นในวันภัยพิบัติ จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ศูนย์กลางที่เมียนมาเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นอกจากปัญหาเรื่องตึกสูง ที่อยู่อาศัย และความปลอดภัยในเมืองของกรุงเทพฯ ซึ่งเห็นได้จากโครงสร้างอาคารที่เกิดรอยแตก รอยร้าว หรือแย่ไปกว่านั้นคือ เศษโครงสร้างอาคารหลุดล่อนออกมา จนทำให้หลายคนหวาดผวาไปกับการใช้ชีวิตบนตึกสูงแล้ว สถานการณ์ในวันนั้นยังแสดงให้เห็นถึงปัญหาระบบขนส่งในเมือง รวมถึงพื้นที่อพยพที่ไม่สามารถรองรับชาวกรุงได้ เสียงบ่นอื้ออึงของคนกรุงหลังสถานการณ์แผ่นดินไหวคือ เรื่องถนนกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยรถยนต์ รถเมล์ รถจักรยานยนต์ที่แน่นิ่ง ไม่ขยับ รถเคลื่อนตัวได้เพียง 13 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และแออัดยาวนานขนาดที่แผ่นดินไหวผ่านไปแล้ว 8 ชั่วโมง การจราจรก็ยังไม่กลับสู่สภาวะปกติ รวมถึงเหล่าขนส่งสาธารณะระบบรางอย่าง […]

ทางเท้า ญี่ปุ่น ออกแบบได้ปลอดภัยและฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์วิถีชีวิตนักเดินของชาวเมือง

‘ญี่ปุ่น’ คือประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องของเมืองที่ทั้งสะอาด เป็นระเบียบ และสะดวกสบาย ซึ่งผลลัพธ์เช่นนี้มาจากความใส่ใจของรัฐบาลญี่ปุ่นและพฤติกรรมชาวเมืองที่มีวินัยในการใช้ชีวิตกันอย่างเป็นระบบระเบียบ และถึงแม้ญี่ปุ่นจะมีพื้นที่ใช้สอยภายในประเทศอย่างจำกัด แต่หน่วยงานภาครัฐก็ให้ความสำคัญต่อระบบการเดินทางคมนาคมให้มีความสะดวกสบายและปลอดภัยอย่างสูงสุด เช่นเดียวกับ ‘ทางคนเดินเท้า’ ที่ออกแบบมาตอบโจทย์วิถีชีวิตของประชากรในประเทศ เพื่อส่งเสริมให้คนใช้วิธีการเดินในการเดินทางควบคู่ไปกับคมนาคมที่ดี 📌 การออกแบบที่ทุกคนใช้งานได้ โครงสร้างทางเท้าที่ญี่ปุ่นถูกออกแบบมาให้ทุกคนใช้งานได้อย่างปลอดภัย สะดวกสบาย และซัพพอร์ตผู้ที่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมอย่างวีลแชร์และไม้เท้า ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดล้วนคำนึงถึงผู้ใช้งานและผ่านการคิดตามหลักวิศวกรรมมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความกว้างของทางเท้าที่ต้องมีขนาดเพียงพอต่อการรองรับผู้ใช้งานที่หลากหลาย โดยมีการอ้างอิงจากขนาดความกว้างมาตรฐานในการใช้เดินทาง ได้แก่ คนปกติใช้ความกว้าง 0.75 เมตร ผู้ใช้วีลแชร์ใช้ความกว้าง 1 เมตร และผู้พิการทางสายตาที่ใช้สุนัขนำทางใช้ความกว้าง 1.5 เมตร ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้นำมาใช้ในการออกแบบความกว้างของทางเท้าให้สอดคล้องกับมาตรฐานอย่างเหมาะสม โดยทางเท้าญี่ปุ่นจะยึดหลักการออกแบบให้มีความกว้างไม่น้อยกว่า 2 เมตร เพื่อให้ผู้ใช้วีลแชร์สวนกันได้ ส่วนพื้นที่ทางเท้าที่อนุญาตให้จักรยานขึ้นมาขี่ได้จะต้องมีความกว้างไม่น้อยกว่า 3 เมตร และยังมีการแบ่งเป็น Bike Lane แยกออกมาด้วยในบางเขต ส่วนพื้นผิวบนทางเท้าจะปูพื้นเป็นบล็อกที่อัดแน่นและชิดกัน ทำให้การเดินปกติหรือใช้รถเข็นนั้นไม่มีสะดุดเลย รวมถึงเบรลล์บล็อก (Braille Block) ทางเดินสำหรับผู้พิการทางสายตาก็มีตลอดเส้นทาง และเชื่อมโยงกับทางม้าลายทุกพื้นที่ ไม่มีการตัดขาดเส้นทางอีกด้วย ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องกังวลถึงความปลอดภัยในการเดินบนทางเท้า 👥 ปรับทางเท้าให้ตอบโจทย์กับวิถีชีวิตชาวญี่ปุ่น แม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ มากมาย แถมระบบขนส่งก็ครอบคลุมทั่วทุกจังหวัดในประเทศ […]

‘Offline Love’ เรียลลิตี้หาคู่จากญี่ปุ่น ที่ให้พรหมลิขิตทำงานคู่กับแผนที่ ผ่านการเดินเมืองแบบไม่พึ่งพาสมาร์ตโฟน

การติดตามเรื่องราวความรักในมุมมองของคนที่สามกลายเป็นความบันเทิงอย่างหนึ่ง จนทำให้มีรายการแนวหาคู่ออกมาให้เราได้เห็นอยู่เรื่อยๆ หนึ่งในนั้นคือ ‘Offline Love’ รายการเรียลลิตี้ญี่ปุ่นจาก Netflix ที่จะพาคนดูอย่างเราไปลุ้นเรื่องราวความรักระหว่างคนแปลกหน้ากัน แต่จะให้เดตกันเฉยๆ ก็ธรรมดาไป แทนที่จะเป็นการจับมารวมกลุ่มเพื่อหาคู่รักที่เคมีเข้ากันที่สุด รายการนี้กลับไม่ให้ผู้เข้าร่วมรายการใช้สมาร์ตโฟนหรืออุปกรณ์ออนไลน์ใดๆ และเลือกให้หนังสือนำเที่ยวพร้อมแผนที่ เพื่อให้แต่ละคนออกไปผจญความแปลกใหม่ของเมืองที่ไม่รู้จัก เพราะรายการนี้แม้จะเป็นของญี่ปุ่น แต่สถานที่ถ่ายทำคือเมือง ‘Nice’ ประเทศฝรั่งเศส พูดให้โรแมนติกคือ รายการนำไอเดียเรื่องของพรหมลิขิตและการตกหลุมรักในสมัยก่อนที่ไม่มีสมาร์ตโฟนมาใช้ หวังให้แต่ละคนพบเจอกันด้วยความบังเอิญจากการเดินตามท้องถนน แล้วสังเกตมือที่ถือหนังสือนำเที่ยวกับแผนที่ของกันและกัน ดังนั้นนอกจากจะได้ลุ้นว่าใครจะเจอกับใคร และคู่ไหนจะตกหลุมรักกันแล้ว การผจญภัยในเมือง Nice ของผู้เข้าร่วมรายการทั้งสิบคนยังทำให้เราได้เห็นถึงความสวยงามของบรรยากาศรอบตัว ความเป็นอยู่ของผู้คน ผ่านการเดินเมืองที่สะดวกสบายและเอื้อต่อการตกหลุมรักกันอีกด้วย ติดตามเส้นทางพรหมลิขิตใน Offline Love ทั้ง 10 ตอนได้ทาง Netflix หรือชมตัวอย่างที่ tinyurl.com/4yzt8r4t

ชวนไปเปิดโลกของกระดาษและสมุดแบรนด์ญี่ปุ่นขวัญใจคนชอบขีดเขียนในป็อปอัปสโตร์ ‘MD PAPER’ วันที่ 18 ม.ค. – 2 ก.พ. ที่ ROCK PAPER SCISSORS STORE

สายจดบันทึกเตรียมพบกับอีเวนต์ป็อปอัปในกรุงเทพฯ จาก ‘MD PAPER’ แบรนด์กระดาษและสมุดจากญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์และคุณสมบัติเฉพาะตัวในการสร้างประสบการณ์การเขียนด้วยมือให้ผู้ใช้งานได้สนุกกับการเขียนมากขึ้น ความพิเศษของกระดาษ MD PAPER คือ เป็นกระดาษออริจินัลที่ป้องกันการเปรอะเปื้อนของหมึก และยังป้องกันหมึกซึมทะลุเพื่อให้เราขีดเขียนได้อย่างลื่นไหล ไหนจะวิธีการเย็บกี่แบบดั้งเดิมที่สามารถกางหน้าสมุดออกได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้เราเขียนได้นาน ราบรื่น นุ่มมือ แถมยังมีความทนทานใช้งานได้นานอีกด้วย ด้วยความที่สินค้าของแบรนด์แต่ละชิ้นล้วนอาศัยความพิถีพิถันเหมือนกับการทำเต้าหู้ที่เป็นวัตถุดิบสำคัญของอาหารญี่ปุ่น ทำให้ในทุกๆ ขั้นตอนของการผลิตนั้นเต็มไปด้วยความใส่ใจ ซึ่งเราจะได้เห็นผ่านนิทรรศการกว่าจะมาเป็น MD PAPER ขนาดย่อมๆ ในป็อปอัปสโตร์นี้กันด้วย นอกจากจะได้ลองหยิบจับสัมผัสกระดาษแบบฟินๆ ช้อปปิงสินค้าของแบรนด์ และทำกิจกรรมต่างๆ แล้ว งานนี้ยังมีเวิร์กช็อปทำที่คั่น MD Notebook ที่คัสตอมสีได้ตามใจ แล้วเก็บไว้ใช้จดบันทึกเรื่องราวตลอดทั้งปีอีกนะ กิจกรรมนี้เปิดให้ร่วมสนุกกันตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ที่ร้าน ROCK PAPER SCISSORS STORE ใน 14 DH Grand Tower ซอยสุขุมวิท 39

SUETOMI AoQ Cafe Stand คาเฟ่วินเทจในเกียวโตที่มีความลึกเพียง 1 เมตร

คุณคิดว่าร้านกาแฟจะเล็กได้แค่ไหน ที่เกียวโตมีร้านกาแฟที่มีขนาดเพียง 10 ตารางเมตร ด้วยความลึกของร้านเพียง 1 เมตรเท่านั้น ‘SUETOMI AoQ Cafe Stand’ คือคาเฟ่ที่มีเจ้าของเดียวกันกับ ‘SUETOMI’ ร้านอาหารชื่อดังในเกียวโตจากผลงานการออกแบบของสตูดิโอ G architects studio และ Ryohei Tanaka ที่ตั้งอยู่บนหัวมุมถนน Matsubara-dori ติดกับร้านราเมน Chanponteiso Honkeshijokarasumaten ใกล้กับสถานีรถไฟ Shijō Station ความพิเศษคือ ที่นี่เป็นคาเฟ่ไม้ในรูปแบบวินเทจ ที่นั่งพักและด้านข้างของร้านมีการติดตั้งแผ่นทองแดงที่ถูกออกซิไดซ์ด้วยซอสถั่วเหลืองและแอมโมเนียมคลอไรด์ในปริมาณเหมาะสมเพื่อให้เกิดการกัดกร่อน กลายเป็นสีสนิมออกโทนฟ้า คล้ายกับสี ‘Suetomi Blue’ ซึ่งเป็นสีประจำร้าน SUETOMI เดิมที่อยู่ห่างจากตัวคาเฟ่ไปเพียงสามนาทีเท่านั้น ทำให้นอกจาก SUETOMI AoQ Cafe Stand จะเป็นคาเฟ่คอนเซปต์เก๋ที่ดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นป้ายบอกทางเพื่อนำลูกค้าไปยังร้านเรือธงของ SUETOMI บนถนน Tamatsushimachō อีกด้วย ไม่เพียงเท่านี้ ในช่วงนอกเหนือเวลาทำการ พื้นที่นั่งพักของ SUETOMI AoQ Cafe […]

1 2 3 6

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.