คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการพาร่างกายไปพักผ่อนที่ทะเล แล้วให้สายลม แสงแดด และเสียงคลื่นกระทบฝั่งช่วยบำบัด ภาพวิถีชีวิตแห่งท้องทะเลกำลังดำเนินไปข้างหน้า ทั้งครอบครัวมาพักผ่อนริมหาด ลูกเล็กเด็กแดงวิ่งเล่นบนชายหาด และเรือประมงหลายสิบลำจอดเทียบท่ารอเวลาไปหาปลายามค่ำคืน
สิ่งหนึ่งที่เห็นอยู่บ่อยครั้งคือสีสันสดใสของเรือประมง กลายเป็นภาพจำของทะเลไทยไปโดยปริยาย ทำให้ วินเนอร์-วินชนะ พฤกษานานนท์ Creative Director Koh Munnork Private Island และหนึ่งในเจ้าของธุรกิจเรือนำเที่ยว Sunne Voyage อดสงสัยไม่ได้ว่า เหตุใดเรือประมงถึงมีแค่สีฉูดฉาด รวมถึงธุรกิจเรือท่องเที่ยวทำไมดูคล้ายกันไปหมด แล้วพอเป็นไปได้ไหมที่จะสร้างอัตลักษณ์และเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจเหล่านี้
เขาจึงใช้หัวด้านความคิดสร้างสรรค์ที่เคยเรียนจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ กับหัวด้านธุรกิจที่สืบทอดมาจากครอบครัว มาสร้างเรือไม้ท่องเที่ยว ‘Sunne Voyage (ซัน วอยาจ)’ ด้วยการชูดีไซน์ร่วมสมัย โชว์สีธรรมชาติของเนื้อไม้ ใช้ฝีมือช่างเรือท้องถิ่นคราฟต์งานไม้ทุกชิ้น รับคนท้องถิ่นมาร่วมงาน พร้อมโปรแกรมล่องเรือสุดชิลให้ธรรมชาติเข้ามาช่วยชาร์จแบต เพื่อดึงคนมาเที่ยวระยองและสร้างการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ให้ทะเลระยองครึกครื้นกว่าเดิม
รวมทีม Sunne Voyage
หากเดินเตร็ดเตร่แถวท่าเรืออ่าวมะขามป้อม อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ท่ามกลางเรือประมงสีสันแบบ Maximal เรือไม้ Sunne Voyage กลับเป็นเรือขั้วตรงข้ามที่เน้นความมินิมอลเป็นหลัก ซึ่งวินเนอร์ฟูมฟักโปรเจกต์เรือท่องเที่ยวระยอง ก่อนมาร่วมทีมกับอเวนเจอร์อีก 4 คน ซึ่งรู้จักกันจากรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คือ แก๊บ-ธัญญ์ ภัคพงษ์พันธุ์ชัย, แคท-กิตติธัช สุดประเสริฐ, กัน-กัญจน์ สุวรรณสิทธิ์ และ นิด-นิตยา ชนานุกุล
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2021/07/210701-sunnyvoyage-8-1024x683.jpg)
“เราเริ่มทำคนเดียวมาก่อน มีแรงบันดาลใจมาจากความขัดใจในสีเรือประมงและได้เห็นเรือท่องเที่ยวที่บาหลี เรือเขาสวยมาก สวยมากๆ บวกกับเรื่องธุรกิจว่าทำไมบ้านเขาถึงดึงลูกค้ากลุ่มที่มีรายได้สูงเข้ามาใช้จ่ายในพื้นที่ได้ นั่นเป็นเพราะว่ามีของดีขาย ซึ่งเมืองไทยเองก็มีเรือไม่กี่ลำอยู่ทางภาคใต้ แต่ราคาสูงมากจนคนทั่วไปอาจจะจับต้องไม่ถึงเลย
“ประจวบกับความคิดในตอนนั้นว่าถ้าวันหนึ่งมีเงินคงทำเรือลำหนึ่งในพื้นที่ของเกาะมันนอกที่เราทำอยู่แล้ว มีธุรกิจอะไรสักอย่างที่แตกต่างจากเดิม และทำอย่างไรให้โปรเจกต์ดึงดูดคนเข้ามาในพื้นที่มากขึ้น ตอนนั้นเราเชื่อมั่นในตัวเองมากว่า โห คอนเซปต์ Sunne Voyage แม่งเจ๋งแน่นอน เพราะไม่มีใครทำเรือไม้แบบนี้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือทำมาตั้งนานไม่เสร็จสักที ย้ำคิดย้ำทำเพราะอินกับงานนี้มากเลยตัดสินใจว่าเราต้องมีทีม เพราะถ้าได้คนเก่งเข้ามาช่วยจะยิ่งทำให้มันออกมาได้เร็วและดีขึ้น”
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2021/07/210701-sunnyvoyage-22-1024x683.jpg)
วินเนอร์เอ่ยปากชมว่า ข้อดีของทีม Sunne Voyage คือทุกคน ‘เรื่องมาก’ พร้อมย้ำคำว่ามากให้กับฉันอีกหลายครั้ง เป็นสัญญาณบอกว่าไอ้ความเรื่องมากนี่แหละ ทำให้เรือท่องเที่ยวของพวกเขาออกมาดูดีทุกจุด ซึ่งความเก่งกาจเฉพาะทางของแต่ละคนทำให้ธุรกิจนี้ไปได้ไกลกว่าที่วินเนอร์วาดฝันไว้เสียอีก
“ผมรับผิดชอบหน้างานเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการเขียนแบบ คุมก่อสร้าง การเทรนพนักงาน หรือการบริการลูกค้า ส่วนพี่นิดดูแลเรื่องความสวยงามของพร็อป และช่วยเรื่อง PR ส่วนพี่แคทจะดูแลเรื่องการจัดการทุกอย่างให้เป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นแพลนคอนเทนต์ ตารางเวลาการออกทริป ถือว่าเป็นเจ้าแห่งแพลนเนอร์มากๆ
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2021/07/210701-sunnyvoyage-13-1024x683.jpg)
“ถัดมาคือพี่กัน เป็นกราฟิกดีไซเนอร์ที่มีของมากๆ ทำทุกอย่างได้เร็วและออกมาสวย เขาสื่อสารจิตวิญญาณของ Sunne Voyage ได้ดี สุดท้ายคือพี่แก๊บดูแลเรื่อง PR, คอนเทนต์ และความสวยงามโดยรวม ทุกคนมีความเก่งเฉพาะด้าน แต่สิ่งหนึ่งที่มีเหมือนกัน คือหัวด้านดีไซน์
“ทุกคนเอนจอยกับการได้มองของสวยๆ งามๆ และมีส่วนในการออกแบบเรือ เพราะตอนแรกเราทำเรือออกมาแบบหนึ่ง ซึ่งเราเน้นความ Practical แต่ทุกคนก็งัดเอาความสวยงามมาเบลนด์ให้เข้ากัน จนทำให้ทุกอย่างมันออกมาเพอร์เฟกต์ ผมรู้สึกโชคดีมากๆ”
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2021/07/210701-sunnyvoyage-10-1024x683.jpg)
ผนวกงานดีไซน์กับงานช่างฝีมือ
หลังจากรับลูกค้ากลุ่มแรก ปัจจุบัน Sunne Voyage มีอายุ 8 เดือนอย่างเป็นทางการ แต่ก่อนหน้านั้นพวกเขาใช้เวลาเตรียมการนานถึง 2 ปีกว่า เพราะภารกิจตามหาเรือที่ใช้เวลานานกว่าที่คิด เนื่องจากเรือประมงแต่ละที่ไม่เหมือนกัน จึงต้องหาทรงที่เหมาะกับการทำเรือท่องเที่ยวและสามารถทำให้สวยได้ในแบบที่พวกเขาตั้งใจ ซึ่ง Sunne Voyage เป็นเรือไม้ไซซ์กลางที่โดนโละทิ้ง เพราะกฎหมายการประมงอนุญาตให้เฉพาะเรือขนาดเล็กหาปลาในพื้นที่
“ผมเคยคิดว่าเราเอาเรือประมงลำไหนมาดัดแปลงก็ได้ ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่เลย ต้องบอกก่อนว่าผมเขียนแบบไว้คร่าวๆ ว่าเรือจะออกมาหน้าตาประมาณไหน แต่เรื่องความปลอดภัยและเรื่องเกี่ยวกับเรือ ชั่วโมงบินเราน้อยกว่าคนในพื้นที่ ผมเลยปรึกษาทั้งไต้ก๋ง และช่างทำเรือประมง เรียกว่าเอาความสามารถด้านการดีไซน์ของเรา มารวมเข้ากับความ Practical ของเขา เพราะถ้าไม่มีเขามันจะไม่เกิดเรือซันวอยาจขึ้นเลย
“ชาวประมงต้องออกไปหากินกลางทะเล เวลาทะเลเกรี้ยวกราดมันอันตรายมาก เพราะฉะนั้นเรือประมงต้องแข็งแรง ไม้ต้องดีและแห้ง ช่างจึงต้องมีความชำนาญมาก ส่วนใหญ่หัวเรือเชิดและสูงมาก ยิ่งข้างหน้าสูงเท่าไหร่ ยิ่งสู้คลื่นได้ดี แต่พอมาทำเรือท่องเที่ยวดันไม่เหมาะ เพราะจะทำให้เราเดินยากมาก บางทีต้องคลานขึ้นไป ทำให้ต้องหาเรือทรงอื่นที่เอามาแปลงเป็นพื้นที่ใช้สอยได้ เรามองหาเรือประมาณเกือบปีกว่าจะเจอเรือที่ใช่และราคาเหมาะสม”
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2021/07/210701-sunnyvoyage-18-1024x683.jpg)
แน่นอนว่าช่างเรือประมงคุ้นชินกับเรือหาปลา หรือเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ แต่เรือ Sunne Voyage ไม่ต่างอะไรกับ ‘แกะดำ’ ทำให้เราอดสงสัยไม่ได้ว่าตอนกางแบบให้ช่างเรือดู เขาสงสัยไหมว่าวินเนอร์กำลังทำอะไร สิ้นประโยคเขาพยักหน้าและตอบว่า “ใช่” อย่างไม่ลังเล
“ช่วงที่เขาลากเรือขึ้นไปบนคานเรือ มีเรือประมงสีๆ อยู่เต็มไปหมดเลย วันแรกเรากางแบบคุยกับช่างเงียบๆ พักหลังเริ่มมีคนอื่นเดินเข้ามาดูว่าทำอะไร ทำไม่ได้หรอก และใช่ครับ ทำไม่ได้ บางทีทำแล้วเสีย แก้แล้วแก้อีกอยู่อย่างนั้น บางจุดแก้สี่รอบเลยครับ (หัวเราะ)”
วินเนอร์เสริมว่าเขากับช่างเรือมีกระทบกระทั่งกันบ้างในช่วงแรก และทุกครั้งที่กลับมาเรือ Sunne Voyage จะเปลี่ยนหน้าตาไปเสมอ เพราะในมุมของช่างเรือมองว่าไม่สวยเขาเลยเปลี่ยนให้ ซึ่งวินเนอร์เล่าให้ฟังและอดหัวเราะกับเหตุการณ์เซอร์ไพรส์ในอดีตไม่หาย
“คำว่าสวยของเรามันไม่เหมือนกัน เราค่อยๆ ปรับกันว่าต้องเคารพการตัดสินใจ ผมรู้ว่าสิ่งนี้มันขายได้ แล้วผมเองก็ต้องยอมรับในฝีมือการเข้าลิ่มไม้ที่สวยมากของเขา ถ้าเราไปเจอช่างเฟอร์นิเจอร์จะยิงตะปูเข้าไปเพื่อยึดมัน แต่อันนี้ช่างเรือเข้าได้เนี้ยบมาก ไม่มีรอยตะปูเลย
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2021/07/210701-sunnyvoyage-17-1024x683.jpg)
“หรือแม้กระทั่งเคาน์เตอร์บาร์ พวกผมโดนบ่นเลย เพราะนี่คือไม้ชิ้นใหญ่หนึ่งชิ้นแล้วไสออกมาให้เป็นทรงโค้ง ซึ่งที่เห็นบนเรือคือแฮนด์เมดหมดเลยนะ ถึงแม้ตอนแรกเขาจะบอกเราว่าทำยาก แต่พอให้ทำจริงๆ เหมือนเขาได้ระเบิดของออกมา นี่คือสิ่งที่เราเห็นแล้วตื่นเต้นมาก ผมบอกเลยว่าถ้าเรือดังช่างต้องดังไปพร้อมกับผม”
แก่นหลักคือการดื่มด่ำกับธรรมชาติ
การเติบโตท่ามกลางป่าคอนกรีตมาค่อนชีวิต เห็นความเร่งรีบของคนเมือง และการใช้เวลาอยู่บนถนนมากกว่าการนั่งอยู่ในบ้าน ทำให้เวลาเราพาร่างกายไปปะทะสายลม แสงแดด เห็นทะเลน้ำใสและท้องฟ้าอันกว้างขวางชนิดที่ไม่มีอะไรมาบดบังกลับกลายเป็นเรื่องแปลกใหม่ และโหยหาทุกครั้งเวลาเผชิญหน้ากับมรสุมปัญหาชีวิต จนอยากแบกร่างไปให้ธรรมชาติช่วยฟื้นฟู
เช่นเดียวกับวินเนอร์ที่พูดอย่างเต็มปากว่า ‘ระยอง’ คือ ‘บ้าน’ เพราะเขาค้นพบความสุขอันแตกต่างระหว่างการใช้ชีวิตอยู่ในเมืองกับผืนทะเล ซึ่งหัวใจสำคัญของเรือ Sunne Voyage คืออยากให้คนออกมาอยู่กับธรรมชาติ ได้ระเบิดประสาทสัมผัสทั้งห้า และดื่มด่ำไปกับวิวทิวทัศน์ที่ไม่ได้เห็นบ่อยครั้งในเมืองหลวง แถมยังเป็นที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ อีกต่างหาก ซึ่งเขาอยากให้ลูกค้าได้เผชิญความสุขแบบเดียวกัน
“เราอยากให้คนที่มาขึ้นเรือ Sunne Voyage ชื่นชมธรรมชาติ นึกถึงตอนที่ได้จุ่มน้ำทะเลสีเขียวใส สัมผัสทรายขาวละเอียดนุ่มเท้า มีลมพัดเอื่อยๆ บรรยากาศสบายๆ มีแค่เรากับท้องทะเล นี่คือสิ่งที่เราอยากให้คนสัมผัสได้บ่อยๆ บางทีคนอาจจะไม่รู้ตัวว่าเรากำลังมีความสุขกับสิ่งนั้นอยู่ มารู้ตัวอีกทีคือกูอยู่ในน้ำแล้วอะ (หัวเราะ) ผมว่านี่คือเสน่ห์ของมัน”
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2021/07/210701-sunnyvoyage-15-1024x683.jpg)
ฉันใช้เวลาล่องเรือราว 5 ชั่วโมง Sunne Voyage พาเราไปเยือนเกาะมันใน เกาะมันกลาง และเกาะมันนอกตามลำดับ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ตกผลึกได้หลังจากการไปเที่ยว คือ การเอนจอยไปกับธรรมชาติรอบกาย
ไม่ว่าจะเป็นการนอนอาบแดดแบบไม่แคร์ความร้อนจากดวงอาทิตย์ การนั่งรับลมทะเลไม่กลัวผมกระเซอะกระเซิง การลอยคออยู่ในทะเลน้ำใส โดยมีเสื้อชูชีพเป็นเพื่อนคู่ใจ หรือการชมพระอาทิตย์ตกบนดาดฟ้า ทั้งๆ ที่มันก็คือพระอาทิตย์ดวงเดิมที่เคยเห็นในกรุงเทพฯ แต่กลับรู้สึกพิเศษกว่าเดิมหลายเท่า ทำให้ยืนยันประโยคของวินเนอร์ว่าเขาพูดไม่ผิดเลยสักนิด
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2021/07/210701-sunnyvoyage-21-1024x683.jpg)
เรือประมงเก่า สู่ธุรกิจเรือท่องเที่ยวสมัยใหม่
“เราไม่ได้อยากให้คนมาทำธุรกิจเหมือนกันแล้วแข่งกันเอง นั่นคือสิ่งที่ทุกพื้นที่เป็น มีทัวร์วันเดย์ทริปเหมือนกัน มีเรือยอช์ตเหมือนกัน ทั้งๆ ที่บ้านเรามีทรัพยากรที่สุดยอดมาก ทะเลสวย อุดมสมบูรณ์ ถ้าเรามีอัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ สร้างเป็นมูลค่าแล้วขาย อาจจะรับกลุ่มเป้าหมายจากทั่วมุมโลกได้เหมือนกัน”
วินเนอร์บอกว่า ภาพใหญ่ของธุรกิจที่เขามองหาคือทำให้อำเภอแกลงมีอัตลักษณ์ทางการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ บวกกับหัวด้านธุรกิจ ทำให้เขาเห็น ‘โอกาส’ ที่ไม่มีใครเลือกทำเรือไม้ท่องเที่ยวแบบเขามาก่อน แถมไม่เบียดเบียนกับธุรกิจเดิมในพื้นที่ จึงไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่คว้ามันเอาไว้
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2021/07/210701-sunnyvoyage-1-1024x683.jpg)
การทำเรือท่องเที่ยวของวินเนอร์ไม่อยากให้ธุรกิจ Sunne Voyage จบแค่การหารายได้เข้ากระเป๋าแล้วรวยอยู่คนเดียว แต่อยากสร้างงานให้คนในพื้นที่ และดึงดูดคนมาเที่ยวทะเลใกล้กรุงเทพฯ เพียง 3 ชั่วโมง แต่เต็มอิ่มกับความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ แล้วมีศักยภาพมากพอที่จะเป็นพื้นที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เพื่อให้เศรษฐกิจระยองโตขึ้น
“การอนุรักษ์ในที่นี้ไม่ใช่แค่เชิงสิ่งแวดล้อม แต่รวมไปถึงภูมิปัญญาของระยองจริงๆ สมมติว่าคุณได้มาเที่ยวดำน้ำ 3 เกาะเหมือนเดิม แต่ได้กินอาหารท้องถิ่น ผลไม้จากสวนระยอง หรือขนมทานเล่นบนเรือ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดการท่องเที่ยวแบบกระจายรายได้ เพราะนอกจากคนในพื้นที่ ผู้ประกอบการแวดวงอื่นๆ เช่น ที่พัก ร้านอาหารถิ่น สวนผลไม้ ร้านของฝากก็ได้รับลูกค้าไปด้วย เราว่าเป็นจุดดึงดูดที่น่าสนใจมาก”
“ขายใคร”
“ขายอะไร”
“พาลูกค้าไปทำอะไร”
“รับลูกค้าแค่สิบคนจะเวิร์กเหรอ”
ในวันที่เรือไม้ Sunne Voyage ปล่อยสู่สายตาผู้คน หลายคนเข้ามาถามวินเนอร์ด้วยความสงสัย เพราะธุรกิจเรือท่องเที่ยวละแวกนั้นรับลูกค้า 80 คนต่อรอบ ขณะที่เขารับเพียง 10 คนต่อรอบเท่านั้น จึงไม่แปลกที่ชาวบ้านจะคิ้วขมวดว่า วินเนอร์เอากำไรมาจากไหนกัน
“กลับไปตอนนู้นผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเวิร์กไหม (หัวเราะ) แล้วธุรกิจเรือท่องเที่ยวเดิมที่มีประสบการณ์กันมาก่อนมองว่าไม่เวิร์ก เพราะผมรับลูกค้าแค่สิบคน ทั้งๆ ที่ไซซ์เรือของ Sunne Voyage เขามองว่ารับได้ 40 คนสบายเลย อีกอย่างคือเห็นพระอาทิตย์ตกกันทุกวัน เลยไม่เข้าใจว่าใครจะเสียเงินมาดูล่ะ”
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2021/07/210701-sunnyvoyage-20-1024x683.jpg)
นอกเหนือจากทีมอเวนเจอร์ผู้ปลูกปั้นเรือท่องเที่ยว Sunne Voyage ยังมีพาร์ตของการบริการที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เรียกว่าเป็นความพิเศษในความธรรมดาก็ไม่ผิด เพราะ Sunne Voyage ไม่ได้ชูเรื่องการบริการ Luxury แคร์จำนวนดาว แต่ใช้ ‘ความปลอดภัย’ เป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจเรือท่องเที่ยว เพราะการออกเรือ 1 ครั้งคือการรับผิดชอบชีวิตคน
Sunne Voyage มองหาคนรอบรู้เรื่องทะเล เพราะท้องทะเล หินใต้น้ำ คลื่นลม กระแสน้ำ ความอันตรายของแต่ละที่ไม่เหมือนกัน และให้ความสำคัญกับการจ้างงานคนท้องถิ่นเป็นอย่างแรก ไม่ว่าจะเป็นคนในอ่าวมะขามป้อม แม้แต่ไต๋เรือก็เป็นคนอ่าวจึงมั่นใจได้ว่าการออกเรือแต่ละครั้งปลอดภัยแน่นอน
ส่วนพนักงานทุกคนบนเรือเป็น ‘Certified Lifeguard’ มีความรู้ความสามารถเรื่องการช่วยชีวิต การช่วยเหลือฉุกเฉิน รวมไปถึงเมื่อเกิดกรณีฉุกเฉินทุกคนบนเรือต้องดูห้องเครื่อง และขับเรือแทนกันได้ ซึ่งกว่าจะได้คนทำงานบริการตรงคุณสมบัติตามต้องการ เล่นเอาเหนื่อยพอสมควร แต่นี่คือสิ่งที่ Sunne Voyage ให้ความสำคัญ
หลังจากเปิดบริการเรือ Sunne Voyage ให้แล่นบนผืนน้ำทะเล เหล่านักท่องเที่ยวต่อแถวรอสัมผัสประสบการณ์กันขวักไขว่เป็นเครื่องการันตีว่าสิ่งที่พวกเขาตั้งเป้าหมายเอาไว้มันเวิร์ก รวมถึงการทำงานร่วมกับผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยเอาความเก่งของแต่ละคนออกมาดันการท่องเที่ยวทะเลระยอง แล้วสร้างความหลากหลายให้กับธุรกิจ และยุติวงจร ‘แข่งกันขายถูก’ เพื่อให้เกิดความยั่งยืน
ถึงแม้ที่กล่าวมาข้างต้นจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่ Sunne Voyage พิสูจน์ตัวเองว่าไม่ใช่แค่ ‘ธุรกิจ’ แต่ทำให้ผู้ประกอบการในพื้นที่มองเห็นศักยภาพอีกมุมหนึ่งของตัวเอง ว่าไม่ต้องขายถูกเพื่อเอาจำนวนลูกค้าเยอะ แต่ขายแพงขึ้นมาเล็กน้อย ลดจำนวนคน แล้วเพิ่มคุณภาพ ซึ่งกลายเป็นเรื่องดีที่พวกเขาได้พูดคุย แลกเปลี่ยนแนวทางการทำธุรกิจกันมากขึ้น และยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวทะเลในจังหวัดระยองให้ดีกว่าเดิม
รีสอร์ตเกาะมันนอกธุรกิจคู่ขนานเรือท่องเที่ยว
ระยะเวลาเกือบ 1 ปีที่วินเนอร์สร้างธุรกิจเพื่อชวนคนมาเที่ยวระยองอย่างเรือ Sunne Voyage โลกคู่ขนานของ Koh Munnork Private Island ที่เขาเข้ามารับช่วงต่อธุรกิจครอบครัวอย่างเต็มตัว ซึ่งทั้งสองธุรกิจมีเป้าหมายเดียวกัน คือให้ลูกค้าได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติไร้การปรุงแต่ง และสร้างงานให้กับคนในพื้นที่
ตัวรีสอร์ตเป็นธุรกิจที่ปรับวิถีชีวิตร่วมกับธรรมชาติได้เป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแยกขยะ การใช้หลอดกระดาษ หรือการใช้สบู่แบบ Plant-based ที่ดีต่อลูกค้าและสิ่งแวดล้อม ซึ่งวินเนอร์มีความมุ่งมั่นอยากผลักดันให้รีสอร์ตแห่งนี้ ‘กรีน’ มากกว่าที่เป็นอยู่
“ถ้าคิดว่านี่คือเดอะซิมส์เราอยากให้ Output ออกไปเป็นศูนย์หมดเลย อยากเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วย พลังงานโซลาร์เซลล์ เครื่องกำจัดเศษอาหาร การบำบัดน้ำให้เอากลับมาหมุนเวียนใช้ในเกาะได้ หลังคากักเก็บน้ำฝนได้ การคัดแยกขยะนอกจากเอาไปขายแล้ว เอามาทำโปรดักต์อย่างอื่นได้หรือเปล่า เอาเปลือกไข่มาทำน้ำยาล้างจาน ทำประมงยั่งยืนหาอาหารทะเลให้ลูกค้า ชวนชาวประมงในเดอะซิมส์มาหาวิธีส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกัน
“แต่พอดีว่าโลกแห่งความเป็นจริงมันเลื่อนแท็บไม่ได้ (หัวเราะ) ผมว่าถ้าได้อย่างนั้นมันสนุกเลยนะ คงไม่ขอออกไปไหนอีกแล้ว เวลาคนมาเยี่ยมบ้านก็ชวนไปหาปลากัน น่าสนใจมากๆ เรารู้สึกว่าธุรกิจไปกับสิ่งแวดล้อมได้ วันนี้มันยังเป็นจุดเริ่มต้นมากๆ รู้สึกว่าตัวเรายังมาได้แค่คืบเดียวจากสิบก้าวที่เราอยากไป แต่ด้วยหัวธุรกิจของเรา ก็อยากให้มันพาเราไปถึงโลกเดอะซิมส์ของเราให้ได้สักวันหนึ่ง”
สิ่งหนึ่งที่เราจับจุดได้หลังจากการสัมผัสชีวิตบนเรือ Sunne Voyage และรีสอร์ตเกาะมันนอก 2 วัน 1 คืนคือเรื่องของธรรมชาติ ไม่ว่าเราจะเดินไปทางไหนธรรมชาติก็อยู่ล้อมรอบตัวเราเสมอ จนนึกภาพไม่ออกว่าถ้าวันหนึ่งเราไม่มีทะเลสีคราม น้ำใสๆ ต้นไม้เขียวชอุ่ม หรือหาดทรายสีขาวนวลจะเป็นอย่างไร
“อีกอย่างเราไม่เคยนิยามอะไรเลย แก่นมันมีแค่คุณได้อะไรกลับไป เราหวังว่าเขาจะได้พลังชีวิตกลับไปเต็มหลอด แล้วตระหนักว่าอยากรักษามันไว้ อยากให้เขารู้ว่ามันมีคุณค่า และนี่คือสิ่งพื้นฐานที่ทุกคนควรจะทำ”