ใครเคยไปลอยกระทงแล้วกังวลว่ากระทงของเราจะกลายเป็นขยะที่ทำร้ายโลกอยู่หรือเปล่า เราขอแนะนำให้รู้จัก ‘Bangkok River Festival 2022’ หรือเทศกาลสายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย ครั้งที่ 8 ‘รักษ์ ณ สายน้ำ’ เทศกาลที่จะทำให้การลอยกระทงของเราสนุก อิ่มบุญ และรักษ์โลกได้
งานนี้เขามีเป้าหมายให้คนไทยยังอนุรักษ์วัฒนธรรมอันดีงามเอาไว้ ในขณะเดียวกันก็แก้ไขเพนพอยต์ที่เราต่างมองเห็นกันดี นั่นคือเรื่องขยะจำนวนมหาศาลที่เกิดขึ้นจากเทศกาลลอยกระทง Bangkok River Festival ครั้งนี้เขาจึงปรับรูปแบบกิจกรรมแบบเดิม ๆ และเสริมตัวช่วยใหม่ ๆ เพื่อให้การลอยกระทงเป็นมิตรต่อโลกมากขึ้น อย่างการจัดจำหน่ายกระทงเทียน, การสร้าง ‘บ่อลอย’ ริมน้ำที่รณรงค์ให้ทุกคนมาลอยกระทงตรงนี้แทนที่จะเป็นแม่น้ำ เพื่อให้สามารถจัดการขยะได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงการมีจุดคัดแยกบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วเพื่อปลูกฝังให้หลายคนได้เข้าใจการแยกขยะในชีวิตประจำวันว่ามันง่ายแสนง่ายแค่ไหน
Bangkok River Festival 2022 เทศกาลสายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทยครั้งที่ 8 ‘รักษ์ ณ สายน้ำ’ จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ – 8 พฤศจิกายนนี้ ตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น. (วันลอยกระทงที่ 8 พฤศจิกายน เปิดถึงเที่ยงคืน) ณ 10 ท่าน้ำร่วมสมัย ซึ่งนอกจากจะมีกิจกรรมลอยกระทงแล้ว ในงานยังมีการแสดง บูธขายสินค้าของคนในชุมชน แถมยังมีบริการเรือรับส่งฟรี (Free Shuttle Boat) คอยให้บริการด้วย
ใครยังไม่มีแพลนไปไหนในวันลอยกระทงปีนี้ เราขออาสาพาไปเที่ยว 3 จุดที่คัดมาแล้วเน้น ๆ บรรยากาศจะเป็นยังไง ตามไปดูในอัลบั้มนี้กัน
เทศกาลสายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทยหรือ Bangkok River Festival 2022 ครั้งนี้เขามากับคอนเซปต์ ‘รักษ์ ณ สายน้ำ’ อธิบายให้เข้าใจง่ายก็คือนอกจากจะชวนทุกคนมาลอยกระทงเพื่อรักษาศิลปวัฒนธรรมไทยแล้ว ทางไทยเบฟฯ ก็อยากชวนให้รักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อสังคมและโลกของเราด้วย
งานนี้จัดขึ้นที่ 10 ท่าน้ำร่วมสมัย ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร, วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร, วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร, วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร, วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร, ท่ามหาราช, เดอะล้ง 1919 ริเวอร์ไซด์ เฮอริเทจ เดสติเนชั่น, สุขสยาม ณ ไอคอนสยาม, เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ และศาลเจ้ากวนอู (คลองสาน) ซึ่งเราบอกเลยว่าจะมีความพิเศษแตกต่างกันไป นอกจากจะได้เข้าไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ละที่ยังมีกิจกรรมการแสดงและร้านค้าของคนในชุมชนให้ได้เข้าไปจับจ่ายใช้สอยกันได้ตามใจ
วันนี้เราอาสาพามาเที่ยวทั้งหมด 3 จุด จุดแรกคือ ‘เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์’ ที่เขายกงานวัดมาตั้งไว้ริมน้ำ สิ่งแรกที่เราสังเกตเห็นคือกระทงสีชมพูสดใสขนาดใหญ่ อันเป็นที่ตั้งของ ‘บ่อลอย’ ที่ทางไทยเบฟฯ ตั้งใจสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ จุดประสงค์คือการจัดการเศษขยะหลังลอยกระทงได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาก็ไม่ได้ห้ามลอยลงกระทงในแม่น้ำเสียทีเดียว แต่ไทยเบฟฯ เพียงอยากรณรงค์ให้ทุกคนมาใช้บ่อลอยนี้มากขึ้น เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับสิ่งแวดล้อมให้น้อยลง
มากับคอนเซปต์รักษ์โลกทั้งนี้ นอกจากบ่อลอยที่ตั้งใหม่แล้ว ในงานนี้เขายังรณรงค์ให้ทุกคนมาลอยประทีปหรือกระทงเทียนที่วางขายในบูธใกล้ ๆ นอกจากนี้ยังมีกระทงแบบอื่น ๆ ให้เลือกสรรได้ตามความชอบ อย่างกระทงกะลา กระทงเปลือกข้าวโพด และกระทงดอกไม้สด
และพอจะรักษ์โลกแล้วก็ต้องไปให้สุด ในงานยังมีจุดคัดแยกบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วจากโครงการ‘เก็บกลับ-รีไซเคิล’ ของไทยเบฟฯ ที่แบ่งขยะออกเป็นถัง ๆ ชัดเจน เพื่อให้ทุกคนมาแยกขยะประเภทได้แบบง่าย ๆ นับว่าเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกเรื่องการแยกขยะให้ทุกคนไปในตัว และไม่ได้มีแค่เอเชียทีคฯ เท่านั้นนะ จุดคัดแยกบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วนี้ยังตั้งอยู่ทั้ง 10 ท่าน้ำของงานนี้เลย
ลอยกระทงเสร็จก็อิ่มใจ เราเลยมาหาของกินให้อิ่มท้องกันต่อในโซนงานวัดที่มีอาหารทั้งคาวและหวานเจ้าเด็ดมาตั้งแผงเรียกลูกค้ากันเต็มไปหมด หรือถ้าใครยังไม่หิวก็ไปร่วมสนุกในบูธเกมชิงรางวัล อาทิ บูธปาโป่ง หรือไปนั่งชมการแสดงบนเวทีกันเพลิน ๆ ก่อนได้
เรานั่งเรือ Shuttle Boat ฟรีที่งานนี้มีให้บริการฟรีในทุกท่าน้ำมาเที่ยวจุดที่ 2 ต่อ ซึ่งก็คือวัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อวัดกัลยาฯ วัดเก่าแก่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโต ซำปอกง
บอกเลยว่า ‘บ่อลอย’ ที่วัดกัลยาฯ จัดเต็มไม่แพ้จุดไหน เพราะถูกสร้างขึ้นอยู่หน้าประติมากรรมรูปหัวเรือสุดอลังการ ที่นี่ยังมีกระทงเทียนไว้คอยให้บริการ รวมไปถึงจุดคัดแยกบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วเหมือนกับที่อื่น ๆ
หลังจากลอยประทีปเสร็จ สายมูฯ อย่างเราก็ไม่พลาดที่จะเข้าไปกราบสักการะหลวงพ่อโต หรือพระพุทธไตรรัตนนายก (ซำปอกง) และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้านในตัววัด ขอพรจนสบายใจ เราก็ได้พบกับมัคคุเทศน์ตัวน้อยจากโครงการ ‘เยาวชนเจ้าบ้าน สืบสายวัฒนธรรม’ ที่มาบรรยายประวัติศาสตร์ของที่นี่ให้ฟัง น่ารักและเล่าได้สนุกสนานทีเดียว
เรานั่งเรือฟรีมาต่อยังจุดที่ 3 ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายของวันนี้ นั่นก็คือวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร หรือที่ใครหลายคนเรียกติดปากว่าวัดอรุณฯ ที่ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องพระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก และการขอพรกับหลวงพ่อรุ่งอรุณอันศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงพระปรางค์ 4 ทิศที่มีสถาปัตกรรมอันสวยงาม
บ่อลอยของที่นี่ตั้งใกล้ ๆ พระปรางค์ 4 ทิศที่เราพูดถึง เราไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกครั้ง ก่อนจะเดินต่อไปยังเวทีการแสดงซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจุดคัดแยกบรรจุภัณฑ์ใช้แล้ว ฟังเสียงดนตรีไทยที่น้อง ๆ มาเล่นแล้วรู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก
สุดท้ายเราแวะชิมข้าวต้มมัดเจ้าเด็ดที่มาเปิดแผงขายร่วมกับร้านค้าในชุมชนร้านอื่น ๆ เอนจอยช่วงเวลาเย็นย่ำของวันนี้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องรู้สึกผิดว่าจะทำร้ายโลกมากเกินไป ใครอยากมาใช้เวลาวันหยุดแบบนี้บ้าง ย้ำอีกครั้งว่าเทศกาลสายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทยครั้งที่ 8 จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ – 8 พฤศจิกายนนี้เท่านั้น โดยจะเปิดงานตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น. ของวันที่ 5-7 พฤศจิกายน 2565 ส่วนวันที่ 8 พฤศจิกายนซึ่งเป็นวันลอยกระทงตามประเพณี จะเปิดให้เข้างานตั้งแต่ 17.00-24.00 น. เลย
งานดี ๆ แบบนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มีผู้สนับสนุนใจดีจากภาครัฐและภาคเอกชน นำโดย ททท. และบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เป็นหัวเรือใหญ่ ผนึกกำลังร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กองทัพเรือ กรมเจ้าท่ากรุงเทพมหานคร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมด้วยองค์กรภาคอีกหลายภาคส่วนที่จับมือกันเนรมิตความงดงามให้กับเทศกาลลอยกระทงครั้งนี้