ย่านประสานมิตร
‘ถนนอโศกมนตรี’ เดิมทีนั้นมีชื่อเรียกว่า ‘ถนนอโศก’ ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็นถนนอโศกมนตรี เมื่อปี พ.ศ. 2547 ตามข้อเสนอของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่พระอโศกมนตรี (เรียม เศวตเศรณี) ที่ได้อุทิศที่ดินร่วมกับเจ้าของที่ดินรายอื่นและซื้อที่ดินที่เป็นตลาดเดิมมอบให้กรุงเทพฯ เพื่อนำมาสร้างเป็นถนนแห่งนี้
ปัจจุบันถนนอโศกมนตรี หรือที่คนแถวนั้นเรียกกันติดปากว่าย่าน ‘ประสานมิตร’ ถือเป็นหนึ่งทำเลยอดฮิตที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติ
ถนนอโศกมนตรีมีความยาวประมาณ 1.3 กม. มีจุดเริ่มต้นจากแยกอโศกมุ่งไปทางทิศเหนือในพื้นที่แขวงคลองเตยเหนือ ข้ามคลองแสนแสบเข้าพื้นที่แขวงมักกะสันไปสิ้นสุดที่แยกอโศก-เพชรบุรีซึ่งเป็นจุดตัดกับถนนเพชรบุรีพอดี
นอกจากนี้หากดูจากผังเมืองกรุงเทพฯ ปัจจุบันจะเห็นว่าย่านประสานมิตรเป็นย่านที่อยู่ในพื้นที่สีแดง พ.5 ประเภทที่ดินพาณิชยกรรม ซึ่งหมายถึงเป็นพื้นที่สำคัญกับการเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจ การค้า บริการ นันทนาการ และการท่องเที่ยว รวมทั้งเป็นที่ดินที่สามารถสร้างอาคารสูงและที่อยู่อาศัยได้
ครอบคลุมด้วยระบบการคมนาคมที่มีศักยภาพ
ถ้าถามว่า…ทำเลไหนในกรุงเทพฯ ที่เป็นศูนย์กลางด้านคมนาคม ? หนึ่งในคำตอบต้องมีชื่อย่านประสานมิตรแน่นอน เพราะย่านนี้เป็นย่านที่ได้ชื่อว่าเป็น Interchange ของรถไฟฟ้า BTS และรถไฟฟ้า MRT ถึง 3 สถานี ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก รถไฟใต้ดิน MRT สถานีสุขุมวิท และรถไฟใต้ดิน MRT สถานีเพชรบุรี
จากสถิติการใช้รถไฟฟ้าของคนไทย พบว่า ‘BTS สถานีอโศก’ มีจำนวนผู้ใช้มากถึง 19.5 ล้านคน/ปี ในขณะที่ ‘MRT สถานีสุขุมวิท’ ที่เป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท ทั้งยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานและศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ครองแชมป์ MRT ที่มีผู้โดยสารใช้บริการมากที่สุดถึง 35 ล้านคน/ปี ส่วน ‘MRT สถานีเพชรบุรี’ ติดอันดับ 3 ที่มีผู้โดยสารใช้บริการ 21 ล้านคน/ปี
นอกจากนี้ในย่านประสานมิตร ยังมีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ทั้งทางด่วนพระราม 9 หรือคมนาคมทางเรือ อย่างเรือด่วนคลองแสนแสบ และในอนาคตยังมีโครงการคมนาคม อย่าง รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่กำลังจะถูกพัฒนาขึ้นในบริเวณนี้
การใช้ชีวิตแบบฉบับชาวประสานมิตร
ประสานมิตร เป็น CBD ที่แตกต่างจากย่านสีลม-สาทร ตรงที่ไม่ได้มีแค่พนักงานออฟฟิศ แต่ยังมีนักเรียน นักศึกษา และครอบครัวชาวไทยและครอบครัวชาวต่างชาติที่ใช้ชีวิตอยู่ประจำในทำเลนี้ ทำให้ประสานมิตรมีกลิ่นอายของการใช้ชีวิตจริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่คนเข้ามาทำงานตอนเช้าและกลับออกไปตอนเย็นเหมือนย่านอื่นๆ
ย่านประสานมิตร จึงถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสัน มีคาแรกเตอร์ที่เด่นชัดทำให้เราสามารถใช้ชีวิตตั้งแต่เช้าจรดเย็นได้แบบไม่มีเบื่อ เพราะมีครบตั้งแต่อาคารสำนักงาน สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่แสนอร่อย แหล่งช้อปปิ้งสุดเพลิน ไปจนถึงร้านแฮงก์เอาท์ต่างๆ อารัมภบทกันมาขนาดนี้แล้ว ลองตามเรามาจำลองการใช้ชีวิตดีๆ ที่ย่านประสานมิตรกัน
ประสานมิตร ถือเป็นย่านศูนย์กลางสำนักงานชั้นแนวหน้าของประเทศ ดูได้จากตัวเลขพื้นที่อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ในย่านประสานมิตรที่มีมากถึง 700,000 ตร.ม. และมีราคาค่าเช่าประมาณ 450 – 1,300 บาท/ตร.ม./เดือน
ประสานมิตร ยังเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ พิพิธภัณฑ์ และแกลเลอรีมากมายให้เราเลือกแวะเวียนเข้าไปเยี่ยมชม หรือใครสายปาร์ตี้ก็สามารถสนุกสุดเหวี่ยงไปกับบาร์เก๋ๆ ได้ทุกค่ำคืน นอกจากนี้ในบริเวณย่านยังมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ประกบทั้งหัวและท้ายของถนน อย่าง ‘Terminal 21’ และ ‘Singha Complex’
หรือใครชื่นชอบธรรมชาติ โหยหาพื้นที่สีเขียวก็สามารถออกไปวิ่งหรือพักผ่อนได้ที่สวนสาธารณะ อย่าง ‘สวนเบญจกิติ’ และ ‘สวนเบญจสิริ’ ก็ได้
โครงการ Mega Project รายล้อมตั้งแต่เหนือจรดใต้
ความพิเศษที่ทำให้ย่านประสานมิตรโดดเด่นเหนือกว่าทำเลอื่น คือการเป็นย่านที่ถูกรายล้อมด้วย Mega Project ถึง 4 โครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง – สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา) ที่เป็นโครงการระบบขนส่งมวลชนที่ต่อยอดจากรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟความเร็วสูงในประเทศไทย ภายใต้การร่วมลงทุนระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย และ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด
รวมไปถึงโปรเจกต์ ‘พัฒนาพื้นที่มักกะสัน ขนาด 150 ไร่’ คือการพัฒนาสถานีรถไฟและอสังหาริมทรัพย์ขนาด 2 ล้านตร.ม. มูลค่าการลงทุน 1.4 แสนล้านบาท ที่ประกอบด้วยพื้นที่ค้าปลีก ศูนย์ประชุม โรงแรม ศูนย์วิจัยพัฒนารถไฟ และอื่นๆ โดยมีเป้าหมายหลักคือการรองรับผู้โดยสาร นักท่องเที่ยว และนักธุรกิจ โดยเฉพาะจากพื้นที่ EEC
ห่างออกไปไม่ไกลได้มี ‘การพัฒนาศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์’ ด้วยการพลิกโฉมใหม่ขยายพื้นที่จากเดิมเพิ่มเป็น 180,000 ตร.ม. หรือ 3 เท่าจากพื้นที่เดิม เพื่อให้กลายเป็นศูนย์เอ็กซิบิชั่นดาวน์ทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดในใจกลางเมือง ซึ่งคาดว่าจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในปี พ.ศ. 2565
และพื้นที่ข้างๆ กันก็มีโครงการ ‘The PARQ’ โครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบมิกซ์ยูส มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท มีพื้นที่อาคารรวม (GFA) 320,000 ตร.ม. ตั้งอยู่หัวมุมถนนพระราม 4 ประกอบด้วยสำนักงานระดับพรีเมียมเกรดเอสุดล้ำสมัย และส่วนของพื้นที่ร้านค้า ร้านอาหาร และโรงแรม ที่เชื่อมต่อกันอย่าลงตัว
การเติบโตของคอนโดฯ บนย่านประสานมิตร
ด้วยความเป็นย่านที่คนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากบวกกับเป็นย่านที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย และโครงการ Mega Project หลายโครงการ จึงทำให้ที่ดินของย่านประสานมิตรมีราคาสูงขึ้นต่อเนื่องในทุกๆ ปี
โดยปี พ.ศ. 2551 – 2554 กรมธนารักษ์ได้ประเมินราคาที่ดินบนย่านประสานมิตรอยู่ที่ประมาณ 260,000 บาท/ตร.ว. ก่อนจะคงที่ที่ 400,000 บาท/ตร.ว. มาจนถึงปี พ.ศ. 2558 และสูงขึ้นเป็น 550,000 บาท/ตร.ว. มาจนถึงปัจจุบัน แต่ในความเป็นจริงราคาขายจริงในตลาดนั้นเฉลี่ยอยู่ที่ 1,650,000 บาท/ตร.ว. ซึ่งสูงกว่าที่กรมธนารักษ์ประเมินไว้ถึง 3 เท่า และจากการประเมินราคาที่ดินรอบใหม่ของกรมธนารักษ์ คาดว่าที่ดินย่านประสานมิตรจะมีราคาสูงขึ้นถึง 15% เลยทีเดียว
ส่วนราคาคอนโดฯ เปิดใหม่ในย่านประสานมิตร จากปี พ.ศ. 2554 อยู่ที่ 120,000 – 140,000 บาท/ตร.ม. ส่วนปัจจุบันราคาเฉลี่ยจะขยับขึ้นอยู่ที่ประมาณ 250,000 – 270,000 บาท/ตร.ม. เพิ่มขึ้นมาเป็น 2 เท่าในเวลาไม่ถึง 10 ปี
เพราะประสานมิตรเป็นย่านที่มีนักศึกษา และพนักงานออฟฟิศเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงมีการปล่อยเช่าที่พักอาศัย และส่วนใหญ่นักลงทุนจะปล่อยเช่าเป็นคอนโดฯ ประเภท 1 – 2 ห้องนอน ขนาดประมาณ 35 – 100 ตร.ม. ราคาอยู่ที่ประมาณ 20,000 – 80,000 บาท/เดือน
ซึ่งก็มีหลายโครงการที่น่าสนใจ อย่างเช่น คอนโดฯ Q PRASARNMIT ของอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ที่เปิดตัวในราคาเริ่มต้นเพียง 149,000 บาท/ตร.ม. และมีราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ 160,000 บาทเท่านั้น ที่สำคัญยังมีโปรโมชั่นเอาใจผู้ซื้อด้วยการให้อยู่ฟรี 2 ปีเต็มๆ อีกด้วย
Q PRASARNMIT
ด้วยราคาที่ดินริมถนนในย่านประสานมิตรนั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายเจ้าเลือกที่จะขยับเข้ามาสร้างโครงการคอนโดมิเนียมภายในซอยที่ไม่ไกลจากถนนใหญ่แทน ข้อดีคือนอกจากจะได้ความเงียบสงบ ไม่วุ่นวายแล้ว เรายังได้คอนโดฯ ขนาดเท่าเดิมแต่อยู่ในเรทราคาที่ถูกลง อย่าง โครงการ ‘Q PRASARNMIT’ จาก อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์
‘Q PRASARNMIT’ เป็นคอนโดที่รวบรวมไลฟ์สไตน์ที่หลากหลายของย่านประสานมิตรเข้ามาไว้ด้วยกัน เน้นการออกแบบพื้นเน้นความเป็นส่วนตัว เพราะมีเพียงแค่ 76 ห้องเท่านั้น โดยมีขนาดเริ่มต้น 38 – 72.5 ตร.ม.
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของ ‘Q PRASARNMIT’ ได้จัดสรรสิ่งอำนวยความสะดวกมาให้มากมาย อย่าง ห้องประชุม ฟิตเนส สระว่ายน้ำที่เชื่อมต่อจากยูนิตพิเศษ ห้องซาวน่า ห้องแช่ออนเซ็น และพื้นที่สีเขียวในโครงการ
มาสัมผัสการประสานของความส่วนตัว ไลฟ์สไตล์คนเมือง และทำเลที่อยู่อาศัยรวมออกมาเป็นโครงการ ‘Q PRASARNMIT’ ที่ใกล้ มศว เพียง 120 ม. ในราคาเริ่มต้นเพียง 149,000 บาท/ตร.ม. หรือเริ่มที่ 5.99 ล้านบาท เท่านั้น
สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ananda.co.th/th/condominium/q-prasarnmit
Writer
พัชรี บอนคำ
Graphic Designer
