ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคดิจิทัลเต็มตัว ช่วงที่ทุกคนสามารถทำกิจกรรมทุกอย่างผ่านเทคโนโลยีใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต หรือโน้ตบุ๊กไว้ดูหนังฟังเพลง ประชุมงาน ซื้อขายสินค้า หรือแม้กระทั่งการลงทุนได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจนแทบไม่ต้องลุกเดินทางไปไหน ด้วยวิวัฒนาการของเทคโนโลยีที่เติบโตพุ่งกระฉูด สร้างความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมเพียงแค่ปลายนิ้ว ความรวดเร็วในการติดต่อที่ไม่ต้องเสียเวลานาน และการเข้าถึงข้อมูลแสนง่ายดายต่อคนทุกกลุ่ม
เจน Y เก่งเทคโนโลยีการลงทุน
โดยเฉพาะคนมิลเลนเนียล หรือเจเนอเรชันวาย เกิดในช่วง ค.ศ. 1980 – 2000 ที่ได้รับประโยชน์ทางการเงินมากกว่าวัยอื่น จากรายงานของ Broadridge ปี 2021 พบว่าคนรุ่นมิลเลนเนียลมีสินทรัพย์มากขึ้น รวมทั้งหมดประมาณ 30 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในยุคดิจิทัล และจะเพิ่มอีกสามเท่าในอีก 10 ปีข้างหน้า จากการใช้เทคโนโลยียุคดิจิทัลในการลงทุนทางการเงิน
สาเหตุที่เจเนอเรชันวายสนใจใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการลงทุน ต้องขอย้อนความไปตั้งแต่อดีต พวกเขาเกิดมาท่ามกลางในยุคที่มีอินเทอร์เน็ตเข้ากูเกิล พิมพ์เอกสาร ส่งข้อความหากันได้สบายๆ และล้อมรอบด้วยอุปกรณ์เทคโนโลยีพร้อมเสิร์ฟ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ ทีวี หรือมือถือที่ต้องคลุกคลีทุกวัน ทำให้รู้สึกคุ้นเคยในการใช้เทคโนโลยีและใช้ประโยชน์กับตนเองง่ายดาย
ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีที่ใช้เก่ง เรื่องความรู้ก็แน่นไม่แพ้ใคร พวกเขาเติบโตในช่วงที่ได้เห็นบทเรียนต่างๆ จากรุ่นก่อน ตั้งแต่ช่วงวิกฤตทางการเงินล่มสลายไปจนถึงกลับมาฟื้นฟูสุดรุ่งเรือง สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนภูมิคุ้มกันในการลงทุนครั้งต่อไปอย่างระมัดระวังมากขึ้น เช่น เดิมคนมักจะพุ่งเป้าลงทุนในสิ่งที่คนอื่นว่าดี เราก็เออออตามไปด้วย แต่ทุกวันนี้ทุกคนสามารถศึกษาข้อมูลทุกอย่างในโลกออนไลน์ ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเอง
เทรนด์การลงทุนฉบับมิลเลนเนียล
1. คนไทยลงทุนกับความสุข มากกว่าความมั่นคง*
ข้อมูลของเฟลชแมนฮิลลาร์ด ประเทศไทย บริษัทเกี่ยวกับการสื่อสารกล่าวว่า ชาวมิลเลนเนียลไทยกว่า 70% เชื่อว่า เงินคือตัวแทนของความสำเร็จ ซึ่งเป็นช่วงที่พวกเขากำลังเริ่มต้นทำงานและสร้างเนื้อสร้างตัวในอนาคต แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต พวกเขาสนใจเรื่องออมเงินในการลงทุนต่างๆ ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตนเอง โดยให้น้ำหนักกับการเก็บเงินที่ไม่ทำให้ความสุขของเขาขาดหายไป คือถ้าให้เลือกเก็บเงินไปเที่ยวกับซื้อบ้าน ก็ขอเลือกข้อแรกดีกว่า เพราะคนรุ่นนี้มองว่า ความสุขมีค่ามากกว่าเงินทอง แตกต่างจากคนรุ่นก่อนที่พร้อมทุ่มเททำงานอย่างหนัก เพื่อแลกกับการสร้างความมั่นคงในชีวิต เช่น ซื้อรถยนต์หรือประกันชีวิต
2. ช่องทางดิจิทัลที่ตอบได้ทุกความต้องการของคนไทย
ปัจจุบันคนไทยใช้ประโยชน์กับเครื่องมือการลงทุนในช่องทางดิจิทัลมากกว่าเคย ซึ่งเป็นตัวแทนในการทำธุรกรรมทุกอย่างในสมัยนี้ เช่น เงินเดือนเข้าแอปฯ ธนาคารก็สามารถกดออมเงินต่อในกองทุนต่างๆ ได้ทันที ดังนั้นเทรนด์ของคนเจนวายจึงให้ความสำคัญกับแพลตฟอร์มดิจิทัล มันควรจะมีประโยชน์ครบทุกความต้องการ เช่น ค่าบริการที่คุ้มค่า เทคโนโลยีที่วิเคราะห์แผนการเงินอย่างแม่นยำ การเชื่อมต่อข้อมูลกับบริการอื่นๆ การทำธุรกรรมทางการเงินได้ทุกที่ทุกเวลา หรือปรึกษาเจ้าหน้าที่ได้ทุกเมื่อ เพื่อที่จะสามารถตัดสินใจลงทุนด้วยตนเอง โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางถึงที่ให้เหนื่อยแรง
3. กระจายความเสี่ยง เน้นหลากหลายแนว
จากรายงานของ Broadridge ปี 2021 กล่าวว่าสิ่งที่ทำให้ชาวมิลเลนเนียลมีสินทรัพย์มากที่สุด มาจากการกระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์ อย่างฝากเงินในบัญชีเฉพาะเพื่อการออมเงิน หุ้นหรือกองทุนรวมที่สามารถเลือกได้หลากหลาย เช่น กองทุนเพื่อสิ่งแวดล้อม กองทุนหุ้นหรือกองทุนรวมต่างประเทศ ซึ่งมันสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนให้ตอบโจทย์ในสิ่งที่ต้องการ แถมยังเหมาะแก่การสะสมเงินและเพิ่มมูลค่า นับว่าเป็นวิธีที่รับผลตอบแทนหลากหลาย และป้องกันความเสี่ยงในการพุ่งเป้าลงทุนอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ให้เจ็บหนัก หากบางการลงทุนมีผลการเติบโตลดฮวบหรือหนักสุดล้มละลายเหมือนอดีต
4. ให้ใจกับส่วนรวม มากกว่าส่วนตัว
คนรุ่นนี้มักมีความเป็นตนเองสูง ชอบแบบไหนก็สนใจแต่แบบนั้นมากกว่าที่จะตามกระแส และแคร์สิ่งที่ทำเพื่อสังคม ซึ่งชาวเจนวายมีแนวโน้มที่จะลงทุนกับสิ่งที่มีความรับผิดชอบเพื่อส่วนรวม ถึงขั้นยอมสละผลตอบแทนบางส่วนเพื่อนำไปพัฒนาสังคมได้ เช่น การลงทุนใน Tesla เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและผู้คน หรือ Apple มีความคิดการใช้วัสดุรีไซเคิล เพื่อลดการเกิดขยะและใช้ทรัพยากรสิ้นเปลือง
จากการวิเคราะห์ข้อมูลชาวมิลเลนเนียมในประเทศไทยของบริษัทเฟลชแมนฮิลลาร์ด ประเทศไทยรายงานว่า ไลฟ์สไตล์เด่นของพวกเขาคือ การเป็นตัวของตัวเองสูง เกือบ 80% พวกเขายอมควักเงินจ่ายถ้าเป็นสินค้าที่ตรงกับตัวตนชัดเจน* [สามารถดูแหล่งที่มาเพิ่มเติมจากท้ายบทความ]
ทางด้านธุรกิจการลงทุนทางการเงินต้องให้ความสำคัญกับลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้น ตั้งแต่การแบ่งตลาดลูกค้าเป็นกลุ่มย่อยๆ เรียกว่า Sub-Segment ไปจนถึง Micro Segment ขนาดเล็ก มากไปกว่านั้นการเก็บข้อมูล (Big Data) ก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งสามารถวิเคราะห์ความต้องการเฉพาะทางของลูกค้า รวมถึงนำมาต่อยอดในการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและสร้างมาเพื่อเขาเท่านั้น เช่น การวางแผนทางการเงินสำหรับไปเที่ยวรอบโลก หรือโปรโมชันการลงทุนพิเศษสำหรับคนที่สนใจเรื่องนั้นๆ
หากมองอีกมุมหนึ่ง คนกลุ่มนี้มีความชอบชัดเจน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยึดติดแค่แบรนด์เดียวตลอดไป แน่นอนว่าพวกเขาย่อมไปหาสิ่งที่ดีกว่าอยู่แล้ว ในมุมธุรกิจควรสนใจเรื่อง Brand Loyalty ให้คนกลุ่มนี้รักและอยากใช้สม่ำเสมอ ด้วยการบริการที่ประทับใจ หรือดีไซน์ฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์มากที่สุด พร้อมการตลาดที่พวกเขาเชื่อถือกลุ่ม Influencer ในดวงใจมีผลต่อการซื้อสินค้า 42% เลยทีเดียว* [สามารถดูแหล่งที่มาเพิ่มเติมจากท้ายบทความ]
บริษัทด้านการลงทุนต้องปรับตัว ธุรกิจเกี่ยวกับกองทุนรวมที่กำลังมาแรง ก็ต้องเปลี่ยนแปลงให้เท่าทัน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตอบโจทย์คนได้ทุกประเภท สามารถวางแผนทางการเงินในสิ่งที่ต้องการอย่างยืดหยุ่น และเหมาะสำหรับทุกคนที่มีเงื่อนไขแตกต่างกัน ยิ่งไปกว่านั้นการออกแบบฟังก์ชันการใช้งานและบริการต่างๆ ก็ต้องตอบโจทย์ความต้องการของวัยรุ่นสมัยใหม่ ทั้งการให้ข้อมูล การให้คำแนะนำและความรวดเร็วที่เข้าถึงง่าย
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนพรินซิเพิลจึงพัฒนาแพลตฟอร์มการลงทุนในรูปแบบ mobile application เพื่อให้บริการลูกค้า ทั้งลูกค้ากองทุนรวมและสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กับแอฟพลิเคชัน Principal TH และ Principal Provident Fund
ในปีนี้ แอปพลิเคชัน Principal TH ออกฟีเจอร์ใหม่ “Asset Allocation Plan” บริการแนะนำการจัดพอร์ตการลงทุนแบบกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ต่างๆ ตามระดับความเสี่ยงในการลงทุนของผู้ลงทุน โดยมีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนเป็นรายไตรมาส จากผู้จัดการกองทุน บลจ.พรินซิเพิล ที่มีความเชี่ยวชาญคอยให้ความช่วยเหลือ สร้างความมั่นใจแก่ผู้ลงทุนในการกระจายความเสี่ยงให้เหมาะสมกับภาวะการลงทุน และอยากให้ทุกคนมีแผนทางการเงินที่เหมาะสมกับตนเอง เพื่อที่จะใช้ชีวิตตามที่วางแผนไว้อย่างมีความสุข
ติดตามข่าวสาร ความรู้ และดูข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมจาก บลจ.พรินซิเพิลได้ทุกช่องทางออนไลน์
Facebook : https://www.facebook.com/principalthailand
YouTube : https://www.youtube.com/c/PrincipalThailand
Line : @PrincipalThailand
Website : https://www.principal.th/
โทร. 02-686-9595
#PrincipalThailand #ชีวิตที่คุ้มค่าชีวิตที่เลือกได้
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลของกองทุนรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนรวมที่เปิดเผยไว้ในแหล่งต่างๆ หรือขอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ ก่อนการตัดสินใจลงทุน / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
Sources :
*Brand Buffet | https://www.brandbuffet.in.th/2018/10/thai-millennial-behavior-fleishman-hillard/
Broadridge |
https://www.broadridge.com/_assets/pdf/broadridge-targeting-the-digital-generation.pdf
Hindustan Times |
https://www.hindustantimes.com/business/technology-helps-millennials-invest-more-in-mutual-funds-101622453605721.html
Startups Magazine |
https://startupsmagazine.co.uk/article-why-millennials-are-ultimate-investment-technology-industry
Rabbit Care |
https://rabbitcare.com/blog/life-insurance-category/saving-investment/how-to-saving-for-gen-y
ธนาคารแห่งประเทศไทย |
https://www.1213.or.th/th/flsurveyreport/2561ThaiFLsurvey.pdf
The Matter |
https://thematter.co/social/gen-y-money-case/93674
Writer
