สำหรับชาว LGBTQ+ เดือนมิถุนายนเป็นเดือนแห่งความภาคภูมิใจ เป็นช่วงเวลาแห่งความสนุกสนานที่แฝงไปด้วยการรำรึกเหตุการณ์สำคัญ พร้อมด้วยสายรุ้งวิบวับแวววาว
ซึ่งความภาคภูมิใจของชาว LGBTQ+ นั้นเกิดจากการประท้วงนอก Stonewall Inn ในนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา เมื่อปีค.ศ. 1969 นำโดย Marshall P. Johnson สมัยนั้นมีการจับกุมและมีการใช้ความรุนแรงในผับ Stonewall Inn บ่อยครั้ง ซึ่งเป็นผลทำให้เกิดการปะทะอย่างรุนแรงเป็นเวลาหลายวันระหว่างกลุ่มคนหลากหลายทางเพศและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรียกได้ว่าเป็นการต่อสู้เพื่อยืนหยัดในศักดิ์ศรีและสิทธิเสรีภาพของตัวเองนั่นเอง
ด้วยสาเหตุนี้ทำให้เดือนมิถุนายนสำหรับ LGBTQ+ นั้นมีความพิเศษและสวยงามเหมือนความศรัทธาในรสนิยมของตัวเอง และถูกกำหนดให้เป็นเดือน Pride Month เพื่อเฉลิมฉลองความเท่าเทียมในความหลากหลายทางเพศ โดยถึงแม้ว่าปี ค.ศ. 2020 จะเกิดเหตุการณ์ชวนปวดหัวมากมายจนไม่สามารถชุมนุมเดินพาเหรดได้เหมือนแต่ก่อน แต่ถึงอย่างนั้นการเฉลิมฉลองนี้ก็ยังเกิดขึ้นเหมือนเดิม เพียงแต่มีการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์
#PrideEverywhere เหล่าชาว LGBTQ+ และเหล่าพี่น้องที่สนับสนุนนั้นกำลังปรับเข้ากับสถานการณ์จัดแคมเปญต่างๆ ผ่านโลกออนไลน์ เช่น แคมเปญ #PrideEverywhere นำโดย The Trevor Project เป็นแคมเปญสนับสนุนให้ผู้คนใช้ฟิลเตอร์ #PrideEverywhere แชร์รูปภาพ เรื่องราวของความภาคภูมิใจในตัวตนของตัวเองลงโซเชียลมีเดีย โดยมีสโลแกนว่า
“ความภูมิใจของพวกเราไม่ใช่แค่การเดินพาเหรด แต่เป็นการเฉลิมฉลองความภาคภูมิใจให้ชุมชน LGBTQ+ ของเราเจริญรุ่งเรือง”
NYC PRIDE เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มีหน้าที่วางแผนและจัดทำอีเวนท์ LGBTQ+ ในมหานครนิวยอร์คทุกปี เพื่อรำลึงถึงเหตุการณ์ Stonewall Inn ซึ่งทางภาครัฐก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีทุกครั้ง ในปีนี้ได้ร่วมมือกับ GLAAD จัดทำเทศกาลต้อนรับ Pride Month ผ่านระบบดิจิตอลในช่วงเดือนมิถุนายน มีจัดงานสัมมนาให้ความรู้ งานดนตรี งานแสดงต่างๆ โดยมีนักแสดงมาสมทบกว่า 100 ชีวิต
“ในขณะที่การระบาดของเชื้อไวรัสทำให้เราไม่สามารถมารวมตัวเดินขบวนกันได้ แต่มันก็ไม่สามารถหยุดยั้งเราจากการเฉลิมฉลองความภาคภูมิใจของชาว LGBTQ+ ในนิวยอร์คหรือการยืนหยัดในการต่อสู้เพื่อสิทธิที่เท่าเทียมกัน”
นายกเทศมนตรีเมืองนิวยอร์ก Bill de Blasio กล่าวแถลงการณ์สนับสนุน LGBTQ+ ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
Voices of Pride ด้วยความร่วมมือจาก New York City Dyke March และ Reclaim Pride Coalition จัดทำคอนเสิร์ตเพื่อระดมทุนสนับสนุนสิทธิเสรีภาพและเป็นการช่วยเหลือชาว LGBTQ+ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสระบาด รวมไปถึงนักโทษในเรือนจำนิวยอร์คที่ติดเชื้อไวรัส COVID-19
หน่วยงานที่จัดงานครั้งนี้ต้องการให้ผู้เข้าร่วมระลึงถึงรากเหง้าแห่งความภาคภูมิใจจากเหตุการจลาจลและการประท้วงโดยมีการให้คำแนะนำในการจัดงานอีเวนท์ออนไลน์และให้ความรู้เรื่องความยุติธรรม สิทธิเสรีภาพ สำหรับชาว LGBTQ+ และไฮไลต์สำคัญของงานคือมีการจัดคอนเสิร์ตที่ผู้เข้าชมสามารถรับชมทางบ้านได้ ศิลปินที่เข้ารวมมีทั้ง Blair Medina Baldwin นักดนตรีโฟล์ค – ร็อค, นักร้องนักแต่งเพลงเชื้อสายเอเชีย Cheeyang Ng และอีกมากมายหลายชีวิตที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้
Beef and Buns สำหรับสาวกผู้ชื่นชอบในเรื่องของอาหารการกินก็ไม่น้อยหน้า ทุกท่านสามารถสรรหาอุปกรณ์และร่วมทำอาหารไปกับ Queerly Cooking ซึ่งจัดทำโดย Boston Pride และพ่อครัวผู้มากประสบการณ์ Jonil Casado (จาก Flavours of Palate) สาธิตวิธีการทำเบอเกอร์สไตล์แคริบเบียนผ่านทางเว็บไซต์ cooking-queerly ได้เลย
กิจกรรมที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงการยกตัวอย่างของเทศกาล LGBTQ+ ทั้งหมดที่จัดขึ้นโดยมีการใช้ระบบดิจิตอลเป็นที่ตั้ง ถึงแม้มันเป็นการปรับเข้ากับยุคสมัย New Normal ที่หลายๆ คนกำลังทำความเข้าใจ แต่มันก็เป็นการผลักดันจากงานระดับภูมิภาคเป็นงานที่สามารถเข้าถึงได้ทั่วโลกทันที สำหรับผู้ที่สนใจสามารถค้นหาเทศกาลต่าง ๆ ได้ผ่านทางเว็บไซต์ Good Morning America
การรับรู้ความเจ็บปวดของผู้ถูกกระทำในระดับที่เรียกว่า “เข้าถึงจิตใจ” จะสามารถนำไปสู่การเรียกร้องที่มีประสิทธิภาพ…“สายตา” สามารถบ่งบอกถึงอารมณ์อันคุกรุ่นในจิตใจและเป็นแรงกระตุ้นให้คนรอบข้างเข้าใจความรู้สึกนี้ไปด้วย เราสามารถเข้าถึงจิตใจผู้คนเหล่านีได้คือการ “รับฟังเรื่องราว” ที่เพื่อนมนุษย์ต้องประสบพบเจอมา นั่นก็หมายความว่าผู้ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากความอยุติธรรมนี้ควรยืนหยัดต่อสู้ไปกับพวกเขา หากคุณเข้าใจและเชื่อมั่นในสิทธิเสรีภาพของแต่ละคน การรับฟังสามารถเปลี่ยนเราให้รู้จักใครซักคน และการรับฟังใครซักคนอาจเปลี่ยนโลกใบนี้ได้เหมือนกัน
Sources :
The History Of Pride Month
https://www.nycpride.org/events/pride-2020-dragfest