ในวันที่รู้สึกเคว้ง เศร้า เหงา อึน ไม่รู้จะทำอะไร หรือไปไหนดี หาที่อยู่ให้อารมณ์ของตัวเองไม่ได้ เราขอชวนไปยังสถานที่ และทำกิจกรรมเหล่านี้ เพื่อปล่อยมู้ด ปล่อยใจให้รู้สึกสบาย
01 | SEA LIFE Bangkok Ocean World
ไม่มีที่ไหนเหมาะกับอารมณ์ feeling blues เท่ากับโลกใต้น้ำอีกแล้ว แต่ไม่ต้องไปไหนไกล ในเมืองเรามีอควอเรียมโลกใต้น้ำใหญ่ยักษ์อยู่ที่ สยามพารากอน นี่เอง ซึ่งขอบอกเลยว่าใหญ่ ครบ และสงบมาก ด้วยการจัดสเปซของสถานที่แล้ว ถึงคนเยอะก็ไม่พลุกพล่าน มีจุดให้นั่งดูปลาตามโซนต่า งๆ ซึ่งสามารถนั่งปล่อยใจล่องลอยไปกับฝูงปลาที่ว่ายวนไปมาในแทงค์ได้นานเท่าที่ต้องการ แถมอากาศเย็น และค่อนข้างสลัว บวกกับแสงที่ส่องผ่านตู้ปลา เป็นริ้วคลื่นของน้ำทอดยาวตามทางเดิน และโซนต่างๆ ทำให้เหมือนได้อยู่กับโลกธรรมชาติใต้น้ำจริงๆ เหมาะแก่การนั่งคิดอะไรเพลินๆ หรือถ้าไปนั่งดูเฉยๆ ไม่พอ จะลงไปดำน้ำกับปลาฉลามแบบตัวต่อตัว และขึ้นเรือท้องกระจกดูปลาในแทงค์ร่วมกับคนอื่นๆ ก็ได้ด้วยนะ
02 | ห้องสมุด
สำหรับคนเบื่อๆ อยากหลบหนีความวุ่นวายจอแจในเมือง เราแนะนำให้หลบเข้าห้องสมุด ไม่ว่าจะอยากซึมซับความรู้สึกให้มากยิ่งขึ้นด้วยการอ่านหนังสือที่ตรงกับสถานการณ์ชีวิต หรืออยากจะหลบหนีความคิดเศร้าๆ ไปอ่านอะไรที่บันเทิงใจ แม้กระทั่งหาแรงบันดาลใจให้ชีวิตผ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม ห้องสมุดคือสถานที่ที่ไม่ว่าจะไปกับใคร หรือไปคนเดียว ก็ไม่ต้องรู้สึกว่าตัวเองแปลกแยก หรือไม่มีคู่ เพราะทุกคนไปเพื่ออ่านหนังสือ อยู่ในโลกส่วนตัวของใครของมัน เป็นที่ที่เราสามารถสร้างจินตนาการ ความคิด และจิตใจตามตัวหนังสือที่เลือกอ่าน ทั้งยังได้ฝึกทักษะการอ่าน คิด วิเคราะห์ ฝึกสมาธิ และได้เพิ่มความรู้อีกด้วย แถมการอ่านหนังสือยังเป็นการฆ่าเวลาให้ผ่านไปอย่างรวดเร็วอีกต่างหาก รู้ตัวอีกทีก็ลืมไปแล้วว่าเศร้าเรื่องอะไร
03 | ไปวิ่ง
วิ่ง คือกิจกรรมที่ดีต่อสุขภาพ วิ่งไปเรื่อยๆ ฟังเพลงไปด้วยก็ได้ ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ไม่ว่าจะวิ่งช้าๆ คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ชมนกชมไม้ในสวนสาธารณะตามเส้นทาง หรือจะวิ่งเอาจริงเอาจังเอา ใจไปจ่ออยู่กับจังหวะลงเท้า และการหายใจ ก็ทำให้สมองนั้นหยุดจมอยู่กับความเศร้า และแถมวิ่งเสร็จร่างกายยังหลั่งสารเอนโดรฟิน ทำให้รู้สึกดีมีความสุขมากขึ้นอีกด้วย เป็นกิจกรรมที่ได้อยู่กับตัวเอง ทำอะไรดีๆ เพื่อตัวเอง ที่มีประโยชน์ทั้งกับร่างกายและจิตใจ
04 | ศูนย์วิทยาศาสตร์และการศึกษา และ ท้องฟ้าจำลอง กรุงเทพฯ
เหม่อ เหงา เศร้า เราต้องออกไปดูดาวสิ ดูดาวให้ได้ความรู้แบบไม่ต้องออกเดินทางไปต่างจังหวัด ข้างนอกจะฝนตก ฟ้าปิดก็ดูได้ แค่ไปท้องฟ้าจำลองที่สุขุมวิทระหว่างซอย 40-42 ใกล้ๆ เอกมัยนี่เอง ซึ่งท้องฟ้าจำลองเค้าเพิ่งปรับปรุงใหม่ไปเมื่อไม่กี่ปี มานี้ มีโปรเจคเตอร์ฉายดาวตัวใหม่ ทำให้ดูดาวได้ 360 องศาแบบเต็มตา พร้อมเทคโลโลยีทันสมัยกว่าเดิม เลื่อนซูมได้แบบดิจิตอล การที่ได้อยู่ในที่มืดๆ แหงนหน้าดูดาวและฟังวิทยากร อธิบายเรื่องกลุ่มดาวไปด้วย นอกจากเพลิดเพลินแล้วยังได้ ความรู้อีกต่างหาก เหมือนหลุดไปอยู่ในห้วงอวกาศชั่วขณะเลยล่ะ นอกจากนี้ ในศูนย์วิทยาศาสตร์และการศึกษายังมี exhibition ต่างๆ อีกมากมาย ตั้งแต่ natural science เช่น พวกภูเขาไฟ แผ่นดินไหว ไดโนเสาร์ ไปจนถึงดาราศาสตร์ ซึ่งใช้เวลาได้ทั้งวัน เก็บความรู้และถ่ายภาพ exhibition ต่างๆ ทั้งสนุกเหมือนได้กลับไปเป็นเด็ก และยังให้สมองได้ใช้ความคิด แบบเป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น
05 | BACC Bangkok Art and Culture Center
ปล่อยอารมณ์ติสท์ๆ ทอดน่องเดินดูงานศิลปะที่ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ที่เป็นหอศิลป์แบบ contemporary มีตั้งแต่รูปวาดยันการจัดแสดง media ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ เพลง หรือการแสดงแบบ performing arts ซึ่งจะมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน exhibition ต่างๆ ไปเรื่อยๆ สามารถถ่ายรูปได้ และเหมาะอย่างยิ่งแก่การเป็นที่สำหรับ explore จิตใจ ความรู้สึก และอารมณ์ของตัวเอง การดูงานศิลปะนอกจากซึมซับใน ความสวยงามทางกายภาพของงานแล้ว ยังได้ใช้เวลาสำรวจตัวเองด้วยว่า เราตีความหมายผลงานต่างๆ ออกมาอย่างไร และรู้สึกอย่างไรต่องานศิลปะชิ้นนั้น ผลกระทบที่งานชิ้นนั้นมีต่อเราสามารถบ่งบอกถึงสภาพจิตใจและอารมณ์ของเราได้ไม่น้อยเลยทีเดียว พื้นที่ใหญ่โตใจกลางเมืองตั้งอยู่แค่ตรงแยกสยามสแควร์มาบุญครอง เดินทางสะดวก ลงสถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติก็เข้าตึกได้เลย บางทีการปล่อยให้จินตนาการได้โลดแล่นและเสพงานศิลปะ อย่าง พินิจพิจารณาก็เป็นการทำให้สมองสงบลง สำรวจจิตใจตัวเองได้ดีมากขึ้น และยังทำให้ฟุ้งซ่านน้อยลงอีกด้วย