ทุกครั้งที่เปิดเข้า Netflix ยอมรับเลยว่าใช้เวลาเลื่อนไปเลื่อนมาดูตัวอย่างเรื่องนั้น แอบส่องเรื่องนี้ทีก็ปาไปเกือบชั่วโมงแล้วนะ ทั้งที่ความจริงแล้วในลิสต์รายการของฉันยังดูไม่ครบเลย แต่ก็ยังแอบตั้งความหวังว่าสักวันจะเคลียร์ให้หมด (ขอแอบขำตัวเองได้ไหมนะ) และเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นอีกครั้งช่วงสายของวันเสาร์ระหว่างมื้ออาหารสุดโปรดที่ทำเองกับมืออย่าง ‘ข้าวผัดกิมจิ’ เราใช้เวลานั่งเลื่อนดูหนังใน Netflix เหมือนเคย อยู่ดีๆ ก็ไปสะดุดกับชื่อเรื่อง ‘เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น’ (Café Funiculi Funicula) ยังไม่ทันกดดูตัวอย่างจบเราก็เปิดเข้าไปดูเรื่องเต็มอย่างไม่ลังเล
ส่วนตัวแล้วเราเป็นคนชอบดูหนังญี่ปุ่นอยู่แล้วด้วยโทนสีของภาพที่ไม่ว่าดูเรื่องไหนก็ประทับใจ ลำดับการเล่าเรื่องที่อาจไม่ได้หวือหวาจนน่าตกใจแต่รับประกันได้ว่าต่อมน้ำตาอาจทำงานแบบไม่รู้ตัว หรือรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก
หนังพาเราเข้าร้านกาแฟชื่อแปลกหูที่ชื่อว่า ‘ฟูนิคูลิ ฟูนิคูลา’ เพื่อพบกับ ‘คะสุ’ พนักงานเสิร์ฟสาวทายาทที่รับหน้าที่สำคัญสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ผู้ที่จะพาใครก็ตามที่อยากย้อนเวลากลับไปในอดีตด้วยกาแฟที่รินออกจากมือของเธอ แต่การเดินทางครั้งนี้มีกฎที่ต้องจำให้ขึ้นใจถ้าเกิดทำผิดพลาดอาจไม่มีโอกาสกลับมายังโลกปัจจุบันอีกเลย เตรียมตัวให้พร้อมจับจองที่นั่งในร้านกาแฟตามชอบ แต่อย่าเผลอไปนั่งที่พิเศษเข้าล่ะ เพราะมีไว้สำหรับผู้ที่ต้องการย้อนเวลาเท่านั้น!
กฎของการย้อนเวลามีดังนี้
ข้อที่ 1 เราจะสามารถย้อนเวลาไปพบคนที่ต้องการก็ต่อเมื่อเขาเคยมาเยือนร้านกาแฟแห่งนี้แล้วเท่านั้น
ข้อที่ 2 การย้อนเวลากลับไปจะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย ความเป็นจริงยังคงเป็นไปเปลี่ยนแปลงไม่ได้
ข้อที่ 3 ที่นั่งสำหรับพาเราย้อนไปในอดีตจะมีคนนั่งอยู่ก่อนเสมอ เราจะนั่งได้ก็ต่อเมื่อคนที่นั่งอยู่ก่อนลุกไปแล้วเท่านั้น
ข้อที่ 4 เราจะย้อนกลับไปอดีตได้เฉพาะในช่วงเวลาที่กาแฟยังอุ่นหลังรินใส่ถ้วยเท่านั้น และต้องกลับมานั่งที่เดิมเพื่อดื่มกาแฟจนหมดถ้วยก่อนที่มันจะเย็นลง ถ้ากลับมาไม่ทันต้องกลายเป็นวิญญาณเฝ้าโต๊ะนั้นจนกว่าจะมีคนใหม่มาแทนที่
หากรู้กฎของการย้อนเวลาทั้งหมดแล้วหยุดเวลาให้คิดสักหน่อยว่า ถ้าคุณเป็นส่วนหนึ่งของตัวละครในเรื่องนี้ยังอยากจะย้อนเวลาอยู่ไหม อาจยังไม่ต้องตอบคำถามตอนนี้ก็ได้นะ เก็บคำตอบเอาไว้หลังเรื่องราวจากแก้วกาแฟนี้จบลงแล้วกัน
ท่ามกลางช่วงเวลาที่หนังดำเนินไปเรื่องราวการเดินทางย้อนเวลาผ่านแก้วกาแฟใบแล้วใบเล่า เรารับรู้ได้ถึงบทเรียนที่แตกต่างกันไปตามแง่มุมชีวิตของแต่ละคน เปรียบดังชีวิตเป็นกาแฟที่ดื่มเข้าไปแล้วพบเจอกับรสสัมผัสที่ไม่เหมือนกัน บ้างกลมกล่อมพอดี บ้างขมจนตาหยี บ้างจืดชืดเรียบเฉย แต่นี่สินะ คงเป็นรสชาติของชีวิต
“เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น”
หลังสิ้นเสียงจบประโยคนี้แปลว่าคุณกำลังเดินทางข้ามเวลาไปยังที่แห่งใดแห่งหนึ่งเพื่อพบกับคนสำคัญ และเวลาในอดีตกำลังย้อนกลับมาใหม่อีกครั้ง
กาแฟแก้วที่ 1 | หากรู้สึกรักจงบอกออกไป
กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นโชยควันคลุ้ง หญิงสาวกับชายหนุ่มนั่งอยู่ตรงข้ามกัน เรื่องราวของคู่นี้จะเรียกว่าเป็นคู่รักก็คงไม่ใช่ แต่กลับกลายเป็นความรักที่ก่อขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เมื่อชายหนุ่มตัดสินใจไปทำงานที่สหรัฐอเมริกา การจากลาครั้งนี้ทำให้หญิงสาวที่เห็นเขาอยู่เคียงข้างมาตลอด ตัดสินใจย้อนเวลาไปเพื่อพิสูจน์ใจตัวเองว่าแท้จริงแล้วเธอรักเขามาตลอด สำหรับเรามันอาจไม่ใช่จุดสิ้นสุดความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ถึงแม้การย้อนเวลาจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของเขาได้ แต่มันทำให้เธอรู้ใจของตัวเอง แล้วอนาคตหลังจากนี้มันก็คงขึ้นอยู่กับคนทั้งสองคนแล้วล่ะ
กาแฟแก้วที่ 2 | รักแท้ที่ไม่มีวันลืม
กาแฟแก้วนี้ขมจนเราน้ำตาไหล ปาดน้ำตาครั้งแล้วครั้งเล่าเคล้าข้าวผัดกิมจิที่ยังกินไม่หมด เรื่องราวของคู่รักที่วันหนึ่งเมื่ออายุมากขึ้นความผิดปกติของร่างกายก็กลายเป็นเรื่องที่เกินจะคาดเดา โรคอัลไซเมอร์พรากความทรงจำของภรรยาผู้เป็นที่รัก นี่คงเป็นความเจ็บปวดของสามีที่แม้อยู่ข้างๆ คนรักแต่เธอเห็นเขาเป็นแค่คนอื่น การเลือกที่จะย้อนเวลาของสามีคือการเติมเต็มชีวิตของเขาให้ก้าวต่อไปด้วยกำลังใจจากภรรยาในวันที่ยังจำสามีคนนี้ได้
กาแฟแก้วที่ 3 | อ้อมกอดของครอบครัว
เมื่อเส้นทางที่ครอบครัวขีดไว้กับความฝันเป็นเส้นขนานที่ยากจะมาบรรจบกัน เรื่องราวของคู่พี่น้องที่พี่สาวตัดสินใจเลือกทางเดินของตัวเอง ทิ้งกิจการของครอบครัวไว้ให้น้องสาวรับผิดชอบ จนวันหนึ่งความตายมาถึงโดยไม่รู้ตัว น้องสาวเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ การตัดสินใจเดินทางย้อนเวลาครั้งนี้แม้จะยากเพราะรู้ว่าไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกแล้ว แต่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของชีวิตพี่สาวอย่างสิ้นเชิง ครอบครัวกลายเป็นอ้อมกอดที่เธอเลือกที่จะรักษาไว้ให้ดีที่สุดและเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตที่พี่สาวคนนี้จะทำ
กาแฟแก้วที่ 4 | พลังรักของแม่
กาแฟแก้วสุดท้ายเป็นปมของ ‘คะสุ’ หญิงสาวผู้รับหน้าที่พาทุกคนย้อนเวลามาตั้งแต่ต้นเรื่อง เพราะการจากไปของแม่ที่ขอย้อนเวลาแล้วกลับมาไม่ทัน นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา แม่ของเธอก็กลายเป็นวิญญาณเฝ้าโต๊ะที่คะสุเฝ้ามองมาตลอด และยังไม่เคยรู้ถึงเหตุผลของแม่ในการย้อนเวลาครั้งนั้น จนวันหนึ่งคะสุตัดสินใจที่จะย้อนเวลากลับไปแล้วก็รู้ความจริงที่ว่า แม่ของเธอขอย้อนเวลาไปยังอนาคตเพื่อพบกับตัวเธอเอง
“ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด!”
เสียงเครื่องวัดอุณหภูมิเตือนบอกว่ากาแฟกำลังจะเย็นลงแล้วถ้าไม่รีบกินกาแฟให้หมด สุดท้ายแล้วคะสุเองก็ได้รู้เหตุผลที่แท้จริงว่าความรักของแม่คอยหล่อเลี้ยงเธอมาจนถึงทุกวันนี้
เรื่องราวของภาพยนตร์เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น ถึงจะเป็นเรื่องชวนฝันที่ยากจะเกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริง แต่การย้อนเวลากลับไปทั้งในอดีตหรืออนาคตในหนังเรื่องนี้กลายเป็นส่วนที่ช่วยเติมเต็มตัวละครทุกตัวได้เป็นอย่างดี แม้จะกลับไปแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ก็ตาม
“เพราะเวลาไม่เคยปรานีใคร มัวแต่รีรอเวลา
ทั้งปัจจุบันหรืออนาคตที่กำลังจะมาถึงก็กลายเป็นอดีตไปหมด”