ไม่มีอะไรดีไปกว่าเบียร์สดสักเหยือกหลังการโหมงานอันสาหัสตลอดทั้งวัน
หนึ่งในสถานที่ยอดนิยมสำหรับเหล่าคนทำงานหลังเวลางานเลิกก็คือบาร์ ร้านนั่งดื่ม และสถานบันเทิงอื่นๆ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ร้านนั่งดื่มดีๆ แข่งกันเปิดแย่งลูกค้ากันดุเดือดแม้ในบริเวณใกล้เคียง หากไม่ใช่ร้านประจำ เราดูจะใช้เวลาเพิ่มมากขึ้นทุกทีในการเลือกสรรเหล่าสถานที่หย่อนใจกับเพื่อนๆ ในแต่ละค่ำคืนเพื่อพักผ่อน
ซึ่งจริงๆ แล้ว ชีวิตหลังพระอาทิตย์ตกดินของผู้คนในกรุงเทพมหานครนั้นมีความหลากหลายกว่าการสังสรรค์ในร้านเหล้า หากลองสำรวจดูจะพบว่าในพื้นที่ที่เราอาศัยอยู่ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้การนั่งดื่ม ดังที่ชาวโลกหลายคนได้เคยกล่าวไว้ว่ากรุงเทพฯ เป็นนครที่ไม่เคยหลับใหล
1. ตลาดนัดกลางคืน
เปลี่ยนจากการแฮงเอาต์กับมิตรสหายในบาร์สาขาประจำ มาใช้เวลาเดินเล่น ช้อปปิงสินค้าในดงของมือสอง หรือหาของกินมื้ออร่อยจากร้านอาหารเจ้าดังในตลาดนัดกลางคืนก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทั้งนั้น
วัฒนธรรมการเดินตลาด Night Market จริงๆ แล้วมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน ตั้งแต่ตลาดไฟฉายและตลาดกลางคืนที่สนามหลวงไล่เรื่อยมาจนถึงตลาดสุดฮิตรุ่นหลานอย่างตลาดนัดรถไฟ ซี่งแม้ตลาดรุ่นบุกเบิกหลายๆ ที่จะโยกย้ายสถานที่ ปรับเปลี่ยนรูปแบบ หรือแม้แต่ปิดตัวลงไปแล้ว แต่ในปัจจุบันเราก็ยังมีตลาดกลางคืนที่เป็นที่นิยมหลงเหลืออยู่ในจำนวนที่น่าพอใจ ตลาดกลางคืนที่เป็นที่นิยม นอกจากตลาดนัดรถไฟแล้วยังมีตลาดยิปซีที่ขึ้นชื่อเรื่องของสินค้าวินเทจและชิ้นส่วนรถยนตร์โบราณ JJ Green ที่เป็นแหล่งรวมสินค้ามือสองทุกรูปแบบ และล่าสุดคือเหล่าของทำมือจากศิลปินชื่อดังที่โครงการช่างชุ่ย
นอกจากจะทำหน้าที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางเลือกแล้ว ตลาดนัดกลางคืนเหล่านี้ยังเป็นอีกหนี่งศูนย์รวมการค้าปลีกขนาดย่อม ที่คอยเป็นตัวกระตุ้นความคึกคักอย่างดีให้กับระบบเศรษฐกิจระดับชุมชนอีกด้วย
2. เสาะหาของกินร้านเด็ดยามดึก
อีกหนึ่งความภาคภูมิใจอันสูงสุดของคนไทยที่ชาวต่างชาติพร้อมใจกันยกย่องกล่าวขวัญอย่างสม่ำเสมอ ก็คือเรื่องรสชาติ ราคา และความสะดวกในการเสาะแสวงหาของกิน ยิ่งสำหรับกรุงเทพมหานคร แม้แต่ในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนถึงก่อนรุ่งสางก็ยังหาร้านอาหารเจ้าเด็ดที่เปิดโต้รุ่งแข่งกับแสงตะวันได้ไม่ยาก
ซึ่งส่วนหนึ่งของที่มาวัฒนธรรมการกินดึกนี้ก็มาจากกลุ่มลูกค้าหลังช่วงเวลาปิดของสถานบันเทิงและบาร์ต่างๆ ที่ต้องการจะหาอะไรรองท้องก่อนแยกย้ายกันเดินทางกลับบ้าน ดังนั้นร้านอาหารเจ้าเด็ดทั้งหลายที่ปิดเช้า หรือเปิด 24 ชั่วโมง ก็มักจะอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ
แม้จะไม่ใช่นักดื่มคอทองแดง แต่การคอยเที่ยวเสาะหาและลิ้มรสชาติจากร้านอาหารค่ำคืนและสตรีทฟู้ดทั้งหลายก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการสังสรรค์ที่น่าสนใจไม่แพ้การนั่งใน Bistro & Bar เช่นกัน
3. บอร์ดเกมคาเฟ่
บอร์ดเกมที่เราเคยโปรดปรานในสมัยเด็กได้กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งแล้ว แต่ในรูปแบบที่สากลและร่วมสมัยมากขึ้น บอร์ดเกม และบอร์ดเกมคาเฟ่ที่เปิดให้บริการดึกได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมป็อปยอดนิยมในประเทศของเราในช่วงสองถึงสามปีหลังมานี้ การเล่นบอร์ดเกมนอกจากจะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์และละลายพฤติกรรมเบื้องต้นได้ดีแล้ว ยังเป็นอีกกิจกรรมยอดนิยมที่สามารถทำได้ตลอดคืนอีกด้วย
หากใครที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์กับบอร์ดเกมมาก่อน ขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วยเกมง่ายๆ แต่เพลิดเพลินอย่าง The Settlers of Catan หรือ Ultimate Werewolf ซึ่งนอกจากเราจะได้เห็นเนื้อแท้ของเหล่าสหายรักแล้ว บอร์ดเกมยังช่วยฝึกสมอง พัฒนาความจำ รวมไปถึงทักษะเฉพาะทางต่างๆ สำหรับชนิดเกมอีกด้วย
4. ขี่จักรยาน
เป็นอีกหนึ่งการออกกำลังกายที่พัฒนากลายมาเป็นไลฟ์สไตล์ยอดฮิตที่สอดคล้องกลมกลืนไปกับวิถีชีวิตของคนเมืองในยุคปัจจุบันได้อย่างงดงาม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการรณรงค์ด้านการคมนาคมทั้งจากหน่วยงานรัฐและประชาชนด้วยกัน ถึงประโยชน์มากมายของการปั่นจักรยาน การปั่นจักรยานยามค่ำคืนเป็นที่โปรดปรานของหลายๆ คนเนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มีอุณหภูมิไม่สูงเท่าตอนกลางวัน และมีสภาพจราจรที่ไม่หนาแน่น
แต่การปั่นจักรยานในช่วงเวลากลางคืนก็มีความอันตรายอยู่ ทั้งจากอุบัติเหตุจราจร ความมืด และอาชญากรรม อุปกรณ์ส่องสว่าง หมวกนิรภัย และกฎระเบียบมารยาทในการใช้ถนนจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและขาดไม่ได้สำหรับนักปั่นจักรยานยามค่ำคืน และควรเดินทางเป็นหมู่คณะ ควบคู่ไปกับการกำหนดเส้นทางที่ชัดเจน จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุและทำให้การเดินทางมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
5. ถ่ายภาพเมืองยามค่ำคืน
วัฒนธรรม Visual Culture เติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วง 4 – 5 ปีมานี้ ด้วยเทคโนโลยีด้านเลนส์และกล้องขนาดเล็กในโทรศัพท์มือถือทำให้การถ่ายภาพกลายมาเป็นงานอดิเรกพื้นฐานของผู้ใช้สมาร์ตโฟนทุกคนโดยปริยาย ไม่เพียงการเพิ่มของจำนวนช่างภาพสมัครเล่นเท่านั้น วัฒนธรรม Visual Culture ในปัจจุบันยังช่วยทำให้คนทั่วไปเข้าใจและเข้าถึงงานภาพถ่ายและงานศิลปะแขนงอื่นๆ ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย อีกทั้งกรุงเทพฯ ยังเป็นอีกหนึ่งมหานครที่เปี่ยมไปด้วยมีสีสันยามค่ำคืน โดดเด่นและน่าสนใจสำหรับชาวต่างชาติเสมอ เรามักจะเห็นได้จากงานของช่างภาพแนว City Scape จากทั่วโลกมากมายที่แวะเวียนเข้ามาสร้างสรรค์ผลงานภาพถ่ายแสงไฟของเมืองตลอดปี การถ่ายภาพยามค่ำคืนจึงเป็นกิจกรรมและงานอดิเรกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ อีกทั้งยังง่ายต่อการเริ่มต้นและฝึกฝนพัฒนาทักษะ
วิธีการถ่ายที่นิยมขึ้นมากในช่วงเวลานี้คือการถ่ายภาพแบบ Street ซึ่งเป็นวิธีการถ่ายภาพที่ร่วมสมัยและมีกลุ่มสังคมที่การถ่ายภาพที่เหนียวแน่นทั่วโลก กลุ่มนิยมภาพสตรีทในเมืองไทยที่โด่งดังที่สุดก็คือกลุ่ม Street Photo Thailand ที่ปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมอยู่ใน Group Facebook ราว 30,000 คน สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook
6. ทำงาน
ใช่แล้ว สำหรับคืนวันศุกร์แห่งชาติ และวันหยุดสุดสัปดาห์ทั้งหลาย ขณะที่เพื่อนๆ กำลังสังสรรค์สุดเหวี่ยงกันอยู่ จะมีอะไรดีไปกว่าการได้ใช้เวลาอยู่คนเดียวเพื่อนั่งเคลียร์งานที่คั่งค้างหมักหมมให้เสร็จสิ้นกันล่ะ
เป็นโชคดีของคนกรุงเทพฯ ในปัจจุบันนี้ที่วัฒนธรรมการนั่งทำงานที่ร้านกาแฟหรือคาเฟ่นั้นเป็นที่นิยมขึ้นมาก ปัจจัยหนึ่งก็คืออุปนิสัยของคนหนุ่มสาวที่ทำงานประจำน้อยลงและรับจ้างอิสระมากขึ้น ทำให้เกิดการเพิ่มจำนวนของคาเฟ่ 24 ชั่วโมงมากขึ้นทุกปี รวมไปถึง Co-working Space ทั้งหลายที่แข่งขันกันให้บริการยันเช้าเพื่อเอาใจหนุ่มสาวชาวรักงานทั้งหลาย
ดังนั้น หากคืนนี้นึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะไปลงเอยที่ทองหล่อหรือเอกมัยดี ก็โปรดอย่าลืมไปว่ามี Folder ไหนบน Desktop หรือเปล่าที่กำลังรอให้เราไปเยี่ยมเยียน และใช้เวลาทั้งคืนกับมันที่ค่าเฟ่ 24 ชั่วโมงสักร้านอย่างมีความสุข
การสังสรรค์หย่อนใจเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการทำงานเสมอ หากเราจัดการเวลาและความเหมาะสมของการสังสรรค์ จะส่งผลโดยตรงต่อสภาพจิตใจและพลังงานที่จำเป็นต้องใช้ในการทำงานวันต่อๆ ไปได้ดี การสังสรรค์ด้วยแอลกอฮอล์ก็เป็นวิธีหนึ่ง แต่ก็อย่าได้ลืมไปว่ายังมีอีกหลากหลายกิจกรรมหลังเลิกงานที่สามารถทำได้ และบางครั้งก็ได้ประโยชน์ที่คาดไม่ถึงตามมา โดยไม่ต้องจำกัดสถานที่อยู่แค่ในบาร์และร้านนั่งชิล