มีเพื่อนคนหนึ่งชอบมาบ่นกับเราอยู่บ่อยๆ “ออกกำลังกายแล้ว เหงื่อก็ออกแล้ว ทำไมไม่เห็นผอมสักที” ทุกครั้งที่มันมาบ่น เราก็ได้แต่ขำเพราะไม่รู้จะตอบมันยังไง แล้วก็ขอยอมรับตรงนี้เลยว่าเราก็เป็นอีกคนหนึ่งที่อยากผอม แล้วก็ออกกำลังกายอยู่บ่อยๆ แต่ละครั้งก็ทำได้แค่แป๊บเดียว พอมีเหงื่อก็หยุด เลิก พอแล้ว เหนื่อยแล้ว จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ผอมสักที และเราก็เชื่อว่ามีหลายๆ คนที่คิดว่าการที่เราออกกำลังกายแล้วเหงื่อออกนั้นจะทำให้น้ำหนักตัวของเราลดลง ยิ่งเหงื่อออกมาก น้ำหนักก็ยิ่งลดมาก วันนี้เราจะมาดูกันว่าในความจริงแล้วความคิดที่ว่า ‘เหงื่อออกแล้วจะทำให้เราผอมลง’ เป็นเรื่องจริงหรือเราแค่คิดไปเอง
ทุกๆ ครั้งระหว่างออกกำลังกาย ร่างกายของเราจะขับเหงื่อออกมาทางผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นเหงื่อซึมๆ จากการออกกำลังกายเบาๆ อย่างโยคะ ไปจนถึงเหงื่อที่ชุ่มตัวจากการเข้ายิม แต่รู้มั้ยว่าเหงื่อที่ผุดออกมาทางผิวหนังอาจจะทำให้น้ำหนักลดลงก็จริง แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เราผอมลง เพราะเหงื่อเป็นเพียงน้ำที่ร่างกายของเราขับออกมา ทุกครั้งที่เราออกกำลังกาย ความร้อนในร่างกายจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น และถ้ามันร้อนมากๆ ก็จะทำให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้นร่างกายจึงต้องระบายความร้อนโดยการขับเหงื่อออกมา และการที่น้ำหนักของเราลดลงเนื่องจากเหงื่อที่ออกมาหลังจากที่ออกกำลังกายนั้นเป็นเพียงน้ำหนักที่หายไปเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น เพราะเมื่อเราดื่มน้ำเข้าไป น้ำหนักก็จะขึ้นมาอีกเช่นเดิม หรืออาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ นั่นทำให้เห็นว่าการที่เหงื่อออกไม่ได้หมายความว่าเราจะผอมลงซะหน่อย
เหงื่อที่ผุดออกมาทางผิวหนังของเราไม่ว่าจะเป็นตอนที่เราออกกำลังกายอยู่ในยิม เวลานุ่งกระโจมอกเข้าห้องอบซาวน่า เวลาเราตื่นเต้นก่อนจะบอกชอบใครสักคน ตอนที่เครียดเพราะโดนเจ้านายด่า หรือเพราะอากาศร้อนๆ จากแดดที่แผดเผา ไม่ว่าจะเป็นเหงื่อที่เกิดจากเหตุผลไหนๆ ส่วนประกอบหลักๆ ของมันคือน้ำที่มีอยู่ถึง 99 เปอร์เซ็นต์ และที่เหลืออีก 1 เปอร์เซ็นต์จะเป็นพวกเกลือแร่ต่างๆ อย่างโซเดียมและยูเรียที่ทำให้เหงื่อของเรามีรสเค็ม และที่สำคัญก็คือ เหงื่อของเรามีไขมันเป็นส่วนประกอบก็จริง แต่มีน้อยมาก ดังนั้นการที่เหงื่อออกมาไม่ได้หมายความว่าไขมันของเราหลุดออกมากับเหงื่อด้วย ถ้าคุณเป็นอีกคนที่คิดว่าการที่เหงื่อออกเยอะแสดงว่าระบบเผาผลาญในร่างกายของเราทำงานได้ดี ขอบอกไว้ตรงนี้เลยนะคะว่า เหงื่อและระบบเผาผลาญแทบจะไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย
ถึงแม้ว่าเหงื่อที่ออกไปจะทำให้น้ำหนักลดลง และอาจจะมีบางคนคิดว่า ก็ไม่ต้องกินน้ำสิ น้ำหนักจะได้ลด ไม่ต้องขึ้นมาอีก ขอบอกเลยว่า ห้าม! คิดแบบนั้นเด็ดขาดนะคะ เพราะว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของร่างกายคนเราประกอบด้วยน้ำ นั่นหมายความว่าน้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญมากๆ ต่อร่างกายของเรา และถ้าร่างกายขาดน้ำก็จะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายของเราได้ ตั้งแต่ผิวพรรณแห้งกร้าน ไตทำงานหนัก ส่งผลให้ปวดศีรษะ เป็นตะคริว ความดันสูง เกิดอาการบวมน้ำ และอาจจะถึงขั้นช็อกและเสียชีวิตได้
เห็นแล้วใช่มั้ยคะว่าผลเสียที่ตามมามีเยอะแยะไปหมด ดังนั้นเวลาเราออกกำลังกายเหนื่อยๆ เราควรจะดื่มน้ำทุกๆ 10 – 15 นาที และต้องดื่มน้ำในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะถ้าดื่มมากเกินไปก็จะทำให้จุกได้ แต่ถ้าวันไหนเราออกกำลังกายเป็นเวลานานมากกว่าหนึ่งชั่วโมงขึ้นไป เราก็ควรจะดื่มน้ำที่มีเกลือแร่ผสมด้วยนะคะ เพื่อทดแทนเกลือแร่ที่ร่างกายสูญเสียไปนั่นเอง
แต่ถ้าคุณอยากให้น้ำหนักตัวของคุณลดลงอย่างถาวร สิ่งที่ต้องทำก็คือคุณต้องกำจัดไขมันออกไป ซึ่งมีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่จะทำให้ไขมันในร่างกายของคุณหายไปและไม่มีวันกลับมากวนตัวและกวนใจอีกนั่นก็คือ คุณต้องใช้พลังงานให้มากกว่าพลังงานที่ร่างกายได้รับเข้ามา หรือพูดง่ายๆ ก็คือการออกกำลังกายนั่นเอง ซึ่งการออกกำลังกายที่จะทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันได้ควรจะใช้เวลา 40 – 60 นาที ขึ้นอยู่กับประเภทของการออกกำลังกาย และที่สำคัญที่สุดคือความสม่ำเสมอ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องออกกำลังกายสัปดาห์ละ 7 วันนะคะ เพียงแค่สัปดาห์ละ 3 – 4 ครั้งก็จะทำให้ระบบเผาผลาญของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และรับรองว่าไม่เกินหนึ่งเดือนคุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของร่างกายอย่างแน่นอน
Photo Credits :
HuffPost | www.huffingtonpost.com
Mcgooi | www.mcgooi.nll
ok diario | okdiario.com
Writer
