ฉากเปิดของ ‘Minari’ (มินาริ) ฉายภาพ ‘ครอบครัวอี’ ผู้อพยพชาวเกาหลีใต้ ประกอบไปด้วย เจค็อบ หัวหน้าครอบครัว, โมนิกา ภรรยา, แอนน์ ลูกสาวคนโต และ เดวิด ลูกชายคนเล็ก ที่หอบหิ้วความหวังเดินทางข้ามซีกโลกเพื่อมาเริ่มต้นใหม่ในรัฐอาร์คันซอ สหรัฐอเมริกา ด้วยการทำฟาร์มบนผืนหญ้าขนาด 5 เอเคอร์
ความฝันที่อยากปลูกพืชผลให้งอกงามเต็มพื้นที่ แปรผกผันไปกับความกังวลของโมนิกาผู้เป็นแม่อย่างสิ้นเชิง เธอโหยหาชีวิตแบบเดิมที่มั่นคงมากกว่า แม้จะไม่ก้าวหน้าหรือฟู่ฟ่าอย่างที่หวัง เพราะครอบครัวอีมีภาระที่ต้องจัดการมากกว่า ‘ความฝัน’ ที่ต้องใช้เวลา 3 – 5 ปี ถึงผลิดอกออกผล พร้อมเงินเก็บก้อนสุดท้ายที่ไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้หกล้มเลย เจค็อบและโมนิกาจึงทำงานคัดแยกลูกเจี๊ยบควบคู่ไปกับการทำฟาร์ม เพื่อหารายได้อีกทางหนึ่ง
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2021/03/uc-minari20-1024x576.jpg)
ตลอดทั้งเรื่องเราเห็นความเป็นอยู่ของครอบครัวอีที่ต้องประสบเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตที่มีทั้งขาขึ้นและขาลง ราวกับรถไฟเหาะในสวนสนุก ซึ่งระหว่างทางพวกเขาต้องเจออุปสรรคเข้ามาอย่างถาโถม เพื่อเป็นบททดสอบว่าพวกเขายังคงจับมือกันต่อไปหรือเปล่า
กลิ่นยายเป็นกลิ่นเกาหลี
มินาริถูกเติมเต็มความอบอุ่นด้วย ‘ซุนจา’ คุณยายที่มีความเป็นเกาหลีร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเกิด เติบโต และใช้เวลาทั้งชีวิต อยู่ในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งแตกต่างจากหลานรักทั้งสองคนที่เติบโตอยู่อีกฟากหนึ่งของโลก ทำให้วัฒนธรรมต่างขั้ว การใช้ชีวิต และคำพูดคำจาผิดกับอเมริกันชนลิบลับ ทำให้ไอ้ตัวเปี๊ยกของบ้านบ่นออกมาว่า “ยายมีกลิ่นเกาหลี!”
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2021/03/uc-minari09-1024x576.jpg)
ความเกาหลีร้อยเปอร์เซ็นต์ของซุนจา ค่อยๆ หล่อหลอมและปรับตัวเข้ากับสิ่งต่างๆ รอบข้างคล้ายกับ ‘ผักมินาริ’ ที่เติบโตตรงไหนก็ได้ ถึงแม้คนภายนอกอาจมองว่าเป็น ‘วัชพืช’ แต่มินาริเป็นผักที่มีประโยชน์และดีกับร่างกายมากกว่าที่คิด ซึ่งการปรับตัวของซุนจา เป็นภาพสะท้อนในชีวิตจริงของใครหลายคน ไม่จำเป็นต้องบินข้ามมหาสมุทรไปตั้งรกราก แค่ย้ายจากจังหวัดหนึ่งไปยังจังหวัดหนึ่ง ทุกคนล้วนต้องปรับตัวไม่แพ้กับซุนจาในภาพยนตร์เลย
ต้องทำสำเร็จสักอย่างให้ลูกเห็น
ประโยคที่เจค็อบพูดด้วยสีหน้ากังวลต่อโมนิกาว่า การคว้าพลั่วมาทำฟาร์มครั้งนี้สำคัญต่อเขามากแค่ไหนในฐานะ ‘หัวหน้าครอบครัว’ สะท้อนวาทกรรมปิตาธิปไตยอันหนักอึ้งของผู้เป็นพ่อที่แบกไว้บนบ่าทั้งสองข้าง เพราะเขาคือผู้นำแห่งครอบครัวอี ดังนั้น เขาห้ามล้มเหลวในชีวิต
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2021/03/uc-minari07-1024x576.jpg)
เจค็อบถูกจารีตของสังคมแปะป้ายอัตโนมัติว่า ‘ผู้ชาย’ คือเพศที่แข็งแกร่ง และเกิดมาเพื่อเป็นหัวหน้าครอบครัว ทำให้ ‘American Dream’ ที่เขาใฝ่ฝัน ผลักคนรอบตัวให้กลายเป็น ‘ผู้ตาม’ และแบกหามความคาดหวังของครอบครัวเอาไว้อย่างสั่นคลอน ในวันที่เจค็อบอ่อนล้า เขาได้พูดกับโมนิกาว่า ถ้าเกิดเขาล้มเหลว เขายอมจำนนให้โมนิกาเอาลูกไปอยู่ด้วยได้
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2021/03/uc-minari12-1024x576.jpg)
การมองไปข้างหน้า คิดถึงแต่ยอดภูเขา เพื่อให้ครอบครัวสุขสบายของเจค็อบ กลับกลายเป็นดาบสองคมที่ทำร้ายครอบครัวและตัวเขาเอง แต่ถึงอย่างนั้น ครอบครัวอีก็ไม่ได้ปล่อยมือเขาไป พวกเขายังจับมือกันในวันที่ต้องเผชิญเรื่องร้ายๆ ร่วมทุกข์ ร่วมสุข และก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆ กัน
มินาริ มินาริ วันเดอร์ฟูล วันเดอร์ฟูล
เสียงร้องพึมพำของยายที่ปลอบประโลมหลานตัวกะเปี๊ยกวัย 7 ขวบ เด็กชายผู้ภาวนาต่อพระเจ้าว่าเขาอยากไปสวรรค์ เพราะความตายจากโรคหัวใจค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในชีวิต ฉากอ้อมกอดของซุนจา เผยให้เห็นความสัมพันธ์ของยาย-หลานที่ทวีความแน่นแฟ้นมากขึ้นกว่าเก่า จากตอนแรกเดวิดไม่ยอมรับยายหัวชนฝา เพราะซุนจาคือต้นเหตุแห่งความทะเลาะเบาะแว้ง แต่เขากลับโอนอ่อนขึ้นจากการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2021/03/uc-minari15-1024x576.jpg)
นอกจากนี้ มินาริยังเล่าความหมายของคำว่า ‘บ้าน’ ที่เป็นมากกว่าโครงสร้างอาคาร แต่บรรจุความสัมพันธ์ของทุกตัวละครเอาไว้เต็มกระบุง ผ่านความสัมพันธ์ระหว่างแม่-ลูก ตอนที่ซุนจาหิ้ว ‘เกาหลี’ ใส่กระเป๋าเดินทางมาเซอร์ไพรส์ลูกสาว โมนิการ้องไห้ยกใหญ่ด้วยความดีใจ และความคิดถึงบ้านที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเธอ
หรือความสัมพันธ์ระหว่างพ่อ-ลูก ผ่านคำสอนของเจค็อบที่ถ่ายทอดให้เดวิดเรียนรู้การใช้ชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่าง พี่สาว-น้องชาย อย่างแอนน์และเดวิดกับบทบาทความเป็นพี่ที่ต้องดูแลน้องเล็กของบ้านอย่างไม่อิดออด มาถึงตรงนี้เราซึมซับได้ถึงความสัมพันธ์แต่ละรูปแบบของตัวละคร ที่ประกอบร่างกันเป็นคำว่า ‘บ้าน’
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2021/03/uc-minari10-1024x576.jpg)
ตลอดระยะเวลา 1 ชั่วโมงกว่าๆ เราไม่ได้สนใจว่าท้ายที่สุดเจค็อบจะได้เป็นเถ้าแก่ไหม ชีวิตของครอบครัวอีจะฟู่ฟ่าหรือเปล่า เพราะระหว่างทางการเห็นตัวละครล้มลุกคลุกคลาน ความคิดความอ่านของตัวละครที่ไม่ได้เกินจริง ไปจนถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ได้หวือหวาแต่ลึกซึ้ง ต่างเป็นส่วนประกอบที่ทำให้เราเติบโตอย่างเข้าใจความเป็นมนุษย์
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2021/03/uc-minari13-1024x576.jpg)
แม้ว่ามินาริจะเป็นภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดชีวิตลุ่มๆ ดอนๆ ของครอบครัวอี แต่เรื่องราวระหว่างของพวกเขากลับไม่ต่างอะไรจากชีวิตจริงมากนัก บ่อยครั้งที่พวกเราเรียนรู้ความผิดพลาดเพื่อเป็นบทเรียน และบ่อยครั้งที่เราใช้ความฝันเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงชีวิต จึงไม่แปลกใจว่าทำไมมินาริถึงเป็นภาพยนตร์เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 6 รางวัล และเป็นหนังครอบครัวที่ไม่ควรพลาด
Source : A24