การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกทำให้คนไร้บ้านเป็นกลุ่มเสี่ยงที่เปราะบางยิ่งกว่าเดิม เพราะพวกเขาต้องสูญเสียทั้งงาน บ้าน และรายได้จากวิกฤตในครั้งนี้ รัฐจึงมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้คนไร้บ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ในสถานการณ์นี้
คนไร้บ้านในนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จะไม่ไร้บ้านอีกต่อไป เมื่อรัฐได้สร้าง Chandler Boulevard Bridge Home Village หมู่บ้านขนาดกะทัดรัด สีสันสดใสสำหรับคนไร้บ้านขึ้นมา หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่าน North Hollywood ของเมืองลอสแอนเจลิส ที่นี่คือโครงการนำร่องชั่วคราวเพื่อสร้างบ้านให้ประชาชน ที่ไม่มีที่พักอาศัยเป็นของตัวเอง ที่สำคัญโครงการนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของแผนตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินของทางการลอสแอนเจลิส ในการแก้ไขวิกฤตคนไร้บ้านที่น่ากังวลขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มแพร่ระบาด
รายงานของ Los Angeles Homeless Services Authority เปิดเผยว่า ในปี 2020 เมืองลอสแอนเจลิสมีคนไร้บ้านกว่า 41,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นจากปี 2019 กว่า 16%
ที่นี่คือชุมชนบ้านหลังเล็กแห่งแรกของลอสแอนเจลิส ซึ่งนอกจากจะเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการแก้ไข ปัญหาคนไร้บ้านแล้ว การดำเนินการสร้างก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
ผู้รับผิดชอบการออกแบบและก่อสร้างหมู่บ้านแห่งนี้ ได้แก่ Lehrer Architects และ Bureau of Engineering พวกเขาได้สร้างชุมชนที่ประกอบไปด้วยบ้านไซซ์จิ๋วทั้งหมด 40 หลัง แต่ละหลังมีพื้นที่ 64 ตารางฟุต หรือราว 6 ตารางเมตร
นอกจากนี้ ผู้ออกแบบยังจับมือร่วมกับบริษัทสร้างบ้านสำเร็จรูปที่ชื่อว่า Pallet Shelter เพื่อสร้างบ้านที่มีประสิทธิภาพในราคาที่จับต้องได้
วิธีการก่อสร้างบ้านหลังเล็กเหล่านี้มีชื่อว่า Prefab ย่อมาจาก Prefabricated Building ซึ่งหมายถึงการก่อสร้างบ้านหรืออาคาร โดยการนำชิ้นส่วนสำเร็จรูปมาประกอบกันที่หน้างาน แตกต่างจากการสร้างบ้านแบบดั้งเดิมที่ช่างต้องยกอิฐมาก่อ ก่อนจะฉาบปูนอีกที
นับเป็นวิธีที่ประหยัดทั้งเงินและเวลา โดยแต่ละยูนิตมีมูลค่า 7,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 253,000 บาท (รวมค่าแรงและวัสดุ) และแต่ละหลังใช้เวลาประกอบไม่ถึง 1 ชั่วโมง
แม้จะมีขนาดเล็กแต่สามารถใช้งานได้จริง บ้านสำเร็จรูปเหล่านี้เป็นโครงอะลูมิเนียม ที่ทำความสะอาดง่ายและยังทนทานต่อแรงลมและหิมะด้วย
นอกจากนั้น บ้านแต่ละหลังยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งเตียงนอน พื้นที่เก็บของ ไฟฟ้า เครื่องทำความร้อน แอร์ หน้าต่าง และประตูแบบล็อกได้ เพื่อให้บรรดาคนไร้บ้านสามารถเข้าถึงความเป็นส่วนตัว ที่พวกเขาไม่เคยได้สัมผัสจากการนอนริมถนน
ส่วนพื้นที่ส่วนกลางก็มีทั้งโต๊ะรับประทานอาหาร พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ สถานที่ซักรีด และ Wi-Fi
คนไร้บ้านสามารถอาศัยในหมู่บ้านแห่งนี้ได้ฟรี และอยู่ได้นานจนกว่าพวกเขาจะหาบ้านพักถาวรได้สำเร็จ ภายใต้ข้อกำหนดที่ว่า ผู้อยู่อาศัยต้องเป็นคนไร้บ้านที่ไม่มีบ้านพักเป็นของตัวเอง มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และอาศัยอยู่ในรัศมี 3 ไมล์ หรือราว 4.8 กิโลเมตร จากตัวหมู่บ้านเท่านั้น บ้านหลังเล็กเหล่านี้จึงเป็นพื้นที่ที่เอื้อให้คนไร้บ้านกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง และเป็นบ้านที่ทำให้เขามีโอกาสลืมตาอ้าปากได้ในอนาคต
สถาปนิกยังเปิดเผยว่า พวกเขาเลือกที่จะทาสีตัวบ้านและพื้นที่ส่วนกลางด้วยสีสดใสฉูดฉาด เพื่อให้ชุมชนแห่งนี้มีเอกลักษณ์และมีชีวิตชีวา และยังเป็นการเตือนใจผู้คนจากทุกระดับของสังคม โดยเฉพาะกลุ่มคนไร้บ้าน ถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ด้วย
Sources :
CNN | t.ly/OkiL
Dwell | t.ly/3cXF
Writer
