แสงแดดอบอุ่นยามบ่ายนำสายตาเราไปยังร้านหนึ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในตึกแถวกลางเก่ากลางใหม่ของย่านถนนพระอาทิตย์ นั่นคือร้าน “Something About Us” ไลฟ์สไตล์ช็อปสีขาวแซมน้ำตาล ตัดกับไฟวอร์มไวท์แสงส้มนวล ชักชวนให้เปิดประตูเข้าไปเพื่อทักทาย ‘คุณคิม จินยอง (Kim Jinyoung)’ สาวเกาหลีเจ้าของร้านที่เรามีนัดกับเธอในวันนี้
‘คุณจินยอง’ เริ่มต้นการเดินทางในเมืองไทยในฐานะนักท่องเที่ยวที่อยากค้นหาตัวตนเหมือนใครหลายคน แต่อาจเพราะความใจดี รอยยิ้ม และการใช้ชีวิตสบายๆ ที่ได้สัมผัส ทำให้เธอตัดสินใจเปลี่ยนตัวเองจากสาวชาวเกาหลี เป็นสาวชาวไทยที่ใช้ชีวิตอย่างค่อยเป็นค่อยไปใน ‘ย่านถนนพระอาทิตย์’
“สวัสดีค่ะ เชิญค่ะ”
คุณจินยองเอ่ยทักเราด้วยภาษาไทยสำเนียงเกาหลี เราฟังแล้วยิ้มรับ รับรู้ได้ถึงความน่ารักเป็นกันเองที่ส่งผ่านรอยยิ้ม และตาขีดยิบหยีคู่นั้น เธอเชิญเรานั่งที่มุมหนึ่งของร้านที่ดูคุมโทนทั่วพื้นที่ ทั้งสไตล์การตกแต่ง ของที่เลือกมาจัดวาง และเสียงเพลง แล้วบทสนทนาด้วยเรื่อง ‘คนเกาหลีในกรุงเทพฯ’ ระหว่างเรากับคุณจินยองก็เริ่มต้นขึ้นผ่านภาษาอังกฤษสลับไทย
| ยินดีที่ได้รู้จัก
คุณจินยอง : สวัสดีค่ะ Kim Jinyoung ค่ะ มาจากประเทศเกาหลีใต้ เป็นเจ้าของร้าน Something About Us อยู่ไทยมาประมาณ 2 ปีแล้ว เพราะว่าแต่งงานกับคนไทยค่ะ (ยิ้ม)
| ก่อนใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ เต็มตัว เคยมาที่นี่ในฐานะแบ็กแพคเกอร์ค้นหาตัวเองมาก่อน
คุณจินยอง : ฉันมากรุงเทพฯ ครั้งแรกเมื่อ 5 ปีก่อน ตอนนั้นเป็นช่วงไฮซีซันของนักท่องเที่ยวแบ็กแพคเกอร์ ซึ่งก่อนที่จะมา ทำงานทุกวันมาตลอด 3 ปีค่ะ เลยคิดว่ามันถึงเวลาที่จะต้องพักบ้างแล้ว ตอนมาก็เลยเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้มาเที่ยวพักผ่อน ได้เปิดใจเพื่อค้นหาตัวตน ลองทบทวนว่าจะใช้ชีวิตอย่างไรต่อไป มองหาความบาลานซ์ในการใช้ชีวิตและการทำงาน
| จากสาวชาวเกาหลีเป็นสาวชาวไทย ที่ใช้ชีวิตอย่างค่อยเป็นค่อยไปใน ‘ย่านถนนพระอาทิตย์’
คุณจินยอง : พอแต่งงานกับคนไทย ก็เลยตัดสินใจมาอยู่นี่ค่ะ แล้วด้วยความที่เรียนจบด้านแฟชั่นมา ก็เลยเปิดร้าน “Something About Us” เป็น lifestyle-selected shop ดังนั้นในร้านจะมีแฟชั่นไอเท็ม และของตกแต่งบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ของคนไทย และเกาหลีที่ดีไซน์กันเอง
ตอนแรกฉันพยายามหาสถานที่สำหรับเปิดร้าน ลองไปดูสุขุมวิท แต่มันก็ไม่น่าสนใจเท่าไหร่ แต่พอมาถึงที่ ถนนพระอาทิตย์ ได้เห็นบรรยากาศ แล้วก็รู้สึกว่า มันสามารถสร้างสเปซที่ครีเอทีฟได้
ซึ่งตอนนี้ที่เกาหลีมีเทรนด์อย่างหนึ่ง คือในเมืองมันจะมีร้านเต็มไปหมด แล้วพออยากจะลงทุนทำอะไรสักที เลยจะหาที่ลับๆ สร้างร้านใหม่ขึ้นมา แล้วปล่อยให้ป็อปปูลาร์ทีหลัง ฉันก็เลยเลือกที่นี่ อยากทำร้านให้เป็น Hidden Gems ของย่านนี้
“ย่านพระอาทิตย์ เป็นย่านที่อเมซิ่ง และล้ำค่ามากๆ เพราะมันมีทั้งคัลเจอร์เก่าและใหม่รวมกัน”
| ย่าน Euljro ในเกาหลีมีอะไรที่คล้ายกันกับ ย่านถนนพระอาทิตย์
คุณจินยอง : ฉันรู้สึกว่า ย่าน Euljro (Junggu, Seoul) คล้ายกับที่นี่นะคะ เป็นย่านที่ผู้สูงอายุชอบไป เก่าๆ หน่อย มีคุณตาคุณยายนั่งเล่นหมากรุก ผสมกับคาเฟ่บ้าง โรงงานบ้าง
ซึ่งมันจะมีร้านหนึ่งอยู่ในตึกเก่า ซึ่งเขาคงสภาพตึกเดิมไว้ รีโนเวทข้างในใหม่เป็นสไตล์ที่ชอบ และเปิดเป็นไลฟ์สไตล์ช็อป จากนั้นลงประกาศในโซเชียล คนก็เริ่มเข้ามาเรื่อยๆ จนป็อปปูลาร์ คือตอนแรกฉันก็ไม่รู้จักร้านนี้มาก่อน แต่เห็นคนเดินขึ้นตึก ก็สงสัยแล้วตามไป จนเปิดประตูบานหนึ่งแล้วก็โอ้ ! (หัวเราะ)
| นอกจากเป็นคนแถวถนนพระอาทิตย์แล้ว ยังได้ชื่อว่าคนแถว “พุทธมณฑลสาย 2” ด้วย
คุณจินยอง : ฉันพักอยู่ที่พุทธมนฑลสาย 2 ค่ะ ชอบบรรยากาศรอบบ้านมากๆ เลย เพราะที่โซล ฉันอยู่ในอพาร์ทเมนต์ ตึกหน้าตาเหมือนกันหมด เหมือนอยู่ใกล้กันแต่ไม่รู้จักคนที่อยู่ห้องข้างๆ หรืออยู่ในตึกเดียวกันเลย
แต่พอมาอยู่ที่ พุทธมนฑลสาย 2 ได้เห็นบ้านดีไซน์ต่างๆ บางบ้านมีสระว่ายน้ำ บ้านบางก็เป็นสไตล์โลคอล บางบ้านดูโมเดิร์น ฉันรู้สึกว่ามันน่าสนใจมาก อีกอย่างคือ เพื่อนบ้านน่ารัก บางครั้งพวกเขาก็เข้ามาทักทาย ยืนคุยกันหน้าบ้าน อยู่กันแบบสบายๆ มันน่าประทับใจมากเลย
| วิถีพุทธ อาหารไทย โบกพี่วินฯ คือสิ่งที่จินยองปลื้มที่สุด
คุณจินยอง : ตอนอยู่เกาหลี ฉันไม่ได้นับถือศาสนาไหน แต่พอมาที่ไทย เห็นคนศรัทธาพระ ไหว้พระ และถอดรองเท้าเวลาอยู่ต่อหน้าพระ ฉันรู้สึกเซอร์ไพร์สมากๆ แล้วก็ทำตามเขา ถอดรองเท้าบ้าง แล้วก็ไหว้พระตามค่ะ
เดี๋ยวนี้ฉันชอบกินส้มตำ คอหมูย่างมากค่ะ ก่อนหน้านี้ชอบกินข้าวมันไก่ ก็กินทุกวันจนเบื่อ เลยเปลี่ยนไปลองเมนูอื่น อ้อ มีอีกอย่างหนึ่งที่ตอนนี้ชอบด้วย นั่นคือ ก๋วยเตี๋ยวเรือ !
ส่วนรถสาธารณะ ฉันเคยขึ้นบัส ตุ๊กตุ๊ก มอเตอร์ไซด์รับจ้าง ส่วนตัวชอบมอเตอร์ไซด์รับจ้างที่สุดเลย เพราะฉันไม่รู้มาก่อนว่า กรุงเทพฯ รถติดมากๆ และก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนอย่างไร แล้วทุกคนรอบตัวก็บอกว่า เรียกมอเตอร์ไซต์รับจ้างสิ สามารถพาไปได้ทุกที่เลยนะ
| จากโซลมาไทย ชีวิตเปลี่ยนไปเมื่อได้เจอความเรียบง่าย
คุณจินยอง : ก่อนหน้านี้ที่อยู่เกาหลี ฉันใช้ชีวิตแบบวิ่งไล่จับเวลา ต้องคิดว่าจะทำอะไรให้ทัน และครบตามเวลาชีวิตที่กำหนดไว้ รีบขึ้นรถ ไปทำงาน ทุกอย่างมันรีบร้อนไปหมด
“แต่พอมาอยู่ที่ประเทศไทย ถ้าไม่มีรถ ก็ไม่ออกไปไหน มันสบายๆ โอเคมากๆ เลย ก็แค่รีแลกซ์อยู่บ้าน รู้สึกสบายใจ”
อีกอย่างคือ ฉันชอบคนไทยมากๆ เพราะว่า พวกเขาใช้ชีวิตแบบสงบ ถึงแม้ว่าอากาศจะร้อน ก็ยังดูสงบได้ (หัวเราะ) และที่สำคัญ คนไทยเคารพ และให้เกียรติซึ่งกันและกัน อย่างในเกาหลี ถ้าบางคนแต่งตัวไม่เหมือนคนอื่น หรือดูยูนีคมากๆ เวลาเดินผ่านใคร ก็จะโดนมอง โดนซุบซิบ แต่ในไทยไม่ต้องแคร์ ทุกคนสามารถเป็นตัวของตัวเองได้เลยค่ะ
หลังคุยเสร็จ เราพาคุณจินยองไปเดินถ่ายรูปต่อ เดินไปคุยเล่นกันไปพร้อมรอยยิ้ม เธอคอยชี้ให้เราดูร้านต่างๆ เล่าเรื่องคาเฟ่ที่เคยไปแถวย่านพระอาทิตย์ให้ฟัง ไปจนถึงแนะนำพิพิธภัณฑ์บางลำพู เหล่านั้นพาเราสัมผัสได้ถึงความน่ารักแบบเกาหลีผสมไทย ที่เริ่มดูกลมกลืนจนเหมือนคนพื้นที่จริงเข้าไปทุกทีแล้ว